GE107 อานุภาพกระบี่ใหญ่ เจ้าไม่อาจรอดไปได้ [ฟรี]
หนึ่งจ้างหกฉื่อ กระบี่ใหญ่ยาวเจ็ดฉื่อ ทั่วร่างหนิงฝานเปล่งแสงสีเงินเจิดจ้า จนทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่สัมผัสเสียวสันหลังวาบ
กายาหกจ้างคือวิชาขัดเกลาร่างกายที่ธรรมดาที่สุดในแคว้นเยว่ แต่ร่างที่เปล่งแสงสีเงินผสานกับกายาหกฉื่อของหนิงฝาน กลับทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรง
“นี่… นี่มัน… ขอบเขตกระดูกเงิน!” ผู้เชี่ยวชาญหลานคนอุทาน มันตกตะลึงโดยไม่รู้สึกตัว หากร่างกายหนิงฝานบรรลุขอบเขตกระดูกเงินจริงๆ แม้ไม่ใช้ปราณหนิงฝานก็ป้องกันการจู่โจมเต็มกำลังของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มได้ และที่สำคัญ เขาจะกลายเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแกร่งที่สุดในแคว้นเยว่
แต่ทันใดนั้นเอง เหล่าผู้เชี่ยวชาญสังเกตุเห็นว่า แม้ทั่วร่างของหนิงฝานจะเปล่งแสงสีเงินที่ทรงพลัง แต่ยังดูเหมือนพลังที่แผ่ออกมาจากกระดูกนั้น ยังขาดหายไปอีกมาก
“ที่แท้ยังไม่ใช่ขอบเขตกระดูกหยก... ข้าหล่ะตกใจแทบตาย...”
ประมุขนิกายจู้โม๋...จู้ฉิง ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงที่ฝึกวิชาขัดเกลาร่างกายเป็นหลักกล่าวพลางเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก มันผ่านมาแคว้นเยว่และได้ยินว่าจะมีการประลองที่ยิ่งใหญ่ จึงเร่งรุดหน้ามาดู มันคาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นสิ่งที่น่าตกตะลึงเช่นนี้
นิกายจู้โม๋นั้น เป็นนิกายที่เน้นด้านการขัดเกลาร่างกาย พวกมันมีวิชาขัดเกลาร่างกายโบราณนามว่า ‘วิชาปีศาจยักษ์’ วิชาขัดเกลาร่างกายนี้ได้มาจาก ‘ทะเลไร้สิ้นสุด’ จู้ฉิงฝึกฝนวิชาปีศาจยักษ์อย่างหนักหน่วงเป็นเวลา 500 ปี กระทั่งบรรลุระดับที่หมัดเดียวก็สังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำได้ แต่ถึงอย่างนั้น แสงสีเงินที่เปล่งออกมาจากร่างกายของมัน ยังด้อยกว่าหนิงฝานในยามนี้
เมื่อได้รู้ว่าหนิงฝานยังไม่บรรลุขอบเขตกระดูกเงินอย่างแท้จริง จู้ฉิงก็ผ่อนคลาย แต่แววตาที่จ้องมองหนิงฝานนั้น เต็มไปด้วยความเลื่อมใส
แม้ผู้เชี่ยวชาญที่ขัดเกลาร่างกายจะรู้ว่าแสงสีเงินที่หนิงฝานเปล่งออกมานั้นไม่ธรรมดา แต่ไม่มีใครเดาใดว่ามันทรงพลังขนาดไหน จะมีก็เพียงไม่กี่คนที่พอจะรู้ว่าหนิงฝานสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำได้ในหมัดเดียว
“ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตำกว่าแก่นทองคำที่แข็งแกร่งที่สุด... ทุกคนในแคว้นเยว่ดูถูกเด็กคนนี้ แต่ข้ากลับมองว่าเด็กผู้นี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ และผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้นนั้น ยากที่จะรับมือเด็กผู้นี้ได้”
