ตอนที่ 111 เจตจำนงค์แห่งเพลิง

ชื่นชม?!ตูดแกสิ!

แม้หานเซี่ยวจะอยากพูดแบบนั้น เขาก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสนุกอะไรหากไปทำให้เบนเน็ตโมโห เขายังต้องการผลประโยชน์จากเบนเน็ตอยู่

จริงจัง จริงจัง

หานเซี่ยวกระแอมลำคอ“ผมได้ยินเรื่องราวของคุณมาและมักอยากพบคุณเสมอ”

เบนเน็ตยิ้มอย่างเป็นมิตรและโบกมือ“อย่าพูดถึงเรื่องในอดีตเลย เธออยากพูดอะไรกับฉันละ?มันคงไม่ใช่ลายเซ็นต์ ใช่ไหม?”

คิ้วของหานเซี่ยวกระตุก เอาละ พอได้แล้ว....

หลังควบคุมลมหายใจ หานเซี่ยวก็ปรับสีหน้าและกล่าว“ผมได้ยินว่าคุณเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งสุดบนดาว...”

ดวงตาของเบนเน็ตทอประกาย เขาคุ้นเคยกับการแนะนำเช่นนั้น บางทีมันอาจเป็นอีกคนที่อยากสู้กับเขา

สงครามสร้างสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากเปลวไฟและการนองเลือด เบนเน็ตภูมิใจกับอดีตของเขา ตลอดหลายปี มีผู้แข็งแกร่งหลายคนมาท้าทายเขา เบนเน็ตเหนื่อยเกินไปกับการต่อสู้ที่ไร้ความหมายและชัยชนะอย่างต่อเนื่อง เขาปรากฏขึ้นคราวนี้ก็เพื่อปกป้องเพื่อนเก่าเขา หวางหยวน เขาไม่เคยคิดเผยตัวตนแท้จริงเขาให้ศัตรู-เหล่าผู้ทรยศขององค์กร-ไม่อย่างนั้นศัตรูคงไม่กล้าแม้แต่จะมายืนอยู่ต่อหน้าเขา มันคือการใช้เพื่อนเก่าเขาเป็นเหยื่อล่อ

เบนเน็ตส่ายหัว หากหานเซี่ยวอยากสู้กับเขาจริงๆ เขาคงปฏิเสธเพราะพลังของหานเซี่ยวในปัจจุบันยังไม่อยู่ในสายตาเขา

แต่หานเซี่ยวกลับพูดตรงข้ามกับความคิดเขา“ผมอยากเรียนรู้เทคนิคต่อสู้จากคุณ”

“น่าสนใจจริงๆ เธอเป็นคนแรกที่อยากเรียนรู้จากฉัน”เบนเน็ตไตร่ตรองสักพักก่อนส่ายหัว“เธอเป็นมือซุ่มยิง การเรียนเทคนิคต่อสู้จากฉันเป็นไปไม่ได้หรอก”

ตามคาด เบนเน็ตใช้วิธีเดิมอีกครั้ง!มันคือมาตรฐานของเบนเน็ตเมื่อเขาต้องการปฏิเสธใครสักคน ตราบใดที่สไตล์ไม่ตรงกัน เขาก็จะใช้วิธีนี้ในการคัดแยก

 

“เธอเป็นช่างกล เธอไม่มีทางเรียนรู้เทคนิคฉันได้หรอก”

“เธอเป็นนักสู้ เธอไม่มีทาง...”

“เธอเป็นยอดมนุษย์ มันไม่มีทาง...”

 

แค่เปลี่ยนคำนามของประโยค ผู้เล่นจำนวนมากก็ถูกปฏิเสธ หานเซี่ยวไม่คิดตกหลุมพรางเดียวกัน เบนเน็ตเป็นผู้ฝึกทักษะลับ และของขวัญก็คือสิ่งจำเป็นเพื่อให้ได้รับการสอนจากเขา ก่อนหน้า มีผู้เล่นหลายคนที่มาพร้อมกับของขวัญด้วยความตั้งใจขอความช่วยเหลือ แต่พวกเขากลับไม่คิดว่าตัวเองจะได้เลือกทักษะจากการมอบของขวัญให้เบนเน็ต

