บทที่ 4 - Restructuring
Chapter 4: Restructuring
พาราเรลเวิล์ดมีห้าสเตตัสพื้นฐานได้แก่ ความอดทน ความแข็งแกร่ง ความว่องไว สติปัญญา และความรอบรู้ และทุกๆการเลเวลอัพจะได้แต้มสถานะห้าแต้ม กู่เฟยเพิ่มแต้มสถานะลงไปในช่องความว่องไวอย่างไม่ลังเล จากนั้นเขาลองโบกมือดูก็พบว่าหมัดของเขาเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เขารู้ได้ทันทีว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ใช่แค่เขาจะเร็วเท่าตัวเขาในโลกจริงเท่านั้น แต่เขาจะได้สัมผัสกับความเร็วที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ต้องการให้มันมากจนเกินไป - เขาต้องการแค่สภาพร่างกายเดิมของเขา หลังจากนั้นเขาจะได้เอาแต้มสถานะไปลงกับความแข็งแกร่งจนความแข็งแกร่งของเขาใกล้เคียงกับโลกจริง
เนื่องจากที่นี่คือเกม การล้มมอนสเตอร์ได้จึงต้องมีของดรอป หลังจากอัพแต้มสถานะเสร็จเขาก็เริ่มหาร่างกายของพวกมัน เขาพบมีดแล่เนื้อสองเล่มและเงินหกถุง มอนสเตอร์ระดับต่ำจะไม่ดรอปเงินจำนวนมากและเงินแต่ละถุงจะมีเพียงเหรียญทองแดงราวๆสิบสองเหรียญเท่านั้น เขาเอาเงินทั้งหมดใส่ถุงเงินของเขาและเอามีดทำครัวขึ้นสนิมมาเหน็บไว้ข้างเอว
เพื่อความสมจริงทุกอาชีพในเกมนี้จึงไม่มีข้อจำกัดในด้านอุปกรณ์สวมใส่ มันมีเพียงการกำหนดค่าสเตตัสที่ต้องการเพื่อให้ตัวอาวุธไม่เหลื่อมล้ำกับตัวผู้เล่นมากเกินไปเท่านั้น แต่สำหรับอาวุธพื้นฐานอย่างมีดทำครัวพวกนี้ทุกคนยังสามารถใช้ได้โดยไม่มีข้อกำหนด
หลังจากเก็บของทั้งหมดเรียบร้อยแล้วเขาก็เดินไปทางเขาอีกลูก
ที่เขาต่อมาเขาพบกลุ่มมอนสเตอร์แบบเดิมนั่งอยู่รอบกองไฟอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้ดูว่าพวกมันเหมือนกับกลุ่มก่อนหน้านี้หรือไม่ข้อความจากระบบก็เด้งขึ้นมาว่า :เรียกผู้เล่นที่รัก เกมจะปิดตัวลงในอีกสิบวินาที โปรดเตรียมตัวยกเลิกการเชื่อมต่อ 10, 9, 8,...."
