บทที่ 50 ยังไม่ลืมกว่านอิง แล้วกล้าดียังไงมาจูบเธออีก
บทที่ 50 ยังไม่ลืมกว่านอิง แล้วกล้าดียังไงมาจูบเธออีก
กว่านอิงหน้าซีดเผือด นี่มันอะไรกัน เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเธอเป็นคนโดนชน แต่กลับถูกเรียกร้องค่าเสียหายซะงั้น
แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าดูท่าทางโหดเหี้ยมอำมหิต เธอจึงรู้สึกกลัวขึ้นมา
“ผมเห็นคุณก็ดูมีแรงพูด เดินได้ขยับตัวได้ คงจะมีแค่รอยถลอกนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นเองละมั้ง” เสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นท่ามกลางเสียงจ้อกแจ้กจอแจของผู้คน
กว่านอิงตกใจและหันไปมองทันที
เจ้าของเสียงมีรูปร่างสูงสง่าผ่าเผย สวมชุดสูทสีดำลายจุด ปลายขากางเกงแปดส่วนเผยให้เห็นข้อเท้าที่สวยงามและรองเท้าผ้าใบสีขาว สัดส่วนของขาดูเรียวยาวเหมือนกับนายแบบ
ทว่าดวงตาของเขาดูเย็นยะเยือกและคมกริบ เพียงพริบตาเดียวก็ยั้งคนขับคนนั้นไว้ได้
พอกว่านอิงเห็นใบหน้าของคนคนนี้ น้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมาทันที “ฉู่อี๋ ฉันเจ็บมากเลย...”
ซ่งฉู่อี๋ก้มหน้าลงมองเธอ แล้วก้มตัวลงไปพับแขนเสื้อเธอขึ้น แขนเรียวเล็กมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่ว ซ่งฉู่อี๋ขมวดคิ้วมุ่น ส่วนผู้คนที่ยืนอยู่บริเวณรอบๆ ต่างก็ชี้มือชี้ไม้มา
คนขับมอเตอร์ไซค์โมโหและพูดว่า “อย่าคิดว่าคุณเป็นเพื่อนเธอแล้วจะรวมหัวกันรังแกได้นะ เมื่อกี้ทุกคนต่างก็เห็นกันหมดว่ามอเตอร์ไซค์ผมไถลไปไกลมาก ผมเองก็เสียหลักล้มไม่เป็นท่า ตอนนี้ไม่ใช่แค่ผมนะที่บาดเจ็บ มอเตอร์ไซค์ผมก็พังด้วย ถ้าไม่ชดใช้มาจะได้เห็นดีกัน”
“เมื่อกี้ผมเห็นชัดเลยว่าคุณขี่มอเตอร์ไซค์มาด้วยความเร็วอย่างน้อยสี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง” ซ่งฉู่อี๋พูดเสียงเย็นชาโดยไม่รีบไม่ร้อน “ภายในเขตโรงพยาบาลที่มีคนพลุกพล่านอย่างนี้ การที่คุณขับรถเร็วขนาดนี้ สามารถฟ้องฐานขับขี่รถเร็วเกินกำหนดได้เลย อีกอย่างที่นี่เป็นโรงพยาบาล อาจมีคนไข้เดินผ่านไปมาได้ตลอดเวลา คุณเคยคิดบ้างมั้ยว่าถ้าคนที่ถูกชนเป็นคนไข้ ป่านนี้อาจถูกส่งไปห้องฉุกเฉินแล้วก็ได้ แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาตะโกนโหวกเหวกโวยวายที่นี่”
ซ่งฉู่อี๋ยืนขึ้น สายตาฉายแววเย็นชาและเฉียบขาด “ที่นี่มีกล้องวงจรปิดอยู่เต็มไปหมด ผมโทรเรียกตำรวจให้มาตรวจเช็คดูได้เลยว่าตกลงแล้วใครผิดกันแน่”
“เห็นด้วย เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขาขับรถเร็ว สมน้ำหน้า” จู่ๆ ในฝูงชนก็มีคนพูดขึ้นมา
คนขับไม่ได้อาละวาดเหมือนเมื่อครู่แล้ว “ก็ได้ๆ ผิดด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ งั้นเรื่องวันนี้ก็แล้วกันไปแล้วกัน มอเตอร์ไซค์ผมก็ไม่ต้องให้ผู้หญิงคนนั้นจ่ายเงินชดใช้แล้ว เดี๋ยวผมซ่อมเองก็ได้”
