ตอนที่ 883 ชอบกินปลา(ฟรี)
เมื่อถานหลางมาถึงประตูตะวันออกของเมืองตรัสรู้พร้อมพันธมิตรสวรรค์อีกสามคนและมอนสเตอร์ทั้งสอง รองเจ้าเมืองหู่เถาก็กำลังนำ6ผู้อาวุโสและองครักษ์เซียน100นายเข้าต่อสู้
มอนสเตอร์ขั้นกึ่งเซียนระดับสูงอยู่เหนือการควบคุมของทหารธรรมดา นอกจากองครักษ์เซียน ไม่มีใครสามารถสู้กับพวกมันได้
องครักษ์เซียนส่วนใหญ่จากศาลเจ้าเมืองเป็นขั้นกึ่งเซียนระดับกลาง มีเพียงหัวหน้าที่เป็นระดับสูง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็พร้อมไปด้วยประสบการณ์มากมาย
พวกเขาแบ่งออกเป็นกลุ่มละ13คน สร้างค่ายกลรบขนาดเล็กที่มีหัวหน้าเป็นแกนกลางขึ้น ทุกค่ายกลแตกต่างกัน และความสามารถโดยรวมพวกเขาก็แข็งแกร่งพอๆกับราชาเฮอคิวเลี่ยน
ทั้ง5กลุ่มเข้าเข่นฆ่าฝูงมอนสเตอร์ง่ายๆ ในขณะเดียวกัน อีก5กลุ่มก็ยืนคุ้มกันอยู่ไม่ไกลจากเมือง คอยเฝ้าดูมอนสเตอร์ที่พวกเขาพลาด รวมถึงรอสลับเปลี่ยนตำแหน่ง
รองเจ้าเมืองหู่เถามีพลังระดับสูงสุดแล้ว ดังนั้นเขาจึงแข็งแกร่งเทียบเท่าเฉิงเถา ฝีมือเชิงดาบเขาน่าทึ่งและความสามารถเขาก็คล้ายกับจอมดาบที่ต่ำกว่าแลนเซล็อต
ผู้อาวุโสทั้ง6อ่อนแอกว่าเล็กน้อย แต่ทุกคนก็ล้วนมีพลังระดับสูง แม้พวกเขาจะไม่ได้ทรงพลังนัก แต่พวกเขาก็ยังผสมผสานกลยุทธ์ต่อสู้จนทรงพลังกว่ากลุ่มองครักษ์เซียนเล็กน้อย
ฝูงมอนสเตอร์ถูกขัดขวางอยู่นอกกำแพงเมืองตรัสรู้ห่างออกไปสามกิโลเมตร
เมื่อสังเกตเห็น ถานหลางก็นำคนเข้าร่วมสนามรบ
สมาชิกทั้งหมดของพันธมิตรสวรรค์คืออัจฉริยะ นอกจากนี้ ทุกคนยังมีพลังระดับนิรันดร์ขั้น9 ดังนั้น การสู้กับมอนสเตอร์ขั้นกึ่งเซียนระดับสูงซึ่งเทียบได้กับนิรันดร์ขั้นสูงจึงไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับพวกเขา
การต่อสู้เปลี่ยนเป็นการเข่นฆ่าอยู่ฝ่ายเดียวทันทีที่ทั้ง4เข้าร่วม โดยเฉพาะถานหลาง เขาสวมเกราะดำและไม่ได้ใช้อาวุธใดๆ มอนสเตอร์หลายตัวถูกล้มภายในหมัดที่สองของเขา
เขาแม้กระทั่งมีเวลาไปสนใจว่ามอนสเตอร์ของหลิน ฮวงกำลังทำอะไร
ราชาเฮอคิวเลี่ยนเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน มันเหมือนรถถังไร้เทียมทานในฝูงมอนสเตอร์
มอนสเตอร์ขั้นกึ่งเซียนระดับสูงเหล่านี้ไม่อาจทำลายการป้องกันมันได้เลย
หลังเฝ้าดูการต่อสู้ของราชาเฮอคิวเลี่ยนอย่างชื่นชม ถานหลางก็หันไปมองชุดคลุมเลือด
