GE106 วันพ่ายแพ้ของเจ้า [ฟรี]
ฮูหยินหยุนฮว๋าสวมใส่อาภรณ์ที่งดงาม ขับส่งให้นางยิ่งงดงามมากขึ้น เมื่อถูกสตรีอย่างหลานเหม่ยและคนอื่นๆจ้องมอง นางจึงยิ้มเล็กน้อย นางเข้าใจสายตาของสตรีเหล่านั้น นางจึงแสดงท่าทางเป็นเชิงกล่าวลาก่อนจะจากไป กุ่ยเชว่สื่อที่เห็นเผยสีหน้าขออภัยแก่หยุนฮว๋า และมองบุตรสาวของตนเป็นเชิงตำหนิ
หยุนฮว๋าจากไปราวกับสายลม
ไกลออกไป หนิงฝานแผ่สัมผัสเทพสำรวจสถานะการ เขารู้เรื่องที่เกิดขึ้น
การที่จื่อเฮ่อ หลานเหม่ย และไป๋ลู่ยอมวางเดิมพันสูงเพื่อตน ทำให้ตนรู้สึกอบอุ่น เดิมทีหนิงฝานไม่ได้ใส่ใจเรื่องเดิมพัน แต่เมื่อได้ทราบว่าพวกนางเสี่ยงเดิมพันเพื่อตน หากตนพ่ายแพ้ คงต้องเสียใจไม่น้อย
ผู้ที่หนิงฝานให้ความสนใจเป็นพิเศษคือหยุนฮว๋าและชู่ปู้ยวิน
เขาจ้องมองแผ่นหลังของนางที่จากไป และสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกๆ เขาไม่เคยพบนางมาก่อน นางยังเป็นภรรยาของประมุขนิกายเพลิงเมฆา ไม่มีทางมาข้องเกี่ยวกับเขาได้
การที่นางทำเช่นนี้ ย่อมเป็นคำสั่งของประมุขนิกายเพลิงเมฆา… แต่เหตุใดประมุขนิกายเพลิงเมฆาที่น่าเกรงขาม จึงสนใจผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณอย่างเขา
หรือเพราะต้องการเป็นสหายกับหลานชายของปีศาจทมิฬหนิง? หากจะกล่าวว่าเป็นเรื่องโอสถก่อดวงจิต หยกสวรรค์ 1 แสนที่ลงเดิมพันไปก็ออกจะมากเกินไป เพราะหากเดินทางไปแคว้นอื่น 1 แสนหยกสวรรค์อาจซื้อโอสถก่อดวงจิตได้ถึง 2 เม็ด
“ที่ประมุขนิกายเพลิงเมฆาทำเช่นนี้ ย่อมหมายถึงแสดงเจตนาดี แต่เพราะเหตุใด...”
อีกสิ่งที่ทำให้หนิงฝานรู้สึกถึงแรงคุกคาม เมื่อเขามองไปยังเด็กหนุ่มยาจก เขาเคยเจอมันมาก่อน!
เมื่อครั้งที่เทพกษัตริย์เนี่ยบุกเมืองฉีเหม่ย เด็กหนุ่มผู้นั้นคือหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่ร่วมกันขับไล่!
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา การที่มันมาเยือนนิกายกุ่ยเชว่ ย่อมต้องมีเหตุผล… หรืออาจจะมาเพื่อกอบโกยหยกสวรรค์เท่านั้น?
หนิงฝานลอบแผ่สัมผัสเทพตรวจสอบเด็กหนุ่มคนนั้น เขาสัมผัสได้ถึงระดับพลังที่ลึกล้ำราวกับหลุมที่ไร้ก้น ทั้งยังสัมผัสได้ถึงเจตจำนงค์เทพที่แผ่ออกมาจากร่างกายของมัน
สัมผัสเทพของหนิงฝาน สัมผัสกับเจตจำนงค์เทพของชู่ปู้ยวินอย่างแผ่วเบา แต่นั่นกลับทำให้หนิงฝานไม่อาจขยับเคลื่อนไหว ทำเลสติเกือบพังทะลาย แต่ในขณะเดียวกันนั้น ความทรงจำบางสิ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวหนิงฝาน
“คนผู้นี้คือผู้เชี่ยวไร้แบ่งแยก… เจตจำนงค์เทพของมันอาจเกี่ยวข้องกับภาพลวงตา!”
