บทที่ 9 - A Master's Metagame
Chapter 9: A Master's Metagame
สมาชิกกิลด์ท้าทายสวรรค์เต็มไปด้วยความผิดหวังเมื่อพวกเขาเห็นหัวหน้ากิลด์ของพวกเขาแพ้อย่างหมดท่า พวกเขาทั้งหมดต่างขึงตาใส่กู่เฟยและFireballก่อนพากันจากไป
Fireballผิวปากสบายใจและเยาะเย้ยพวกเขาว่ากระแสน้ำเปลี่ยนไปแล้ว ในใจของเขาโปรเพลเยอร์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่ครั้งหนึ่งเขาเคยนับถือตอนนี้เหลือเพียงคำเดียวสำหรับเขา - เห้อออออออออ!
"ขี้เมาเพื่อนรัก!" Fireballได้ตัดสินใจเลือกไอดอลคนใหม่ของเขาทันทีหลังจากที่คนของกิลด์ท้าทายสวรรค์จากไป
"นายรู้ได้ไงว่าเขาอยู่ข้างหลัง?" Fireball ถาม
"เพราะเขาแผ่จิตสังหาร" กู่เฟยหัวเราะ
"จิตสังหาร.... มันมีอยู่จริงเหรอ?" Fireballถามเสียงเบา
"แน่นอน" กู่เฟยพยักหน้า "ความสามารถในการตรวจจับจิตสังหารของฉันเกือบสมบูรณ์แบบ แต่ลุงสี่ของฉันทำได้ดีกว่านี้ อย่างเช่นเขาสามารถหลับสนิทได้ถึงแม้นายจะทำเสียงดังใกล้ๆ แต่เขาจะตื่นขึ้นทันทีถ้าหากว่านายใช้สมาธิอยู่กับเขามากเกินไป!
"นายเป็นวูซูจริงๆเหรอเนี่ย?!" Fireballกล่าว (Wushu หาในGOOGLEเจอครับ)
"ไม่ใช่วูซู กังฟูต่างหาก!" กู่เฟยแก้ไข
"ต่างกันตรงไหน?"
"วูซูมีไว้เสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย ส่วนกังฟูเป็นสิ่งที่ใช้กำราบศัตรูและปกป้องบ้านเกิด!" กู่เฟยถอนหายใจขณะที่เขาพูด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาขัดแย้งกับพ่อของเขา พ่อของเขาย้ำแล้วย้ำอีกว่าพวกเขาเรียนวูซู แต่กู่เฟยรู้สึกว่ามันเป็นกังฟูชัดๆ
"มีบ้านเมืองที่ไหนให้ปกป้องในยุคนี้ด้วยเหรอ?" Fireballกล่าว
"ไม่มี" กู่เฟยหัวเราะ "นั่นคือเหตุผลที่ฉันอยู่ที่นี่"
"โอ้.... ฉันเรียนด้วยได้ไหม?" Fireballเริ่มเกิดความสนใจ
"นายมัน...." กู่เฟยลังเล
"ฉันคงอายุเยอะเกินไปสินะ" Fireballรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเนื่องจากเขามีอายุยี่สิบแล้ว ตามเนื้อเรื่องของนิยายจีนบนเน็ตพวกตัวละครหลักที่อายุเท่าเขาต่างก็มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วยุทธภพแล้ว หากFireballเริ่มฝึกเอาตอนนี้เขากลัวว่าเขาคงหาแฟนไม่ได้กันพอดี
ทว่ากู่เฟยส่ายหัว "กังฟูเป็นสิ่งที่ควรเรียนหลังจากอายุสิบห้าหรือสิบหกเป็นอย่างน้อย อายุของนายก็เท่าฉัน นายจะแก่เกินเรียนได้ยังไง? เพียงแต่ว่าการเรียนกังฟูใช้เวลานานมาก อย่างน้อยก็แปดถึงสิบสองชั่วโมงต่อวัน นายมีเวลาถึงขนาดนั้นเหรอ?"
"ไม่" Fireball ตอบโดยไม่ต้องคิด
"หรือไม่นายก็ใช้เวลาที่นายเล่นเกมไป..."
"ไม่่ๆ ช่างมันเถอะ ฉันไม่เรียนแล้ว เกมต้องมาก่อน!"
