ตอนที่ 113 การปรากฏตัวของแผนก13
เบนเน็ตลูบแก้มที่โดนหมัดของหานเซี่ยวและพูดออกมา“อย่าต่อยหน้าฉัน”
“คุณโชคดีแล้วที่มันเป็นแค่หน้า”
หานเซี่ยวจ้องเบนเน็ตเงียบๆสักพัก
ทันใดนั้นเบนเน็ตก็รู้สึกว่ามีลมหนาวเย็นพัดผ่านระหว่างขาเขา เขาเกิดอาการหนาวสั่นและสับสน ภาพลวงตา?
ข้อมูลสำคัญสุดเกี่ยวกับเบนเน็ตยังลึกลับ อย่างไรก็ตาม หานเซี่ยวรู้ว่าเบนเน็ตมีทักษะพิเศษกว่า15ทักษะ และส่วนใหญ่ก็เป็นทักษะมาตรฐาน!ทักษะที่น่ากลัวสุดไม่ใช่ทักษะที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตี พลังชีวิตหรือคุณสมบัติแต่เป็น[แสงแห่งโชค] ชื่อของทักษะอาจจะไม่ทำให้ใครคิดว่ามันทรงพลัง แต่เมื่อผลของทักษะทำงานหรือชื่อของทักษะเปลี่ยนไป มันย่อมเป็นทักษะที่น่ากลัวสุด
แสงแห่งการชักนำ!
กาแล็กซี่กว้างใหญ่มาก ดาวเคราะห์และอารยธรรมที่แตกต่างกันได้สร้างโลกของกาแล็กซี่ขึ้น แสงแห่งโชคคือทักษะมาตรฐานที่เหล่าตัวละครหลักครอบครองกัน
ตัวอย่างเช่น หากเบนเน็ตใช้[เจตจำนงค์แห่งเพลิง] มันก็จะมีการเพิ่มในคุณสมบัติทุกรอบ นั่นคือความสามารถที่’แสงแห่งโชค’มอบให้กับเขา
เบนเน็ตอาจได้รับบาดเจ็บภายในอยู่และจะฟื้นตัวในอนาคต หานเซี่ยวจำได้ว่าครั้งแรกที่เบนเน็ตปรากฏตัวต่อหน้าผู้เล่น เขาก็ครอบครองพลังของมังกรและเสือที่ผสานกัน เขาสามารถอธิบายได้ว่าเป็นT-Rexที่อยู่ในกายมนุษย์
ที่จุดสูงสุด เบนเน็ตคือขั้นC แต่ตอนนี้เขาเป็นแค่ขั้นD+
ข้อกำหนดพลังงานสำหรับขั้นCคือ2000หน่วย และขั้นD+หมายถึงตัวละครที่มีระดับพลังงาน1600หน่วยขึ้นไป ตัวละครในระดับนี้จะมีความแข็งแกร่งอย่างมาก
ระดับพลังปัจจุบันของหานเซี่ยวติดอยู่ที่ขั้นD ซึ่งประมาณ800หน่วย หลังได้รับอุปกรณ์เพิ่มมา เขาก็สามารถมาถึงขั้นDได้
ขั้นของตัวละครไม่ได้บ่งบอกถึงพลังต่อสู้ ในที่สุด ตัวละครต่างๆย่อมมีจุดแข็งและทักษะที่แตกต่างกันตามสภาพแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่ตัวละครมีระดับพลังงานสูง มันก็หมายความว่าพวกเขามีลักษณะที่แข็งแกร่งมาก
หลังอำลาเบนเน็ต หานเซี่ยวก็กลับไปยังจุดซุ่มยิงเขา เขารู้สึกแปลกในหัวใจและหันหลังกลับ มือปืนสาวข้างเขากำลังมองเขาด้วยสายตาลึกซึ้ง หานเซี่ยวรู้จักเธอ เธอคือจิ้งจอกทองและเป็นนักฆ่าคนใหม่ที่เพิ่งมาถึงเมื่อวาน
หานเซี่ยวลูบใบหน้าเขาหลายครั้งเพื่อยันยันว่ายังสวมหน้ากากอยู่ เขาสับสนจริงๆ ไม่มีทางที่เธอจะมองผ่านหน้ากากได้ หรือเธอจะหลงใหลหน้าตาอันหล่อเหลาฉันแม้จะสวมหน้ากากอยู่ก็ตาม?