ร่างหนิงฝานเปล่งแสงสีเงิน ทำลายพันธะนาที่ตรึงสัมผัสเทพตน และถอนสัมผัสเทพกลับมา ในพริบตานั้น เงาร่างของเขาได้หายไปปรากฏต่อหน้าเหล่าสตรีของตน
ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่แข็งแกร่ง ได้มาเปิดรับเดิมพันที่นิกายกุ่ยเชว่… ในวันนั้น ก่อนที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกจะจากเมืองฉีเหม่ย คนผู้นี้ได้ทุ่มพลังรักษาอาการบาดเจ็บของคนทั้งเมือง ทำให้หนิงฝานรู้สึกดีกับคนผู้นี้
แต่ถึงแม้จะรู้สึก แต่มันกลับคิดฉวยโอกาสหาผลประโยชน์กับการประลองของตน หลอกลวงเอาหยกสวรรค์กับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ… เรื่องเช่นนี้ไม่สมควร หรือหนิงฝานจะร่วมเดิมพันด้วย?
“ข้าเดิมพันว่าหนิงฝานชนะ… 5 หมื่นหยกสวรรค์”
หนิงฝานสัมผัสกระเป๋า นำหยกสวรรค์ออกมาแสดงต่อหน้าชู่ปู้ยวิน… ทำให้มันหน้าถอดสี เพราะหนิงฝานกลับร่วมเดิมพัน แบบนี้แล้ว มันคงหมดเนื้อหมดตัว… แม้มันจะได้หยกสวรรค์จะผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆไม่น้อย แต่สุดท้ายก็ต้องจ่ายให้หนิงฝานกับเหล่าสตรีอยู่ดี
เมื่อเหล่าสตรีทั้ง 4 ได้ยินเสียงหนิงฝาน ทั้งหมดเร่งหันมอง
“พี่ฝาน! ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน...”
“หนิงฝาน...เจ้าออกมาแล้ว”
“นายท่าน...”
“ฮึ่ม!”
ไป๋ลู่แค่นเสียง นางผ่อนคลายเมื่อได้เห็นหนิงฝาน ก่อนจะหันกายจากไป
หนิงฝานเห็นสีหน้าและแววตาที่ซับซ้อนของนาง แต่ยามนี้ กลิ่นกายที่หอมหวนและคุ้นเคย ได้โชยมาจากอ้อมอกของตน ร่างทรงเสน่ห์ของนางไม่ธรรมดา
จื่อเฮ่อ… 6 เดือนแล้วที่ทั้งสองไม่ได้พบกัน นางเติบโตขึ้น นางบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณ
“พี่ฝาน… เจ้ายาจกนี่เดิมพันว่าท่านแพ้ ข้าไม่พอใจ...” จื่อเฮ่อกล่าวพลางชี้ชู่ปู้ยวิน ทำให้หนิงฝานไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้
“ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องเสียหยกสวรรค์ให้เรา… ที่นี่ไม่เหมาะให้พูดคุย ซือซือ...ไปหาที่นั่งเถอะ”
หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย ทำท่าทางราวกับไม่รู้ว่าชู่ปู้ยวินคือผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก เขาพาหลานเหม่ย จื่อเฮ่อ และซื่อหวูเสียจากไป
แต่เมื่อเขาเดินไปได้เพียง 2 ก้าว แววตาของชุ่ปู้ยวินกลับเผยความกังวล แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าด้วยความเสียดาย
“ช่างคล้ายคลึงมาก… แต่ข้าสัมผัสถึงหยกพิรุณไม่ได้… เด็กผู้นี้ไม่ใช้ผู้ที่ท่านพี่ตามหา… เบาะแสของตระกูลหนิงก็ไม่มี...”
