ตอนที่ 246 คู่แต่งงานที่รักกันอย่างลึกซึ้ง
ตลอดเวลาที่ผ่านมาธนูโฮยี่ได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสิ่งของในตำนาน
ก่อนที่มันจะถูกมอบให้เฟิงหยูเฮง ผู้คนเคยได้ยินเพียงว่าราชวงศ์ต้าชุนมีธนูนี้ ในเวลาที่ผู้ก่อตั้งอาณาจักรก้าวเข้าสู่สนามรบเป็นการส่วนตัว เขาใช้ธนูนี้และช่วยสร้างอาณาจักรราชวงศ์ต้าชุน
แต่หลังจากนั้นธนูโฮยี่ถูกเก็บไว้ และมันก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย
คนรุ่นหลังที่ได้ยินมา แต่พวกเขาไม่เคยเห็น พวกเขารู้สึกราวกับว่ามันเป็นเพียงตำนานที่งดงาม ไม่ว่าธนูโฮยี่นั้นจะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ตาม
หลังจากฮ่องเต้องค์ปัจจุบันมอบให้กับคุณหนูรองตระกูลเฟิง, เฟิงหยูเฮง ในที่สุดทุกคนก็รู้ว่าธนูโฮยี่นั้นเป็นของจริงแน่นอน
ตอนนี้เฟิงหยูเฮงถือธนูโฮยี่และยืนต่อหน้ากลุ่มทหาร ทหารเหล่านั้นที่จารึกกฎเกณฑ์ทางทหารไว้ในใจรู้ว่าผู้ที่ครอบครองธนูโฮยี่ไม่ว่าชายหรือหญิงจะเข้าออกจากค่ายทหารใด ๆ ในราชวงศ์ต้าชุนก็ได้ และพวกเขาสามารถช่วยเหลือแม่ทัพในการออกคำสั่งกองทัพทั้งสาม เพื่อช่วยรักษาสันติภาพ !
ทหารรู้สึกขนลุกไปทั่วร่างกาย
องค์หญิงแห่งมณฑลจี่อัน !
พระชายาเอกขององค์ชายเก้า !
บุตรสาวของฮูหยินใหญ่เสนาบดี !
ผู้ครอบครองปิ่นหงส์เพลิง !
ผู้ครอบครองธนูโฮยี่ !
ทหารไม่รู้ว่าพวกเขาควรปฏิบัติต่อคุณหนูที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาอย่างไร นอกจากนี้นางยังเป็นผู้มีอุปการคุณที่ช่วยชีวิตพวกเขา
เฉียนหลี่เป็นผู้นำและคำนับธนูโฮยี่ ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเขาได้ยินว่าเฟิงหยูเฮงดึงเอาสิ่งแปลก ๆ ที่สามารถขยายเสียงของนางออกมา นางกล่าว “ข้าจะสอนวิธีการยิงธนูสามดอกในภายหลัง วันนี้สำหรับการทดสอบการยิงธนู องค์หญิงคนนี้จะทำให้พวกเจ้าเห็นว่าลูกธนูติดตามที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร!”
ทหารที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง พวกเขาตื่นเต้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ลูกธนูติดตามทำให้พวกเขาบาดเจ็บล้มตายกันนับไม่ถ้วน แต่องค์หญิงแห่งมณฑลจี่อันรู้จริง ๆ ว่าต้องทำอย่างไร?
การจ้องมองของซวนเทียนหมิงเผยให้เห็นภาพที่ลึกซึ้งในขณะที่เขาจำได้ว่าคืนที่เขาถูกโจมตีในภูเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือ ขณะที่ลูกธนูพุ่งเข้าไปเขา ราวกับลูกธนูนั้นโตขึ้นราวกับว่ามันไล่ล่าเขาไม่ว่าเขาจะหันไปทางไหน เขาไม่สามารถหลบเลี่ยงได้และไม่สามารถหลบหนีได้ ขาทั้งสองที่เพิ่งได้รับการรักษา
เป่ยจื่อและเขาร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันมา ความรู้สึกที่คาดหวังเต็มหัวใจของเขา หากเฟิงหยูเฮงรู้วิธียิงธนูแปลก ๆ เช่นนั้นจริง นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถแก้แค้นได้หรือ ?
