บทที่ 50 เซอร์ไพรส์
บทที่ 50 เซอร์ไพรส์
เสียงนี้เบามาก แต่ในหูหลี่อวี้กลับเหมือนเสียงระเบิดอย่างไม่ต้องสงสัย เขาแทบจะหันกลับไปทันที กระบองเหล็กกั้นไว้ที่ลำตัวด้านหน้า มองไปที่ทิศทางที่เสียงลอยมาอย่างตื่นตระหนก
ทว่าตรงหน้าเขากลับเป็นก้อนหินก้อนหนึ่งที่กลิ้งมา ทั้งยังเป็นหินก้อนเล็กๆ ด้วย...
“ซวยแล้ว! ถูกต้มแล้ว!”
หลี่อวี้รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลทันที แต่ตอนนี้เขาโต้ตอบไม่ทันแล้ว
หลังจากแค่นเสียงขึ้นจมูก ในซอยเล็กๆ นี้ก็ปรากฏภาพที่ชวนตะลึงทั้งยังทำให้ขนลุกเกรียว ซอมบี้หน้าตาบิดเบี้ยวตัวหนึ่งฉวยหลังคอเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ลากเขาเข้าไปในอาคารหลังหนึ่งที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
“ดูท่าว่านายเองก็ไม่เต็มใจ ถ้างั้นโยนนายทิ้งไว้ที่นี่ก็ได้” หลิงม่อที่อยู่ในคาเฟ่แววตาเป็นประกาย โบกมือสบายๆ
และในเวลาเดียวกันนั้น ซอมบี้ก็ลากหลี่อวี้เข้าไปในห้องที่ตลบอวลด้วยกลิ่นเหม็นเน่า ก่อนจะโยนลงบนพื้นที่เกลื่อนไปด้วยก้อนเลือดแปลกๆ
ซอมบี้มีพละกำลังมหาศาล แม้หลี่อวี้จะอยู่ในอาการหมดสติ แต่ยังคงร้องโอดโอยตอนที่หล่นถึงพื้น นี่นับเป็นบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ ที่หลิงม่อจัดให้...
ซอมบี้ปิดประตูเรียบร้อยอย่างรวดเร็วภายใต้การควบคุมของหลิงม่อ แล้วเดินกลับไปตามถนนเส้นเดิม จากนั้นก็เข้าไปในอาคารที่หวังหลิ่นเพิ่งเข้าไป
ตอนที่หลิงม่อจัดการหลี่อวี้เสร็จแล้ว หุ่นซอมบี้อีกตัวก็ลากใครอีกคนมาไว้ข้างหลังเขา จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงโครมแบบแน่นๆ ซอมบี้ตัวนั้นโยนหวังเฉิงลงพื้น แต่หวังเฉิงที่ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิทนอนอยู่ใต้เท้าซอมบี้กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย เห็นชัดว่าสลบไปแล้ว แม้ว่าเขาจะหมดสติ แต่ร่างก็ยังสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว
ทว่าที่เขาหมดสติไปนั้นไม่ใช่เพราะซอมบี้ หุ่นซอมบี้ตัวนี้ยังไม่ทันได้ลงมือ หวังเฉิงก็ตกใจจนเป็นลมเสียก่อน แต่หลิงม่อก็ไม่ได้โยนเขาทิ้งเรี่ยราด ทว่าให้หุ่นซอมบี้พาเขามาไว้ในที่ของตัวเอง
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาจัดการหวังเฉิง หลิงม่อยังต้องควบคุมหุ่นซอมบี้สองตัว เพื่อทำเซอร์ไพรส์หวังหลิ่นสักเล็กน้อย
