บทที่ 170 - ฉันคือยอดนักขุด (4) [26-06-2019]
บทที่ 170 - ฉันคือยอดนักขุด (4)
"ส่วนง่ายๆนี่ยังไม่ถึงไหนเลย... หือ!?"
"เสียงน่าทึ่งนี่มาจากไหนกัน อะไรน่ะ!?"
สายตาของทั้งนักบวชกับพาลาดินต่างก็หันไปยังทิศทางหนึ่งพร้อมๆกัน ที่นั่นมีคนๆหนึ่งยืนอยู่แม้ว่าจะอยู่ในที่ที่เหมือนกันแต่ว่ามันก็ดูต่างออกไปมากๆ
"นั่นมัน.. อะไรน่ะ...?"
"หินกำลังถูกสลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง! หินพวกนี้ที่ต่อให้ใช้สกิลก็ยังทำลายได้ยาก...!"
"เงียบน่า!"
นี่คือยุคที่คนนับร้อยคนร่วมมือกันเพื่อขุดหินและคนนับสิบคนร่วมมือกันสลักหินเป็นเรื่องปกติธรรมา แต่แล้วกลับมีคนๆหนึ่งทำทุกๆอย่างที่พวกเขาต้องร่วมมือกันทำด้วยตัวคนเดียวราวกับเป็นการเยาะเย้ย
"โอ้ววววววววว!"
เครื่องมือขุดเจาะมรณะของยูอิลฮานที่ติดเข้ากับสกรูได้หมุนปั่นอย่างรุนแรง นี่คือสว่านที่ได้ขุดผ่านร่างของโกเลมเลเวล 270 มาแล้ว หรือให้พูดก็คือสำหรับหินนี่แล้วมันเฉยๆมา มันก็แค่ก้อนหินเท่านั้นเอง ต่อให้หินพวกนี้จะเก็บพลังศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ก็ไม่มีทางที่เขาจะแพ้
"ว้าว หินขนาดใหญ่แบบนี้...!"
"รอเดี๋ยวนะ นั่นไม่ใช่ประตูทางเข้ามหาวิหารงั้นหรอ!? เป็นไปได้ยังไงกัน เขากำลังสร้างประตูไปพร้อมๆกับที่ขุดหินออกมา!?"
ต่อหน้าการควบคุมที่แสนแม่นยำของยูอิลฮาน แผ่นหินยักษ์ที่ถูกตัดได้ถูกแกะสลักและประกอบขึ้นอย่างแม่นยำ ของพวกนี้สามารถจะนำมาใช้ตรงๆโดยไม่ตรงทำอะไรเพิ่มอีกก็ยังได้ด้วยซ้ำ ที่มันเป็นแบบนี้ไปได้เพราะเขาได้จดจำพิมพ์เขียวทั้งหมดที่นายูนาให้เขามาแล้วด้วย
[สกิลขุดได้เพิ่มเป็นเลเวล 51]
นอกไปจากการที่สกิลที่เขาได้รับมาเมื่อวานเลเวลพุ่งไปถึง 50 แล้ว มันก็ยังน่าทึ่งที่สกิลนี้ก็กำลังเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง แน่นอนว่าเหตุผลก็เพราะหินที่เขาขุดอยู่นี่มันมีพลังของเทพธิดาอยู่ ดังนั้นยูอิลฮานจึงได้กลายมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในสกิลการขุดโดยไม่ตั้งใจ
"น่าทึ่งมาก!"
"แค่ในนาทีเดียว เขาทำได้มากกว่าที่เราทุกคนทำกันทั้งสัปดาห์ซะอีก!"
"อย่ามัวแต่ตกใจ ไปทำงานกันได้แล้ว!!!"
ความเร็วในการขุดและขึ้นรูปหินของยูอิลฮานได้ยิ่งเร็วมากขึ้นไปอีกเมื่อเขาเริ่มคุ้นชินกับงาน การได้เห็นเขาสับเปลื่ยนสกรูกระดูกกับทำลายส่วนที่อ่อนแอของหินจากการโจมตีที่คำนวนเอาไว้แล้วทำให้บางคนถึงขนาดมึนหัวไป
"มิเรย์นี่!"