มันเคลื่อนมือเผยให้เห็นหยกสีฟ้าที่มีรูปร่างคล้ายเม็ดพิรุณ สีหน้าเผยความเสียดายและหายไปอย่างรวดเร็ว
“ช่างเถอะ… ข้าได้หยกสวรรค์เท่าไหร่แล้ว? ฮ่าฮ่า คาดไม่ถึงว่าจะมีคนโง่ยอมเสียหยกสวรรค์ให้ข้ามากขนาดนี้ พวกมันไม่รู้ความและหลงเดิมพันว่าหนิงฝานจะแพ้... ไหนดูซิ… ยังมีผู้ที่เดิมพันว่าหนิงฝานจะชนะ… หลานเหม่ยแห่งนิกายกุ่ยเชว่ 1 แสน… จื่อเฮ่อและซือซืออีก 1 แสน... หยุนฮว๋าอีก 1 แสน… ไป๋ลู่ 1 หมื่น… และหนิงฝานอีก 5 หมื่น… น่าเสียดายที่อดได้หยกสวรรค์กับคนพวกนี้”
มันหันมองหนิงฝานที่กำลังพาสตรีอีก 3 คนจากไปด้วยแววตาซับซ้อน
“แผ่นหลังเหมือนท่านพี่หยุนเทียนเฉวมาก… หรือจะเป็นมัน… แต่ข้าก็ดูดีแล้ว! ข้าเคยเจอมันมาก่อนหรือเปล่า? บ้าเอ้ย! ข้านี่มันความจำสั้นจริงๆ แต่หยกพิรุณไม่เปล่งแสง อาจจะไม่ใช่จริงๆ… ผู้เชี่ยวชาญทั้งแคว้นเยว่ไม่ใช่น้อยๆ ถึงจะพาคนมาด้วยถึง 800 คน แต่เมื่อไหร่ข้าจะหาพบก็ไม่รู้...”
หนิงฝานไม่ได้ยินสิ่งที่ชู่ปู้ยวินพึมพัม แต่เรื่องที่มีผู้เชี่ยวชาญ 800 คนมาตามหาคนผู้หนึ่ง เขาเคยได้ยินมาก่อน แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับตน
หนิงฝานพาจื่อเฮ่อและคนอื่นๆไปยังที่นั่ง แต่ในขณะนั้นเอง สีหน้าที่ผ่อนคลายของหนิงฝานกลับเคร่งเครียด
ชู่ปู้ยวินเป็นภัยคุกคามร้ายแรง คนทั่วไปไม่อาจสัมผัสถึง กระทั่งยังไม่อาจตรวจพบเจตจำนงค์แห่งเทพ แต่หนิงฝานที่มีทะเลสติกระบี่ สัมผัสได้ถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกของมัน
ผู้เยาว์คนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่น่าหวาดกลัว หากไม่บรรลุถึงขอบเขตไร้ดัดแปลงที่ 6 ก็ไม่คู่ควรที่จะเผชิญหน้ากับมัน
“พี่ฝาน เหตุใดไม่สั่งสอนเจ้ายาจกนั่น...” จื่อเฮ่อบุ้ยปากอย่างไม่พอใจ
“เด็กโง่… เจ้ารอข้ากับซือซืออยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวข้ามา” บางอย่างหนิงฝานก็ไม่อาจบอกเล่าให้นางฟังได้ เพราะยิ่งรู้ นางยิ่งเป็นอันตราย
หนิงฝานหันมองไปยังศูนย์กลางของเวทีประลองขนาดใหญ่ ส่วนพื้นที่การประลอง มีพื้นที่ว่างมากถึง 1 พันจ้าง ยามนี้ผู้คนกำลังรอชมการประลองของหนิงฝานกับไป๋เฟยเถิง
“หนิงฝาน… ถึงเจ้าจะก้าวหน้าไปมาก… แต่หากเจ้าไม่อยากประลอง ข้าจะให้ท่านพ่อช่วยกล่าวให้...” หลานเหม่ยขบริมฝีปาก สิ่งที่นางกล่าวนั้น นับเป็นคำหยาบคายต่อบุรุษผู้หาญกล้า นางจึงกลัวหนิงฝานตำหนิ และกลับหนิงฝานถูกไป๋เฟยเถิงดูแคลน
“ไม่ต้องกังวล… การประลองครั้งนี้ข้าชนะแน่นอน!”
