ตอนที่ 110 ตัวละครหลักของดาวเคราะห์อความารีน
บางคนเคยกล่าวว่าหากคนทบทวนชีวิตทีท่ผ่านมา เขาย่อมรู้ว่าการกระทำผิดในอดีตจะกลับมาหลอกหลอน
หากคำพูดนั้นเป็นจริง หานเซี่ยวก็รู้สึกว่าเขาถูกผูกมัดให้กลายเป็นเจ้าของบ้านผีสิง รายล้อมไปด้วยวิญญาณผู้ชิงชัง เนื่องจากศัตรูทุกคนที่เขาฆ่าล้วนมองเขาด้วยสายอาฆาต
ในช่วงสำคัญ หานเซี่ยวใช้ทักษะซุ่มยิงอันน่าทึ่งเขาเพื่อควบคุมสถานการณ์ เขาให้เวลาทหารรับจ้างได้จัดกลุ่มใหม่ และให้สไนเปอร์ที่เหลือรอดใช้โอกาสเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดหลบภัยใหม่
เหล่าทหารรับจ้างทำให้หานเซี่ยวเป็นนักสู้หลัก และทุกคนก็คอยสนับสนุนเขา แผนของศัตรูคือการสะกดข่มหานเซี่ยวด้วยการระดมยิง เหล่าทหารรับจ้างด้านหลังช่วยลดแรงกดดันให้เขาได้มาก และนี่ก็ชักนำจุดแข็งเขาออกมาและทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้น
ท่านกำลังซุ่มโจมตีขณะเคลื่อนที่
ท่านได้เรียนรู้เทคนิค[การซุ่มยิงแบบเคลื่อนที่](100/100)
ท่านเข้าใจ[การซุ่มยิงแบบเคลื่อนที่]แล้ว!
การซุ่มยิงแบบเคลื่อนที่ระดับ1(0/4500) : ลดการสูญเสียความแม่นยำจากการยิงแบบเคลื่อนไหว +2%ความแม่นยำการยิง +1%อัตรายิงเมื่อใช้ปืนไรเฟิลซุ่มยิง
หานเซี่ยวตระหนักว่า[การซุ่มยิงแบบเคลื่อนที่]ไม่ใต้องใช้ค่าประสบการณ์จำนวนมาก เขาโอนค่าประสบการณ์ลงทักษะและเพิ่มเป็นระดับ4 เขาเริ่มคุ้นชินกับปืนขึ้นและสามารถใช้อาวุธได้เต็มประสิทธิภาพ
หลังทำลายเฮลิคอปเตอร์ได้ สถานการณ์ก็กลับของฝ่ายป้องกัน เดิมทีศัตรูอยากใช้ระเบิดเพื่อเป่ากำแพงชั้นนอกของสวนและขับรถเข้าไป แต่ทว่า แผ่นเหล็กหนาและคอนกรีตที่ถูกซ่อมอย่างเร่งด่วนทำให้กำแพงภายนอกไม่ออกระเบิดได้
จากนั้นศัตรูก็เปลี่ยนแผนและอยากกำจัดผู้คุ้มกันฐานโดยตรง แต่พวกเขากลับถูกหยุดโดยหานเซี่ยวที่จู่ๆก็ปรากฏขึ้น ศัตรูตระหนักว่าการโจมตีของพวกเขากำลังพลิกกลับ พวกเขาเริ่มถอยกำลังและทิ้งกองศพไว้
เฮลิคอปเตอร์อีกลำตีวงกลับและบินออกไปจากฐาน เฮลิคอปเตอร์ไม่กล้าบินใกล้พื้น นักบินกลัวว่าหานเซี่ยวจะยิงถังเชื้อเพลิงและที่เก็บกระสุน ซึ่งจะทำให้เกิดการระเบิด
ในที่สุดการต่อสู้ก็จบลง หานเซี่ยวถอนหายใจอย่างแรง พลังชีวิตเขาลดลงกว่า600หน่วย ระดับความทนทานของชุดเกราะแม่เหล็กเขาลดลงอย่างมาก แต่เขาก็ได้ซื้อชิ้นส่วนติดตัวมาบ้าง ดังนั้นเขาจึงสามารถซ่อมแซมมันได้
เหล่าทหารรับจ้างข้างเขาพากันทรุดลงด้วยความเหนื่อยล้า เฉินลี่เดินมาหาพวกเขา เขาอยากรู้เกี่ยวกับความสามารถของหานเซี่ยว เขาอยากค้นหาความสามารถในการต่อสู้ของหานเซี่ยวจนหมดเปลือกและถาม“มิสเตอร์แบล็ค คุณไหวนะ?”