จิ้งจอกทองเดินมาหาเขา เธอมีรอยยิ้มสวยบนใบหน้าและกล่าวอย่างสุภาพ“มิสเตอร์แบล็ค ฉันสงสัยว่าคุณจะช่วยสอนทักษะซุ่มยิงให้ฉันหน่อยได้ไหม”
ขณะที่เธอกำลังพูด เธอก็บีบหน้าอกเธอด้วยมือ เผยให้เห็นร่องลึกน่าชมดู
เธอพยายามยั่วยวนฉัน?หานเซี่ยยวหรี่ตา ไม่ว่าเจตนาเธอจะเป็นยังไง หานเซี่ยวก็ไม่ได้สนใจการยั่วยวน เขายกมือขึ้นตรงหน้าและกล่าวเคร่งขรึม“คุณผู้หญิง โปรดสำรวมตัวบ้าง!”
ดวงตาของจิ้งจอกทองเป็นประกาย เธอรู้ว่ามิสเตอร์แบล็คเป็นพวกตายด้าน เธอเปลี่ยนกลยุทธ์ทันที ท่าทางเธอเปลี่ยนจากสาวเซ็กซี่มาเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่ต้องการขอความช่วยเหลือ การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันเร็วยิ่งกว่าการเปลี่ยนของหน้ากากเขาซะอีก เธอกอดอกและกล่าวเสียงเบา“ฉัน...ฉันแค่อยากขอคำแนะนำจากคุณ ฉันไม่ได้มีเจตนาอื่นเลย”
หานเซี่ยวกลอกตาและกล่าว“คุณผู้หญิง อย่าเสียเวลาเลย ผมไม่ชอบผู้หญิงหรอก”
สีหน้าของจิ้งจอกทองแข็งค้าง เธอมองหานเซี่ยวด้วยความประหลาดใจและพูดติดอ่าง“คุณ คุณชอบ...”
“ไม่ใช่ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย”หานเซี่ยวลูบคางเขาและกล่าว“จริงๆแล้ว ผมไม่สนใจมนุษย์...เอ๊ะ..หรืออะไรก็ตามที่ยังมีชีวิต”
จิ้งจอกทองตกตะลึง เธอลดหัวลงและกล่าว“ขอโทษค่ะ ขอโทษที่มารบกวน”
จากนั้นเธอก็หันหลังกลับและวิ่งหนีไปโดยไม่ลังเล
หานเซี่ยวหัวเราะลั่น ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอพยายามยั่วฉัน เธอก็แค่พวกอ่อนประสบการณ์ พูดก็พูดเถอะ ฉันถือว่าได้รับความนิยมมากในอดีต
หลังหัวเราะอยู่สักพัก หานเซี่ยวก็หยุดชะงัก จากนั้นก็ถอนหายใจลึกและหยิบบุหรี่ออกมาจุด
ในช่วงเวลานั้น รถคันหนึ่งก็เข้าใกล้คฤหาสน์ หานเซี่ยวมองตามและตกใจสะดุ้ง
รถมีสีดำสนิท มันมีตราสัญลักษณ์ที่ประตูรถ ตราเป็นรูปมังกรล้อมด้วยดาวสามดวง
มันคือรถของแผนก13!
ทำไมแผนก13ถึงมาที่นี่?