กู่เฟยเห็นอย่างนี้ก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน
ตอนพวกเขากลับมากลุ่มคนพเนจรทั้งหกก็เกิดใหม่พอดี กู่เฟยกำลังจะพุ่งเข้าใส่พวกมันหลังจากเก็บแล่เนื้อที่โยนทิ้งระหว่างการต่อสู้ขึ้นมาใหม่ แต่Fireballพูดขึ้นมาจากด้านข้างของเขาว่า "เพื่อน, มอนแถวนี้เวลสูงเกินไปสำหรับฉัน เพราะงั้นฉันจะไปตีมอนที่อื่นนะ!"
"นายให้ฉันช่วยก็ได้" กู่เฟยกล่าว
"ฉันมาเล่นเกมเฟ้ย ไม่ได้มาให้คนอื่นคอยช่วย!" Fireballประกาศอย่างหนักแน่น
"งั้นไว้เจอกัน!" กู่เฟยหัวเราะ
"ค่อยๆเก็บเวลล่ะเพื่อน! ไม่ต้องรีบมาก เดี๋ยวฉันตามไม่ทัน!" Fireballพูดพลางวิ่งและโบกมือลา "ไว้ค่อยไปดื่มกันในเมืองถ้านายยังออนไลน์อยู่!"
"ได้!" กู่เฟยตาม
พวกเขาทั้งสองแยกทางกัน กู่เฟยเก็บเลเวลในเขตปัจจุบันต่อ เขาค่อนข้างชอบตอนที่สู้กับนักดาบปีศาจเพราะเขาไม่ได้มีโอกาสสู้อย่างจริงจังแบบนั้นมานานแล้ว กู่เฟยชอบที่การชนะหรือแพ้สามารถตัดสินกันได้ในชั่วพริบตาเดียว แม้ว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะไม่ชำนาญในการต่อสู้ แต่มันก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่ทุกคนจะเชี่ยวชาญในการต่อสู้เพราะพาราเรลเวิร์ลเป็นเกมที่เต็มไปด้วยการต่อสู้เสมือนจริง เวลานั้นจะเป็นตอนที่ความสนุกที่แท้จริงเริ่มต้นขึ้น
ส่วนสำหรับพวกมอนสเตอร์ตรงหน้าของเขาตอนนี้ กู่เฟยสามารถจัดการพวกมันได้อย่างไม่ยากเย็น ปัญญาประดิษฐ์สุดท้ายก็เป็นได้เพียงปัญญาประดิษฐ์ การโจมตีที่ไร้การผลิกแพลงนั้นไร้ค่าต่อหน้ากู่เฟย สักวันหนึ่งผู้เล่นทุกคนจะเข้าใจรูปแบบการโจมตีของมอนสเตอร์ทุกตัวในเกมนี้ อย่างเช่นคนที่เรียกตัวเองว่านักดาบปีศาจก่อนหน้านี้ก็มีความสามารถนั้น ในท้ายที่สุดตัวเขาจะเป็นผู้เล่นที่น่าหวาดหวั่นอย่างแน่นอน
กู่เฟยเก็บเลเวลแถวๆบ่อน้ำอยู่ราวๆสองชั่วโมง ในสายตาของเขาเขาไม่ได้กำลังสู้อยู่กับมอนสเตอร์แต่เป็นหุ่นฝึกกังฝูที่เขาใช้เป็นประจำทุกวัน เขาสนุกไปกับความรู้สึกของเหงื่อที่เปียกชุ่ม เขาไม่เคยคิดว่าการฝึกที่ซ้ำซากจำเจของกังฟูน่าเบื่อแม้แต่น้อย เหตุผลที่กู่เฟยสามารถพากเพียรฝึกฝนกังฟูในขณะที่สมาชิกคนในตระกูลคนอื่นๆทยอยเลิกกันไปทีละคนก็เพราะเหตุนี้ เขารักศิลปะการต่อสู้ เพราะงั้นเขาจึงไม่เคยเบื่อมัน
กู่เฟยขึ้นถึงเลเวล16หลังจากจัดการกลุ่มคนพเนจรไปอีกหกกลุ่ม เขาตักน้ำจากบ่อน้ำขึ้นมาล้างหน้า ความรู้สึกของน้ำที่สาดกระเซ็นบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น กู่เฟยประทับใจเกมเสมือนจริงนี้จากก้นบึ้งของหัวใจ เขาสัมผัสได้กระทั่งความเย็นของน้ำและความสดชื่นของมัน
ในตอนนั้นเองกู่เฟยก็ได้รับการแจ้งเตือน เขาเช็คกล่องข้อความและตามคาด มันมาจากFireball "เพื่อน นายเวลเท่าไหร่แล้ว?"