"ทำไมฉันต้องทำด้วย... สายฟ้าฟาด"
"ใบมีดลม!"
คังมิเรย์กับยูมิลก็ยังได้มาช่วยงานอยากมากด้วย สายฟ้าของเธอจะทำลายเอาหินยักษ์ออกจากกันและยูมิลก็จะจัดการตัดมันให้เรียบร้อยด้วยการควบคุมใบมีดที่ละเอียดอ่อน หากไม่มียูอิลฮานแล้วพวกเขาทั้งสองคนก็คงจะเป็นตัว MVP แน่นอน
"มิเรย์ ต่อไปก็นี่"
"ตอนนี้นายถึงกับสั่งฉันอย่างไร้อย่างอายแล้ว...!"
"แต่ว่าเธอก็บอกว่าเธออยากจะช่วยเขานี่นา?"
"ฉันไม่ได้หมายถึงงานแรงงานแบบนี้นะ! ที่ฉันพูดมันคนล่ะเรื่อง..."
"โอ้ววววว"
"มันทะลุแล้ว! ภูเขาเป็นรูไปซะแล้ว"
"โห รูปปั้น! ทำไมถึงแสดงฉากการลงมาของท่านหญิงเรย์ต้าถึงได้มาอยู่ที่นี่ล่ะ?"
แน่นอนว่า พวกเขาไม่อาจจะก้าวข้ามยูอิลฮานที่ทำรูปปั้นจากการขุดเพียงครั้งเดียวได้เลย
3 วันหลังจากนั้นงานที่ยูอิลฮานถูกดึงให้ไปช่วยทำที่เหมืองก็ได้จบลงแล้ว
"เป็นชายที่น่าตกใจริงๆเลย"
"เขาถึงขนาดผูกขาดบัพของสตรีศักดิ์สิทธิ์... แล้วก็มีอุปกรณ์แปลกๆอีกด้วย..."
"ฉันได้ยินมาว่าชายคนนี้คือสุดยอดสถาปนิกจากโลก"
"สถาปนิกจากโลกเป็นสัตว์ประหลาดแบบนี้กันถึงคนเลยไหมนะ!?"
ยูอิลฮานได้จัดการเก็บเอาวัสดุก่อสร้างลงไปในช่องเก็บของโดยไม่สนใจในการพยายามกระจายข่าวลือของเขาออกไปจากพวกนักบวชกับพาลาดิน จากนั้นเขาก็ได้ตะโกนไปทางนักบวชกับพาลาดินที่เอาแต่กระซิบกัน
"ในตอนนี้ เรากำลังจะไปที่สร้างวิหารใหม่ที่ซากปรักหักพังกันแล้ว! พวกนายต้องมากับฉันด้วย!"
"ครับ!"
"พวกเราจะตามคุณไป"
จากเวลาที่ผ่านไปได้ทำให้ยูอิลฮานได้การเป็นผู้ปกครองเหมืองหินแห่งนี้และทุกๆคนก็ได้ตามเขามาโดยไม่บ่นกลับมา นักขุดธรรมดาๆที่ไม่ได้เป็นแม้แต่นักบวชหรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับศาสนจักรได้รับความศรัทธาจากทุกๆคน
ความยิ่งใหญ่ของยูอิลฮานจะยิ่งโดดเด่นขึ้นมามากขึ้นอีกเมื่อเขาเริ่มการก่อสร้าง - แค่โบกมือกทำให้หน้าดินเรียบเนียน ดีดนิ้วอีกครั้งหินก็จัดการวางหินที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ออกมาวางไว้ นักบวชถึงขนาดอุทานกันออกมา
"เขาก็เป็นคนที่ได้พรจากเทพธิดาด้วยหรือป่าวนะ? ถ้าไม่งั้นเราก็จะอธิบายเรืองทั้งหมดนี่ได้ยังไงกัน!"
