ตอนที่ 74 สามเดือน
ทั่วทั้งอารามต่างตกอยู่ในความเงียบ เมื่อชายคนดังกล่าวปรากฏตัวขึ้น
ชายวัยกลางคนนั่งลงกับพื้นและเริ่มให้ความรู้
สิ่งที่เขาสอนคือแนวคิดและประสบการณ์บางอย่าง ในบางครั้งเขาก็ได้ทำการเคลื่อนไหวด้วยแก่นแท้แห่งปฐพี
ศิษย์ทุกคนรวมถึงเจียงวู่เฉิงล้วนตั้งใจฟัง
เวลาผ่านไปไม่นาน เจียงวู่เฉิงก็รู้สึกถึงความสับสน และเขาก็ตกอยู่ในความคิดของตัวเอง
หลังจากไปผ่านหนึ่งชั่วโมง ชายคนดังกล่าวก็หยุดพูด เขาโบกมือให้แก่ทุกคนในอารามและเดินจากไป
เจียงวู่เฉิงลุกขึ้นเดินออกจากอารามอย่างช้าๆ เขาใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งจนกระทั่งเขาอยู่ไกลจากอาราม
"ใช่หรือ? นั่นแหละคือเหตุผล!"
ใบหน้าของเจียงวู่เฉิงกระจ่างใส ดวงตาของเขาเปล่งประกาย เขาหันไปมองที่อารามและสูดหายใจเข้าลึกๆ
เป็นเรื่องจริงที่ว่าถึงแม้ว่าชายคนดังกล่าวจะมอบความรู้แค่เพียงชั่วโมงเดียว แต่เจียงวู่เฉิงกลับเรียนรู้ได้อย่างมากมาย เขายังไม่เข้าใจความรู้เกี่ยวกับแก่นแท้แห่งปฐพีที่อยู่ในหัวของเขา
"บางที่นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมอารามทั้งสี่ถึงถูกเรียกว่าเป็นสามขุมทรัพย์ของวังมังกร มันเป็นประโยชน์อย่างมากที่ได้รับฟังความรู้จากปรมาจารย์"เจียงวู่เฉิงถอนหายใจ
อารามทั้งสี่ที่เป็นสามขุมทรัพย์ของวังมังกรนั้นไม่ต้องใช้คะแนนมาก ศิษย์ของวังมังกรสามารถรับฟังบทเรียนของพวกเขาเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาต้องการ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าอารามทั้งสี่จะไร้ประโยชน์ ในทางกลับกันบางครั้งอารามทั้งสี่ก็มอบความรู้ได้ดีกว่าดินแดนลับแห่งสวรรค์และโลกและศาลาลับ
"ข้าไม่ได้มีความเข้าใจในระดับที่สูง และไม่เคยมีคนแนะนำมาก่อน ข้าพึ่งแต่เพียงตัวเองเท่านั้นในการบ่มเพาะ อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกสิ่งที่ข้าต้องการได้มาอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว ต่อไปข้าจะได้รู้ว่าความสำเร็จที่ข้าจะทำได้นั้นคือระดับไหน"เจียงวู่เฉิงกำมือของเขาแน่นด้วยดวงตาเป็นประกาย
ตั้งแต่นั้นมาเจียงวู่เฉิงก็มุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะ
การบ่มเพาะของเขาปกติอย่างมาก
เมื่อมีปรมาจารย์มาให้ความรู้ในอารามทั้งสี่ เจียงวู่เฉิงก็จะไปรับฟังด้วยตนเอง
บางครั้งเขาจะไปที่ลานประลองและดูการต่อสู้ของศิษย์คนอื่น เมื่อเขาต่อสู้กับคนอื่นเขามักจะปิดบังความแข็งแกร่งของเขาไว้
สำหรับดินแดนลับเขาไม่สามารถที่จะไปที่นั่นทุกครั้งที่เขาต้องการ ท้ายที่สุดสถานที่แห่งนั้นเป็นประโยชน์สำหรับเขาอย่างมากที่จะเข้าใจแก่นแท้แห่งดาบ ดังนั้นเจียงวู่เฉิงจะไปที่นั่นทุกๆสองสัปดาห์
สามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว
สิ่งเหล่านี้มีค่ามากสำหรับศิษย์ใหม่
ในประวัติศาสตร์ของวังมังกร ศิษย์บางคนนั้นเป็นคนธรรมดา แต่หลังจากผ่านไปสามเดือนเขาจะพัฒนาขึ้นอย่างน่าทึ่ง
แต่เจียงวู่เฉิงผู้ที่สามารถปลุกจิตวิญญาณดาบขึ้นมาได้ ในช่วงเวลาสามเดือนที่ผ่านมาเขาจะก้าวหน้าขึ้นมากแค่ไหน?
เขายังคงอยู่ในคฤหาสน์
เงาดาบของเขานั้นว่องไวราวกับสายฟ้า
ลมพัดผ่าน
และเมื่อเขาหยุด ลมก็หายไป
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน
"ไม่ การเคลื่อนไหวนี้ยังห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์ยิ่งนัก"เจียงวู่เฉิงย่นคิ้วด้วยความไม่พอใจ แม้ว่ามันจะเร็วพอ แต่เขากลับไม่พอใจกับการเคลื่อนไหวที่เขาเพิ่งจะแสดงออกไป
"ข้าเข้าใจกระบวนท่าที่สี่ของเพลงดาบนิรนามได้แล้ว แต่กระบวนท่าที่ห้ายังคงผิดอยู่"
กระบวนท่าที่สี่ของเพลงดาบนิรนามมีชื่อว่า ร้อยผันแปร ซึ่งเขาเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้งภายในสองเดือน แต่สำหรับกระบวนท่าที่ห้า...มันยากกว่ามาก
"สามกระบวนท่าแรกของเพลงดาบไร้ลักษณ์นั้นซับซ้อนอย่างมาก ในขณะที่สามกระบวนท่ากลางนั้นยากกว่า นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเพลงดาบไร้ลักษณ์ถึงเป็นเพลงดาบที่ดีที่สุดในราชวงศ์เทียนซ่ง"
แม้ว่าสำหรับคลื่นดาบไร้ลักษณ์จะเป็นเพลงดาบเช่นกัน แต่เขากลับใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงในการเข้าเจ็ดกระบวนท่าแรกทั้งหมด และทำการใช้หกกระบวนท่าแรกในการลองใช้ครั้งแรก
แต่เพลงดาบไร้ลักษณ์นั้นซับซ้อนกว่ามาก เขาเข้าใจกระบวนท่าที่สี่ได้อย่างลึกซึ้งภายในระยะเวลาสามเดือน อย่างไรก็ตามเขากลับไม่เข้าใจในกระบวนท่าที่ห้า
"วู่เฉิง"
หวางหยวนกลับเข้ามาพร้อมกับเสียงตะโกนของเขา และหยางจู่ซวนและซูรูก็เดินตามเข้ามา
"เกิดอะไรขึ้น?"เจียงวู่เฉิงหันมามองพวกเขา
หวางหยวนเดินเข้าหาเจียงวู่เฉิงและพูดว่า"หนานกงจี้ผ่านประตูมังกร"
"หืม?"เจียงวู่เฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย และพูดด้วยรอยยิ้มจางๆว่า"เขาผ่านชั้นไหน?"
"ชั้นที่หก"หวางหยวนกล่าวอย่างจริงจัง"อย่างที่พวกเรารู้ เขาผ่านชั้นที่หกในเวลาไม่ถึงชั่วโมงมันไม่นานก่อนที่เขาจะชั้นที่เจ็ด เขาอยู่ที่นั่นเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะออกมา"
"สามเดือนก่อนข้ารู้ว่าเขาสามารถผ่านชั้นที่หก แต่เขาไม่ได้พยายามที่จะทำมัน นี่มันแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่เขาต้องการจะผ่านชั้นที่หกในวันที่จะต่อสู้กับเจ้า ข้าคิดว่าเขากลัวว่าเจ้าจะหนีไปถ้าเขาทำมันก่อนหน้านี้"หยางจู่ซวนกล่าว
ซูรูที่เป็นคนไม่ค่อยพูด กล่าวเสริมว่า"มันมีช่องว่างระหว่างชั้นที่หกและเจ็ด บททดสอบในชั้นที่เจ็ดนั้นยากกว่าชั้นที่หกอย่างมาก เขาสามารถที่จะต่อสู้กับคนที่เป็นผู้ทดสอบในระดับที่เจ็ดได้ นั้นแสดงว่าเขาแข็งแกร่งมาก"
เจียงวู่เฉิงฟังอย่างระมัดระวังและพยักหน้าเล็กน้อย
อันที่จริงมันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา ถ้าหนานกงจี้จะผ่านชั้นที่หก เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าหนานกงจี้สามารถทำมันได้ แต่มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงถ้าเขาต้องต่อสู้กับผู้ที่ผ่านชั้นที่เจ็ด
"ความเข้าใจในแก่นแท้แห่งดาบของหนานกงจี้นั้นสูงมาก เขาดีที่สุดในศิษย์ที่ผ่านชั้นที่หกทั้งหมด"หยางจู่ซวนกล่าว
"วู่เฉิงเจ้ามีแผนอย่างไร?"หวางหยวนหันมามองเขา
"สิ่งที่ข้าทำได้ มีเพียงทำไปตามสถานการณ์จริง"เจียงวู่เฉิงยิ้ม
"เจ้ามีจิตใจที่แข็งแกร่งมาก"หวางหยวนกลอกตา
เจียงวู่เฉิงยิ้ม เขาไม่รู้สึกวิตกกังวลแต่อย่างใด
เขาผ่านชั้นที่หกของประตูมังกร และต่อสู้อย่างยาวนานกับผู้คุมการทดสอบชั้นที่เจ็ด แต่แล้วอย่างไรล่ะ?
"แล้วไงล่ะ?"
ข้าไม่ได้รู้สึกตกใจเลยสักนิด
มันน่าสนุกมาก!
เป็นเพราะเขาไม่ได้ไปทดสอบประตูมังกร ไม่งั้นคนที่ต้องกังวลในตอนนี้คือหนานกงจี้
"พวกเจ้าสามคนคุยกันไปก่อน ข้าต้องไปที่ดินแดนลับแห่งสวรรค์และโลกอีกครั้ง"เจียงวู่เฉิงกล่าวและเดินออกไปเพื่อที่จะไปดินแดนลับในทันที
หวางหยวนและคนอื่นๆมองไปที่เจียงวู่เฉิงด้วยความเป็นห่วง
"วู่เฉิงคงจะกังวล นั่นคงเป็นเหตุผลที่เขาไปที่แดนลับแห่งสวรรค์และโลก ข้ากลัวว่าเขาจะไม่มั่นใจในการต่อสู้กับหนานกงจี้"หวางหยวนกล่าวอย่างจริงจัง"ข้าหวังว่าหนานกงจี้จะไม่เดิมพันมากไปนัก มิเช่นนั้นเจ้าคงต้องต่อสู้กับเขาเพื่อนำคะแนนกลับมาให้เจียงวู่เฉิง"
"ข้าก็ไม่ได้รังเกียจที่จะต่อสู้กับเขา แต่ข้ากลัวว่าเขาไม่กล้าที่จะต่อสู้กับข้า"หยางจู่ซวนพูดอย่างเย็นชา
...