"ตอนนี้16" กู่เฟยตอบกลับไป
"โว้วว! โคตรเร็ว! ฉันเพิ่งถึงเวล10เอง" กู่เฟยสัมผัสได้ถึงความหม่นหมองในข้อความของFireball เขาใช้เวลาสองชั่วโมงเพื่อขึ้นเลเวล10 แต่กู่เฟยมีเลเวลเท่าเขาได้โดยจัดการคนพเนจรข้างบ่อน้ำไปเพียงแค่สองกลุ่ม ดูท่าการจัดการกับมอนสเตอร์เลเวลสูงกว่าจะให้ค่าประสบการณ์สูงขึ้นมากทีเดียว
"เพื่อน แล้วนายเก็บเลเวลเสร็จยัง? ฉันฟามเงินมาได้ เพราะงั้นกลับมาเมืองแล้วให้ฉันเลี้ยงสักแก้วซะดีๆ!" Fireball ส่งข้อความมาให้เขาอีกประโยค
"ได้!" กู่เฟยตอบกลับและเก็บของจากมอนสเตอร์ทั้งหกตัวที่เขาล้มไป เขาได้รับเงินจำนวนหนึ่งกับชิ้นส่วนพืชที่ไม่รู้เอาไว้ทำอะไร และมีดแล่เนื้ออีกจำนวนหนึ่ง กู่เฟยได้มีดพวกนี้มากว่าสิบเล่มแล้วและเขาต้องกลับไปขายมัน
แม้มันควรสมจริงที่สุดแต่ผู้เล่นก็ยังคงจำเป็นต้องใช้ระบบคลังเก็บของเพื่อเก็บไอเท็มที่พวกเขาได้รับมาในเกม "กระเป๋า"คือรูปแบบสำหรับระบบคลังเก็บของในพาราเรลเวิร์ล หลังจากเก็บไอเท็มมาเหล่าผู้เล่นจะต้องใส่พวกมันเข้าไปในกระเป๋าด้านซ้ายข้างเอว แล้วไอเท็มพวกนั้นจะถูกเก็บเข้าไปในคลังเก็บของโดยอัตโนมัติ ของที่ถูกเก็บไว้ข้างในจะไม่มีวันตก เมื่อผู้เล่นต้องการใช้ไอเท็ม พวกเขาก็เพียงแค่ต้องใส่มือเข้าไปในกระเป๋า แล้วจอแสดงรายการไอเท็มจะปรากฏขึ้นตรงหน้า เมื่อเลือกไอเท็มที่ต้องการเรียบร้อยมือที่ใส่ลงไปในกระเป๋าจะกำลังถือไอเท็มนั้นอยู่ทันที จากนั้นก็ดึงออกมา มันค่อนข้างคล้ายกระเป๋าของโดราเอมอน
กู่เฟยปีนกลับขึ้นเขาหลังจากเขาจัดแจงพวกไอเท็มทั้งหมดเสร็จ เขามองไปรอบๆและพยายามดูว่าทางไหนคือทางกลับเมือง
ตอนนั้นเองกู่เฟยก็บังเอิญไปเห็นผู้เล่นคนหนึ่งกำลังเก็บเลเวลอยู่แถวบ่อน้ำใต้เนินเขาอีกที่หนึ่งพอดี คนๆนั้นใช้สเตลท์เพื่อแอบลอบเข้าข้างหลังคนพเนจรแล้วใช้แบ็คสแต็ปใส่มันก่อนที่จะแทงใส่มอนสเตอร์ที่ล้อมเขาต่อรัวๆ เขาจะถอยออกมาฟื้นเลือดทันทีเมื่อฆ่ามอนสเตอร์ตัวหนึ่งได้ และเขาก็ทำแบบเดิมซ้ำๆเมื่อHPของเขาฟื้นฟูแล้ว
กริชในมือของคนๆนั้นส่องแสงสีฟ้าจางๆ กู่เฟยยิ้มเมื่อเขานึกออกว่าคนๆนี้คือนักดาบปีศาจ เลเวลของนักดาบปีศาจเหมือนจะอยู่ในช่วงสี่สิบกว่า ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่เขามาเก็บเลเวลที่นี่ อย่างไรก็ตามผู้พเนจรเป็นมอนสเตอร์ที่อยู่กันเป็นกลุ่มซึ่งไม่เหมาะกับผู้เล่นโซโล่ บางทีนอกเหนือจากกู่เฟยที่มีทักษะการต่อสู้ที่ร้ายกาจ นักดาบปีศาจซึ่งเป็นนักยุทธศาสตร์ชั้นยอดอาจเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถทำเช่นนี้ได้ก็ได้
รอบกองไฟเหลือผู้พเนจรแค่สามจากหกตัวที่มีอยู่แต่เดิม เมื่อผู้พเนจรตัวที่สี่เกิดใหม่ นักดาบปีศาจจะพุ่งไปข้างหน้าทันทีและใช้สเตลท์ ลอบเข้าข้างหลัง แบ็คสแต็ป โจมตีปกติ ถอย เติมเลือด รอมอนเกิด แล้วจากนั้นก็วนซ้ำ
อันที่จริงวิธีการโจมตีของนักดาบปีศาจก็เหมือนกับวิธีของกู่เฟยคือสร้างรูปแบบการโจมตีแบบวนซ้ำโดยคิดค้นและดัดแปลงขึ้นตามลักษณะของมอนสเตอร์ที่เจอ กู่เฟยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประทับใจในตัวเขาเล็กน้อย
แต่ต่อมาไม่นานกู่เฟยก็สังเกตเห็นว่ามีคนอีกคนหนึ่งที่กำลังเฝ้ามองนักดาบปีศาจจากเนินเขาใกล้ๆ
คนๆนั้นแต่งชุดคลุมสีม่วงรัดรูปที่เผยให้เห็นสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้หญิง มันยากที่จะบอกว่าเธอหน้าตาเป็นยังไงเนื่องจากเธอหันข้างให้เขาอยู่ แต่กู่เฟยเห็นอย่างชัดเจนว่าเธอเอามือขวากอดมือซ้ายของเธอไว้และเอานิ้วจากมือซ้ายสองนิ้วแตะปากของตัวเอง เธอเฝ้าสังเกตนักดาบปีศาจด้านล่างทุกการเคลื่อนไหว
กู่เฟยไม่คิดเลยว่าจะมีผู้หญิงคนไหนรู้ว่านักดาบปีศาจมีบางสิ่งที่พิเศษ เขาหัวเราะกับภาพที่เห็น ในตอนนั้นนักดาบปีศาจถอยออกมาพักหลังจากฆ่าผู้พเนจรไปอีกตัวหนึ่ง เขาเหมือนสังเกตว่าคลังเก็บของของเขาเต็มเมื่อเขาแตะกระเป๋าดูแล้วถอนหายใจยาวพลางเงยหน้าขึ้นสูง หลังจากนั้นไม่นานนักเขาก็สังเกตเห็นว่ามีคนสองคนกำลังเฝ้ามองเขาอยู่จากยอดเขาด้านบน เขาหันไปรอบๆทีหนึ่งและจากไปหลังจากชะงักชั่วครู่
"ฉันล่ะสงสัยว่าเขาจะรู้ไหมว่าเป็นฉันในระยะเท่านี้" กู่เฟยคิดกับตัวเองเนื่องจากเขาไม่มีอุปกรณ์สวมใส่ที่โดดเด่นเหมือนกับความทรงจำน้ำแข็งของนักดาบปีศาจ
เขาและหญิงสาวแยกกันไปตามทางของตนทันทีเมื่อเป้าหมายของการสังเกตการณ์ชิ่งหนีไป กู่เฟยหัวเราะเบาๆในใจเมื่อเขาสังเกตว่าหญิงสาวคนนั้นมุ่งไปในทิศทางเดียวกันกับนักดาบปีศาจ หรือนักดาบปีศาจผู้นั้นจะมีแฟนคลับ? ต่อมอยากรู้อยากเห็นของเขากระตุกทันที ทว่าเขาก็ยอมแพ้เพราะนึกได้ว่าFireballกำลังรอเขาอยู่ที่ร้านเหล้าในเมือง