ของขวัญที่แตกต่างกันจะเชื่อมโยงกับทักษะต่างๆ

ของสองสิ่งที่หานเซี่ยวขอจากตระกูลรอทไชล์คือของขวัญที่จะมอบให้เบนเน็ต

หานเซี่ยวคุยกับเบนเน็ตเพื่อให้แน่ใจว่าเขาคือเบนเน็ตตัวจริง

เบนเน็ตเดินไปหาหวาง หยวน ผู้ที่รออยู่ไม่ไกลนัก และหวางหยวนก็ถามอย่างอยากรู้“เขาต้องการอะไรจากนาย”

“เขารู้จักฉันและต้องการเรียนเทคนิคต่อสู้จากฉัน”

“เป็นคนที่แปลกจริงๆ”หวางหยวนลูบเคราและกล่าว“เขามีฝีมือ เขาเป็นนักฆ่าหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมสมาคมสนธิสัญญาโลหิต เขามีเบื้องหลังลึกลับและมีชื่อรหัสว่า’มิสเตอร์แบล็ค’ เขาเป็นคนที่เราควรดึงรั้งไว้ข้างเรา หลังภารกิจนี้ ฉันจะขอให้เซน่าเพิ่มระดับเขาเป็นระดับมืด”

…

กองทหารรับจ้างเก็บตัวอยู่ในห้องของคฤหาสน์ เฉินลี่มาหาหานเซี่ยวและมอบกุญแจห้องพักให้เขา

หานเซี่ยวไม่ยอมรับกุญแจทันที เขากลับจ้องเฉินลี่แปลกๆและพูดติดอ่าง“อย่าบอกนะว่า....นี่คือกุญแจห้องนาย!?”

“...ฉันไม่ใช่พวกไม้ป่าเดียวกัน”เฉินลี่พูดด้วยเส้นเลือดที่ปูด

“นึกว่าใช่ซะอีก”

เฉินลี่กระแอมลำคอและอธิบาย“นี่คือกุญแจห้องนอนของคฤหาสน์ และฉันก็แบ่งไว้ให้นายห้องหนึ่ง”

จากนั้นหานเซี่ยวก็คิดขึ้นได้ เขารับกุญแจและเข้าใจความหมาย“ใครอีกที่ได้ห้องเดียว?”

“มีภูเขาไฟ แสงจันทร์ นักล่า และผู้บัญชาการของกลุ่มทหารรับจ้าง”

 

ชื่อที่ได้ยินล้วนเป็นนักสู้และผู้นำที่แข็งแกร่งรอบคฤหาสน์

การจัดสรรห้องเดี่ยวเป็นสิทธิพิเศษของบุคคลที่แข็งแกร่ง ทหารและนักฆ่าทั่วไปต้องบีบอัดรวมกันในห้องใหญ่หรือนอนในห้องโถง

ในการต่อสู้เมื่อคืน หานเซี่ยวได้แทนที่พี่น้องตัวต่อ ผู้ถูกฆ่าในหน้าที่ เขาคือแกนหลักของพลซุ่มยิงทุกคนและเป็นกระดูกสันหลังของการป้องกัน ฝีมืออันโดดเด่นของเขาได้รับความเคารพไปทั่ว ซึ่งทำให้เฉินลี่ต้องมาส่งกุญแจให้เขา ตราบเท่าที่มีพลังและความสามารถ คนๆนั้นย่อมได้รับสิทธิพิเศษ

หานเซี่ยวยอมรับมัน ห้องของเขาอยู่บนชั้นสอง และมันก็มีระเบียง

เมื่อเขาไปถึงระเบียงชั้นสอง หานเซี่ยวก็เห็นบุคคลที่ทรงพลังอื่นๆ พวกเขามองหน้ากันและพยักหน้าให้อย่างเป็นมิตร นักล่าทิ้งความประทับใจลึกๆไว้ในดวงตาหานเซี่ยว นักล่าเป็นผู้เชี่ยวชาญอาวุธปืนจากสายเลือดช่างกล อาวุธเขาเป็นปืนพกที่รุนแรงมาก กล่าวกันว่าปืนพกกระบอกใหญ่เขาไม่มีแรงถีบเลยเมื่อยิง