"เขาเป็นคนที่จะแต่งงานกับฉัน~!"
"ไม่ล่ะ!"
จริงๆแล้วการสร้างวิหารง่ายกว่าในตอนที่เขาสร้างพื้นที่แห่งความอบอุ่นและความเศร้าซะอีก เหตุผลก็เพราะว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำการหัตถกรรมมานาที่นี้
หินนี่ได้เต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพธิดาอยู่แล้ว มันจะส่งผลต่อกันและกันเองทำให้มันยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีกเมื่อได้รวมกันจนเป็นวิหารจนจะเกิดคุณสมบัติพิเศษขึ้นมาได้ด้วยซ้ำไป นี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของยูอิลฮาน แต่มันเป็นสิ่งที่จะเป็นแบบนี้อยู่แล้ว จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องแปลกประหลาดและลึกลับ
"เอ๋ บันทึกเทพ..."
[ฉันบอกแล้วว่าพวกนี้ไม่ได้มีตัวตจริงๆ ฉันขอพูดในฐานะของคนที่ได้รับพรเลย นี่มันเป็นเรื่องที่แท้จริงแน่นอน] (เลียร่า)
"อ่า ฉันก็เป็นคนที่ได้พรเหมือนกันนะ พรจากเทพแห่งช่างตีเหล็กไง"
[ศาสนานะมีเนื่องจากว่าพวกมนุษย์ที่โง่เขลามักจะแข็งแกร่งขึ้นจากการที่เชื่อในเทพปลอมๆ] (สเปียร่า)
ตลอดกระบวนการก่อสร้างทั้งหมดนี้นักบวชต่างก็คอยอยู่ใกล้ๆและอัดพลังศักดิ์สิทธิ์ลงไปในวิหารด้วยตัวพวกเขาเอง วิหารได้ดูดซึมพลังลงไปและส่องแสงสีชมพูหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ยูอิลฮานรู้แปลกๆขณะที่เขาสัมผัสวิหารระหว่างการก่อสร้าง วิหารมันค่อยๆแข็งแกร่งมากขึ้นราวกับกำลังพัฒนาเติบโตขึ้นมาเหมือนกับสิ่งมีชีวิตจริง
นี่มัหานเป็นพลังที่แปลกมา พลังที่รู้จักกันว่าคือพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพปลอมๆ - มันมีความรู้สึกแปลกๆอยู่ลางๆที่เข้าไม่อาจจะเข้าใจได้ แต่ว่าตอนนี้จิตใจเขาลอยออกไปแล้ว
"คุณอิลฮาน ถ้านายเหนื่อยก็ไปพักกับฉันซักหน่อยก็ได้น้า~~!"
"ฉันไม่ไดเหนื่อยหรอก แล้วก็ถ้าฉันเหนื่อยขออยู่คนเดียวดีกว่า"
"หืม ดูเหมือนนายจะไม่ได้เป็นอะไรนะ"
"เธอรู้ว่าฉันเหนื่อยไม่เหนื่อยได้จากคำพูดเนี้ยนะ!?"
การสร้างมหาวิหารขึ้นอีกครั้งเดิมทีแล้วถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีถึงจะเร็วที่สุดแล้ว แต่แล้วตอนนี้ความคืบหน้ามันเร็วกว่าเดิมอย่างน้อยก็ 30 เท่าแล้ว
แม้ว่าคนของศาสนจักรเรย์ต้าก็อดไม่ได้ที่จะยอมรับในพลังของยูอิลฮาน ซึ่งแตกต่างไปจากตอนแรกที่เขาสงสัยในการคัดเลือกคนของนายูนา แต่แน่นอนว่ายูอิลฮานก็ไม่ได้สนเลยว่าคนอื่นจะคิดกับเขายังไง!