จู้ฉิงตัดสินหนิงฝานจากวิชาขัดเกลาร่างกายที่เผย แต่หากมันได้รู้ว่าหนิงฝานยังมีอีกหลายสิ่งที่ซ่อนไว้ มันคงไม่ด่วนสรุปเช่นนี้
ถึงอย่างนั้น ยังมีผู้ที่ดวงตามืดบอด ไป๋เฟยเถิง… มันไม่รู้ว่าหนิงฝานทรงพลังขนาดไหน
มันรู้ว่าหนิงฝานฝึกฝนวิชากายาหกจ้าง รู้ว่าแสงสีเงินนั่นไม่ธรรมดา แต่หากจะกล่าว มันมั่นใจว่ารับหมัดของหนิงฝานได้ หรือต่อให้ไม่ได้ มันก็หลบได้ ดังนั้น ไม่ว่าวิชาขัดเกลาร่างกายของหนิงฝานจะทรงพลังขนาดไหน ก็ไม่อาจว่องไวเทียบเท่าวิชาปราณ
แม้ร่างกายหนิงฝานจะทรงพลัง หากไม่อาจจู่โจมโดนตัวมัน หนิงฝานก็นับว่าพ่ายแพ้ไปแล้ว
“เด็กคนนี้ยังไม่เติบโตสมบูรณ์...” ไป๋เฟยเถิงยิ้มอย่างเย็นชา แต่ก่อนที่มันจะขยับเคลื่อนไหน หนิงฝานกลับฟาดฟันกระบี่ใหญ่ในมือ เข้าใส่มันในพริบตา
จากนั้นเหยียบย่างรุ้งหิมะที่รวดเร็วเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ตรงเข้าหาไป๋เฟยเถิง แต่ความเร็วระดับนี้ใช่ว่าจะไล่ตามมันทัน!
เพราะในชั่วพริบตานั่น ร่างของมันเปล่งแสง ปราณน้ำแข็งควบกลั่นเป็นเมฆเซียน
มันเก็บเมฆเซียนไว้ในร่าง เมื่อเมฆเซียนปรากฏ ร่องรอยสลักบนเมฆเซียนก็ปรากฏ เป็นรูปเมฆสลัก 4 ก้อน!
“เมฆเซียนระดับ 4! คาดไม่ถึงว่าไป๋เฟยเถิงจะมี ลือกันว่าเมฆเซียนระดับนี้ แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม ใช้วิชาก้าวพริบตา ก็ยังไม่อาจไล่ตามทัน!”
“ไม่เพียงเท่านั้น เมฆเซียนนั้นยังเป็นสมบัติแก่นชีวิต!” ซ่งเฟิงแห่งนิกายไท่ชูไพ่กล่าว สีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง
เมฆเซียนแก่นชีวิต!
การปรากฏของเมฆเซียนนั้น ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนฮือฮา เพราะมีเพียงเมฆเซียนที่ระดับสูงมากๆเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสเป็นเมฆเซียนแก่นชีวิตยามที่หลอมสร้าง ทั้งยังอาจมีการเสริมพลังให้มัน หากยังเสริมพลังให้มันได้อีก เมฆเซียนนี้อาจยกระดับ
เป็นเมฆเซียนระดับสูง!
ผู้อาวุโสซ่งเฟิงจ้องมองไป๋เฟยเถิง เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มันเคยสู้กับไป๋เฟยเถิง การต่อสู้ดำเนินไปหลายวันหลายคืน แต่ยังไม่อาจตัดสินผลแพ้ชนะ… เพียงแต่การต่อสู้ในครั้งนั้น ไป๋เฟยเถิงไม่ได้ใช้เมฆเซียน ราวกับครั้งนั้นมันดูแคลนตน
ไป๋เฟยเถิงอาศัยเมฆเซียนหลบหลีกอย่างรวดเร็วราวกับอัสนี เว้นระยะห่างจากหนิงฝาน 100 จ้าง ไม่ปล่อยให้หนิงฝานมีโอกาสประชิดตัว
มันสัมผัสกระเป๋า นำกระบี่บินออกมา กระบี่บินเล่มนั้นมีชื่อเสียงในหมู่ผู้เชี่ยวชาญ เมื่อเหล่าผู้เชี่ยวชาญได้เห็น แววตาแปรเปลี่ยนร้อนรุ่ม
กระบี่เล่มนั้นไม่ธรรมดา! เมื่อยามจู่โจม มันรวดเร็วราวกับอัสนี เสียงกรีดอากาศราวกับเสียงมังกรคำราม
“กระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขา”! หนึ่งในอาวุธสำคัญไป๋เฟยเถิง สุดท้ายมันก็แสดงออกมา!