เนื่องจากเบนเน็ตอยู่ที่นี่และภารกิจก็กำลังดำเนิน ตราบเท่าที่ฉันสามารถเข้าใกล้เบนเน็ตได้และติดต่อกับผู้บันทึกหลักที่หลบซ่อน ฉันจะสามารถได้รับความดีความชอบขององค์กรตาข่ายมืดและเข้าถึงเครือข่ายข้อมูลขนาดใหญ่ได้ ผลประโยชน์จากการเคลื่อนไหวนี้นับว่าไม่เลว

การทำข้อตกลงกับตัวละครหลักของดาวสามารถนำพาผลประโยชน์มาได้มาก

หานเซี่ยวใช้นิ้วมือเขาลูบคาง ดวงตาเขาเปล่งประกายเหมือนหัวขโมยน้อย

....

สองวันต่อมา ศัตรูได้ดำเนินการโจมตีอยู่ทุกคืน ราวกับพวกมันเป็นกลุ่มสัตว์ประหลาดบ้าคลั่งที่ไม่อาจโจมตีตอนกลางวันได้ พวกมันขยายเงื้อมมือปีศาจมาทางคฤหาสน์

หานเซี่ยวรับบทบาทของพี่น้องตัวต่อและรับผิดชอบการยึดภาคพื้นดิน เขาใช้ความสามารถการซุ่มยิงเพื่อควบคุมสถานการณ์ ความแม่นยำเขานับว่าเป็นจุดเด่น แต่สิ่งที่น่าประทับใจสุดคือความเฉียบแหลมในการต่อสู้

หลังผ่านสงครามระหว่างดาวเคราะห์ของกาแล็กซี่มา ความหนาแน่นและพลังของอาวุธก็รุนแรงเกินไป การต่อสู้นี้เหมือนสนามเด็กเล่น ทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ระดับเดียวกัน และความแตกต่างพวกเขาก็เยอะเกินไป

ในความบ้าคลั่งและความวุ่นวายของสงครามระหว่างดาว ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆอาจนำไปสู่ความตายและดาวเคราะห์ที่ล่มสลาย ดังนั้น หานเซี่ยวจึงพัฒนาความเฉียบแหลมและสัญชาตญาณเขาเพื่อค้นหาโอกาสผ่านรอยแตกเล็กๆน้อยสถายการณ์ นั่นคือจุดเด่นของยอดกุนซือ แม้หานเซี่ยวจะไม่ใช่พวกถ่อมตน แต่ก็ไม่มีใครกังขาเรื่องความเฉียบแหลมเขา

การรับมือกับการต่อสู้ขนาดเล็กที่ใช้อุปกรณ์ระดับต่ำก็เหมือนกับการตัดเค้กสำหรับเขา การยิงเขามักโดนเป้าหมายเสมอ

ด้วยความช่วยเหลือของหานเซี่ยว ทหารรับจ้างจึงได้รับความเสียหายลดลงอย่างมาก มันน่าตกใจอย่างยิ่ง พี่น้องตัวต่อเอาแต่สนใจการฆ่าศัตรู และแทบไม่ได้ช่วยเหลือคนอื่นเลย อย่างไรก็ตาม มิสเตอร์แบล็คกลับใช้รูปแบบการยิงรอบตัว ซึ่งทำให้เขากำจัดศัตรูและยังช่วยยืดเวลาการป้องกันไปได้อีก มันเหมือนกับการแสดงของหนึ่งคนต่อต้านทั้งกองทัพ

ความน่าเชื่อถือและความมั่นคงคือมุมมองของพวกทหารรับจ้าง การยิงสนันสนุนของหานเซี่ยวช่วยให้พวกเขาต่อสู้ง่ายขึ้น

มือซุ่มยิงที่สามารถควบคุมทั้งสนามรบนับเป็นภัยคุกคามที่ยากจะอธิบาย มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ศัตรูจะทุ่มกำลังโจมตีหานเซี่ยว แต่ทว่า หานเซี่ยวก็สามารถต้านรับภัยคุกคามได้ด้วยความคล่องตัวของรองเท้า นอกจากนี้ โมดูลเสริมความแข็งแกร่งระดับต่ำยังช่วยให้เขาทนต่อการโจมตีได้มากขึ้น เขามีพลังชีวิตเกือบสองเท่าของช่างกลปกติ