"เยี่ยมเลย ตอนนี้มันก็ใกล้จะเสร็จแล้ว"
[บางทีมันอาจจะเพราะว่านายได้รับพรจากเทพแห่งช่างตีเหล็กก็ได้ วิหารที่นายทำถึงได้ให้ความรู้สึกพิเศษจางๆออกมา ดูนั่นสิ มันนานแล้วนะที่ฉันไม่ได้เห็นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์แบบนี้] (เลียร่า)
[เธอไม่เข้าใจงั้นหรอเลียร่า? นี่มันไม่ใช่เพราะเทพแห่งช่างตีเหล็ก ยูอิลฮานได้คุ้นชินไปกับพลังศักดิ์สิทธิ์ของเทพแห่งความงามแล้ว เขาได้ใช้พลังจากหินที่เก็บเอาพลังศักดิ์สิทธิ์เอาไว้เหมือนกับการใช้มานาจากตัวเขาเองไปแล้ว] (สเปียร่า)
"ฉันก็ไม่มั่นใจเรื่องนี้หรอกนะ... แต่ว่าถ้าเป็นไปได้ ฉันก็รู้สึกไม่อยากจะทำให้มันเสร็จจนกว่าที่ฉันจะชินกับพลังนี้ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าหากฉันชินกับพลังนี้แล้วฉันจะดึงพลังจากหินศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้จนถึงขีดสุดของมัน"
ในตอนแรกยูอิลฮานได้ยอมรับในคำขอของนายูนาแค่เพื่อที่จะเอาหินศักดิ์สิทธิ์มาใช้ แต่ว่าระหว่างทำงานนี้ขณะที่เขาได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์มาจนแทบจะไร้ขีดจำกัดจากการก่อสร้างนี้ทำให้ตัวเขาเองเข้าใจในพลังของเทพได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและรู้สึกว่าเขาได้รับรางวัลมาอย่างมากมายแล้ว
แม้ว่าระหว่างเขาทำการขุดหินเขาจะรู้สึกถึงมันได้เล็กน้อย แต่ว่าในระหว่างการก่อสร้างมันทำให้เขารู้สึกถึงมันได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นแล้ว เทพเหล่านี้ไม่ใช่แค่สิ่งที่ถูกบันทึกแห่งอคาชิคสร้างขึ้นมาจากแค่ความปรารถนาในการหาที่พึ่งของมนุษย์นับไม่ถ้วนเท่านั้น เขารู้สึกเหมือนกับมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอิสระสามารถทำความเข้าใจจับต้องได้
[อย่าคิดว่ามันยากยูอิลฮาน นายก็แค่ต้องยอมรับในสิ่งที่อยู่ตรงหน้านาย] (เอิลต้า)
"ปัญหาคือฉันมองไม่เห็นพวกนั้นไงล่ะ"
ถ้าเขาเข้าใจคว้ามันได้... เขารู้สึกเหมือนกับเขาจะก้าวหน้าขึ้นอีกนิด... แต่ว่าสำหรับในตอนนี้มันเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจจะเอื้อมไปถึงเนื่องจากเขาไม่รู้ว่าวิธีและสิ่งที่จะ 'ไขว่คว้ามา'
ระหว่างความคิดของเขากำลังคิดลึกไปถึงวิธีที่คาดไม่ถึงในที่ที่คาดไม่ถึง การก่อสร้างมหาวิหารที่ได้ดำเนินไปอย่างราบรื่นก็ได้เสร็จสิ้นลงในวันที่ 9 ของการก่อสร้าง
"คุณอิลฮาน นายต้องเอารูปปั้นมาที่นี่"
"ฟู่"
รูปปั้นเทพธิดาที่ยูอิลฮานได้ใช้ทั้งแรงกายและแรงใจสลักขึ้นมาด้วยเครื่องมือขุดเจาะมรณะ - ระหว่างที่เขาวางรูปปั้นที่ดูคล้ายนายูนาลงไปในตรงกลางของวิหาร ทั้งพื้นที่แห่งนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีชมพูสว่างทันที
นี่คือสัญญาณที่แสดงว่าในที่สุดทุกอย่างก็สำเร็จกลายเป็นวิหารที่เต็มไปด้วยพลังของเทพธิดาแล้ว! นักบวชกับพาลาดินที่เฝ้าคอยอย่างใจจดใจจ่อได้เริ่มสวดภาวนาและเพิ่มพลังศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองทันที และตัวตนที่อยู่สูงที่สุดอย่างนายูนาก็ไม่เว้นเช่นกัน
"ท่านหญิงเทพธิดา ได้โปรดมอบพลังของท่านมาเพื่ไม่ให้ที่นี่พังลงไปอีกในอนาคตด้วยเถอะน้า~!"