“นั่น… วิชากระบี่บินที่ไป๋เฟยเถิงใช้ วิชากระบี่ระดับกลางของแคว้นฉู่ จากศาลากระบี่วายุ ‘วิชาเจ็ดกระบี่’ มีข่าวลือว่าผู้ที่ฝึกวิชาเพลงกระบี่นี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น สมแล้วที่เป็นปีศาจไป๋ วิชากระบี่ที่ยากเช่นนั้นยังฝึกฝนได้”
แม้จะเป็นการกล่าวอย่างแผ่วเบา แต่เมื่อไป๋เฟยเถิงได้ยิน มันมีความสุขเป็นอย่างมาก
เหตุผลที่มันเมฆเซียนและกระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขาออกมานั้น เพราะต้องการให้หนิงฝานเสียกำลังใจจากการเยินยอของผู้คน
แต่ไป๋เฟยเถิงเป็นคนเย่อหยิ่ง และขาดความระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าหนิงฝานไม่อาจตามความเร็วของตนทัน มันก็ค่อยๆเผยสีหน้าจองหองและลดความระมัดระวังไป
“คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะวิชาฝนวิชาต่ำชั้นแบบนั้น... กระบี่ใหญ่ของเจ้าทรงพลัง การจู่โจมน่าสะพรึงกลัว แต่ถ้าทำอันตรายข้าไม่ได้ก็ไร้ผล… ข้าจะสั่งสอนเจ้าว่ากระบี่ที่แท้จริงคืออะไร… กระบี่บิน...ไป!”
ไป๋เฟยเถิงเก็บเมฆเซียน แววตาแปรเปลี่ยนเย็นชา มันโคจรวิชากระบี่ ส่งกระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขาที่แผ่ไอความเย็น แหวกอากาศเข้าใส่หนิงฝาน
ปราณน้ำแข็งของไป๋เฟยเถิงทำให้หนิงฝานรู้สึกราวกับปราณในร่างของตนหยุดโคจรไปถึง 7 ใน 10 ส่วน
“นี่คือความสามารถของกระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขา… น้ำแข็งพันธะนาการ!”
แววตาหนิงฝานเป็นประกาย เร่งคิดหาวิธีทำลายพันธะนาการทันที
กระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขาคือสมบัติขั้นต้นระดับสูง เป็นสมบัติที่ถือว่าเป็นไพ่ตายของไป๋เฟยเถิง มันได้เพิ่มความสามารถน้ำแข็งพันธะนาการให้กระบี่ ทำให้ผู้ที่ต้องสัมผัสปราณน้ำแข็งที่แผ่ออกจากกระบี่ ถูกสะกดการไหลเวียนของปราณอย่างน้อย 3 ใน 10 ส่วนของทั้งหมด!
ความสามารถนี้คล้ายกับวิชาในระดับที่ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกใช้ คาดไม่ถึงว่าไป๋เฟยเถิงจะได้ครอบครอง
เมื่อน้ำแข็งพันธะนาการตรึงปราณของหนิงฝานไว้ กระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขาก็พุ่งตรงเข้าใส่หน้าอกของหนิงฝานทันที
ตรึงปราณและจู่โจมสังหาร… คือวิธีการต่อสู้ไป๋เฟยเถิง เป็นวิธีที่โหดเหี้ยมไม่ธรรมดา เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจก่อนที่กระบี่จะปลิดชีพ แต่การจู่โจมหนิงฝานนั้น แม้กระบี่บินจะพลาดเป้า อย่างน้อยก็ยังสร้างอาการบาดเจ็บสาหัสได้
ดวงตาหนิงฝานเป็นประกาย แม้ปราณน้ำแข็งที่ตรึงปราณของตนจะไม่ธรรมดา แต่เขาไม่มีอะไรต้องกลัว!