ชุดคลุมเลือดลอยอยู่ในอากาศอย่างสงบ เสื้อคลุมของมันพลิ้วไหวตามแรงลม มันยื่นมือออกจากเสื้อคลุม ไม่มีเนื้อหนังบนมือมัน แต่กลับเป็นกระดูกสีขาวคล้ายหิมะ
พื้นเริ่มสั่นเมื่อมันกำหมัดเล็กน้อย ไม่นาน ภูเขาไฟก็ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ลาวาสีแดงปะทุอย่างบ้าคลั่ง ภายในรัศมีร้อยกิโลเมตร ชุดคลุมเลือดดูเหมือนจ้าวแห่งลาวา ยืนอยู่เหนือคลื่นลาวา เข้ากลืนกินมอนสเตอร์จำนวนมาก แค่การโจมตีเดียวมันก็ฆ่ามอนสเตอร์ได้นับหมื่นตัวแล้ว
ทุกคนที่เห็นต่างทำสีหน้าโง่งม ขากรรไกรของถานหลางถึงกับตกลง
ด้วยการรับรู้ถึงการจ้องมองของถานหลาง ชุดคลุมเลือดหันไปมองเขาด้วยดวงตาสีฟ้าขณะขยายแม่น้ำลาวามันเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ลาวาคืบคลานไปหามอนสเตอร์ที่อยู่ไกลออกไป
ขณะที่การต่อสู้ฝั่งตะวันออกเริ่มรุนแรง ทางใต้เองก็ตึงมือเช่นกัน
รองเจ้าเมืองอีกคนจากศาลเจ้าเมืองนำ6ผู้อาวุโสและองครักษ์เซียนสิบกลุ่มเข้าปะทะ
เฉิงเถานำคนจากพันธมิตรสวรรค์และสองมอนสเตอร์เข้าสนามรบ
ทั้ง4จากพันธมิตรสวรรค์คิดว่าปิงหวางและราชาเฮอคิวเลี่ยนคนมีสไตล์การต่อสู้เหมือนกัน เหนือสิ่งอื่นใด นอกจากสีขนที่แตกต่างกัน พวกมันกลับดูเหมือนกันราวกับฝาแฝด
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ตระหนักว่าการตัดสินพวกเขาผิดไปเมื่อพื้นเริ่มถูกแช่แข็ง มอนสเตอร์จำนวนนับไม่ถ้วนกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งกึ่งโปร่งใสทันที
ความสามารถของปิงหวางในการฆ่ากลุ่มมอนสเตอร์นับว่าทรงพลังกว่าราชาเฮอคิวเลี่ยน
มอนสเตอร์ขั้นกึ่งเซียนระดับสูงไม่อาจต่อต้านพลังแช่แข็งมันได้เลย
ทั้ง4จากพันธมิตรสวรรค์ลอบอุทานว่าพวกเขาโชคดีหลังเห็นการโจมตีของปิงหวาง
ในขณะเดียวกัน ปีศาจมาลาเชี่ยนก็มีเทคนิคเหมือนกับราชาเฮอคิวเลี่ยน ซึ่งคือการพุ่งชนเหมือนกับรถถัง
จะมีเสียงโลหะกระทบทุกครั้งที่มอนสเตอร์พุ่งชนใส่มัน ราวกับการโจมตีพวกมันกระทบใส่โลหะชิ้นหนึ่ง นอกจากนั้น ไม่มีบาดแผลที่พบเห็นบนร่างกายเลย
กล้ามแขนของปีศาจมาลาเชี่ยนคืออาวุธชั้นดี มอนสเตอร์ทุกตัวจะถูกบดขยี้ทันทีที่มันเขวี้ยงหมัด ไม่จำเป็นต้องใช้หมัดที่สอง
แม้กระทั่งเฉิงเถาก็ยังตกตะลึง เขาลอบสงสัยว่าตัวเองจะเป็นยังไงหากต้องสู้กับปีศาจมาลาเชี่ยน