หลังการนับถอยหลังสิ้นสุดลง ภาพของเกมก็ดับวูบไป กู่เฟยมองไปรอบๆและตระหนักว่าเขากลับมาอยู่ในห้องของเขาแล้ว
"เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?!" กู่เฟิงคิดพลางเปิดเว็บบอร์ดของเกมเพื่อหาคำตอบ
ในเวลาเดียวกันนั้นฝ่ายผู้พัฒนาของเกมพาราเรลเวิร์ลก็กำลังจัดประชุมฉุกเฉินข้ามคืนเพื่อพูดคุยกันถึงปัญหามากมายที่พวกเขาพบในวันแรกของการเปิดทดสอบเกมรอบเบต้า
เนื่องจากนี่เป็นเกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก พาราเรลเวิร์ลจึงถูกพัฒนาขึ้นอย่างลับๆจนกระทั่งถึงวันเปิดตัวซึ่งดึงความสนใจคนทั่วทุกมุมโลก ในการทดสอบภายใน พวกเขาให้เฉพาะคนของบริษัทเข้าทดสอบเท่านั้น ตลอดช่วงเวลานั้นทุกๆคนต่างทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจเพื่อตรวจสอบทั้งตัวละคร เควส สกิล อุปกรณ์สวมใส่ ตลอดจนถึงข้อมูลพื้นฐานของเกมทั้งหมด แต่ในวันแรกของการเปิดทดสอบรอบเบต้าก็กลับเกิดปัญหามากมาย สภาพแวดล้อมที่สมจริงมากเกินไปทำให้ผู้เล่นหลายคนจัดการเรื่องบางอย่างไม่ได้
ในปัจจุบันปัญหาที่มีการร้องเรียนบ่อยที่สุดคือมอนสเตอร์ในพื้นที่เริ่มต้นน่ารักเกินไป พวกผู้เล่นหญิงทุกคนต่างต่อว่าถึงเรื่องนี้ และเหล่าผู้เล่นชายก็ไม่พอใจเช่นเดียวกันเนื่องจากหากพวกเขาโจมตีพวกมัน พวกผู้เล่นหญิงก็จะมองพวกเขาเป็นปีศาจไร้หัวใจ
แต่ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ พวกเขาสามารถจัดการได้อย่างดายโดยปรับรูปลักษณ์และลักษณะของมอนสเตอร์ให้ดุร้ายมากขึ้น ทว่ามันมีปัญหาหนึ่งซึ่งเหล่าผู้พัฒนาคิดไม่ตกเนื่องจากมันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากผู้เล่น
การทดสอบรอบเบต้าเพิ่งเริ่มไปได้ครึ่งวันปัญหาเกี่ยวกับความรุนแรงก็เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน เหล่าผู้พัฒนาเกมไม่รู้จริงๆว่าควรจะจัดการกับเรื่องพวกนี้ยังไง การจำลองประสาทสัมผัสของมนุษย์เป็นหัวใจหลักของเกมเสมือนจริง การแก้ไขมันเท่ากับเป็นการท้าทายโครงสร้างของเกมดังนั้นเทคโนโลยีธรรมดาจึงใช้แก้ไขมันไม่ได้ ในท้ายที่สุดหลังจากถกเถียงกันหลายชั่วโมงพวกเขาได้ตัดสินใจให้การเริ่มโจมตีถือเป็นการPKทันที นอกจากนี้พวกเขาก็จะยกระดับการป้องกันการPKไปเป็นเลเวล10 จากนั้นพวกเขาก็คงได้แต่รอดูว่าการปรับเปลี่ยนนี้จะทำให้มีผู้เล่นไปวิ่งตัดสกิลคนอื่นหรือไม่ (อธิบายนิดหนึ่งคนไม่เคยเล่นจะงง ปกติคนที่เริ่มโจมตีผู้เล่นคนอื่นจะมีบทลงโทษหรือข้อเสียบางอย่าง ซึ่งการแก้ไขให้การโจมตีถือเป็นการPKทันทีอาจทำให้ผู้เล่นบางคนไปวิ่งตัดสกิลคนอื่นได้)
"ดีแล้ว นี่แหละคือความสมจริง! เกมเสมือนจริงต้องเหมือนจริง นี่คือสิ่งที่เราต้องการ!" หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของบริษัทพยายามพูดปลอบใจทุกคน
อย่างไรก็ตามปัญหาต่อไปคือสิ่งผิดศีลธรรมธรรมที่ไม่สามารถอ้าง 'ความสมจริง' ได้ มันคือการลวนลามผู้เล่นหญิง