เพลิงสีดำทมิฬลุกโหมทั่วร่างหนิงฝาน ปราณน้ำแข็งที่พันธะนาการปราณสลายไป
เมื่อปราณคืนสู่สภาวะปกติ หนิงฝานหันมองกระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขาที่ตรงเข้ามา พลางเหวี่ยงกระบี่ใหญ่ในมือเข้าปะทะ
เมื่อเห็นหนิงฝานฟาดฟันกระบี่ใหญ่ ไป๋เฟยเถิงที่อยู่ไกลออกไปก็กล่าวเย้ยหยัน “อวดดี! กระบี่ของเจ้าไร้ปราณ ระดับก็ต่ำกว่ากระบี่ของข้า หากปะทะแบบนั้นกระบี่ของเจ้าจะแตกเป็นเสี่ยงๆ!”
ชั่วพริบตาที่มันกล่าวจบ มันกลับเผยสีหน้าตกตะลึง
เพราะกระบี่ที่แตกเป็นเสี่ยงๆนั้นไม่ใช่กระบี่ใหญ่ของหนิงฝาน แต่เป็นกระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขาของมัน!
เมื่อเห็นหนิงฝานแสดงพลังกระบี่ใหญ่ ไป๋เฟยเถิงที่หัวเราะเยาะกระบี่เมื่อครู่ จึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้วกระบี่ใหญ่คือสมบัติวิญญาณขั้นสูงสุดระดับกลาง!
และในชั่วลมหายใจที่กระบี่ใหญ่ทำลายกระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขานั้น กระบี่ใหญ่ได้เผยประกายอัสนีออกมา
กระบี่ใหญ่เล่มนั้นแฝงด้วยอัสนี! อัสนีที่ปรากฏไม่ได้มาจากการเสริมความสามารถให้กระบี่ เช่นนั้นแล้วมันคืออะไร?
“นั่นมัน...วารีอัสนีแห่งทัณฑ์สวรรค์! แม้จะมีเพียงน้อยนิด แต่ไม่ผิดแน่… เด็กนั่นมีโชคลาภ ที่ได้วารีอัสนีแห่งการเสริมอานุภาพกระบี่เทพมาครอบครอง”
กระบี่ที่แฝงอานุภาพทำลายหมื่นจิน เปล่งเสียงอัสนีคำรามลั่น กระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขาถูกทำลายเป็นเสี่ยงๆ ด้ามจับกระบี่คืนสู่เจ้าของ!
ไป๋เฟยเถิงตกตะลึง มันถือกระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขาที่เสียหายอย่างหนักไว้ ยากที่จะคืนสภาพให้กระบี่ดังเดิม
“หนิงฝาน… ข้าเมตตาต่อเจ้า แห่งใดเจ้าทำลายกระบี่ข้า!” ไป๋เฟยเถิงคำรามด้วยความโกรธ
“เมตตา? ตั้งใจให้ข้าบาดเจ็บสาหัส...นี่เหรอเมตตา? ดี...วันนี้ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าเช่นกัน แต่ข้าจะทำให้เจ้าบาดเจ็บสาหัส… ถือเป็นการเมตตาเจ้า!”
หนิงฝานปลดปล่อยสัมผัสเทพที่ทรงพลัง ก่อนที่เงาร่างของเขาจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
นอกจากไป๋เฟยเถิงแล้ว แม้ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงสุดอย่างกุ่ยเชว่สื่อยังตกตะลึง เพราะไม่มีใครสัมผัสได้ว่าหนิงฝานหายไปไหน และจะจู่โจมมาจากทางไหน
“วิชาอำพรางระดับใดกัน?!” สีหน้าไป๋เฟยเถิงแปรเปลี่ยนอัปลักษณ์ มันสัมผัสถึงตัวตนของหนิงฝานไม่ได้ มันจึงนำเมฆเซียนออกมาและเคลื่อนไหวเว้นระยะห่างจากบริเวณเดิม
แต่ในชั่วลมหายใจนั้น หนิงฝานกลับปรากฏกายขึ้นด้านหลังของไปเฟยเถิงเงียบๆ ทำให้มันผมลุกซู่ มันเร่งหันหลังกลับมามองก่อนจะพยายามถอนห่าง
“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!”
ม่านตาหนิงฝานหดแคบ กระบี่ใหญ่ฟาดฟัน แสงอัสนีประกายตรึงไม่ให้เมฆเซียนเคลื่อนไหว
“นี่...เป็นไปไม่ได้!”
เมื่อผู้เชี่ยวชาญบรรลุขอบเขตแก่นทองคำ แต่ละคนต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรียกว่าทัณฑ์สวรรค์โดยไม่อาจเลี่ยง ทัณฑ์สวรรค์นั้นมีทั้งเพลิง วายุ อัสนี และอีกหลายๆธาตุแตกต่างกันไป
เมื่อต้องทัณฑ์สวรรค์ ผู้เชี่ยวชาญจะประสบกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ตรึงชะตาสวรรค์’ โดยไม่อาจเลี่ยง ต่อให้เป็นเมฆเซียนหรือวิชาเคลื่อนไหวที่ในพริบตาของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มก็ไม่อาจหลุดพ้น ผลของตรึงชะตาสวรรค์นั้นคล้ายกับตรึงร่าง เพียงแต่เป็นการตรึงการเคลื่อนไหวกับสิ่งรอบข้าง แต่ร่างกายยังเคลื่อนไหวได้อยู่
สิ่งที่ทำให้ไป๋เฟยเถิงตกตะลึงนั้นไม่ใช่เพราะตรึงชะตาสวรรค์ มันตกตะลึงที่หนิงฝานชักนำอำนาจของสวรรค์มาได้
ผู้ที่ประหลาดใจไม่ได้มีเพียงไป๋เฟยเถิง เหล่าผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากก็เช่นกัน พวกมันสนใจในกระบี่ใหญ่ของหริงฝาน
ลำพังเพียงระดับร่างกายของไป๋เฟยเถิง ไม่สามารถหลบกระบี่ของหนิงฝานพ้น ระยะกระบี่ใกล้เกินไป ไม่สามารถใช้วิชากระบี่บินได้ทัน แต่ถึงอย่างนั้น ไป๋เฟยเถิงเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงมานานหลายปี หลบหนีเอาชีวิตรอดมาแล้วหลายครั้ง กระทั่งมีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้
แววตาไป๋เฟยเถิงเป็นประกาย เหวี่ยงกระบี่มังกรน้ำแข็งที่พักแทบไม่เหลือชิ้นดีเข้าต้านกระบี่ของหนิงฝาน ในความคิดของมัน แม้กระบี่ของหนิงฝานจะทรงพลัง แต่ปราณยังห่างชั้นกับมันหลายระดับ ดังนั้น หากมันใช้ปราณต้านกำลังของหนิงฝาน สมควรไม่ใช่เรื่องยาก
แต่มันดูถูกกำลังกายของหนิงฝานมากเกินไป!
ที่ข้อมือขวาของหนิงฝานมีกำไลรูปสัตว์โบราณ ยามนี้มันเปล่งแสง ถ่ายพลังเข้าสู่ร่างหนิงฝาน ทำให้หนิงฝานเพิ่มพลังขึ้น 3 ใน 10 ส่วน!
กระทั่งกระบี่มีอานุภาพ 13,000 จิน!
กระบี่ทั้งสองเล่มเข้าปะทะ แต่กระบี่ของหนิงฝานกลับฟันผ่านกระบี่ของไป๋เฟยเถิง สับเข้าที่ไหล่ขวาของมันไปจนถึงหน้าอก โลหิตสาดกระจาย กระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขาเกือบหลุดมือ!
แต่หนิงฝานยังจู่โจมด้วยกระบี่ที่ 2 ทันทีโดยไม่ให้ตั้งตัว!
กระบี่ที่สองเปล่งอานุภาพอัสนี ทำให้กระบี่ทรงอานุภาพมากขึ้น! ไป๋เฟยเถิงที่หวาดกลัว เร่งนำกระบี่ปีศาจสวรรค์อีกเล่ม เสริมกำลังด้วยโลหิตของมัน เข้าต้านรับกระบี่ของหนิงฝาน
แม้จะต้านรับได้ แต่ด้วยอานุภาพของกระบี่ใหญ่ที่ทรงพลัง ทำให้มันกระอักโลหิตคำโต ใบหน้าซีดขาวจากการได้รับบาดเจ็บภายในอย่างหนัก
มันรู้ตัวว่าสู้ไม่ได้ จึงเตรียมกัดปลายลิ้นเพื่อใช้วิชาโลหิตหลบหนี ให้หลุดจากพันธะนาการทัณฑ์สวรรค์… เพียงแต่กระบี่ของหนิงฝานเร็วกว่า!
แม้กระบี่จะดูใหญ่เทอะทะ แต่เมื่ออยู่ในมือหนิงฝานกลับดูเบาไม่ต่างจากกระบี่บิน ทั้งยังกวัดแกว่งได้อย่างอิสระ!
กระบี่ที่ 3 หนิงฝานกระตุ้นเจตจำนงค์กระบี่… กระดูกขาวราวขุนเขา!
เงากระบี่กระดูกขาวถักทอสูงนับร้อยจ้างปรากฏ กระบี่ใหญ่ในมือเปล่งอานุภาพ ปราณสังหารที่อัดแน่นปลดปล่อย รวมผสานเป็นกระบี่สีแดงโลหิต
แม้จะเป็นเพียงภาพเงา แต่ไป๋เฟยเถิงที่เห็นกลับรู้สึกราวกับเห็นภูติผี
“เต๋าแห่งกระบี่… นี่มันปราณกระบี่ชนิดใด!”
ในกระบี่ที่ 3 กระบี่มังกรน้ำแข็งไร้เขาถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ ปราณกระบี่ฟาดฟันร่างไป๋เฟยเถิง ทำให้โลหิตกระฉูดเป็นสาย
หากไม่เพราะมันใช้วิชาโลหิตหลบหนีได้ทัน มันอาจต้องบาดเจ็บสาหัส!
แม้มันจะหนีไปได้ แต่ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส!
ไป๋เฟยเถิงประหลาดใจ ตัวมันที่ถอยห่างหนิงฝาน นำมุกกลมสีม่วงแดงออกมาแล้วบดขยี้
ดวงตาข้างซ้ายของมันกลายเป็นสีม่วง ข้างขวากลายเป็นสีแดง จนทำให้สีหน้าหนิงฝานแปรเปลี่ยนเล็กน้อย
“มุกทำลายภาพลวง! ทำให้เห็นการอำพรางของผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม หรือข่ายอาคมระดับดวงจิตแรกเริ่มใดๆก็ตาม ของสิ่งนี้ล้ำค่าจนมิอาจประเมิณ… คาดไม่ถึงว่าแค่การประลอง เจ้าถึงกับต้องใช้ของล้ำค่าขนาดนี้...”
หนิงฝานกล่าวในใจ ตัวเขาเองยังไม่ได้เผยไพ่ที่ทรงพลังที่สุด แต่ไป๋เฟยเถิงกลับทุ่มเต็มกำลัง
นั่นหมายความว่าหนิงฝานทรงพลังกว่า! แต่หากจะใช้แค่กำลังกายในกายเอาชนะ คงไม่ง่ายเสียแล้ว
ไป๋เฟยเถิงเป็นผู้ที่ดูแคลนไม่ได้… มันมีประสบการณ์การต่อสู้มานาน แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับเกือบจะพลาดท่าพ่ายแพ้หนิงฝานอยู่หลายครั้ง กระทั่งต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอด
แต่หากได้เข้าจู่โจมมันอีกครั้ง เขายังมั่นใจว่าจะเอาชนะมันได้ เขาแข็งแกร่งพอ!
เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าชมการประลองล้วนตกตะลึงที่ไป๋เฟยเถิงใช้มุกทำลายภาพลวงตา
สำหรับทุกคนแล้ว พวกมันคิดว่าไป๋เฟยเถิงจะเอาชนะหนิงฝานได้ง่ายๆ
แต่กลับกลายเป็นว่า หนิงฝานกลับทรงพลังยิ่งกว่า กระทั่วไป๋เฟยเถิงไม่อาจเทียบเคียง… ใบหน้าของหนิงฝานยังไม่แดง ลมหายใจยังไม่ถี่กระชั้น ไม่แสดงออกถึงอาการเหน็ดเหนื่อยใดๆ ผิดกับไป๋เฟยเถิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
“เป็นไปไม่ได้…!”
ไป๋ปี้ไม่เชื่อสายตา ที่มันแพ้ให้หนิงฝานอาจอ้างเหตุผลได้ว่าหนิงฝานมีระดับพลังเหนือกว่า แต่บิดาของมันทรงพลังยิ่งกว่า กลับอ่อนด้อยกว่าหนิงฝาน!
นี่เป็นครั้งแรกที่ความภาคภูมิใจของมันถูกทำลายไม่มีชิ้นดี ใบหน้าซีดขาวราวกระดาษ
ไป๋ปี้ขบฟันด้วยความแค้น แต่ไม่แสดงออกทางสีหน้า
บริเวณที่นั่งชมอีกฝั่ง จื่อเฮ่ออ้าปากค้าง นางคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะทรงพลังมากขนาดนี้… แม้ในใจของนาง หนิงฝานจะเป็นผู้ที่เก่งกาจ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นฝีมือของหนิงฝานด้วยตาของตน
หลานเหม่ยเผยสีหน้าภาคภูมิ นางอยากจะตะโกนให้คนอื่นๆรู้ว่าหนิงฝานคือบุรุษของนาง
จะมีก็เพียงซื่อหวูเสียที่เผยสาตามืดมน ราวกับความทรงจำของนางกลับมา แต่สุดท้ายนางก็ส่ายหน้า รอยยิ้มที่บริสุทธิ์กลับคืน เพื่อไม่ให้จื่อเฮ่อผิดสังเกตุ
อีกด้าน… ชู่ปู้ยวินมอบกระบี่ใหญ่ของหนิงฝานด้วยแววตาเป็นกระกาย
“กระบี่ใหญ่นั่น… กระบี่เทพโบราณ… เด็กนั่นฝึกฝนวิชาขัดเกลาผสานเป็นหลัก… หืม? เด็กนั่นมีเส้นชีพจรปีศาจโบราณ… เทียบกับเส้นชีพจรกษัตริย์พิรุณของข้า ไม่รู้ว่าใครจะทรงพลังกว่า... แต่ช่างเถอะ เขายังเยาว์ หากข้าไปยุ่งวุ่นวายก็รังแต่จะลดระดับตนเองเกินไป”
เมื่อคิดว่าอีกไม่นานหนิงฝานก็ชนะ และมันต้องจ่ายหยกสวรรค์ให้เหล่าสตรีของหนิงฝาน มันก็โศกเศร้า
เรื่องแจกันสะสมทรัพย์เป็นเรื่องที่มันกุขึ้นเพื่อหลอกให้คนอื่นๆเดิมพัน แต่เหล่าสตรีของหนิงฝานกลับทำให้แผนการของมันพังทะลาย
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็อยากให้หนิงฝานเอาชนะ
เพราะหากหนิงฝานแพ้ มันจะต้องจ่ายค่าเดิมพันให้กับเหล่าผู้เชี่ยวชาญมากมาย นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
“รู้อย่างนี้ ข้าไม่มาหาคนที่นิกายกุ่ยเชว่แต่แรก… หืม? เมื่อครู่ข้าพูดอะไร?” ดูเหมือนชู่ปู้ยวินจะลืมคำกล่าวตนเองอีกครั้ง...