…
ด้วยคำสั่งของหวางหยวน ทหารรับจ้างเปิดประตูและนำรถของแผนก13เข้ามาในคฤหาสน์
ขาที่อยู่ในชุดรัดแน่นโผล่พ้นประตูรถ ขาเรียวยาวและมันดึงดูดความสนใจของเหล่าทหารรับจ้าง เมื่อเท้าข้างนั้นสัมผัสพื้น คนแรกที่โผล่ออกจากรถก็คือตี้ซูซู
ตี้ซูซูให้บรรยากาศเย่อหยิ่ง และเหมือนกับเธอไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ สมาชิกคนอื่นของทีมเดินตามหลังมา
กองทหารบางคนพยายามแซวเธอด้วยการส่งเสียวหวีดร้องเหมือนหมาป่า และพวกเขาก็กำลังมองเรือนร่างที่สวยงามของเธออย่างแทะโลม
ชายวัยกลางคนมีรอยย่นตรงขอบตาลงจากรถ ด้วยบรรยากาศรอบตัวเขา มันเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้นำของตี้ซูซูและพวกเธอ ทั้งกลุ่มมุ่งหน้าไปคฤหาสน์
ตี้ซูซูกลับรู้สึกหนาวเย็นอย่างกะทันหัน นอกจากนี้เธอยังรู้สึกได้ถึงความเย็นที่แล่นวูบเข้าหัวใจเธอ เธอรู้ว่าเธอถูกคนที่อันตรายมากจับตาดูอยู่ เธอหันหัวและเห็นชายวัยกลางคนในชุดดำที่กำลังยืนพิงกำแพงพร้อมยกปืนสไนเปอร์เล็งมาทางเธอ รูปลักษณ์เขาค่อนข้างเฉยชา แต่แม้กระนั้น เธอกลับรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนขอบเหว ความหวาดกลัวอัดแน่นในหัวใจเธอ
ใครกัน?ตี้ซูซูตื่นตระหนก จากนั้นเธอก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยแปลกๆ ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรมาก เธอก็เข้าตัวคฤหาสน์แล้ว ประตูปิดลงและมุมมองเธอก็ถูกบดบัง
ที่ขอบกำแพง หานเซี่ยวเห็นเหล่าสายลับขแงแผนก13 และดวงตาเขาก็สว่างขึ้น
...
สายลับจากแผนก13ตรงไปชั้นบนสุดของคฤหาสน์ ที่ที่หวางหยวนและเบนเน็ตกำลังรอพวกเขา
“หวางหยวน ไม่ได้พบกันนานเลยนะ”ชายชราที่นำสายลับกล่าว แม้เขาจะพูดด้วยสีหน้าดุดัน น้ำเสียงเขาก็ฟังดูเหมือนคนที่ได้พบเพื่อนเก่า
“โม่หราน”หวางหยวนกล่าว“มันก็สิบกว่าปีแล้ว นายเป็นหนึ่งในไพ่ตายของแผนก13 และฉันก็เป็นหัวหน้าขององค์กรตาข่ายมืด หากไม่ใช่เพราะสถานการณ์นี้ เราคงไม่ได้พบกันอีกครั้ง”
“ใช่”โม่หรานพยักหน้า เขาเห็นเบนเน็ตที่ด้านข้าง และแม้สีหน้าเขาจะยังไร้อารมณ์ แต่น้ำเสียงเขากลับเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“ไอหมอนี่ก็มาด้วย?!”
“นายยังอยากท้าทายฉันอยู่อีกไหม?”เบนเน็ตตอบด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร“ฉันไม่อยากทุบตีนายอีกครั้ง”
“มันเป็นอดีตไปแล้ว เบนเน็ต อย่านำมาพูดอีกเลย”โมหรานยุติการสนทนาในเรื่องนี้
เบนเน็ต?!
ตี้ซูซูและพวกเธอตกใจ เบนเน็ตเป็นที่รู้จักไปทั่วหน่วยลับ เขาไม่ใช่แค่วีรบุรุษสงคราม แต่ยังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด เขาถูกระบุให้เป็นสามตัวอันตรายของโลก เมื่อได้ยินชื่อของเบนเน็ต ตี้ซูซูก็ยากจะควบคุมอารมณ์ได้
โม่หรานขมวดคิ้วและถาม“ในการต่อสู้ช่วงสิบวันมานี้ แม้การต่อสู้จะเกิดนอกเมือง แต่ก็ยังให้อิทธิพลด้านลบ เสียงของปืนใหญ่และระเบิดดังเกินไป พวกนายกำลังทำอะไรกันอยู่?”