เจ้าแดงคอยดูการต่อสู้ด้านนอกประตูเมือง แต่มันไม่ได้ฉายภาพให้หลิน ฮวงเนื่องจากยังมีคนจากศาลเจ้าเมืองอยู่รอบๆ
มีองครักษ์เซียนสองกลุ่มและทหารเซียนธรรมดานับพันบนแต่ละกำแพงเมืองทางใต้และตก
หลิน ฮวงอยู่บนกำแพงเมืองทิศเหนือพร้อมคนจากศาลเจ้าเมือง
ฝูงมอนสเตอร์กำลังมาจากทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และมีกลุ่มคอยขวางทางพวกมันทั้งสองข้าง มีเพียงมอนสเตอร์บางตัวที่ทำการอ้อมและเข้าใกล้เมืองได้บ้าง
อย่างน้อย ก็ไม่มีอะไรภายในวิสัยทัศน์ของหลิน ฮวง นอกจากศพมอนสเตอร์ไม่กี่ตัวด้านล่างกำแพง ไม่มีมอนสเตอร์แม้แต่ตัวเดียวที่เข้ามาในเมืองได้
องครักษ์เซียนจากศาลเจ้าเมืองเบื่อหน่าย ส่วนใหญ่กำลังจับจ้องสายฟ้าที่ยืนอยู่ข้างหลิน ฮวง พวกเขาไม่อาจปกปิดความอิจฉาบนใบหน้าได้
สายฟ้ามีขนสีเทาดำพร้อมลวดลายสีทอง ร่างมันยาวและสง่างาม มีกระแสไฟฟ้าสีม่วงกระพริบอยู่รอบร่างมันเป็นครั้งคราว
จากการมองมัน สายฟ้าดูสมบูรณ์แบบมาก ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นอายที่มันปลดปล่อยยังเกือบเทียบเท่าเจ้าเมือง
มอนสเตอร์ตนนี้นับเป็นสัตว์บินที่ทุกคนบนโลกต่างต้องการ
แม้กระทั่งหัวหน้าองครักษ์เซียนสองคนที่มักเฉยเมยก็ยังอดพูดกับหลิน ฮวงถึงสายฟ้าไม่ได้“เหยี่ยวตนนี้มีพลังอะไรบ้างหรือท่าน?”
“มันมีทั้งธาตุลมและสายฟ้า”
“มันบินได้เร็วหรือไม่?”
“เร็วมาก”
“ท่านมักให้อะไรมันกิน?”
“อืม ก็...”หลิน ฮวงอยากพูดว่าเขาไม่ค่อยให้อาหารมันและในไม่ช้าก็นึกได้ว่าสายฟ้าได้ขอปลาเป็นอาหารขยะ ดังนั้นเขาจึงตอบอย่างหน้าด้าน“ข้ามักให้ปลามัน...”
“ข้าชอบกินงูเหมือนกัน”สายฟ้าพูดผ่านการส่งเสียง
“บางครั้ง ข้าก็ให้มันกินอสรพิษ”หลิน ฮวงกล่าวเสริม
ขณะที่คนจากศาลเจ้าเมืองคุยกัน ในหัวของหลิน ฮวงก็ขบคิดอย่างหนัก
หากเขาตรงไปศาลเจ้าเมืองเพื่อแลกแต้มจำนวนมหาศาล ข่าวย่อมกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
หากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ไม่เพียงแต่เขาจะถูกเปิดเผยความสามารถ แต่คนจากรัฐบาลกลางก็อาจคิดว่ามันคือเขาที่นำรูปแกะสลักเทพไปทันทีทีท่พวกเขาได้ยินข่าวหลังขึ้นมาจากใต้ดิน
แม้เขาจะไม่ต้องกลัวคนจากรัฐบาลกลางที่เข้ามาในแดนเทพตกสวรรค์ การหลีกเลี่ยงปัญหาก็ย่อมดีกว่า
‘ฉันควรปลอมตัวและแลกแต้มจากศาลเจ้าเมืองอื่นหรือนิกายแทน?’