แม้กระทั่งยอดมนุษย์และนักสู้ที่ระดับเกิน40ก็อาจมีพลังชีวิตไม่มากไปกว่าเขา ดังนั้น หานเซี่ยจึงไม่ต้องกลัวการโจมตีของศัตรูเหมือนพลซุ่มยิงคนอื่น และยังเป็นครั้งแรกที่กองทัพได้เห็นมือซุ่มยิงกล้าเผชิญหน้ากับการยิงของศัตรูโดยตรงและโจมตีศัตรูในแนวหน้า นั่นได้เปลี่ยนแนวคิดว่ามือซุ่มยิงต้องลอบโจมตีอย่างเงียบๆ ห่างไกลจากความสนใจของศัตรู

ในสองวันนี้ หานเซี่ยวกลายเป็นที่เคารพของกองทัพยิ่งขึ้น

ความตายย่อมเกิดในสนามรบและกองทัพและนักฆ่าใหม่ก็จะมาแทนที่คนที่ตาย นั่นเพื่อให้แน่ใจว่าเลือดใหม่จะถูกสูบฉีดและมีกำลังต่อสู้คอยพร้อมอยู่ตลอดเวลา

จิ้งจอกทองคือหนึ่งใน’เลือดใหม่’ เธอเป็นนักฆ่าระดับมืด เมื่อเธอเข้าคฤหาสน์ บางคนก็มารับเธอ

จิ้งจอกทองเป็นสาวสวยหุ่นสูง เธอดูดีและแบกสไนเปอร์ไว้บนหลัง เธอถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง“สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”

ทหารรับจ้างเหลือบมองก้นได้รูปของเธออย่างลืมตัว จากสายตาเขา ใครก็สามารถบอกได้ว่าเขาถูกกระตุ้น

จิ้งจอกทองเคยชินกับสายตาของพวกผู้ชายแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ใส่ใจ

 

“สถานการณ์เป็นไปด้วยดี แม้ศัตรูจะโจมตีมาถี่ขึ้น การป้องกันเราก็หนาแน่นและรัดกุมขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ กระสุนและอุปกรณ์ทั้งหมดยังได้รับการเติมเต็มทุกวัน บวกกับมีกองกำลังใหม่เข้าร่วมอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นภาคตะวันออกเฉียงใต้และเฉียงเหนือที่อยู่ภายใต้การควบคุมของมิสเตอร์แบล็คจึงไม่มีอะไรผิดปกติ”

ทหารหัวเราะ

“มิสเตอร์แบล็ค?”จิ้งจอกเงินมั่นใจว่าเธอไม่เคยได้ยินชื่อรหัสเช่นนั้น เธอถามอย่างอยากรู้“ใครคือมิสเตอร์แบล็ค?”

“มิสเตอร์แบล็คคือนักฆ่าระดับแมงป่อง ทักษะการซุ่มยิงเขาคือที่สุด”

“แค่ระดับแมงป่อง?”จิ้งจอกเงินรู้สึกไม่สบายใจ เธอขมวดคิ้ว เธอไม่เชื่อใจความสามารถของหานเซี่ยวและพูดด้วยน้ำเสียงสับสน“จะดีงั้นหรอที่ปล่อยให้นักฆ่าระดับแมงป่องรับผิดชอบการต่อสู้?”

 

หลังเธอพูดจบ จิ้งจอกทองก็ตระหนักว่าทหารรับจ้างมองเธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอีกต่อไป ดวงตาเขาแปรเป็นเย็นชา เขาชี้ไปข้างหน้าและบอกให้จิ้งจอกทองเดินไปด้วยตัวเธอเอง จากนั้นเขาก็หมุนตัวและเดินหนีไป

จิ้งจอกทองประหลาดใจ เธอแค่ตั้งคำถามถึงความสามารถของมิสเตอร์แบล็ค แต่พวกทหารจะต้องทำปฏิกิริยากับเธอเช่นนี้เลย?มิสเตอร์แบล็คเป็นคนมีชื่อเสียงจริงๆ?