แววตาหนิงฝานเป็นประกาย ก่อนที่เงาร่างจะหายไป ปรากฏตัวยังในกลางเวทีประลอง
ทำให้ผู้ที่เฝ้ารอ ส่งเสียงฮือฮาสนั่น!
“หนิงฝานมาแล้ว! หากไป๋เฟยเถิงมา การประลองจะเริ่มขึ้นทันที!”
“นี่… ขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสูงสุด! ครั้งสุดท้ายที่เจอที่ป่าแห่งภูติพราย เขายังอยู่เพียงขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสูง… เพียงครึ่งปี! เด็กคนนี้ทะลวงระดับได้!”
“ไม่เพียงเท่านั้น… ครั้งล่าสุดที่พบ ปราณของเด็กนี่ทรงพลัง วิชาที่ฝึกฝนดูราวกับบรรลุขั้นสูง… แต่ยามนี้ กลับแตกต่างจากยามนั้นอย่างเทียบไม่ติด!”
“แต่น่าเสียดายที่ต้องมาประลองกับไป๋เฟยเถิง… ยังเด็กอยู่แท้ๆ น่าเสียดายยิ่งนัก”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญพูดคุย ตกตะลึง และสงสัย คำกล่าวทั้งหมดเหล่านั้นหนิงฝานได้ยิน แต่ไม่ได้ส่งผลใดๆกับจิตใจของเขาทั้งนั้น
“หากข้าไม่มีใจสู้… อีก 100 ปีข้างหน้าที่ต้องเผชิญหน้ากับเทพกษัตริย์เนี่ย ข้าคงเอาชนะมันไม่ได้...”
หนิงฝานหลับตา สองมือไพล่หลัง กริยาเช่นนี้ทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญเลื่อมใส
เวลาล่วงเลยไป 3 วัน จันทราขึ้น ตะวันคล้อย หนิงฝานยังคงยืนอยู่ที่เดิม ‘ความตายของราชา’ หนิงฝานนึกถึงตอนคัดตัวอักษร เขาใช้วิธีนั้นในการสะกดจิตสังหาร แรงกดดันที่แผ่ออกมา เบาบางลงเรื่อยๆ แต่นั่นยิ่งทำให้ผู้คนนับถือ
หนิงฝานยืนนิ่งดุจขุนเขาที่สงบ ดุจมหาสมุทรที่ลึกล้ำ ดุจกระบี่ที่เฉียบคม และน่าตื่นตาดุจพิรุณ
3 วันนี้… ไป๋เฟยเถิงยังไม่ปรากฏตัว เหล่าเด็กหนุ่มหลายคนจึงขึ้นมาท้าดวลหนิงฝาน
ปีศาจน้อยอันดับที่ 7 หงเชียน
ปีศาจน้อยอันดับที่ 15 หวูหยา!
ปีศาจน้อยอันดับที่ 47 ไป๋ปี้!
และสุดท้าย ปีศาจน้อยอันดับที่ 2… ผู้เชี่ยวชาญนิกายเฉ่อไพ่ฉาง ขอบเขตประสานวิญญาณขั้นสูงสุด ‘ซ่งเมี่ยน’!
เป็นปีศาจน้อยที่มากพรสวรรค์แห่งแคว้นเยว่ เป็นผู้เยาว์ที่โดดเด่น ใจร้อน เย่อหยิ่ง… ไป๋ปี้ยุยงพวกมันให้มาท้าทายหนิงฝาน
ไป๋ปี้มีนิสัยเหมือนไป๋เฟยเถิง มันไม่พอใจหนิงฝาน จึงยุยงเหล่าผู้เยาว์ที่โดดเด่นของแคว้นเยว่ให้มาท้าดวลหนิงฝาน
“หนิงฝาน… เจ้ากล้าประลองกับพวกข้าหรือไม่! เจ้าได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตประสานวิญญาณอันดับหนึ่งของแคว้นเยว่อย่างไม่ยุติธรรม… พวกข้าไม่เชื่อ!” ด้วยคำยุยงของไป๋ปี้ ซ่งเมี่ยนจึงนำอาวุธออกมาและเข้าจู่โจม
“ไสหัวไป!”