พอพูดจบ เขาก็เดินกะโผลกกะเผลกไปยกมอเตอร์ไซค์ขึ้น ซ่งฉู่อี๋ยิ้มเย็นชา “เดี๋ยวก่อน คุณขับรถชนคนแล้วคิดจะไปแบบนี้น่ะเหรอ สุภาพสตรีคนนี้โดนชนจนล้มไปกองกับพื้น ลุกตั้งนานก็ยังลุกไม่ขึ้น บางทีเธออาจจะช้ำในก็ได้ ถ้าคุณเดินหนีไปแบบนี้ แล้วใครจะออกค่ารักษา ค่าซีทีสแกนให้เธอล่ะ”
คนขับเบิกตาโตด้วยความโมโห “อย่ามารังแกให้มากเกินไป ผมเองก็เจ็บเหมือนกันนะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็มาตรวจด้วยกันเลย จริงสิ เมื่อกี้นี้ผมโทรไปแจ้งตำรวจจราจร และตอนนี้พวกเขาก็มาถึงแล้ว” ซ่งฉู่อี๋ใช้คางบุ้ยใบ้ไปทางรถตำรวจที่ขับเข้ามา จากนั้นก็ก้มตัวลงไปอุ้มกว่านอิงที่นั่งตะลึงงันอยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วเดินไปทางห้องฉุกเฉิน
_ _ _ _ _ _ _ _
“ขอทางหน่อยค่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” ฉางฉิงเพิ่งไปซื้อสตรอว์เบอร์รีกลับมา พอเห็นคนมุงดูกันแน่นขนัด ก็เลยเข้าไปดูด้วยความอยากรู้ แล้วเธอก็เห็นซ่งฉู่อี๋อุ้มผู้หญิงคนหนึ่งรีบร้อนเดินจากไปพอดี
ฉางฉิงตะลึงงัน ผู้หญิงที่อิงแอบอยู่ในอ้อมอกซ่งฉู่อี๋อย่างอ่อนแรงคือกว่านอิงไม่ใช่เหรอ
“คุณไม่ทันเห็นเหรอคะ เมื่อกี้คนขับคนนั้นขับชนคน แถมยังคิดจะขู่เอาเงิน โชคดีที่พี่ชายสุดหล่อคนนั้นเป็นอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วย” สาววัยรุ่นยุค 90 ที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดด้วยความหลงใหลคลั่งไคล้ว่า “คุณไม่เห็นว่าเมื่อกี้ผู้ชายคนนั้นหล่อขนาดไหน หล่อระเบิดสุดๆ เลยล่ะ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นนะ ดูเขาท่าทางกังวลด้วย อาจจะเป็นแฟนของเธอคนนั้นก็ได้”
จู่ๆ ฉางฉิงก็นึกเสียใจขึ้นมา รู้สึกแสบเหมือนกินวาซาบิ ทั้งหู ตา จมูกและปากแสบไปหมด
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนกว่านอิงยังพูดอยู่เลยว่าซ่งฉู่อี๋เป็นห่วงเป็นใยเธอมาก ไม่ถึงสี่สิบนาทีฉางฉิงก็ได้มาเห็นกับตาตัวเอง
สามีของตนร้อนใจเป็นห่วงเพื่อนสนิทของตน ภรรยาอย่างเธอเป็นเหมือนกับฉากบังหน้าชัดๆ
แต่เห็นๆ อยู่ว่ากว่านอิงมาเยี่ยมเสิ่นลู่เพื่อเอาใจฟู่อวี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงวิ่งมาอยู่ในอ้อมอกซ่งฉู่อี๋เสียแล้วล่ะ
จริงสินะ เมื่อกี้กว่านอิงดูอ่อนแอเหลือเกิน ผู้ชายคนไหนเห็นต่างก็อยากจะดูแลปกป้องกันทั้งนั้น
กว่านอิงได้รับบาดเจ็บ เธอควรจะเป็นห่วงเพื่อนตัวเอง ไม่ใช่มัวแต่คิดถึงภาพที่ซ่งฉู่อี๋อุ้มกว่านอิง
ว่าแต่พวกเขาสองคนจะถ่านไฟเก่าคุขึ้นมาหรือเปล่านะ
ซ่งฉู่อี๋จะนึกเสียใจหรือเปล่าที่มาแต่งงานกับเธอ
จู่ๆ ฉางฉิงก็รู้สึกเศร้าซึม แล้วก็หงุดหงิดโมโหด้วย
ตาซ่งฉู่อี๋คนนี้ยังไม่ลืมกว่านอิง แล้วกล้าดียังไงมาจูบเธออีก ทำเอาเธอนึกว่าเขาอาจจะชอบเธออยู่บ้างเหมือนกัน
............................................