“มีใครเต็มใจที่จะเป็นเป้าหรือไม่ ?” ทันใดนั้นเฟิงหยูเฮงก็กล่าวเช่นนี้
ทหารตกตะลึง แต่เข้าใจในทันที ลูกธนูติดตามจำเป็นต้องมีเป้าหมายอยู่ข้างหน้าเพื่อสาธิต และเป้าหมายนี้ไม่สามารถเป็นสัตว์ได้เนื่องจากจิตใจของสัตว์นั้นเรียบง่ายเกินไป มันสามารถวิ่งหนีไปได้และไม่มีความคิดในการหลบหลีกที่มนุษย์ทำได้
ทหารเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนเลือดร้อน เมื่อพวกเขาพบว่ากองทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือกำลังจะเห็นการสาธิตลูกธนูติดตาม พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตของพวกเขาจะเป็นเช่นไร การได้ยินเฟิงหยูเฮงขอความช่วยเหลือด้วยการเป็นเป้าหมาย พวกเขาทุกคนต่างแย่งกันยกมือ
เฟิงหยูเฮงแอบพยักหน้าพอใจมากกับผลลัพธ์นี้ นี่เป็นข้อกำหนดที่จะต้องเป็นทหาร พวกเขาจะต้องมีความคิดที่เสียสละตนเองในเวลาใดก็ตาม ละทิ้งตัวเองเพื่อกลุ่มใหญ่ อย่างนี้จะกลายเป็นทหารอาชีพที่ยิ่งใหญ่
เฉียนหลี่ถามนาง “องค์หญิงต้องการเป้าหมายกี่คนขอรับ”
เฟิงหยูเฮงกล่าวว่า “มากกว่า 3 คนแต่น้อยกว่า 10 คน”
เฉียนหลี่ตกใจ “ในเวลาเดียวกัน ?”
“ใช่ ในเวลาเดียวกัน !”
ได้ยินนางพูดแบบนี้ ทุกคนพากันสูดลมหายใจเข้าลึก พวกเขาต่อสู้กับกลุ่มพลธนูของเฉียนโจว แม้ว่าการยิงธนูของพวกเขานั้นลึกลับ แต่พวกเขาเห็นพวกเขายิงธนูติดตาม 2 ดอกในเวลาเดียวกัน ตอนนี้องค์หญิงแห่งมณฑลจี่อันต้องการยิงธนู 3-10 ดอกในเวลาเดียวกันหรือ ?
ทุกคนตื่นเต้นเพราะนั่นหมายความว่าการยิงธนูขององค์หญิงแห่งมณฑลจี่อันนั้นเหนือกว่าพลธนูของเฉียนโจว ! ตราบใดที่ทุกคนเรียนรู้สิ่งนี้ มันไม่สำคัญถ้ามีเพียงไม่กี่คนที่ต้องเสียสละชีวิตของพวกเขา ?
เฉียนหลี่เผชิญหน้ากับทหาร 30,000 นายอยู่พักหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าจะเลือกใคร
อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงไม่สนใจเลยจริง ๆ เมื่อนางเอื้อมมือออกไป และเลือกคนที่ใกล้ที่สุด 10 คนในแถวแรก “พวกเจ้า !”
สิบคนตกใจแต่ก็เดินก้าวไปข้างหน้าโดยไม่มีใครกลัวตาย
พวกเขาได้ยินเฟิงหยูเฮงพูด “ข้านับถือพวกเจ้าที่ยอมสละชีวิตเพื่ออาณาจักร”
ทหาร 10 นายตอบพร้อมกัน “ขอบคุณองค์หญิงแห่งมณฑลสำหรับคำยกย่อง !”