เมื่อครู่ที่ควบคุมหุ่นซอมบี้สามตัวให้ทำสามเรื่องที่ไม่เหมือนกัน วิธีการต่อสู้ที่ใช้จิตเดียวทำหลายอย่าง ทำให้หลิงม่อต้องสูญเสียพลังงานไปมาก กระทั่งหน้าผากก็ยังมีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย แต่หลิงม่อไม่เพียงไม่รู้สึกเหนื่อยล้า ทว่ายังรู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาด
หุ่นซอมบี้ทุกตัวเท่ากับร่างแยกร่างหนึ่งของเขา การที่จะจัดการร่างแยกให้คล่องแคล่วตามคำสั่ง ก็เหมือนกับขยับเคลื่อนมือและเท้าของตัวเอง ความรู้สึกแบบนี้ทำให้หลิงม่อรู้สึกพอใจมากที่สุด
ซอมบี้สองตัวแยกกันเข้าไปในอาคารหลังนั้นทางด้านหน้าและด้านหลัง ล้อมหวังหลิ่นไว้ตรงกลางอย่างเงียบๆ
แต่หวังหลิ่นไม่รู้ว่าตัวเองได้ถูกตัดทางหนีทีไล่ไปแล้ว เธอกุมดาบวงพระจันทร์เดินขึ้นไปที่ระเบียงชั้นสามอย่างระมัดระวัง
ที่นี่เดิมเป็นโรงแรมเล็กๆ สองข้างทางระเบียงคือห้อง ประตูบางห้องปิดสนิท บางห้องก็เปิดกว้าง แม้ว่าจะเดินไปที่หน้าประตู ก็ไม่อาจมองสภาพในห้องในแวบเดียวได้ชัดเจนทั้งหมด นอกจากนั้นยังมีห้องน้ำที่มีพื้นที่ให้แอบซ่อนได้ตามสบาย เธอจึงเดินผ่านชั้นสองอย่างระมัดระวัง แต่กลับไม่ได้อะไรเลย แต่เธอก็รู้ดีว่า ตึกเล็กๆ นี้มีทั้งหมดสามชั้น ซอมบี้ที่จู่โจมเธอต้องอยู่ที่นี่แน่นอน
หวังหลิ่นรู้สึกกดดันมากที่ต้องตามหาซอมบี้ตัวนั้นในสภาพแวดล้อมแบบนี้ แต่ดาบวงพระจันทร์ในมือก็ทำให้เธอสงบขึ้นไม่น้อย
“ไอ้หลิงม่อน่าจะหลบอยู่แถวๆ นี้ รอให้ฉันจัดการซอมบี้ตัวนี้ก่อนเถอะ...หึ!”
หวังหลิ่นขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าไปใกล้ประตูที่ห่างจากตัวเองใกล้ที่สุด แล้วใช้ดาบวงพระจันทร์เขี่ยประตูให้เปิด
ในห้องไม่มีคน แต่ประตูใหญ่ของห้องน้ำที่ปิดสนิทกลับทำให้หวังหลิ่นรู้สึกสนใจนิดๆ ซอมบี้ชนิดนี้ซุ่มโจมตีเป็น หนีเป็น ไม่แน่ว่าอาจจะปิดประตูเป็นด้วย?
คิดมาถึงตรงนี้ แม้แต่หวังหลิ่นเองก็ยังรู้สึกตลกนิดๆ ซอมบี้คืออะไรล่ะ? สัตว์ประหลาดที่ไร้สติปัญญา! แม้วันนี้ซอมบี้ตัวนี้จะทำให้เธอต้องตะลึงสุดๆ และขัดใจมากๆ ด้วย แต่เธอก็ไม่คิดว่าซอมบี้ชนิดนี้จะขังตัวเองไว้ในห้องน้ำ และแอบอยู่อย่างเงียบๆ
แต่ตอนที่หวังหลิ่นเตรียมจะไปที่ห้องต่อไป อยู่ๆ ในห้องน้ำก็มีเสียงเบาๆ ลอยออกมา เหมือนมีอะไรบางอย่างถูกชนหล่นพื้น แม้เสียงจะดังไม่ชัดมาก แต่หวังหลิ่นก็จับได้อย่างเฉียบไว
她先是一愣,随后嘴角便露出了一丝冷笑:“跟我玩!”
握紧了手中的弯刀,王凛慢慢靠近了那扇紧闭的卫生间房门,然后伸出了左手,握住了门把。
就在她缓缓拧动门把手的同时,在她身后却猛地传来了一声闷响!
เธออึ้งไปเป็นอันดับแรก จากนั้นมุมปากก็ปรากฏรอยยิ้มเย็นชา “คิดจะเล่นกับฉันเหรอ!”