ในตอนนี้เองแสงขนาดใหญ่ได้พุ่งสาดกระจายออกมา! ระหว่างนี้ทุกๆคนต่างมองไปที่สตรีศักดิ์สิทธิ์ นายูนาก็ได้ยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสา ในทันทีหลังจากนั้นข้อความสีชมพูได้สลักปรากฏขึ้นในม่านตาของทุกๆคน
[มหาวิหารเทพธิดาแห่งความงามเรย์ต้าได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว คุณจะได้รับบันทึกของเทพแห่งความงามตามการมีส่วนร่วม]
"ว้าว นี่มันดูเหมือนฉันจะสวยขึ้นอีกแล้ง"
สมแล้วกับที่เป็นนายูนาที่ใส่ใจในความสวยงามของตัวเองและยอมรับในความสวยของเธอ ยูอิลฮานได้ส่งเสียงฮึ่มออกมา แต่เขาก็ยังแอบหันไปถามเลียร่าเบาๆ
"หน้าของฉันดีขึ้นสักนิดป่ะ?"
[หน้าของนายมันสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว] (เลียร่า)
[นายถามคนผิดแล้วยูอิลฮาน แล้วก็การเปลื่ยนแปลงมันไม่ได้เกิดขึ้นในทันทีหรอกนะ!] (เอิลต้า)
ขณะที่ความรู้สึกของยูอิลฮานกำลังลดลงไป คนอื่นๆก็ยังเริ่มตอบสนองกับข้อความที่ปรากฏขึ้นมา เนื่องจากว่าพวกเขาเหล่านี้ทุกคนต่างก็อุทิศชีวิตให้กับชื่อเรย์ต้าทำให้พวกเขาได้รับความสุขและความิยนดีมากจนยูอิลฮานเทียบไม่ติด
"โอ้พระเจ้า เราทำการสร้างวิหารขึ้นใหมได้สำเร็จแล้ว"
"เทพธิดาตอบรับคำอธิษฐานของเราแล้ว ทั้งหมดนี่เพราะ..."
"สถาปนิกยูอิลฮาน"
"ยูอิลฮาน!"
แต่เพราะอะไรบางอย่างทำให้แรงใจของเขาเริ่มเอียงมาในทางที่แตกต่าง พวกเราควรจะเรียกแต่ชื่อเทพธิดา แต่มันดูเหมือนว่าเสน่ห์ของยูอิลฮานที่แสดงออกมาจะมีผลมากถึงขนาดทำให้เขาถูกยกย่องเช่นกัน! เทพธิดาก็น่าจะรู้สึกเศร้ากับเรื่องนี้นะ
"มาทำรูปปั้นสัมฤทธิ์ให้เขากัน!"
"พวกเราต้องแต่งตั้งเขาเป็นนักบวชอาวุโส มาบันทึกให้วันนี้เป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองสำหรับการสร้างวิหารขึ้นอีกครั้งกัน...!"
"ในเมื่อวิหารถูกสร้างเสร็จแล้วมานี้มาอธิษฐานให้เทพธิดา... หืม?"