หวางหยวนส่ายหัว“เรา ผู้นำขององค์กรตาข่ายมืดอยากรักษาตำแหน่งเป็นกลางไว้ แต่พวกระดับสูงที่โลภมากบางคนกลับอยากล้มเลิกความเป็นกลาง พวกเขากระตือรือร้นที่จะได้รับอำนาจหากเลือกข้าง พวกเขากำลังหมายตำแหน่งหัวหน้าของเราและอยากแทนที่เราเพื่อได้รับสิทธิ์ควบคุมองค์กรตาข่ายมืด การโจมตีทั้งหมดล้วนถูกวางแผนโดยพวกคนทรยศ”
“เซน่าพยายามติดตามตำแหน่งของคนทรยศอยู่ ผู้โจมตีหลายคนถูกกำจัด แต่เราก็คาดว่ากำลังของพวกเขาคงหมดภายในสองวันนี้”
“ไปหาฉันในเมืองนกนางนวลในสองวัน เราต้องการรู้เรื่องนี้”โม่หรานกล่าว ด้วยการคงอยู่ของเบนเน็ต เขาไม่กังวลถึงความปลอดภัยของหวางหยวนเลย
หลังจัดการเรื่องสำคัญ โม่หรานก็เดินออกไป-มันคือสไตล์ของโม่หราน ตี้ซูซูและพวกเธอเองก็เดินติดตามเขาไป
เหล่าสายลับแผนก13คือหัวกะทิแต่ก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมสุดในประเทศ มีกลุ่มคนระดับสุดยอดที่เป็นอาวุธลับของชาติอยู่ พวกเขามักปกป้องด่านหน้าและคอยควบคุมสถานการณ์จากเบื้องหลัง พวกเขาแทบไม่เปิดเผยตัวเองและเป็นที่รู้จักกันในฐานะไพ่ตาย โม่หรานคือหนึ่งในนั้น มีบุคคลดังกล่าวอยู่ในทุกประเทศ
ความรุนแรงกลับเกิดขึ้นพร้อมกัน ตี้ซูซูคิด
ประมาณสามเดือนก่อน มังกรดาราเผชิญกับเหตุการณ์สำคัญหลายครั้ง ครั้งแรก พวกเขาพยายามทำลายฐานลับขององค์กรต้นกำเนิดภายในอาณาเขตตนเอง หลังจากนั้น มังกรดาราก็ได้เดินทางไปหุบเขาอีกามืด แหล่งที่มาของข้อมูลนั้นลึกลับมาก
นอกจากนี้ การตอบสนองจากองค์กรต้นกำเนิดก็ดูแปลกเช่นกัน องค์กรดูเหมือนกำลังค้นหาใครบางคนอยู่ หลังปฏิบัติการที่หุบเขาอีกา เหล่าสายลับขององค์กรต้นกำเนิดก็มีความชัดเจนมากขึ้น มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สนใจว่าจะต้องเปิดเผยตัวตน พวกเขาค้นหาอย่างบ้าคลั่งภายในอาณาเขตของมังกรดารา สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นในเมืองหลวงตะวันตก สายลับกว่าร้อยจากสมาคมเนตรฟีนิกส์-องค์กรย่อยขององค์กรต้นกำเนิดถูกจับตัว ส่วนใหญ่เป็นแค่พวกระดับต่ำ ไม่มีคุณค่าอะไรให้สอบสวน
ตั้งแต่การหายตัวไปของหานเซี่ยว แผนก13ก็ส่งสายลับจำนวนมากไปยังทุกมุมโลกเพื่อตามหาเขา แต่พวกเขาก็ไม่ได้ข้อมู,อะไร กล้องวงจรปิดทั้งหมด บันทึกการบินและบันทึกการเข้าออกล้วนพบตัวเขา เหล่าสายลับแม้กระทั่งถูกส่งไปยังถิ่นทุรกันดาร แต่ไม่มีใครกลับมาพร้อมข้อมูล
ผลที่ได้นับว่าไม่น่าเชื่อในสายตาของเบื้องบน มันราวกับว่าหานเซี่ยวได้หายตัวไปในอากาศ
เขาไปไหน?
เขาจะไปไหนได้?
เขาคิดทำอะไร?
ตี้ซูซูรู้จักหานเซี่ยวและเคยคุยกับเขาสักพัก ในสายตาของเธอ เขาเป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยความลับ
หลังมุ่งหน้าออกคฤหาสน์ ตี้ซูซูก็พยายามมองหาชายในชุดดำที่ให้ความรู้สึกอันตราย แต่เขาก็หายไปแล้ว
สายลับของแผนก13ขึ้นรถและออกไป
หลังออกป่า โม่หรานก็บอกให้คนขับจอด จากนั้นเขาก็ก้าวออกรถเพียงลำพังและบอกกับสายลับในรถ“ตี้ซูซู ให้คนจับตาดูสถานการณ์การต่อสู้กับเธอ ค่อยรายงานกลับหาฉันทีหลัง”