เฟิงหยูเฮงพยักหน้า “ไม่ต้องกังวล ข้าแค่บอกว้าข้าต้องการเป้าหมาย แต่ข้าไม่ได้ขอชีวิตของเจ้า รองแม่ทัพเฉียนหลี่โปรดเตรียมมันหวานหัวใหญ่และหอก 10 เล่มให้กับสหายเหล่านี้ เจ้าจะต้องถือหอกและวิ่งไปรอบ ๆ ข้าสัญญาว่าจะปกป้องชีวิตของเจ้า”
เฉียนหลี่มีความสุขเพราะเขาสั่งให้คนทำมันให้เสร็จอย่างรวดเร็ว หอก 10 เล่มที่เสียบมันหวานไว้ที่ปลายหอกถูกมอบให้กับทหาร
พวกเขายังไม่ฟื้นตัวจากความประหลาดใจที่น่ายินดีซึ่งพวกเขาสามารถรักษาชีวิตไว้ได้และยังได้รับใช้อาณาจักร พวกเขาได้ยินเฟิงหยูเฮงพูดว่า “ก่อนอื่นให้วิ่งหนีไป 100 ก้าวก่อนจะแยกย้ายกันไป จำไว้ว่าหอกนั้นต้องอยู่เหนือหัวของพวกเจ้า”
“ขอรับ!” ทั้งสิบคนตอบพร้อมกันจากนั้นก็เริ่มวิ่ง
เฟิงหยูเฮงรับลูกธนูจากหวงซวนแล้วรวมเข้าด้วยกัน จากนั้นนางก็พร้อมยิง
เฉียนหลี่รู้สึกหวาดเกรงเพราะเขาได้ยินมาว่าธนูโฮยี่นั้นหนักเกือบ 200 จิน นี่เป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่จำนวนมากไม่สามารถยกได้ แต่ร่างเล็ก ๆ ขององค์หญิงแห่งมณฑลจี่อันสามารถยกมันได้ และนางกำลังจะมองเป้าในระยะทางไกล ?
เขารู้สึกว่ามุมมองของศิลปะการต่อสู้ของเขากำลังจะพังทะลาย ด้วยความงุนงง เขาเฝ้าดูเฟิงหยูเฮงง้างธนูและยิงออกไป ทหารข้างหน้าได้ระยะทางที่ต้องการแล้วและเริ่มแยกย้ายกันไป
ทันใดนั้นลูกธนูในมือของเฟิงหยูเฮงก็ยิงออกไป
เมื่อลูกธนู 10 ดอกพุ่งออกไป ลูกธนูฟังดูเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้กระนั้นหลังจากบินหลายเมตร ลูกธนูเริ่มเปลี่ยนไป บางดอกช้าและบางดอกเร็ว บางดอกค่อยและบางดอกก็แรง ลูกธนูไม่พุ่งไปในทิศทางเดียวกันอีกต่อไป กลับพุ่งไปราวกับว่าพวกเขามีตาไล่ทหารที่กระจายออกไป
ทหารที่วิ่งกลับหันมามอง และทุกคนก็อ้าปากค้างและรู้สึกว่ามือเริ่มสั่น
ลูกธนูเป็นเหมือนงูที่ดูเหมือนจะมีปีกโตขึ้นขณะที่พวกมันไล่ล่า และล้อมรอบหอก
ทหารสามหมื่นนายมองดูด้วยสายตาที่ไม่เชื่อ พวกเขามองลูกธนูที่ปักที่มันหวานด้วยกำลังแรงมากจนทหารไม่สามารถถือหอกต่อไปได้ เมื่อลูกธนูพุ่งเข้าใส่ ทหารต้องปล่อยหอกลงไปที่พื้น พวกเขาต้านแรงไม่ไหว
หลังจากที่ลูกธนูทั้งสิบดอกปักที่มันฝรั่งหวานของพวกเขาโดยไม่พลาดเลยสักเป้า ในบริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยเสียงเชียร์ เสียงนั้นดังก้องอยู่ในหุบเขาเป็นเวลานานโดยไม่แยกย้ายกันไป
ในขณะนั้นเฟิงหยูเฮงก็เหมือนเทพธิดาที่สืบเชื้อสายมาจากสวรรค์สำหรับทหารเหล่านี้ นางมีความสามารถในการแพทย์และช่วยชีวิตพวกเขา นางสามารถขี่ม้าและฝ่าด่านแถวดาวกระจาย นางสามารถยิงเป้าที่ 100 ก้าว ไม่มีอะไรที่นางทำไม่ได้ และไม่มีอะไรที่นางทำไม่สำเร็จ ไม่มีอะไรหยุดยั้งผู้คนจากการประกาศว่านางเป็นจุดสูงสุดของความสมบูรณ์แบบ
เฉียนหลี่มองไปที่นางด้วยความชื่นชมและกล่าวว่า “องค์หญิงแห่งมณฑลจี่อัน ได้โปรดสอนการยิงธนูให้พวกเราด้วยขอรับ!”
อย่างไรก็ตามเฟิงหยูเฮงส่งธนูให้หวงซวนและพูดเสียงดังว่า "การทดสอบที่ 3 ! "
เฉีวนหลี่สงบอารมณ์ของเขาในขณะที่เขาอยากจะบอกนางว่าไม่จำเป็นต้องมีการทดสอบข้อที่ 3 ไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบต่อไปนี้ เพียงแค่ยิงธนู พวกเขาก็ยอมรับนางแล้ว
แต่สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นข้อบังคับทางทหารและประเพณีของกองทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เขาไม่สามารถทำลายมันได้ และเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะทำลายมัน
ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและพูดว่า “การทดสอบครั้งข้อที่ 3 คือการทดสอบการต่อสู้ !” แต่หลังจากเขาพูดอย่างนั้น เขาก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก เมื่อหันกลับมา เขามองไปรอบ ๆ กลุ่มผู้ชาย ในหมู่พวกเขา มีใครบ้างที่สามารถต่อสู้กับนางได้? นางเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กน่ารัก
เมื่อเห็นว่าทหารทุกคนก้มหน้า เฟิงหยูเฮงก็ไม่มีความสุข พวกเจ้าเลือกปฏิบัติกับข้าหรือ
นางตัดสินใจหันหน้าของนาง “ซวนเทียนหมิง เจ้ามาต่อสู้กับข้า !”
เฉียนหลี่ได้ยินสิ่งนี้ และรู้สึกว่านี่มีเหตุผล ! ดังนั้นเขาจึงรีบช่วยและกล่าวว่า “ถูกต้องขอรับ แม่ทัพเป็นคู่ต่อสู้ที่ดีที่สุดขององค์หญิงขอรับ”
ซวนเทียนหมิงมองไปที่เฟิงหยูเฮงและหัวเราะ “เจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้”
“ข้ารู้” นางพูดตามความเป็นจริง “แต่มันสมควรเป็นเจ้า ข้ากำลังทำการทดสอบ และเจ้าคงนั่งเฉย ๆ ไม่ได้ เจ้าต้องช่วยหน่อย เช่นเดียวกับที่เราสามารถเปิดเผยของเรา... มันเรียกว่าอะไรอีก?”
ซวนเทียนหมิงตามอย่างเป็นธรรมชาติมากสำหรับนาง “ความรักระหว่างคู่แต่งงาน”
“ใครแต่งงานกับเจ้า !” นางไม่มีความสุข “ข้ายังไม่ได้แต่งงานกับเจ้า ! มันควรจะเป็นคู่รัก !”
ทหารทุกคนหัวเราะและเข้าร่วมเพื่อก่อความวุ่นวาย “มันเป็นความรักระหว่างคู่แต่งงาน ! มันเป็นความรักระหว่างคู่แต่งงาน !”
ทั้งสองไม่พอใจ เมื่อพวกเขายังยิ้มต่อไป
ทันใดนั้นซวนเทียนหมิงก็ตบล้อรถเข็นของเขาและลอยขึ้นไปในอากาศ เขาก็บินไปหาเฟิงหยูเฮง
เฟิงหยูเฮงถอยกลับอย่างรวดเร็วมาถึงศูนย์กลางของสนามฝึกซ้อมในไม่กี่ก้าว ในขณะเดียวกันนางก็เปล่งเสียงของนาง และพูดประโยคเก่าๆ ซ้ำๆ ว่า “เจ้าไม่สามารถใช้พลังภายในได้ !”
ทหารใส่มุขตลกของพวกเขาและมองไปที่สนามฝึกซ้อม พวกเขารู้สึกกังวลแทนเฟิงหยูเฮง
ความสามารถในการต่อสู้ของซวนเทียนหมิงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป แต่ความสามารถของเฟิงหยูเฮงไม่ได้แสดงให้ทุกคนเห็น แต่พวกเขารู้ว่าพวกเขาคิดเกี่ยวกับมันหรือไม่ แม้ว่าขาของซวนเทียนหมิงได้รับบาดเจ็บและเขานั่งอยู่ในรถเข็น คนธรรมดาก็ยังไม่สามารถรับมือเขาได้
โชคดีที่ทั้งสองไม่ได้ต่อสู้อย่างเต็มที่ แต่มันอยู่ภายใต้การแนะนำของซวนเทียนหมิงที่เฟิงหยูเฮงแสดงให้เห็นถึงทักษะต่าง ๆ ที่นางได้เรียนรู้ในกองทัพจากชีวิตก่อนหน้า
ทหารดูอย่างสับสน ความสามารถในการต่อสู้ขององค์หญิงแห่งมณฑลจี่อันนี้ไม่เหมือนใคร มันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่ามันจะเป็นการต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญอย่างซวนเทียนหมิง เมื่อเขาไม่ได้ใช้พลังภายใน นางก็สามารถต่อสู้ในระดับเดียวกับเขา
พวกเขาเท่านั้นที่รู้ว่าความกังวลก่อนหน้านี้ไม่จำเป็น องค์หญิงแห่งมณฑลจี่อันอยู่ที่ไหนไม่ต้องกังวล นางมีความรู้ที่ลึกซึ้งและคาดเดาไม่ได้!
การต่อสู้กว่าครึ่งชั่วยามก็หยุดในที่สุด
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสีหน้าของซวนเทียนหมิง แต่เฟิงหยูเฮงหอบหายใจเล็กน้อย หน้าของนางแดงสดใส
เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้งในหมู่ทหาร
เฉียนหลี่เดินไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้นและคำนับทั้งสองโดยกล่าวว่า “องค์หญิงแห่งมณฑลได้ผ่านการทดสอบการต่อสู้”
เฟิงหยูเฮงพยักหน้า “การทดสอบต่อไปคืออะไร?”
เฉียนหลี่ตอบว่า "ยุทธการการสู้รบ"
“ยุทธการการสู้รบสู้?” นางเงยหน้าขึ้น และไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง “ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในสนามรบแล้วสิ่งนี้จะถูกทดสอบอย่างไร จากการท่องตำราพิชัยสงคราม ? ตำราพิชัยสงครามจากยุคสมัยก่อนถูกแยกออกเป็นหัวข้อต่าง ๆ เช่น กลยุทธ์การต่อสู้ กลยุทธ์ทางทหาร การแปรขบวนทหาร ระบบทหาร การฝึกอบรม อาวุธ การป้องกันเมือง ภูมิศาสตร์ทางทหาร เจ้าต้องการทดสอบอันไหน หรือเจ้าต้องการให้ข้าท่องกลศึกของซุนวูทั้งหมด กลศึกของซุนบิน ความลับทั้งหก เหว่ยเหลียวจื่อ วิธีการของซื่อหม่า ไท่เป่ยหยินจิ้ง ฮู่เซียนจิง เฉียวซินซู หรือเหลียนบิงซื่อจี่ หนึ่งในตำราพิชัยสงครามขนาดใหญ่ 10 เล่มหรือ ?” เฟิงหยูเฮง พูดอย่างนี้ในขณะที่ยืนนับนิ้วด้วย “ถ้าเจ้าต้องการให้ข้าท่องมันข้าทำได้ อย่างไรก็ตามจะใช้เวลาหลายวันในการอ่านทั้งหมด มันเยอะเกินไป”
“ไม่จำเป็นขอรับ!” คำพูดของเฟิงหยูเฮงทำให้เฉียนหลี่งงงวย หลังจากที่เขาเป็นรองแม่ทัพผู้สง่างามแห่งกองทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือพบกับเฟิงหยูเฮง เขาก็รู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนโง่ เห็นได้ชัดว่าเขามีความเชี่ยวชาญอย่างชัดเจน แต่ทำไมองค์หญิงแห่งมณฑลจี่อันถึงพูดออกมา เขารู้สึกว่าเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ?
นางหมายถึงอะไรจากตำราพิชัยสงครามเล่มใหญ่? ชื่อหนังสือแปลก ๆ ที่นางพูดมาพวกมันคืออะไร ? ทำไมเขาไม่เข้าใจสิ่งที่นางพูด ?
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจเฉียนหลี่ก็รู้ว่าเฟิงหยูเฮงได้ผ่านพ้นระดับของผู้ใหญ่หลายคนในกลยุทธ์การต่อสู้แล้ว การทดสอบนี้พิจารณาว่าเสร็จสมบูรณ์ตามชื่อของหนังสือที่นางระบุไว้
“องค์หญิงแห่งมณฑลผ่านการทดสอบขอรับ” เขาปาดเหงื่อและพูดว่า “ตามธรรมชาติแล้วไม่จำเป็นต้องอ่านตำราพิชัยสงครามเพราะตำราที่องค์หญิงพูดถึง แม่ทัพผู้ต่ำต้อยคนนี้ไม่เคยได้ยินเลยแม้แต่น้อย”
TN: หนังสือทุกเล่มที่เฟิงหยูเฮงระบุไว้นั้นเป็นตำราพิชัยสงครามจีนแท้ ๆ