แม้ต้องเผชิญหน้ากับไป๋ปี้และเหล่าผู้เยาว์คนอื่นๆ หนิงฝานไม่ลืมตา เขากระทืบเท้า ปราณกระบี่กระดูกขาวจำนวนมหาศาลทะลวงขึ้นมาจากพื้น ผสานกับปราณกระบี่สีแดงโลหิตพัวพันยุ่งเหยิง
เหล่าผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์รุมเข้าจู่โจมหนิงฝาน ไป๋ปี้ถูกปราณกระบี่ของหนิงฝานเฉือนจนผ้าคลุมขาว
ปราณกระบี่กระดูกขาวเหล่านั้นคือ ‘กระดูกขาวราวขุนเขา’ หนิงฝานขยับนิ้วบังคับปราณกระบี่เข้าจู่ ด้วยวิชานี้ หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำจะไม่มีทางรับมือได้
แต่ด้วยหนิงฝานเมตตาจึงออมมือให้พวกมัน ไม่พวกมันคงตายใต้คมกระบี่ไปแล้ว
เพียงกระบวนท่าเดียว เหล่าปีศาจน้อยที่แข็งแกร่งแห่งแคว้นเยว่ก็แพหมดท่า พวกมันไม่สามารถต่อกรหนิงฝานได้แม้แต่น้อย
หนิงฝานเอาชนะได้อย่างหมดจดโดยที่ไม่ต้องลืมตา! เพราะหากลืมตาแล้ว จิตสังหารที่สะกดไว้จะถูกปลดปล่อย จนทำให้ผู้คนหวาดกลัว
ผู้ที่จำทำให้หนิงฝานแสดงพลังที่แท้จริงได้นั้น มีเพียงผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังเท่านั้น!
“ไป๋เฟยเถิง เจ้าจะซ่อนตัวไปถึงไหน!”
“ออกมาได้แล้ว!”
ประกายแสงพาดผ่านท้องฟ้า เงาร่างของไป๋เฟยเถิงปรากฏ มันจ้องมองไป๋ปี้ด้วยแววตาที่ดุดัน
เพราะไป๋ปี้ทำให้มันขายหน้า
หากไม่เพราะไป๋ปี้ทำให้ขายหน้า ไป๋เฟยเถิงจะปล่อยให้หนิงฝานรออยู่บนเวทีต่อไป เพื่อให้ส่งผลต่อจิตใจ มันเชื่อว่ามันไม่มีทางแพ้หนิงฝาน แต่หากลดทอนกำลังใจอีกฝ่ายและเอาชนะได้ง่ายขึ้นนั้น ย่อมดีกว่า
หนิงฝานยังคงหลับตา ไป๋เฟยเถิงชงักฝีเท้าหยุดอยู่ห่างหนิงฝาน 100 จ้าง มันกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ผู้อาวุโสหนิง เจ้ายอมแพ้...และส่งสมบัติระดับสูงสุดมา และข้าจะยอมปล่อยเจ้าไป”
ขณะกล่าว ดวงตาของมันได้เปล่งประกายสีม่วงที่ดูน่าขนลุก
แววตาของมันดูเย็นชา… นั่นเป็นผลมาจากปราณน้ำแข็งระดับ 4 ซึ่งมีเพียงผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่มเท่านั้นที่ดูดกลืนได้… แต่ไป๋เฟยเถิงที่เป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นกลางกลับดูดกลืนได้ และยามนี้ มันก็ยกระดับเป็นผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงแล้ว
“ฮึ่ม… ตาเฒ่าไป๋นิสัยเสีย กระทั่งผู้เยาว์ยัง...” ในตำแหน่งที่นั่งของนิกายไท่ชู่ไพ่ ผู้อาวุโสซ่งเฟิง ผู้เชี่ยวขอบเขตแก่นทองคำขั้นสูง จ้องมองไป๋เฟยเถิงด้วยความไม่พอใจ
มันยังไม่รู้ว่าหนิงฝานหรือไป๋เฟยเถิงจะชนะ แต่หากประลองกัน บางทีไป๋เฟยเถิงที่มีปราณน้ำแข็งระดับ 4 อาจได้เปรียบ
ยามนี้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่เฝ้ารอต่างอยากเห็นความสามารถของไป๋เฟยเถิง
“ตาเฒ่าไป๋ ออมมือด้วยหล่ะ...”