มือกระชับดาบวงพระจันทร์แน่น หวังหลิ่นค่อยๆ เข้าใกล้ประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทบานนั้น จากนั้นก็เอื้อมมือซ้ายออกไปจับลูกบิดประตู
ขณะเดียวกับตอนที่เธอค่อยๆ หมุนลูกบิด ข้างหลังเธอก็มีเสียงดังตุ้บ!
ปัง!
หวังหลิ่นหันกลับไปโดยสัญชาตญาณ แต่กลับต้องตะลึงงันเพราะตัวเองถูกขัง! ซอมบี้ที่ย่องเข้ามาไม่เพียงปิดประตูอย่างง่ายดาย มันยังพุ่งเข้าใส่เธอทันทีด้วย!
และขณะเดียวกันนั้น ประตูห้องน้ำตรงหน้าเธอก็เปิดออกอย่างกะทันหัน เงาดำมืดกระโจนออกมาจากด้านใน!
แม้หวังหลิ่นจะใช้ดาบเก่ง แต่ในสถานการณ์วิกฤตแบบนี้ก็ทำให้เธอบื้อใบ้ไปเลย เธอยังไม่ทันกระทั่งได้โต้ตอบ ก็ถูกเงาคนกระโจนใส่จนล้มลงไปที่พื้น
แต่หวังหลิ่นที่ถูกกระโจนเข้าใส่กลับโต้ตอบได้ชนิดที่เรียกว่าโหดเหี้ยม แม้เธอจะตื่นตระหนก แต่ก็คงงอเข่าทันทีเพื่อเหลือพื้นที่ให้ตัวเองได้ดิ้นรนต่อสู้ ขณะเดียวกันก็เหวี่ยงดาบวงพระจันทร์บั่นคอซอมบี้ตัวนั้นทันที
แต่หลังจากที่ซอมบี้ตัวนี้กระโจนใส่เธอแล้ว มันก็กลิ้งออกไปทันที แม้เด็กสาวจะตอบโต้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ไร้ผล
จนเมื่อเธอลุกขึ้นมา ซอมบี้อีกตัวก็กระโจมเข้าใส่อีกครั้ง ทั้งยังยื่นมือมายึดข้อมือเธอที่ถือดาบไว้ด้วย
หวังหลิ่นหน้าผิดสีทันที เธอเพิ่งจะบิดข้อมือเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของอีกฝ่าย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าซอมบี้ที่เพิ่งจะหลบการโจมตีของเธอได้นั้นกลับพุ่งเข้ามาอีก มันไม่ได้จู่โจม ทว่าจับเธอกดไว้ใต้ร่าง! แม้หวังหลิ่นจะงอเข่ากระแทกหลังซอมบี้ตัวนั้น แต่มันก็กลับหมอบลงมาในเวลาเดียวกัน ริมฝีปากที่ส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง ประชิดใบหน้าซีดขาวของเธออย่างรวดเร็ว
เมื่อเผชิญหน้ากับซอมบี้สองตัวที่ร่วมมือร่วมใจกัน หวังหลิ่นก็หมดความสามารถในการขบคิดไปโดยสมบูรณ์ ตอนนี้ในสมองเธอมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น!
ฉันจะตายแล้ว ฉันจะถูกพวกมันกินแล้ว....
พอเห็นปากของซอมบี้ตัวนี้ใกล้ตัวเองเข้ามาเรื่อยๆ ดวงตาสีแดงคู่นั้นจ้องเธอเขม็ง แต่ไม่ว่าเธอจะบิดกายดิ้นอย่างไรก็ไม่อาจสลัดให้หลุดได้ สิ่งแรกที่ทะลักขึ้นมาในใจของหวังหลิ่นคือความหวาดกลัวสุดขีด!
แม้ว่าวันสิ้นโลกเพิ่งจะระเบิดปรากฏ แม้เธอจะตื่นตระหนก แต่ก็ไม่เคยรู้สึกสยดสยองเท่านี้มาก่อนเลย!
ซอมบี้ตัวนี้เคลื่อนไหวช้ามาก ไม่เหมือนซอมบี้ทั่วไปที่พอได้สัมผัสเหยื่อก็จะจับฉีกเป็นชิ้นๆ อย่างบ้าคลั่งทันที ทว่าความอืดอาดในระดับนี้กลับค่อยๆ ทำให้ความหัวแข็งๆ ของเธอพังทลาย
สมองของเธอว่างเปล่าขาวโพลน แม้ร่างกายจะดิ้นรนต่อสู้แต่ก็ยังแข็งค้างชั่วขณะ ทั่วทั้งร่างคล้ายกับหมดเรี่ยวแรง...