คืนนั้น เมื่อศัตรูบุก ในที่สุดจิ้งจอกทองก็เห็นฝีมือของมิสเตอร์แบล็คและความสามารถการควบคุมสนามรบของเขา เธอตกใจ มันราวกับมิสเตอร์แบล็คครอบครองเนตรอินทรีในตำนานและสามารถเห็นทุกมุมของสนามรบได้ เขาแทบยิงไม่พลาด แม้บางนัดจะยังไม่โดนศัตรู มันก็ยังมีบทบาทสำคัญอื่นๆเช่นการจำกัดการสนับสนุนของศัตรู

จิ้งจอกทองตระหนักว่าเธอแทบไม่ได้ทำอะไรเลย งานทั้งหมดถูกจัดการโดยมิสเตอร์แบล็ค งานของมิสเตอร์แบล็คสร้างความประทับใจให้จิ้งจอกทองยิ่งขึ้น ในฐานะมือปืน จิ้งจอกทองตระหนักว่ามิสเตอร์แบล็คเหนือกว่าเธอมากแค่ไหน

มิสเตอร์แบล็คเอางานทั้งหมดไปจากพลซุ่มยิงคนอื่น มิสเตอร์แบล็คคนเดียวสามารถทดแทนได้ทั้งทีม

ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมทหารรับจ้างถึงปล่อยให้นักฆ่าระดับแมงป่องรับผิดชอบสนามรบ

นี่เป็นสไนเปอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ฉันเคยเห็น!

…

ท่านเอาชนะระลอกโจมตี(3/5)

หลังเห็นศัตรูถอย หานเซี่ยวก็ถอนหายใจ

มันคือระลอกที่สามของศัตรู และการโจมตีก็รุนแรงขึ้น แต่ทว่า มันก็มีฝ่ายคุ้มกันในคฤหาสน์มากขึ้นเช่นกัน ด้วยตัวฉัน ตราบเท่าที่ไม่มีคนแข็งแกร่งพอ ภารกิจย่อมสำเร็จได้อย่างราบรื่น แต่ทว่า ข้อกำหนดของรางวัลลับคืออะไร?

หานเซี่ยวแทบไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับมัน

เช้าวันต่อมา เฉินลี่เรียกหานเซี่ยวผ่านอุปกรณ์สื่อสาร

“มิสเตอร์แบล็ค คนจากตระกูลรอทไชล์กำลังมองหานาย”

 

เมื่อได้ยิน หานเซี่ยวก็ดีดขึ้นจากเตียง รีบวิ่งไปประตูคฤหาสน์ เขาได้รับของจากคนส่งของ...หรือผู้ส่งสารจากตระกูลรอทไชล์ ของสองชิ้นคือกระบี่หัวหน้าผู้พิทักษ์สีเงินและปืนไรเฟิลซุ่มยิงHOC

ของสองชิ้นมีย้อนไปหลายสิบปีก่อน พวกมันไม่มีการผลิตอีกต่อไป และประเทศที่ผลิตของก็ไม่มีอยู่แล้ว ทั้งสองถือเป็นของเก่า เบนเน็ตเป็นนักสะสมอาวุธโบราณและสิ่งเหล่านี้ก็คือสิ่งจำเป็นสำหรับเรียนรู้ทักษะใหม่

มีของกว่าสิบที่สามารถกระตุ้นการเรียนรู้ทักษะใหม่ ประเภทของขวัญต่างกัน ดังนั้น พวกมันจึงนำไปสู่ทักษะที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม ปริมาณของเหล่านี้ก็มีจำกัด และมันหมายความว่าผู้เล่นที่สามารถเรียนรู้ทักษะจากเบนเน็ตได้ย่อมมีจำกัด ผู้ฝึกสอนลับมักถ่ายโอนทักษะในลักษณะดังกล่าว

ตัวอย่างเช่น มีกระบี่หลงเหลือประมาณร้อยเล่ม และด้วยกระบี่ ผู้คนก็สามารถเรียนรู้ทักษะโจมตีที่ทรงพลังมากอย่าง[เจตจำนงค์แห่งเพลิง] ในช่วงท้ายของเวอร์ชั่น1.0 ราคาของกระบี่สูงเกินจริงไปหลายล้านเหรียญ และหานเซี่ยวก็สามารถได้รับมันโดยการเสียสละแต้มความสัมพันธ์บางส่วนกับตระกูลรอทไชล์

หานเซี่ยวอยากเรียนรู้[เจตจำนงค์แห่งเพลิง] บางอย่างที่เขาไม่อาจกระทำได้ในช่วงชีวิตก่อนหน้า