ตาเฒ่าทมิฬ หยานไป่ อาจารย์ของหยานซวนหยิน มือกระบี่ในชุดดำกล่าว
มันคือผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูงแห่งนิกายกุ่ยเชว่ มันไม่อยากเห็นหนิงฝานและไป๋เฟยเถิงสู้กันจนถึงตาย แม้มันจะไม่ค่อยพอใจหานหยวนจี๋ก็ตาม
“วางใจเถอะ… ข้าไม่ฆ่ามันหรอก... ข้าจะต่อให้มัน 3 กระบวนท่า!” ไป๋เฟยเถิงกล่าวอย่างถือดี ยามนี้มันคือผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นสูง ผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณอย่างหนิงฝานไม่อาจเอาชนะมันได้
แต่ทันที่มันกล่าวจบ หนิงฝานที่หลับตามาตลอด 3 วันกลับลืมตา
จิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวฉายออกจากแววตา ปราณสังหารที่สะกดเอาไว้ถูกปลดปล่อย ทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญหยุดหายใจ สมองว่างเปล่า แต่ไป๋เฟยเถิงที่สบตาหนิงฝานนั้น กลับผงะถอยไปถึง 10 ก้าว!
ไป๋เฟยเถิงประหลาดใจ 3 วันมานี้ นอกจากหนิงฝานจะไม่เสียกำลังใจแล้ว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขากลับพุ่งถึงขีดสุด
หนิงฝานขยับมือขวา กระบี่ใหญ่สีขาวยาว 7 ฉื่อปรากฏ มันปักจมลงไปในพื้นลานประลองลึกถึงหนิ่งจ้าง
“ข้ารอเจ้ามา 3 วัน… วันนี้จะเป็นวันพ่ายแพ้ของเจ้า...”
แรงกดดันที่หนิงฝานปลดปล่อยพุ่งถึงขีดสุด เมฆบนท้องนภาปั่นป่วน… ไม่เพียงไป๋เฟยเถิงที่ตกตะลึง ชู่ปู้ยวินยังผุดลุกยืน!
“นี่มัน… แรงกดดันของราชาเซียน?! ไม่… ความรู้สึกนี้ไม่ใช่...”
ชู่ปู้ยวินเผยสีหน้าเศร้าหมอง ยิ่งมันมั่นใจว่าหนิงฝานไม่ใช่คนที่มันตามหา มันยิ่งเสียใจ และถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
กระประลองระหว่างผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณและผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ ไม่ได้ทำให้ประหลาดใจ แต่สิ่งที่ทำให้มันประหลาดใจยามนี้คือหนิงฝาน แรงกดดันที่เขาปลดปล่อยออกมานั้น ราวกับเขามีที่มาที่ไม่ธรรมดา
“รู้แบบนี้น่าจะเดิมพันว่าหนิงฝานชนะ… อีกฝ่ายน่าจะต้องแพ้ใน 3 กระบวนท่า!” ประกายแสงสายหนึ่งปรากฏ ชู่ปู้ยวินเผยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง
นับเป็นครั้งแรกที่ชู่ปู้ยวินเป็นเช่นนี้ เพราะยามนี้ หนิงฝานไม่ได้ใช้ปราณ เขาใช้วิชาขัดเกลาร่างกาย
“กายาหกจ้าง!” แสงฉายออกมาจากร่างหนิงฝาน ร่างกายและกล้าเนื้อขยายใหญ่ขึ้น...