สายตาของหลิงม่อที่อยู่ในคาเฟ่ดูพอใจสุดๆ ด้วยการควบคุมของเขา ซอมบี้ตัวนั้นไม่ได้อ้าปากงับหวังหลิ่น ทว่าทำอย่างอื่นที่พิเศษมากๆ
เมื่อเห็นสายตาของหวังหลิ่นมืดทึมไร้จุดโฟกัส เห็นชัดว่าเธอไม่ได้คิดจะสู้แล้ว หลิงม่อก็ควบคุมหุ่นซอมบี้ให้จับมืออีกข้างของเด็กสาวทันที จากนั้นหุ่มซอมบี้สองตัวก็ออกแรงดึงเธอลุกขึ้นมาจากพื้นพร้อมกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปุบปับและเกินคาด ทำให้สายตาสิ้นหวังของหวังหลิ่นวูบไหว เกิดอะไรขึ้น? พวกมันไม่อยากกินอาหารเหรอ?
ในความคิดของเธอ ซอมบี้ต้องกินคน และนี่คือเอกลักษณ์ของซอมบี้้ แต่เห็นชัดว่าซอมบี้สองตัวนี้เป็นข้อยกเว้น เพราะหลังจากที่พวกมันดึงเธอให้ลุกขึ้นมาแล้ว ไม่เพียงแค่ไม่จับเธอแยกร่าง แต่กลับทำเรื่องอื่นที่แปลกประหลาดมาก
ซอมบี้ตัวนั้นที่สองมืออยู่ในสภาพแข็งแรงสมบูรณ์ หลังจากที่แย่งดาบวงพระจันทร์ของเธอไปแล้วก็ยื่นมือออกมาฟาดก้นเธออย่างแรง
ผัวะ!
ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านมาจากบั้นท้าย และเสียงฝ่ามือดังชัด ทำให้หวังหลิ่นรู้สึกถึงความพัง!
ฟาดก้น...เธอถึงขั้นถูกซอมบี้ฟาดก้น!
หวังหลิ่นไม่คิดไม่ฝันเลยว่า วันหนึ่งตัวเองจะถูกฟาดก้น และคนที่ลงมือยังเป็นซอมบี้ด้วย
เด็กสาวอึ้งไปชั่วขณะ
หลิงม่อพอใจกับปฏิกิริยาตอบสนองของหวังหลิ่นมากทีเดียว และในส่วนของการฟาดก้นนั้น...ก็เป็นแค่จุดเริ่มต้นในการสั่งสอนเธอ
ความจริงถ้าหากหวังหลิ่นไม่ได้ตามตอแยเขาไม่เลิก หลิงม่อก็ไม่คิดที่จะฉีกหน้าเธอ และยิ่งไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบในตอนนี้ด้วย
สำหรับทักษะการใช้ดาบที่ไม่เลวของหวังหลิ่น แค่เธอระวังไม่ให้ตกอยู่ในวงล้อมของซอมบี้สักหน่อย ก็ย่อมปกป้องตัวเองได้โดยไม่มีปัญหา และนี่ก็สิ่งยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทำให้เธอหาเรื่องเดือดร้อนมาให้หลิงม่อ
ความจริงแล้ว แม้แต่หลิงม่อเองก็ยังต้องยอมรับว่าหวังหลิ่นแข็งแกร่งมาก แค่ทักษะการใช้ดาบประหลาดๆ นั่นก็พอจะสูสีกับซย่าน่าแล้ว
น่าเสียดายที่ถึงยังไงเธอก็เป็นแค่เด็กผู้หญิง พอเจอซอมบี้ที่ผิดไปจากปกติเข้าก็ได้แต่ยอมแพ้
เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะสิ่งที่กลับหัวกลับหางจากความรู้ทั่วไป คนเราก็มักจะใจแป้วไปแล้วสามสิบเปอร์เซ็นต์ ต่อให้หวังหลิ่นแข็งแกร่งแค่ไหน เธอก็เป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น
เธอชอบอวดรู้ไปหน่อย แต่กลับไม่ได้มองภาพรวมอะไรนัก ไม่อย่างนั้นก็คงไม่พาอีกสองคนมาทำลับๆ ล่อๆ หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว เรื่องที่เกี่ยวกับความรู้สึกส่วนตัวแบบนี้ ก่อนวันสิ้นโลกสามารถทำได้ ขอแค่คุณมีเงินมีอำนาจก็พอ แต่หลังจากวันสิ้นโลกแล้วยังจะทำ นั่นก็คือการโชว์โง่
“ผัวะๆ!”
