40 ไม่มีอะไรมาแทนที่เนินเขาได้
40 ไม่มีอะไรมาแทนที่เนินเขาได้
“ผมล้อเล่นหรอกหน่า อย่าคิดมากเลยพี่ แต่ก็อย่าดูถูกงานของผมล่ะ แม้แต่ทองคำก็เอามาแลกเนินเขาหนานชานและแปลงสมุนไพรของผมไม่ได้หรอกนะ!” หวังเย้าหัวเราะ
“เอาเถอะ นายอยากพูดอะไรก็ตามสบาย!”
“ฮาฮา” หวังเย้าหัวเราะและไม่ได้พูดอะไรอีก
หวังเย้าออกจากบ้านและขึ้นไปบนเนินเขาหลังจากที่ทานมื้อกลางวันเสร็จแล้ว เขาวางแผนที่จะต้มยาสองอย่าง—หนึ่งคือยาตามภารกิจ อีกหนึ่งคือยาสำหรับเทียนหยวนถู
เขาเริ่มลดความแรงของไฟลง แล้วกลิ่นของสมุนไพรก็เริ่มกระจายไปทั่วกระท่อม หวังเย้าได้ระมัดระวังในทุกๆขั้นตอน การต้มยาถือเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ไม่ใช่สำหรับหวังเย้าที่มีความสุขกับการต้มยา
ในที่สุด อันเฉินซานก็ทำเสร็จ หวังเย้าจึงค่อยๆเทน้ำยาสีอ่อนลงไปในขวดกระเบื้องสีขาว หลังจากที่ทำความสะอาดหม้อเล็กน้อย เขาก็เริ่มลงมือต้มยาต่อ
ด้านนอกเริ่มมืดลงแล้ว
ที่ด้านนอกของตัวกระท่อม ซานเซียนคล้ายกับว่าได้ยินอะไรบางอย่าง แล้วมันก็เดินไปที่หน้าต่าง หลังจากนั้น หวังเย้าก็เริ่มอ่านคัมภีร์หลักธรรมชาติอีกครั้ง
ด้านนอกมีลมแรง
เช้าของอีกวัน ด้านบนของเนินเขาหนานชาน มีหินที่ด้านบนแบนราบและด้านล่างเรียวแหลมอยู่ก้อนหนึ่ง ใกล้กับก้อนหินเป็นหน้าผาที่สูงหลายเมตร มันสามารถทำให้ผู้คนหวาดเสียวได้เมื่อไปยืนใกล้ๆ มีคนคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนหินก้อนนั้น เขาทำตัวกลมกลืนไปกับก้อนหินและฝึกการหายใจอยู่
ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงความอบอุ่นเคลื่อนไหวอยู่ภายในท้องของเขา มันคือพลังฉี!
หวังเย้ารู้สึกตื่นเต้น นี้คือระดับของขั้นตอนในการชะล้างร่างกายและรวบรวมพลังฉี มันคือการค่อยๆควบคุมการหายใจเข้าออกลึกๆด้วยกระบังลม พลังที่รวบรวมมาสามารถเรียกอีกอย่างได้ว่าแก้นแท้ของพลังฉี แก่นแท้ของฉีคือ พลังฉีที่มีอยู่แล้วแต่กำเนิดและพลังฉีที่รวบรวมมาจากภายนอก รวมเป็นแก่นแท้ของพลังฉี
ในนิยายบางเรื่อง การส่งพลังฉีเข้าไปในร่างกายจะช่วยให้คนคนนั้นมีอายุยืน ไม่ป่วย และไม่ตาย มันก็ไม่ใช่เรื่องโกหกไปซะทั้งหมด
พระอาทิตย์ลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า
จากนั้นไม่นาน หวังเย้าลุกออกมาจากก้อนหินและกลับไปที่แปลงสมุนไพร ในตอนเช้ารถแลนด์โรเวอร์ได้ขับเข้ามาในหมู่บ้าน นี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่รถคันนี้ได้ขับเข้ามาในหมู่บ้าน ชาวบ้านบางคนจึงจำรถคันนี้ได้
“รถคันนี้อีกแล้วเหรอ?” ชาวบ้านคนหนึ่งพูด
“ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่อีก พวกเขากำลังไปที่เนินเขาหนานชานอีกแล้วใช่ไหมเนี้ย?” ชาวบ้านอีกคนพูดขึ้น
“ขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานเหรอ?” หวังรุ่ยที่ยังอยู่ที่บ้านได้ยินสิ่งที่คนอื่นกำลังพูด “พวกเขากำลังไปหาน้องชายของฉันรึเปล่านะ?”
เธอมองตามรถแลนด์โรเวอร์ไปและเห็นเลขทะเบียนรถที่เป็นเลข9 ทั้งหมด
เป็นเลขทะเบียนที่เด่นมาก! ฉันคิดว่าฉันเหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ หวังรุ่ยคิด ด้วยความสงสัย เธอจึงตามรถคันนั้นขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน
รถแลยด์โรเวอร์จอดห่างจากตัวกระท่อมไป 10 เมตร และชายคนหนึ่งลงมาจากรถและเดินขึ้นไปบนเนินเขา เขาคือ เทียนหยวนถู เขาได้นัดหวังเย้าเพื่อมารับยาในวันนี้
“สวัสดีตอนเช้าครับ” เทียนหยวนถูพูด
“สวัสดีครับคุณเทียน เชิญเข้ามาข้างในครับ” หวังเย้าเชิญเทียนหยวนถูเข้าไปข้างในกระท่อม ภายในกระท่อมเต็มไปด้วยกลิ่นของสมุนไพร ที่หวังเย้าต้มมาทั้งวัน
“เชิญดื่มชาครับ” หวังเย้าได้ใช้น้ำแร่โบราณชงชาให้กับเทียนหยวนถู
“ชาชั้นยอด!” เทียนหยวนถูพูดหลังจากที่ดื่มชาลงไป
“ก็แค่ชาธรรมดาๆเท่านั้นครับ” หวังเย้ายิ้ม
“คุณถ่อมตัวเกินไปแล้ว ชานี่ไม่ธรรมเลยจริงๆ! แล้วยาเสร็จเรียบร้อยแล้วรึยังครับ?” เทียนหยวนถูถาม
“เสร็จแล้ว” หวังเย้านำอันเฉินซานออกมาแล้วยื่นให้กับเทียนหยวนถู
“ขอบคุณ” เทียนหยวนถูได้โอนเงินเข้าบันชีของหวังเย้าในทันที แล้วหวังเย้าก็ได้รับข้อความจากธนาคารจากการได้รับเงินเข้าบันชี 200,000หยวน
นี่คงจะเหมือนกับที่เขาพูดกันว่า “ทำเงินอย่างรวดเร็ว”
ในตอนที่หวังเย้ากำลังคุยอยู่กับเทียนหยวนถูอยู่นั้น ซานเซียนก็ได้เห่าขึ้นมา
มีใครอยู่ใกล้ๆนี้เหรอ?
“พี่เหรอ? ทำไมพี่ถึงมาที่นี่อีก!” หวังเย้ารู้สึกหงุดหงิดเมื่อเขาเห็นพี่สาวของเขา
“ที่นี่ไม่ต้อนรับฉันหรือไง? ทำไมเจ้าหมาหน้าโง่นี่ไม่เคยจะจำฉันได้เลย!” หวังรุ่ยอารมณ์เสีย
“คุณเทียน นี่คือหวังรุ่ยพี่สาวของผมครับ พี่ นี่คือคุณเทียน”
“สวัสดีครับ” เทียนหยวนถูพูด
“สวัสดีค่ะ ฉันเคยพบคุณที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าคะ?” หวังรุ่ยจ้องไปที่เทียนหยวนถู “เจียหุยกรุ๊ป! คุณคือคุณเทียนจากเจียหุยกรุ๊ปใช่หรือเปล่าคะ?”
ในที่สุดหวังรุ่ยก็จำเทียนหยวนถูได้หลังจากคิดสักพัก เธอรู้สึกตกใจมากที่ได้มาเจอเขาที่นี่
“ใช่ครับ นั้นผมเอง” เทียนหยวนถูพูดด้วยรอยยิ้ม
โอ้พระเจ้า ทำไมซีอีโอของบริษัทที่มีทรัพย์สินกว่าร้อยล้าน และคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเหลียนชานหรือแม้แต่ในห่ายชิว ถึงได้มาพูดคุยอยู่กับน้องชายของเธอได้? แล้วดูเหมือนพวกเขาจะรู้จักกันมาสักพักแล้วด้วย
ทันใดนั้น ในหัวของหวังรุ่ยก็มีแต่คำถามอยู่เต็มไปหมด
เทียนหยวนถูจากไปหลังจากที่คุยอยู่กับหวังเย้าและหวังรุ่ยเพียงไม่นาน หลังจากที่เขาไปแล้ว หวังรุ่ยก็มองไปที่หวังเย้าด้วยสายตาแปลกๆ
“พี่ ทำไมถึงมองผมแปลกๆแบบนั้นล่ะ?” หวังเย้าถาม
“บอกความจริงกับพี่มา เธอรู้จักกับเทียนหยวนถูได้ยังไง?” หวังรุ่ยถาม
“เขาเคยขึ้นมาบนเนินเขาครั้งหนึ่ง แล้วเราก็ได้คุยกัน” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม
“ขึ้นมาบนเนินเขา? ซีอีโอของบริษัทใหญ่ขนาดนั้นจะมีเวลาขึ้นมาที่นี่ได้ยังไง? ในเมื่อที่เนินเขาหนานชานมันไม่มีอะไรสักอย่าง!” หวังรุ่ยพูด
หวังรุ่ยมองไปรอบๆ ทั้งหมดที่เธอเห็นคือ ต้นไม้ แปลงสมุนไพร และก้อนหิน บนนี้มันไม่มีอะไรที่พิเศษเลย แล้วยังห่างจากตัวเมืองมากด้วย แม้แต่ชาวบ้านก็ไม่มีใครมาที่นี่
“ผมว่าที่นี่มันค่อนข้างดีนะ มีต้นไม้กับน้ำ แปลงสมุนไพรและสวน ที่นี่ทั้งดีและเงียบสงบ” หวังเย้าพูด
“โกหก! บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้นะ!” หวังรุ่ยเรียกร้อง
“ผมก็บอกความจริงไปแล้ว แล้วเขาเป็นคนมีชื่อเสียงเหรอ?” หวังเย้าถามด้วยความสงสัย ก่อนหน้านั่นเขาได้ยินจากน้าของเขาว่าเทียนหยวนถูเป็นนักธุรกิจที่ทำเงินได้มากมาย ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีทางจ่ายเงินกว่า 700,000 หยวนสำหรับยาสามขวดง่ายๆแบบนี้ได้
“ก็ใช่น่ะสิ! เขาเป็นซีอีโอของเจียหุยกรุ๊ปและเป็นหนึ่งในสามอันดับแรกของนักลงทุนระดับท๊อปในเหลียนชาน เขายังได้รับการยอมรับจากคนในห่ายชิวด้วย แล้วเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาก็ได้ออกทีวีด้วย!” หวังรุ่ยพูด
“เข้าใจแล้ว” หวังเย้าพูดอย่างสบายๆ
“เฮ้ ดูนายทำสิ! นายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา ฉันยังได้ยินมาว่าเขารู้จักกับผู้นำของเหลียนชานและห่ายชิวอีกด้วยนะ!” หวังรุ่ยพูด
“ทำไม? ผมไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากเขา และหมู่บ้านของเราก็ไม่มีความจำเป็นต้องขออะไรจากเขาด้วย”หวังเย้าพูดอย่างสงบ
“นาย...” หวังรุ่ยพูดไม่ออก น้องชายของเธอไม่ไยดีเรื่องพวกนี้จนแทบจะทำให้เธอเป็นบ้า
“ฉันจะไม่เสียเวลาพูดกับนายอีกแล้ว ฉันไปละ!” หวังรุ่ยจึงลงเขาไป
หวังรุ่ยเป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารัก แต่นิสัยที่กระตือรือร้นและวุ่นวายของเธอทำให้เธอดูก้าวร้าวจนเกินไป
“ค่อยๆไปนะพี่!” หวังเย้าตะโกน
เมื่อเขาไปทานมื้อกลางวันที่บ้าน หวังรุ่ยก็ยังมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ หวังเย้าไม่ต้องการฟังคำแนะนำบ้าๆจากพี่สาวของเขาอีก เขาจึงกลับขึ้นไปบนเนินเขาทันทีที่ทานเสร็จ
“แม่ น้องของหนู เขาอยู่แต่บนเนินเขาคลอดเวลาเลยเหรอคะ?” หวังรุ่ยถาม
“ใช่จ๊ะ มีอะไรรึเปล่า?” จางซิวหยิงพูด
“เขาทำอะไรบนนั้นบ้างเหรอคะ?” หวังรุ่ยถาม
“ปลูกสมุนไพร!” จางซิวหยิงพูด