ทางผู้พัฒนาไม่คาดว่าเทคโนโลยีจะเสมือนจริงจะเผยด้านมืดของคนออกมาถึงขนาดนี้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากระบบจำลองประสาทสัมผัสเป็นระบบรวม ทางบริษัทจึงไม่สามารถลบเฉพาะระบบจำลองประสาทสัมผัสทางเพศได้ นอกจากนี้สิ่งนี้ก็เป็นหนึ่งในจุดขายของเกมและสมาชิกบอร์ดระดับสูงก็ไม่อยากให้เอามันออก
สุดท้ายแผนที่ออกมาแก้ไขปัญหานี้ก็คือระบบตัวเลือกที่ต้องถูกยอมรับโดยทั้งสองฝ่ายเท่านั้น อย่างไรก็ตามแผนนี้ทำให้คนของแผนกเทคโนโลยีถึงกับงง ลองนึกภาพว่ามีคู่รักคู่หนึ่งกำลังหลงไปกับอารมณ์เสน่ห์หาและอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น... แต่จู่ๆก็มีเสียง 'ตึ๊ง' เด้งขึ้นมาพร้อมกับกล่องข้อความที่ระบุว่าการกระทำต่อไปจะเป็นการกระทำ 'x' คุณยินยอมหรือไม่ดูสิ? แม้ตอนแรกจะเป็น 'ยินยอม' ก็ตาม แต่บรรยากาศที่หอมหวานในตอนแรกอาจจะลดลงจนกลายเป็น 'ไม่' ก็ได้
นอกจากนี้พวกเขาจะกำหนดยังไงว่าการกระทำไหนคือการกระทำ 'x'? จูบเหรอ? ลูบไล้เหรอ? เมื่อมีคนเสนอเหตุการณ์สมมุติว่า [ผู้เล่นAจะลูบคลำคุณ คุณจะยอมรับหรือไม่?] ขึ้นมาถก ทุกๆคนในที่ประชุมก็ต่างกุมขมับ
ในท้ายที่สุดบอสใหญ่ของพวกเขาก็ตัดสินใจว่า "ไม่ว่ายังก็เถอะ สร้างระบบออกมาก่อน เดี๋ยวเราค่อยดูปฏิกิริยาของผู้่เล่นแล้วเอามาแก้ไขทีหลังก็ได้"
พวกเขาพูดคุยกันอีกสองสามประเด็นก่อนแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน การทดสอบรอบเบต้าเพิ่งเปิดไปได้แค่ครึ่งวันแต่โครงสร้างของเกมกลับถูกปรับปรุงครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ โชคยังดีที่พวกเขามีข้อแก้ตัวว่าเนื่องจากเกมนี้เป็นเกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก พวกเขาจึงพบปัญหาไม่คาดคิด อย่างไรก็ตามทุกๆคนต่างตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก
บอสใหญ่เฝ้ามองคนของเขาที่ขยันทำงานกันอย่างหนักแล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ในปัจจุบันเขาค่อนข้างพอใจ แต่ยังมีอีกคนที่มองเขายิ้มๆ
เมื่อทุกคนออกไปแล้ว บอสใหญ่ก็พูดขึ้นว่า "เซี่ยวหวู คุณมีอะไรจะพูดไหม?"
"บอสรู้ใจผมดีจริงๆ!" เย่เซี่ยวหวูพูดขณะที่เขายืนขึ้นและดึงเก้าอี้ตัวหนึ่งไปนั่งข้างบอสของเขา
"มีอะไรก็ว่ามา!" บอสมองเขา เซี่ยวหวูคนนี้เป็นพนักงานแผนกวางแผนและเป็นสมาชิกแกนนำของทีมสร้างเกม
"วันนี้ผมไปเห็นบางอย่างที่อาจเป็นปัญหาในเกมของเรา" เซี่ยวหวูกล่าว
"โอ้?"
"เกมเสมือนจริงทำให้ผู้เล่นบางคนสามารถเอาทักษะพิเศษในชีวิตจริงมาใช้ในเกมได้ ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงได้เปรียบเหนือผู้เล่นคนอื่น สิ่งนี้จะทำให้เกมของเราไม่สมดุลอย่างที่เราตั้งใจไว้!" เซี่ยวหวูแจ้ง
"ทักษะแบบไหนกันที่ถึงกับส่งผลต่อเกมได้?" บอสถาม
"อย่างเช่นกังฟู!"