และพวกเขาก็รู้ตัว
ชายที่ยืนอยู่กับพวกเขาจนกระทั่งถึงเมื่อกี้นี้ได้หายไปแล้ว
*****
หลังจากได้รับหินศักดิ์สิทธิ์ยูอิลฮานก็จะมุ่งตรงกลับสู่โลกทันที หินศักดิ์สิทธิ์ที่ยูอิลฮานได้มาเป็นระดับสูงจริงๆอย่างที่นายูนาได้โม้ไว้ หินนี่มีทั้งขนาดใหญ่มากๆแถมยังส่องประกายออกมา แถมเมื่อนายูนาได้อธิษฐานขอพรอีกทำให้มันเริ่มส่องแสงสีชมพูจางๆออกมาต่อเนื่อง
"พระสันตปาปาอยากจะเจอนายน้า~~!"
"ไม่ล่ะ พูดตรงๆเลยคือฉันไม่อยากจะไปเกี่ยวกับเรื่องศาสนจักร คนพวกนี้ใช้อารมณ์มากกันเกินไป"
แน่นอนว่าคนที่แย่ที่สุดเลยก็คือนายูนาข้างหน้าเขา เธอได้เข้ามาหาเขาโดยไม่มีมิเรย์แล้วก็ยิ้มสดใสออกมาพร้อมให้ยูมิลนั่งบนตักของเธอ
"ถึงแม้ว่าพูดมากแต่ฉันก็เป็นคนตรงๆนะ ฉันคิดว่าการได้มีชีวิตขณะที่ปล่อยจิตใจของนายออกมาโดยไม่ปกปิดมันเอาไว้เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆเลย"
จากนั้นเธอก็พูดคำพูดที่ตรึงใจออกมาเหมือนไม่มีอะไร ยูอิลฮานได้ถอนหายใจและหยักไหล่ขึ้นมา
"เธอจะใช้ชีวิตยังไงก็ได้ตามที่เธอต้องการ"
"เฮะเฮะ ฉันก็ได้ใช้ชีวิตแบบนั้นแล้ว ฉันได้เลือกคนที่ฉันอยากจะซื่อสัตย์ต่อหน้าเขาแล้ว"
เธอได้ประกาศออกมา
"ตอนนี้ฉันก้กำลังจะแสดงทุกๆอย่างออกมาให้นายเหมือนกันคุณอิลฮาน โดยไม่ซ่อนอะไรอีกเลย"
"อ่า งั้นหรอ?"
ยูอิลฮานได้หัวเราะออกมา เขาคิดว่าบางทีเขาอาจจะเชื่อใจในคำพูดของเธอได้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจในตอนที่เจอกันครั้งแรกและเขาก็หัวเราะตัวเองที่เผลอไปคิดแบบนั้น
เพราะอะไรซักอย่างแค่คำพูดของเธอมันก็ทำให้เขารำคาญ แต่ว่าเขาก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในเมื่อเขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไม่คิดอะไรมากเกินไป กลับกันเขา...
"คนที่เธอจะเผชิญหน้าด้วยเขาจะเหนื่อยเอาดังนั้นก็ช่วยห้ามตัวเองไว้ด้วย"
"โอ้ ตรงจังเลยนะ!"
"แล้วก็ไปกินอาหารเที่ยงกันก่อนเดินทางเถอะ ฉันเบื่อแล้วในเมื่อลูกน้องฉันไปที่ดาเรย์กันหมด"
"เย้!"
"เย้!"
นายูนาได้กอดยูมิลอย่างดีใจ ยูอิลฮานก็ตกใจกับตัวเองที่เขาชวยเธอกินอาหารกลางวัน แต่ว่าเขาก็ยังคิดว่ามันคงไม่เป็นไรถ้าเขารักษาระยะห่างเอาไว้ได้ ทั้งหมดนี่ก็เพราะการมาที่เบร์ย่า
เพราะแบบนี้หลังจากผ่านไปสองสามวันความสัมพันธ์ของยูอิลฮานกับนายูนาก็ได้ดีขึ้นเล็กน้อย และไม่นานนักก็มีการประกาศหนึ่งในกังนัมบนโลก
[กำลังค้นหาทหารรับจ้างไปช่วยแก้วิกฤติในโลกฟิทัวโร่]
สายลมแห่งยุคทหารรับจ้างของโลกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว