ตอนที่ 114 คำขอลับ
ในคฤหาสน์ หานเซี่ยวเกาคางและคิดเงียบๆ
หน้ากากเปลี่ยนหน้าตาเขาไปมาก หากไม่เข้าใกล้พอ มันย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะค้นพบตัวจริงเขา
แม้เขาจะหนีจากมังกรดารามา แต่หน้าต่างสถานะก็ไม่ได้บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ที่ลดลง เนื่องจากความสัมพันธ์เขากับมังกรดารายังเป็นมิตรและทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ลงจนเป็นศัตรู มันก็มีโอกาสที่เขาจะเปลี่ยนสถานการณ์
หานเซี่ยวประทับใจในตัวตี้ซูซูมาก แม้ตี้ซูซูจะมักแกล้งหลี่ย่าหลินเสมอและหลี่ย่าหลินก็มักพยายามออกห่างเธอ แต่ตี้ซูซูก็ยังสนิทกับหลี่ย่าหลินโดยไม่ตั้งใจ แม้กระทั่งเสื้อที่เธอสวมก็ยังคล้ายกับหลี่ย่าหลิน หานเซี่ยวผู้มีประสบการณ์ในการมองคนสามารถบอกได้ว่าตี้ซูซูและหลี่ย่าหลินมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับมาก
....
สองวันต่อมา...
กระสุนพุ่งออกจากปากกระบอกปืนไรเฟิลและฆ่ามือปืนคนสุดท้ายที่อยู่ห่างออกหลายร้อยเมตร กลิ่นเหม็นไหม้ของควันรุนแรงมาก กองทัพศัตรูซึ่งประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ได้ถอยออกไปเหมือนคลื่น หานเซี่ยวถอนหายใจและเอนพิงกำแพง เขาหลับตาเพื่อคลายความตึงเครียด
ศัตรูเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มีเฮลิคอปเตอร์ รถหุ้มเกราะ และรถถัง และยังมียอดมนุษย์และทหารระดับสูงหลายคนปรากฏบนสนามรบ ซึ่งนับเป็นภัยคุกคาม
สองวันที่ผ่านมาในคฤหาสน์วุ่นวายและอันตรายอย่างมาก ราวกับพวกเขาอยู่บนเรือลำเล็กที่ติดอยูในวังวนขนาดใหญ่ หานเซี่ยวทุ่มความพยายามทั้งหมดของเขาและด้วยความร่วมมือของทหารรับจ้าง การป้องกันจึงผ่านพ้นไปได้
ท่านได้เอาชนะการโจมตี(5/5)
รอบที่4เสร็จสิ้น ท่านได้รับค่าประสบการณ์2แสนหน่วย
คำขอลับเพื่อป้องกันการปรากฏตัวของแผนก13ล้มเหลว
ท่านได้เปิดใช้งานส่วนที่5ของภารกิจ
หานเซี่ยวตกตะลึง เขาไม่คิดว่าคำขอลับคือการป้องกันไม่ให้แผนก13ปรากฏ เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้จริงๆ หลังไตร่ตรองสักพัก เขาก็ตระหนักว่าทำไมเขาถึงพลาดมันไป
หากทุกการต่อสู้เขาจบลงอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ความปั่นป่วนอาจน้อยลงจนแผนก13ไม่ต้องเข้ามายุ่ง อย่างไรก็ตาม คำขอเช่นนั้นก็นับว่ายากเกินไป แม้เขาจะรับรู้ถึงคำขอเช่นนั้น มันก็ยังยากจะบรรลุได้ หานเซี่ยวไม่รู้สึกเสียใจกับผลลัพธ์ดังกล่าวเลย ในท้ายที่สุด อัตราการทำสำเร็จก็คือ50-50 มีทั้งช่วงเวลาแห่งความสำเร็จและล้มเหลว มันค่อนข้างปกติสำหรับความล้มเหลวที่จะเกิดขึ้น
ภารกิจดั้งเดิมมีแค่4ส่วน อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยคำขอลับไม่สำเร็จ ส่วนที่5จึงทำงาน ส่วนที่5คืออะไรกันแน่?
หานเซี่ยวรู้สึกอยากรู้
ข้อกำหนดภารกิจมีการเปลี่ยนแปลง
ข้อกำหนดรอบ5 : ติดตามหวางหยวนและจัดการกับอันตราย
เงื่อนไขความล้มเหลว : ความตายของท่าน
รางวัล : ค่าประสบการณ์3หมื่นหน่วย
รางวัลพิเศษ : ค่าประสบการณ์3แสนหน่วย
ในช่วงเวลานั้น หานเซี่ยวก็ต้องตกใจ เขารู้สึกว่าภารกิจส่วนที่5เป็นภารกิจที่สับสนและแปลก
รางวัลปกติไม่เข้ากับขั้นในปัจจุบันของภารกิจ นอกจากนี้ รางวัลพิเศษยังมากกว่ารางวัลปกติสิบเท่า ซึ่งหมายความว่าภารกิจต้องมีความยืดหยุ่นสูง อันตรายที่ภารกิจจะนำมาให้คืออะไร?
เงื่อนไขความล้มเหลวมีเป้าหมายอยู่ที่ข้อเท็จจริงว่าผู้เล่นสามารถคืนชีพได้ แต่เนื่องจากหวางหยวนมีเบนเน็ตคอยคุ้มครอง มันก็หมายความว่าตัวหานเซี่ยวเองที่ต้องรับมือกับอันตราย
มันราวกับภารกิจพยายามบอกหานเซี่ยวว่า“ฮี่ๆๆ..นี่มันอันตรายนะ”
...
สองวันก่อนหน้า ในโกดังร้างมืดสลัว ไป่จินอยู่ในที่หลบภัยเขา
มีสายฟ้าอยู่รอบแขนเขา และแสงจากมันก็ส่องใบหน้าเขา ในดวงตาเขาให้ความรู้สึกน่าขนลุกผิดปกติ
ไป่จินพลิกฝ่ามือเขาและสายฟ้าก็ซึมหายไปในผิวเขา
ติ้ง
คอมพิวเตอร์บนโต๊ะตรงหน้าเขาสว่างขึ้น เขาได้รับอีเมลล์ลับ ไป่จินกดดูมัน
“เป้าหมายลอบสังหาร : หวางหยวน”
“สถานที่ตั้ง : มังกรดาราตะวันออก 20กิโลเมตรทางเหนือของเมืองนกนางนวล คฤหาสน์หุบเขาแม่น้ำ”
“กำลังป้องกัน : ทหาร214 นักฆ่า14 แสงจันทร์(มืด) นักล่า(มืด) ภูเขาไฟ(มืด) จิ้งจอกทอง(มืด) มิสเตอร์แบล็ค(แมงป่อง)…มีโครงสร้างการป้องกันและอาวุธที่เพียงพอ”
“ค่าหัว : 2ล้าน”
ดวงตาของไป่จินสลัวลงและพึมพำอย่างเย็นชา“คิดว่าฉันจะเคลื่อนไหวกับค่าหัวแค่สองล้าน?แกกลับเอาฉันไปอยู่ในระดับเดียวกับพวกนักฆ่าขยะในตลาด?”
เขาส่งเมลล์กลับไปปฏิเสธ
ต่อมา เมลล์อีกฉบับก็เข้าสู่กล่องจดหมายเขา ค่าหัวเพิ่มขึ้นเป็น6ล้าน
“ต้องอย่างนี้สิ”ไป่จินยิ้ม มีบรรยากาศแห่งความชั่วร้ายและอวดดีรอบตัวเขา
ตลอดมา ไป่จินมักสนใจแค่ค่าหวัที่ได้รับ เขาไม่มีเป้าหมายอื่นในหัว
‘สายฟ้าคลั่ง’ไป่จิน เป็นอาญชาการที่สามารถหลบหนีการตามล่าของ6ประเทศมาได้นับครั้งไม่ถ้วน พลังเขาสามารถสร้างการทำลายครั้งใหญ่ มีนักล่าค่าหัว สายลับและเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์กรต้นกำเนิดที่ตายในเงื้อมมือเขามานับมุ้วน จำนวนรวมเกินสามหลัก!เขาสามารถทะลวงปีกอันแข็งแกร่งของกองทัพได้
ความแข็งแกร่งบนดาวเคราะห์ก็เหมือนพีระมิด มีอยู่สามส่วน คนที่ระดับต่ำสุดส่วนใหญ่จะเป็นยอดมนุษย์ที่เพิ่มปลุกพลังและนักรบธรรมดามากประสบการณ์ ระดับสองคือยอดมนุษย์เช่นป่านกวง ผู้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์กรต้นกำเนิดและสายลับของหน่วยข่าวกรองของ6ประเทศ ระดับสามหาได้ยากเป็นพิเศษ พวกเขาคือไพ่ตายของแต่ละประเทศหรือสุดยอดอาญชากรหรือหัวหน้ากองกำลัง เบนเน็ตสามารถวางไว้จุดยอดของพิระมิดระดับสาม
ไป่จินคือยอดมนุษย์ที่สามารถเข้าสู่ระดับสามได้!
....
ในตอนเย็น หวางหยวนได้รวมตัวทุกคน
“ฉันต้องเดินทางไปเมืองนกนางนวลเพื่อพบแผนก13 ฉันต้องนำคนที่แข็งแกร่งบางคนติดตามฉันไปด้วย และพวกคุณที่เหลือจะอยู่ที่นี่เพื่อป้องกันคฤหาสน์”
ก่อนที่จะมีใครตอบสนอง หวางหยวนก็เลือกผู้ติดตาม“แสงจันทร์ ภูเขาไฟ นักล่า จิ้งจอกทองและมิสเตอร์แบล็ค ฉันต้องการให้พวกคุณคอยปกป้อง ฉันจะเพิ่มรางวัลให้พวกคุณ หากพวกคุณไม่เต็มใจ ฉันก็จะไม่บังคับ”
“ไม่มีปัญหา”นักล่าคือคนแรกที่ตอบ คนอื่นเองก็เห็นด้วย
หานเซี่ยวรู้ว่าหากเขาปฏิเสธ ภารกิจเขาคงล้มเหลว เขาเห็นด้วยและมองเบนเน็ต“เขาจะไปไหม?”
เบนเน็ตพยักหน้าและกล่าว“ฉันไป”
หัวใจของหานเวี่ยวเต้นกระหน่ำ เบนเน็ตสามารถคุ้มครองหวางหยวนได้ เช่นนั้น อันตรายจากภารกิจย่อมมุ่งเน้นมายังหานเซี่ยวและนักฆ่าคนอื่น
ด้วยประสบการณ์การเล่นเกมของหานเซี่ยว เขาสามารถได้กลิ่นแปลกๆของภารกิจ ในจุดนี้ บางทีการทำให้ตื่นตัวคงดีกว่า แทนที่จะพูดปลุกความมั่นใจ การก้าวถอยหลังและพูดบางอย่างเพื่อเพิ่มความรู้สึกตื่นเต้นในเพื่อนร่วมทีมเขาย่อมดีกว่า
ทีมติดตามหวางหยวนขึ้นรถและมุ่งหน้าไปเมืองนกนางนวล หานเซี่ยวตระหนักว่าคนบนรถไม่พูดอะไรเลย พวกเขาทั้งหมดมีอากาศเขียนรอบตัวว่า’อย่าคุยกับฉัน ฉันต้องการอยู่เฉยๆ’
เมื่อมองไปข้างหลัง หานเซี่ยวก็เห็นจิ้งจอกทองซ่อนตัวอยู่อีกมุมหนึ่งของรถและเธอก็เลือกอยู่ห่างให้ไกลจากเขามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อหานเซี่ยวมองเธอ เธอก็รีบหลบสายตาทันที
ฉันแค่ล้อเธอเล่นเองนะ ท่าทีเช่นนี้มันอะไรกัน?หานเซี่ยวพูดไม่ออก
ในอีกด้านหนึ่งของป่า ตี้ซูซู ผู้คอยจับตาดูสถานการณ์ก็ติดตามกลุ่มของหวางหยวนไป
“เป้าหมายออกคฤหาสน์แล้ว พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปเมืองนกนางนวล มีนักฆ่าหลายคนติดตามเขาไป เฝ้าติดตามต่ออย่างใกล้ชิด”
…
ท้องฟ้ายามค่ำคืนเต็มไปด้วยหมู่ดาวส่องสว่าง ทำให้เมืองนกนางนวลดูสวยเป็นพิเศษ
เมืองนี้ของมังกรดาราเป็นเมืองอุตสาหกรรม มีโรงงานจำนวนมากแถบชานเมือง ปล่องไฟขนาดใหญ่ของโรงงานเหมือนกับนิ้วยักษ์ที่ชี้ขึ้นฟ้า เนื่องจากเมืองเต็มไปด้วยโรงงาน บรรยากาศของเมืองจึงไม่สดชื่นนัก
ทหารยามได้รับคำสั่งจากเบื้องบนและปล่อยพวกหานเซี่ยวให้ผ่านเข้าเมืองได้
เมื่อรถผ่านด่านตรวจ มันก็พบกับรถสีดำจากแผนก13ริมถนน สายลับเดินเข้ามาและกล่าว“คุณหวางหยวน เจ้าหน้าที่โม่กำลังรอคุณอยู่ที่ฐาน”
“ช่วยนำทางด้วย”
สายลับจากแผนก13เห็นนักฆ่าติดอาวุธหนักและเงียบทันที เขาไม่ได้พูดอะไรอีก เขาตรงขึ้นรถและขับนำทางไป
รถสองคันขับไปจนถึงบริเวณเคอร์ฟิวที่ตกอยู่ภายใต้เขตอำนาจของรัฐบาลสาขาเมืองนกนางนวล มีเพียงประตูที่ปิดกั้นการเข้าถึง สายลับกล่าวว่าอาวุธไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าสู่พื้นที่นั้น
หวางหยวนพยักหน้า จากนั้นก็หันไปกล่าวกับพวกนักฆ่า“พวกคุณจะใช้เวลาคืนหนึ่งในเมือง มารวมตัวกันที่นี่ในเวลาเดิมของพรุ่งนี้”
หลังสั่ง เบนเน็ตและหวางหยวนก็เข้าฐานไป
เหล่านักฆ่าถูกทิ้งไว้เพียงลำพัง
ภูเขาไฟเป็นชาวอินเดียแดงหุ่นล่ำ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงลึก“พวกนายคิดทำอะไรกัน?”
นักล่ายิ้มกว้าง“ฉันจะไปที่บาร์เพื่อหาความสนุก”
จากนั้นก็เหลือบมองจิ้งจอกทองและยิ้ม“เธออยากไปกับฉันไหม?”
จิ้งจอกทองยิ้มและโบกมือเพื่อปฏิเสธ“ลืมไปได้เลย ฉันสนใจผู้ชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษ”
นักล่าไม่มีความสุขเมื่อได้ยินคำพูด
“นักล่า ฉันจะไปกับนายเอง”ภูเขาไฟหัวเราะลั่น เขามองแสงจันทร์และถาม“แล้วนายละ?”
แสงจันทร์ไร้อารมณ์ เขาตอบอย่างเคร่งขรึม“ฉันจะเดินลาดตระเวนแถวนี้”
จากนั้นภูเขาไฟก็ชวนหานเซี่ยวให้ไปด้วยว หานเซี่ยวโบกมือเพื่อบอกว่าไม่ และภูเขาไฟก็ไม่คิดกดดันหานเซี่ยวให้ไปด้วยต่อ
นักฆ่าทั้ง5แยกทางกัน
มีเวลาว่างและกิจกรรมง่ายๆในรอบ5 ฉันเดาว่าอันตรายคงมาถึงได้ทุกเมื่อ....
หานเซี่ยวคิดเรื่องนี้ เขาไม่ต้องการเสียเวลาอันล้ำค่าไปกับการเดินเล่น จากนั้นก็ตัดสินใจทำภารกิจระดับต่ำในเมืองนกนางนวล
เนื่องจากอันตรายใกล้มาถึง การไม่เสียเวลาและทำงานอื่นๆให้เสร็จย่อมดีกว่า เขาไม่ต้องหลบซ่อนและเตรียมการเพื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่ใกล้เข้ามา
เมื่อหานเซี่ยวเดินไปตามถนน เขาก็สัมผัสได้ว่ามีใครบางคนในชุดกันลมสีดำกำลังซ่อนอยู่ภายใต้มุมมืดของถนน หัวใจเขาเต้นกระหน่ำ และเขาก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังติดตามเขา