44 คนธรรมดาเป็นผู้บริสุทธิ์
44 คนธรรมดาเป็นผู้บริสุทธิ์
หวังเย้านำหนังสือออกมาอ่านในกระท่อม
ในการฝึกหายใจของวันนี้ หวังเย้ารู้สึกได้ถึงพลังฉีที่แข็งแกร่งขึ้นและมันได้ไหลไปตามเส้นเลือดของเขา แต่หวังเย้าก็ไม่ได้กังวลอะไรมากแม้ว่ามันจะยังไม่สามารถไหลไปจนทั่วร่างกายของเขาได้ในตอนนี้ เขาได้อ่านหนังสือมาพอสมควร จึงทำให้เขาพอจะเข้าใจเส้นเลือดในร่างกายพอสมควร รวมถึงเส้นเมอริเดียนพิเศษแปดเส้นและเส้นเมอริเดียนทั่วไปสิบสองเส้น เขาได้เรียนรู้การจับชีพจร เขาถูกเติมเต็มด้วยความรู้มากมายอยู่ในหัวของเขา
เส้นทางของธรรมชาติได้ถูกพูดถึงในคัมภีร์หลักธรรมชาติ การไหลเวียนของกำลังภายในควรจะปล่อยให้ไหลไปเองโดยไม่ต้องไปบังคับใดๆ
โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง มีเสียงเห่าจากด้านนอก แล้วเสียงคำรามของรถก็ดังขึ้นมา
หวังเย้ารู้สึกว่าประสาทสัมผัสของเขานั้นดีขึ้น หลังจากที่เขาได้ดื่มน้ำแร่โบราณและฝึกรวบรวมพลังฉีตามวิธีในหนังสือ เขาสามารถได้ยินเสียงจากที่ไกลๆได้อย่างชัดเจน เขามีหูและสายตาที่ดีขึ้น ความคิดและความจำของเขาก็ดีขึ้นมากด้วย
มีรถแลนด์โรเวอร์ขับขึ้นมาบนเนินเขา และคนขับก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเทียนหยวนถู
เขามองเห็นต้นกล้ามากมายจากด้านนอก ก่อนที่เข้าไปถึงตัวแปลงสมุนไพร เมื่อมองจากด้านนอกนั้นมันดูไม่มีอะไรผิดปกติ เขาจึงเดินไปตามทางเพื่อไปที่กระท่อม แต่เมื่อเขาเดินมาได้สักพัก ทันใดนั้นเขาก็ถูกก้อนขวางเอาไว้ ก้อนหินอยู่ๆก็ปรากฎขึ้นมาราวกับผุดขึ้นมาจากในดิน และมีต้นกล้าเล็กอยู่ทั้งสองด้านของก้อนหิน
ดูเหมือนว่าเขาจะหาทางไปต่อไม่ได้แล้ว เกิดอะไรขึ้นกัน?
“ขยับไปทางซ้ายแล้วเดินตรงมา” ในตอนนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นแล้วจึงพบว่ามีคนยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อม ก็คือหวังเย้านั้นเอง
เทียนหยวนถูขยับไปทางซ้ายถามคำบอกและพบว่ามีต้นกล้าอยู่ เขาลังเลใจอยู่ แล้วจึงพบว่ามีทางเดินไปยังกระท่อมอยู่
ห๊ะ? เขายืนตกตะลึงอยู่ตรงนั้น
เขาได้ท่องเที่ยวไปตามเส้นทางที่มีทั้งยาวและกว้างไกลในประเทศ และพบเจอกับเรื่องเล่าและตำนานมากมาย รวมถึงสิ่งที่เขาเห็นอยู่ในตอนนี้ องค์ประกอบห้าเส้นและศิลปที่มีมองไม่เห็น—เวทมนต์ของผู้ฝึกตนเป็นสิ่งที่เขาเชื่อว่ามันคือคำนาน แต่เขากลับมาพบเจอสิ่งเหล่านั้นในที่แห่งนี้
“หยวนถู คุณมาที่นี่ทำไมเหรอ?” หวังเย้าถามด้วยรอยยิ้ม
“นี่มันคืออะไรกันครับ?” หวังเย้ายังคงมึนงงเพราะความตกใจอยู่
“ผมมีพอจะมีเวลาว่างอยู่เลยปลูกต้นกล้าลงไป แล้วผมยังเผลอทำค่ายกลขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจน่ะ”
ตั้งค่ายกลโดยไม่ได้ตั้งใจ สำหรับบางคนที่ได้ฟังพวกเขาคงจะต้องตกใจถ้ารู้ว่ามันเป็นเรื่องยังเอิญ
เทียนหยวนถูจึงชื่นชมหวังเย้ามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เมื่อก่อน เขารู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงและเขายังรู้อะไรมากมาย ดังนั้นเขาควรจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ความคิดในตอนนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว
“อ้าห์...” ในเวลานั้น เขาไม่รู้ว่าจะเรียกหวังเย้าว่ายังไง ในเมื่อการเรียกเขาว่า หนุ่มน้อย คงจะไม่เหมาะสมอีกต่อไป
“เกิดอะไรขึ้นครับ?” หวังเย้าตกใจเมื่อได้เห็นสีหน้าละอายใจบนหน้าของเทียนหยวนถู
“หรือว่าภาพลวงตาของค่ายกลจะทำให้เขากลัว?”
“ขอโทษ ผมตกใจมากไปหน่อย เพราะสิ่งที่เห็นเหล่านี้คุณจะได้ฟังจากในตำนานเท่านั้น” หวังเย้ายิ้มและโบกมือ “เชิญนั่งครับ”
หวังเย้าชงชาให้เขาเมื่อเทียนหยวนถูนั่งลงแล้ว
“มันคงจะเป็นเรื่องที่น่ารื่นรมณ์อย่างมากถ้าได้ดื่มชาแบบนี้ทุกวันนะครับ!” เทียนหยวนถูพูด
“บางทีปีหน้าผมอาจจะแบ่งให้คุณบางส่วน”
หวังเย้ามองไปที่ต้นชาสิบกว่าต้นที่เขาปลูกเอาไว้และคิด พวกมันจะโตได้เร็วขึ้นเพราะการรดน้ำด้วยน้ำแร่โบราณ
“จริงเหรอ? สัญญาแล้วนะครับ!” เทียนหยวนถูยิ้ม
“ครับ แต่คงจะได้ไม่มากเท่าไหร่”
“แค่ 25 กิโลก็พอครับ!”
“อืม แล้วคุณต้องการอะไรจากผมรึเปล่า?” หวังเย้าเปลี่ยนเรื่อง
“อ้อ มีครับ” เทียนหยวนถูตอบ
“เรื่องอะไรเหรอครับ?”
“มีสองเรื่องครับ เรื่องแรกคือ ผมต้องการอันเฉินซานเพิ่มครับ”
ได้มีคนขออันเฉินซานจากเขา เนื่องจากเพื่อนของเขาที่นอนป่วยติดเตียงอยู่นั้นอาการดีขึ้น เมื่อดื่มอันเฉินซานไปเพียงแค่หนึ่งโดส นั้นทำให้ครอบครัวของเขาต้องตกตะลึงเป็นอย่างมาก นั้นจึงทำให้เขาต้องมาที่นี่เพื่อขออันเฉินซานอีกครั้ง
“ได้สิครับ” ยาสมุนไพรหนึ่งโดสขายได้ถึง 260,000 หยวนแล้วเขายังได้คะแนนโบนัสอีกด้วย ซึ่งมันเป็นเรื่องดีสำหรับเขา “แล้วอีกเรื่องละครับ?”
“มีคนอยากจะพบคุณหรือไม่ก็อาจารย์ของคุณน่ะครับ” เทียนหยวนถูพูด เขามั่นใจว่าจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอยู่เบื้องหลังเขาแน่นอน ถ้าไม่มีผู้เชี่ยวชาญอยู่เบื้องหลังเขา คงมีเพียงในหนังหรือนิยายเท่านั้น ที่จะมีเด็กหนุ่มจบใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์แบบนี้อยู่!
“ใครเหรอครับ?” หวังเย้าขมวดคิ้วเมื่อได้ฟัง
“กู่ชิวฉือ ผู้เชี่ยวชาญด้านยาจีนครับ” เทียนหยวนถูแอบมองสีหน้าของหวังเย้าในตอนที่เขาบอกชื่อออกไป
“ผู้เชี่ยวชาญด้านยาจีน...แล้วทำไมเขาถึงอยากพบผมล่ะ?”
“เป็นเพราะอันเฉินซานครับ”
หา? หวังเย้าคิดเกี่ยวกับมัน และเขาคิดว่าผู้เชี่ยวชาญคนนั้นคงจะรู้ความลับของยาแล้ว แล้วเขาก็รู้ว่ามันจะต้องมีปัญหาแน่ๆ เหมือนที่เขาพูดกันว่า คนธรรมดามักเป็นผู้บริสุทธิ์ ในขณะที่คนที่มีความสามารถมักผิดเสมอ
เขามีสมบัติอยู่กับตัวแต่กลับไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ เขาจะต้องไม่ทำตัวเด่นต่อหน้าเหล่าผู้มีอำนาจ เขาอาจจะเสียอะไรบางอย่างไปถ้าเกิดพวกเขาต้องการผลประโยชน์จากเขา เขาได้แต่กลัวไปคนเดียว แต่เขาก็ยังมีญาติพี่น้องและเพื่อนที่จะช่วยเหลือเขาได้อยู่
“ไม่ดีกว่าครับ” หวังเย้าพูด “หยวนถูช่วยปฏิเสธให้ผมทีนะครับ”
“ได้ครับ!” เทียนหยวนถูตอบ
เขาตั้งใจที่จะเป็นเพื่อนที่ดีกับหวังเย้าและยิ่งตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเมื่อเขาได้เห็นค่ายกลที่น่าพิศวงนั้น กู่ชิวฉือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยาจีน แต่เขาก็อยู่ห่างจากพวกเขากว่าพันไมล์ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร มันก็เป็นเรื่องยากที่จะได้เจอเขา แม้ว่าเทียนหยวนถูจะร่ำรวยขนาดไหนก็ตาม แต่กับหวังเย้านั้นต่างออกไป เขาอยู่บนเขาและอยู่ใกล้กับหยวนถู
สำหรับคำขอของกู่ชิวฉือ มีข้ออ้างมากมายที่จะใช้ปฏิเสธเขาได้
“สมุนไพรโตเต็มที่แล้วรึยังครับ?”
“อีกไม่นานแล้วล่ะ” หวังเย้ามองไปที่สมุนไพรทั่วไปที่เขาได้ปลูกเอาไว้ การรดน้ำด้วยน้ำแร่โบราณ ทำให้ความเร็วในการเติบโตของพวกมันเป็นเรื่องน่าตกใจ ความเร็วของพวกมันตรงกันข้ามกับความเร็วในการเติบโตของสมุนไพรของที่อื่นมาก แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าที่จะโตพอสำหรับเก็บเกี่ยว
“ผมจะมาเอายาได้เมื่อไหร่ครับ?”
“พรุ่งนี้ได้ครับ” หวังเย้าตอบ
“ได้ครับ”
เมื่อคุยกับหวังเย้าได้สักพัก เทียนหยวนถูก็กลับไป