บทที่ 45 ไม่อยากมีลูกด้วย...
บทที่ 45 ไม่อยากมีลูกด้วย...
พอเงยหน้าขึ้น ฉางฉิงก็เห็นซ่งฉู่อี๋ในชุดออกกำลังกายสีดำ มุมปากเขาดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม “ไปทานอาหารเย็นมา มีความสุขมั้ย”
พอนึกถึงใบหน้าของกว่านอิง ฉางฉิงก็รู้สึกกลัวลนลานไปหมด
ซ่งฉู่อี๋คิดว่าเธอร้อนตัว เขาก็เลยฉีกยิ้มมากขึ้น “วันนี้คุณพ่อคุณโทรมาหาผม เราคุยกันเรื่องงานของคุณ คุยกันนานมากเลย”
“โธ่ เจ้าร็อบเบน แกกัดขากางเกงฉันอีกแล้ว ซนจริงๆ เลย” ฉางฉิงรีบก้มหน้าก้มตาทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วก้มตัวลงไปคุยกับเจ้าร็อบเบนอย่างเป็นกันเอง
“ร็อบเบน...” ซ่งฉู่อี๋เรียกด้วยน้ำเสียงน่ากลัวและเย็นยะเยือก
เจ้าร็อบเบนตัวสั่น แล้วนั่งลงที่ข้างเท้าเขาอย่างว่านอนสอนง่าย
ฉางฉิงเองก็เหมือนกับเจ้าร็อบเบน เธอมองเขาอย่างเชื่อฟัง สองตาฉายแววน้อยใจ
ประกายความเคร่งขรึมฉายแวบขึ้นมาในดวงตาคู่เรียวยาวของซ่งฉู่อี๋ พอเขาก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ฉางฉิงก็รีบเอามือปิดปากตัวเองทันที ส่วนดวงตาก็เบิกกว้าง
เขางงงัน “คุณทำอะไรน่ะ”
ฉางฉิง “...”
เธอนึกว่าเขาจะลงโทษด้วยการจูบเธออีก เธอเข้าใจผิดไปเองอย่างนั้นเหรอ
“คิดว่าผมจะจูบคุณ?” เดิมทีซ่งฉู่อี๋โกรธมาก แต่ตอนนี้เธอกลับทำให้เขาหัวเราะออกมา
นึกไม่ถึงว่าเขาจะหัวเราะเยาะเธอ ฉางฉิงหงุดหงิดโมโห “ก็ไม่ใช่หรือไงล่ะ”
“จูบกับผู้หญิงที่แม้แต่หายใจก็ทำไม่เป็น มันสนุกตรงไหนกันล่ะ” ซ่งฉู่อี๋ก้มตัวและเลิกคิ้ว เสียงชัดใสของเขาแฝงไปด้วยความหมายที่ลุ่มลึก
ฉางฉิงโมโหจนใบหน้าแดงก่ำ
คิดไม่ถึงว่าเขาจะชั่วร้ายขนาดนี้ ขโมยจูบแรกของเธอไปแล้ว ยังจะมาหัวเราะเยาะว่าเธอจูบไม่เป็นอีก
เธอทำเสียงฮึดฮัดทางจมูก “แน่จริงก็อย่ามาจูบฉันไปตลอดชีวิตแล้วกัน ถ้าจูบฉันอีกคุณก็เป็นหมู”
ซ่งฉู่อี๋เอามือสอดกระเป๋ากางเกงอย่างไม่สะทกสะท้าน ส่วนริมฝีปากยังคงยิ้มอยู่ “ถ้าผมเป็นหมู คุณเป็นภรรยาผม...งั้นคุณก็เป็นเมียหมู[1]น่ะสิ คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าแบบนี้ดีแล้ว”
“คุณน่ะสิเมียหมู พวกคุณเป็นเมียหมูกันทั้งบ้านเลย” ฉางฉิงรู้สึกเกลียดเหลือเกินจริงๆ
เมื่อเห็นท่าทางห่อเหี่ยวของเธอ ซ่งฉู่อี๋ก็ยิ้มเล็กน้อย “อยากจะแสดงละครจริงๆ เหรอ”