"กังฟูเหรอ?"
เซี่ยวหวูพยักหน้า "วันนี้ในเกมผมไปเห็นจอมเวทย์ที่ไม่มีอาวุธอัดอัศวินไปสามคนพร้อมกัน คนๆนี้ฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างแน่นอน"
"มีคนอย่างนั้นด้วย?!" บอสขมวดคิ้ว
เซี่ยวหวูพูดต่อ "ลองคิดดูสิ ตำรวจ ทหาร ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้.... พวกเขาทั้งหมดอยู่เหนือความสมดุลของเกม!"
"แล้วเราจะทำอะไรได้? เราจะห้ามไม่ให้พวกเขาเล่นเกมเพียงเพราะอาชีพในชีวิตจริงของพวกเขาไม่ได้หรอกนะ"
"งั้นก็ช่วยไม่ได้" เซี่ยวหวูส่ายหัวของเขา
ทว่าบอสหัวเราะร่วน "ถ้ามันช่วยไม่ได้ งั้นนายคงไม่มาบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก"
เซี่ยวหวูหัวเราะ "ประเด็นคือคนๆนั้นแนะบางอย่างให้กับผม""
"ว่ามา"
"ในเกมMMO ทุกๆอย่างอยู่แต่กับการต่อสู้ แต่ตอนนี้เรามีเทคโนโลยีเสมือนจริง เราควรขยายขอบเขตการพัฒนาและเพิ่มระบบอื่นนอกเหนือจากด้านการต่อสู้ เราควรปล่อยให้คนเหล่านั้นเอาทักษะในชีวิตจริงมาสร้างเป็นจุดเด่นของตัวเองได้ ด้วยวิธีนี้ สมดุลในเกมจะไม่สั่นคลอน" เซี่ยวหวูกล่าว
"พูดน่ะง่าย แต่การพัฒนาให้เป็นจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้น" บอสกล่าว
"มันมีค่าพอที่จะลองู!"
"เอาล่ะ นายไปคิดแบบแปลนที่เป็นรูปธรรมมาแล้วฉันจะพูดถึงมันในการประชุมครั้งต่อไป" บอสยอมแพ้
"เยี่ยม!" เซี่ยวหวูยิ้มแฉ่ง "งั้นผมไปก่อน"
"เดี๋ยว!" บอสหยุดเขา "นายเข้าเกมอีกแล้วเหรอ? นายก็รู้กฏและข้อกำหนดของเกม ผูู้ที่เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเกมไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าหรือเล่นเกมของบริษัท ยิ่งเป็นบริษัทที่เข้มงวดด้วยแล้วแม้แต่สมาชิกในครอบครัวก็ไม่ได้เล่น!"
"ผมไม่เคยเห็นด้วยกับเรื่องพวกนี้เลย ผู้พัฒนาเกมอย่างเราสร้างเกมขึ้นมาเพราะพวกเรารักมัน ทำไมเราถึงต้องทิ้งงานอดิเรกของเราไปเพราะเรื่องแค่นั้นด้วย? แต่ไม่ต้องห่วง ผมเป็นแค่ผู้เล่นธรรมดาในเกม" เซี่ยวหวูอธิบาย
"ด้วยความเข้าใจในตัวเกมของนาย ยังอ้างว่าตัวเองเป็นผู้เล่นธรรมดาอีก?" บอสเย้ยหยัน
"ไม่ต้องห่วง! ผมจะไม่แตะสมบัติที่ถูกซ่อนไว้แม้แต่ชิ้นเดียว" เซี่ยวหวูกล่าว
"ฉันจะหาคนคอยจับตาดูนาย ชื่อตัวละครนายชื่ออะไร? บอสถาม
"Fleeting Smile" เซี่ยวหวูยิ้มแล้วออกจากห้องประชุมไป