สามฝ่ามือฟาดลงบนก้นของหวังหลิ่นติดๆ กันอย่างแม่นยำ และเวลานี้เธอก็มีปฏิกิริยาโต้ตอบแล้ว แต่เมื่อครู่เธอเพิ่งส่งเสียงกรีดร้องที่ทั้งโกรธทั้งอาย ก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าแขนสองข้างเหมือนกับถูกหนีบเอาไว้ด้วยคีม
ด้วยพละกำลังของซอมบี้ ถ้าจะจับเด็กหญิงบอบบางอย่างหวังหลิ่นเอามือไขว้หลัง ก็เรียกได้ว่าง่ายดายสุดๆ
หวังหลิ่นทั้งตระหนกระคนโมโห แต่ตอนนี้เธอไม่มีดาบวงพระจันทร์ก็เหมือนเสือที่ปราศจากเขี้ยวเล็บ แม้สองขาเธอจะเตะส่งเดชไม่หยุด แต่ก็ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดใดๆ ให้แก่ซอมบี้เลย
ตอนที่ซอมบี้ด้านหลังจับมือเธอไขว้หลังแล้วขืนให้เธอยืดตัวตรง หวังหลิ่นจึงได้รู้ว่าตัวเองกำลังจะเผชิญกับฝันร้ายแบบไหน!
แต่เกรงว่าเด็กสาวปกติทั่วไปคงไม่อาจจะทนรับซอมบี้ที่หน้าตาบิดเบี้ยว ทั้งร่างส่งกลิ่นเหม็นคาวอย่างรุนแรงที่ค่อยๆ เข้ามาใกล้ตัวเองได้ และเป้าหมายของมันคือ...บังคับจูบ!
ภายใต้การควบคุมของหลิงม่อ ซอมบี้อีกตัวเอามือประคองใบหน้ารูปไข่ของหวังหลิ่นไว้ เผยอริมฝีปากเหม็นคาว ดวงตากลมโตก่ำเลือด โน้มเข้าหาหวังหลิ่น
การกระทำที่ชัดแจ้งแบบนี้ หวังหลิ่นหรือจะเดาไม่ออกว่าซอมบี้ตัวนี้คิดจะทำอะไร ความคิดแรกที่แวบขึ้นมาในสมองของเธอคือ ซอมบี้จะ OOXX ฉันแล้ว!
ในสถานการณ์ที่ไร้หนทางต่อต้าน หวังหลิ่นที่ผวาสุดขีดไม่อาจทนรับแรงกดดันมหาศาลทางจิตใจนี้ได้ ส่งเสียงกรีดร้องดัง “อ๊าก” นัยน์ตาประหลับประเหลือกแล้วก็หมดสติไปตามคาด
ส่วนซอมบี้ที่หลิงม่อควบคุมก็หยุดการกระทำในระยะที่ห่างจากหวังหลิ่นไม่ถึงสิบเซ็นต์ ในฐานะที่เป็นคนควบคุม หลิงม่อสามารถมองเห็นจากมุมมองของซอมบี้ได้ ดังนั้นเมื่อมองจากมุมของเขา ทั้งหมดนี้ก็คือเขากำลังจะบังคับจูมหวังหลิ่น...
จะจูบไปจริงๆ ดีไหมนะ? ช่างเถอะ คนที่ได้ประโยชน์ก็ไม่ใช่ตัวเองสักหน่อย...
พอเห็นหวังหลิ่นกลัวจนหมดสติไปรวดเร็วขนาดนี้ หลิงม่อก็เลยรู้สึกหมดสนุก ขณะเดียวกันก็รู้สึกขำนิดๆ
ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาวที่จองหองอวดดีแบบนี้ จะกลัวซะขนาดนี้...
+++++