หานเซี่ยวโบกมือเพื่อบอกว่าเขาไม่เป็นไร
แม้เฉินลี่จะดูโล่งใจ แต่ในความเป็นจริงเขากลับตกใจ เขาไม่คิดว่านักฆ่าระดับแมงป่องจะเชื่อถือได้มากกว่าพี่น้องตัวต่อ
การยิงศัตรูภายใต้การระดมยิงไม่ใช่สิ่งที่บุคคลระดับแมงป่องจะทำได้
เฉินลี่สงสัยว่ามิสเตอร์แบล็คคงเป็นสมาชิกใหม่ของตาข่ายมืด ซึ่งเป็นตัวอธิบายถึงระดับเขาได้ดี ตามฝีมือเขาในการต่อสู้ ตราบเท่าที่เขารอดชีวิต การไปถึงระดับภูติผีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขา
รอบสามเสร็จสิ้น : ท่านได้รับค่าประสบการณ์150000หน่วย
ข้อกำหนดภารกิจเปลี่ยนแปลง
ข้อกำหนดรอบ4 : ป้องกันการโจมตี5ระลอก
รางวัล : ค่าประสบการณ์4หมื่นต่อระลอก(ค่าประสบการณ์สะสมจะถูกเก็บหากภารกิจล้มเหลว)
รางวัลพิเศษ : ค่าประสบการณ์1แสนหน่วย
หานเซี่ยวรู้สึกหมดหนทาง ทำไมมันถึงมีภารกิจป้องกันอีก?มันจะหลากหลายกว่านี้?
ป้อมทั้งสามถูกทำลาย และทหารรับจ้างจำนวนมากก็เสียชีวิต ภารกิจทั้งหมดจะเป็นการป้องกันไร้สิ้นสุด?!
การปลอบใจอย่างเดียวคือค่าประสบการณ์และรางวัลพิเศษ บางทีรางวัลพิเศษอาจเป็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังข้อกำหนดทั้งหมดของภารกิจ ศัตรูจะใช้กลยุทธ์พิเศษอะไรในรอบนี้?
หานเซี่ยวเดินไปยังเขตโลจิสติกส์เพื่อเริ่มซ่อแมซมอุปกรณ์ที่เสียหายและเติมกระสุนที่หมด ระหว่างทางไป เขาพบกองทหารรับจ้างที่มองเขาอย่างเสื่อมใส ดูเหมือนพวกเขาจะมอบ’ไฟเขียว’ให้หานเซี่ยวเป็นผู้นำของพลซุ่มยิงทั้งหมดในกองกำลังแทนพี่น้องตัวต่อ
กองกำลังเหล่านี้ใช้เวลาทั้งคืนเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ส่วนพวกที่ไม่บาดเจ็บก็นอนหลับอย่างสบาย
ฝนหยุดตกตอนค่ำ พื้นเป็นดินโคลนผสมกับเลือดและปลอกกระสุน กลิ่นฉุกแปลกๆปล่อยออกจากพื้นดิน
หานเซี่ยวเตรียมหลับตาเพื่องีบหลับสั้นๆ แต่ก็ได้ยินความปั่นป่วนทีเกิดจากอุปกรณ์สื่อสาร
“เป้าหมายปรากฏแล้ว!”
หานเซี่ยวลืมตาและมองคฤหาสน์
ชายชราหัวล้านและสุภาพบุรุษดูดีปรากฏขึ้นด้านหลังรั้วคฤหาสน์ กองทหารรับจ้างทั้งหมดตื่นตระหนกและจ้องมองเป้าหมายที่คาดว่าจะเป็นคนว่าจ้างพวกเขา
เมื่อกองทหารรับจ้างและนักฆ่ามาถึงตรงหน้าเขา ชายชราก็เริ่มพูด“ขอบคุณสำหรับการปกป้องของทุกท่าน ตอนนี้ฉันจะขอเรียกชื่อของคนบางคนที่ฉันอยากพูดด้วย”
ชายชราหัวล้านเริ่มกล่าวรายชื่อ ชื่อเป็นของเหล่าผู้บัญชาการทหารรับจ้างและนักฆ่าที่โดดเด่น มิสเตอร์แบล็คซึ่งเป็นชื่อรหัสเขาก็ถูกเรียกเช่นกัน
“...โปรดเข้าไปในคฤหาสน์สักสิบนาที ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
เงื่อนไขสำหรับความล้มเหลวภารกิจมีการเปลี่ยนแปลง
เงื่อนไขการห้ามเข้าคฤหาสน์ ซึ่งจะนำไปสู่ความล้มเหลวหมดไป
การปรากฏของตัวละครลึกลับทั้งสองสร้างการสนทนาที่รุนแรงระหว่างความอยากรู้และความสับสน
คลื่นความรู้สึกไม่สบายใจไหลท่วมในหัวใจของหานเซี่ยว เขาสามารถจำหนึ่งในนั้นได้
มันคือเข้า เบนเน็ต แอนเดอร์สัน!
ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้ดูดี ในความเป็นจริง แค่ประโยคเดียวก็เกินพอแล้ว
เบนเน็ตคือตัวละครหลักของดาวเคราะห์อความารีน!
น่าทึ่ง ใช่ไหมละ?มีบางสิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่า
เบนเน็ตคือตัวละครหลักอีกตัวหนึ่งในเนื้อเรื่องหลักของอความารีนซึ่งสามารถนำผู้เล่นไปสู่ภารกิจเฉพาะของเนื้อเรื่องหลัก อย่างที่กล่าวมา มันหมายความว่าเบนเน็ตเป็นตัวละครสำคัญที่ผู้เล่นหลายคนอย่างสานสัมพันธ์
นอกจากนี้ เบนเน็ต...ยังเป็นผู้ฝึกสอนทักษะลับทั่วไปอีกด้วย
ดวงตาหานเซี่ยวทอประกายแรงกล้า ในเวลาไม่ถึงสิบนาที เขาทำการโทรหาตระกูลรอทไชล์
“อัลฟอนซัส ผมอยากแลกเปลี่ยนของบางอย่าง...”
“เอ่อ?ไม่ใช่ว่าคุณกำลังทำภารกิจอยู่งั้นหรอ?คุณอยากได้อะไร?”
“กระบี่ของหัวหน้าผู้พิทักษ์สีเงินและปืนไรเฟิลHOC”
“...อืม ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะมีงานอดิเรกเช่นนี้ ผมจะให้ครช่วยหาของใคร พวกเขาจะส่งไปให้คุณในสองวัน”
ท่านขอแลก[กระบี่ของหัวหน้าผู้พิทักษ์สีเงิน]จากตระกูลรอทไชล์
ลบแต้มความชอบ300หน่วย : สถานะความสัมพันธ์ในปัจจุบัน :เป็นมิตร
หานเซี่ยวพยักหน้าและวางสาย กองกำลังทั้งหมดกำลังมองหาบุคคลที่ถูกเลือกเมื่อเข้าคฤหาสน์
การตกแต่งภายในคฤหาสน์เป็นตามสไตล์คลาสสิค นอกจากโคมระย้าบนเพดาน ไม่มีร่องรอยของความสิ้นเปลืองในส่วนอื่นๆ ชายชราหัวล้านนั่งบนโซฟาเขาและสุภาพบุรุษใบหน้าอ่อนโยนก็ยืนอยู่ข้างหลังเขา
“นั่งได้ทุกที่ตามต้องการเลย”
เหล่าผู้ถูกเลือกจับจ้องที่นั่งบนโซฟาและเก้าอี้ตามมุมต่างๆ หานเซี่ยวยังคงยืนเฉย เขายืนพิงตู้กระจกที่เก็บขวดไวน์ไว้ ตั้งใจมองเบนเน็ต เขาอาจดูเหมือนชายวัยกลางคน แต่เขามีอายุเลย60ปีแล้ว เขาเป็นยอดมนุษย์ที่ทรงพลัง นั่นทำให้เขาดูอ่อนกว่าวัย
ชายชราหัวล้านดันแว่นขึ้นและกล่าว“ให้ฉันได้แนะนำตัวก่อน ฉันชื่อหวาง หยวน และฉันต้องได้รับการปกป้องจากพวกคุณเป็นเวลานาน วันนี้ ฉันเรียกพวกคุณมาที่นี่เพื่อให้ได้พบพวกคุณ นอกจากนี้ คฤหาสน์จะเปิดให้พวกคุณเข้ามาได้ตลอด หากพวกคุณต้องการ พวกคุณสามารถพักในนี้ได้”
“หวางหยวน...ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน”ทุกคนมองกันอย่างสับสน พวกเขาสับสนกับความจริงที่ว่าบุคคลลึกลับทั้งคู่กลับตัดสินใจหลบภัยในคฤหาสน์แทนที่จะเป็นเมืองนกนางนวล นอกจากนี้ ใครคือศัตรูที่ไล่ล่าพวกเขาอย่างไม่หยุดยั้ง?
พวกเขาตระหนักว่าหวางหยวนไม่มีเจตนาตอบสิ่งที่ค้างคาในใจพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ถามคำถามเหล่านี้ นอกจากนี้ การถามคำถามเช่นนั้นยังไม่ใช่การสานสัมพันธ์ที่ฉลาดนัก
“พวกคุณเป็นกำลังหลักในการปกป้องคฤหาสน์หุบเขาแม่น้ำ และเมื่อภารกิจสำเร็จ”หวางหยวนกล่าว“ฉันจะมอบรางวัลเพิ่มเติมให้เป็นการส่วนตัว”
ดวงตาของผู้บัญชาการทหารรับจ้างสว่างขึ้น รางวัลที่กำหนดจากภารกิจย่อมแบ่งปันให้เพื่อนพ้องทหาร แต่รางวัลที่ไม่ถูกประกาศก็ย่อมไม่ต้องแบ่งให้ผู้ใต้บัญชา ผู้บัญชาการสามารถใช้รางวัลได้ตามใจชอบ
การประชุมไม่ยาวนาน เหล่าผู้บัญชาการกลับไปดูแลกองกำลังของพวกเขา กระสุนสำรองบางส่วนถูกย้ายไปในคฤหาสน์เพื่อเก็บไว้ คฤหาสน์ใหญ่มาก มันมีห้องว่างมากมายให้ทหารได้พักผ่อน
กลุ่มคนเริ่มย้ายเข้าไปในคฤหาสน์อย่างคึกคัก หวางหยวนและเบนเน็ตนั่งนิ่งสักพักก่อนตัดสินใจเคลื่อนไหว
หานเซี่ยวรีบเดินไปหาทั้งคู่อย่างรวดเร็ว
“มิสเตอร์แบล็ค มีอะไรงั้นหรอ?”หวางหยวนยิ้มเล็กน้อย เขาจำฝีมือของคนตรงหน้าได้ดี มันยังคงแจ่มแจ้งในหัวเขา
หานเซี่ยวมองเบนเน็ตและกล่าว“ผมอยากพูดกับเขาเป็นการส่วนตัว”
หวางหยวนและเบนเน็ตตกใจ พวกเขามองหน้ากันสักพัก หวางหยวนยิ้มและเดินไปอีกด้านหนึ่งของห้องเพื่อให้หานเซี่ยวและเบนเน็ตคุยกันลำพัง
“ทำไมเธอถึงอยากพูดกับฉัน?”เบนเน็ตสับสน“เราเคยพบกันมาก่อนงั้นหรอ?”
หานเซี่ยวสูดหายใจลึกและพูดเบาๆ“เบนเน็ต แอนเดอสัน คุณคือตำนานที่ยังมีชีวิตในยุคสงครามก่อนหน้า คุณเคยฝึกในคายฝึกมิชิโฮะ ซึ่งอยู่ภายใต้หน่วยข่าวกรองออดิน่า คุณเป็นหนึ่งในสายลับที่ฝีมือดีสุดและเป็นเครื่องจักรสังหาร หลังผ่านช่วงสงคราม คุณกลายเป็นหัวหน้าของสายลับออดิน่าที่มีชื่อรหัสว่า[ปีศาจสีฟ้า] คุณได้แทรกซึม ก่อวินาศ ลอบสังหาร และปฏิบัติการแอบแฝงมาหลายร้อยครั้ง คุณออกจากออดิน่าและในที่สุดก็กลายเป็นคนทรยศ ตอนนี้คุณมีค่าหัวถึง15ล้านเหรียญ!”
“หลังคุณแปรพักตร์ คุณก็หายตัวไปสองปี ตำนานเล่าว่าคุณได้รับการฝึกฝนแสนหฤโหดในทวีปตอนเหนือ คุณกำลังตามล่าสัตว์ป่าในเทือกเขาคาโรโซ่ เมื่อคุณปรากฏอีกครั้ง คุณกลายเป็นชายที่แข็งแกร่งสุดบนดาวนี้ คุณเข้าร่วมสงครามอีกครั้ง แต่คุณไม่ได้ช่วยเหลือขุมอำนาจใดๆ คุณกลับช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในการหลบหนี และเหตุนั้น คุณจึงสร้างองค์กรหนึ่งขึ้น ซึ่งคือบรรพบุรุษขององค์กรตาข่ายมืดในปัจจุบัน”
“คุณปรากฏตัวนับครั้งไม่ถ้วนในภูมิภาคที่ถูกทำลาย และคนจำนวนมากก็ได้คุณช่วยไว้ ท้ายที่สุดคุณก็กลายเป็นฮีโร่ นอกจากนี้ คุณยังทิ้งร่องรอยไว้โดยการต่อสู้สุดน่าเหลือเชื่อ เมื่อสงครามจบลง คุณออกจากแสงแดด ปกปิดร่องรอยและหายตัวไป นับจากนั้น คุณก็ไม่เคยปรากฏต่อสาธารณะชนอีก”
คำพูดทั้งหมดนี้เป็นคำอธิบายอย่างเป็นทางการของเบนเน็ตในเกม หานเซี่ยวไม่อาจจำรายละเอียดอื่นได้และจำได้แค่ภาพรวมคร่าวๆ
มีตัวละครหลักหลายตัวบนทุกดาว พวกเขาก็เหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้า ทิ้งร่องรอยที่น่าประทับใจเอาไว้ให้ผู้คนค้นหา
เบนเน็ตคือ’ตัวละครหลัก’ของดาวเคราะห์อความารีน แม้กระทั่งฮีล่าก็ยังไม่อาจเทียบกับเบนเน็ตได้ การเปิดตัวของเทพธิดาแห่งความตายเป็นของเวอร์ชั่นหลัง
หลังได้ยินคำพูดของหานเซี่ยว เบนเน็ตก็ประหลาดใจ หานเซี่ยวเป็นคนแรกที่ชี้ได้ถึงตัวตนแท้จริงเขา
แม้จะผ่านมาหลายสิบปี บางคนก็ยังจำเขาได้ ในอดีตเบนเน็ตนั้นเย็นชาเหมือนก้อนน้ำแข็ง แต่ตอนนี้เขากลับเปลี่ยนไปแล้ว เขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ แต่กลับยังมีคนสามารถจดจำตัวตนจริงเขาได้?
การคาดเดาที่น่าจะเป็นไปได้มากสุดผุดในใจของเบนเน็ต เขาถามอย่างลังเล“งั้น เธอก็เป็นแฟนคลับฉัน?”