ฉางฉิงรีบพยักหน้าตอบ ใบหน้าเปี่ยมด้วยความหวังขึ้นมาทันที แล้วเธอก็พูดประจบเอาใจว่า “ขอเพียงคุณอนุญาต ฉันจะซื่อสัตย์ภักดีต่อคุณเหมือนกับสตรีที่รักเกียรติยิ่งชีพอย่างแน่นอน ถึงแม้ในอนาคตคุณจะไล่ให้ฉันออกนอกลู่นอกทาง ฉันก็จะไม่ออกนอกลู่นอกทางเด็ดขาด”
“คุณจะเป็นสตรีที่รักเกียรติยิ่งชีพ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ” ซ่งฉู่อี๋เบ้ปาก สีหน้าดูเฉยเมย “เอาอย่างนี้แล้วกัน คืนนี้คุณช่วยอาบน้ำให้เจ้าร็อบเบนหน่อย แล้วผมจะยอมให้คุณแสดงละคร”
“จริงหรือเปล่าคะ” ฉางฉิงก้มลงมองน้องหมาที่น่ารัก ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าเขาจะใจดีขนาดนี้
“จริง” ซ่งฉู่อี๋ยื่นสายจูงสุนัขให้เธอ
ฉางฉิงคว้าสายจูง “ปกติคุณพาเจ้าร็อบเบนไปอาบน้ำที่ร้านเพ็ทช็อปไม่ใช่เหรอคะ”
“ใช่” ซ่งฉู่อี๋อมยิ้ม “เพราะฉะนั้นคืนนี้คุณอาบน้ำให้มันก็จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปในตัว แบบนี้เยี่ยมไปเลยไม่ใช่เหรอ”
ฉางฉิงตำหนิอยู่ในใจ ขี้เหนียวจริงๆ
แต่แค่ช่วยอาบน้ำให้เจ้าร็อบเบน เขาก็จะยอมให้เธอแสดงละคร ฉางฉิงก็รู้สึกดีใจมากอยู่ดี
ระหว่างที่เดินขึ้นไปบนห้อง เธอก็ซักถามถึงสิ่งที่ต้องระวังในการอาบน้ำให้เจ้าร็อบเบนไม่หยุดหย่อน แต่ปรากฏว่าซ่งฉู่อี๋ตอบกลับเธอแค่หนึ่งประโยค “ผมเองก็ไม่เคยอาบน้ำให้มัน แล้วจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ”
ฉางฉิงถึงกับจุก
_ _ _ _ _ _ _ _
พอกลับมาถึงบ้าน ฉางฉิงก็เสิร์ชหาขั้นตอนการอาบน้ำให้น้องหมาทางอินเตอร์เน็ต จากนั้นเธอก็จูงเจ้าร็อบเบนไปที่ห้องน้ำด้วยความตื่นเต้นร่าเริง เริ่มต้นด้วยการใช้หวีช่วยสางขนให้มันก่อน แล้วค่อยปรับอุณหภูมิน้ำให้เหมาะสมสำหรับอาบน้ำ
ตอนแรกเจ้าร็อบเบนก็น่ารักเชื่อฟังดีอยู่หรอก แต่พอเนื้อตัวเปียก จู่ๆ มันก็ออกแรงสะบัดตัวขึ้นมาทันที
เพียงพริบตาเดียวฉางฉิงก็เปียกไปหมดทั้งหน้าทั้งเสื้อผ้า ในจมูกก็มีแต่กลิ่นของสุนัข
เธอตัวแข็งทื่ออยู่สองสามวินาที พอเช็ดหน้าเช็ดตาเสร็จแล้วก็เทแชมพูอาบน้ำให้น้องหมาต่อ
ขณะที่เดินถือแก้วน้ำมาที่ห้องนั่งเล่น ซ่งฉู่อี๋ก็ได้ยินเสียงสั่นเครือของหญิงสาวดังลอยมาจากห้องน้ำ “โธ่เอ๊ย ร็อบเบน เจ้าร็อบเบน แกอย่ากระดุกกระดิกนักสิ แม่บุญธรรมไม่ได้คิดเอาเปรียบอะไรตรงนั้นของแกแน่นอน แค่อยากจะช่วยล้างให้สะอาดๆ ตรงนั้นมันเหม็นมากเลย เดี๋ยวแกออกไปหาแฟนข้างนอก แล้วแฟนจะรังเกียจเอา แล้วก็ไม่อยากมีลูกกับแกนะ...”
แก้วน้ำในมือของซ่งฉู่อี๋ถึงกับสั่น...
......................................
[1] เมียหมูมีอีกความหมายหนึ่งว่าคนโง่