บทที่ 3 - Getting Started
Chapter 3 - Getting Started
Fleeting Smile รอยยิ้มชั่วพริบตา
Thousand Miles Drunk เมาเหล้าพันไมล์
*ชื่อในเกมผมทับศัพท์นะครับ เพราะหลายๆชื่อแปลลำบากจริงๆ แต่ตอนมีชื่อใหม่ๆจะแปลใส่ไว้ล่างชื่อตอนนะครับ
พาราเรลเวิล์ด! วันหนึ่งหลังจากได้ยินนักเรียนชายกลุ่มหนึ่งพูดคุยกันถึงเรื่องเกมออนไลน์เสมือนจริงในตอนเลิกคลาสเรียน กู่เฟยก็พบความหวัง
เขารู้ว่าเทคโนโลยีเสมือนจริงคืออะไร แม้ว่าเขาจะไม่สามารถแสดงความสามารถของเขาในโลกจริงได้ แต่ข้อห้ามทั้งหมดก็ไม่มีผลกับในเกมนี่? เขาเดินทางไปซื้อชุดอุปกรณ์VRทั้งชุดมาในวันนั้นท้นทันที นอกจากนี้เขายังเลือกอาชีพไว้แล้วด้วยนั่นคือ 'ไฟท์เตอร์' นักรบผู้ใช้ทุกส่วนของร่างกายเป็นอาวุธ กู่เฟยได้พิจารณาแล้วว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่เหมาะกับเขามากที่สุด
ในตอนแรกกู่เฟยท้อแท้อย่างมาก แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้เขาได้รู้อะไรบางอย่าง อาชีพทั้งหลายในเกมเป็นแค่ตัวกำหนดสกิลที่สามารถใช้ได้เท่านั้น ตัวเขามีวิชากังฟูติดตัวมาตั้งแต่แรก ดังนั้นสิ่งเดียวที่เขาจำเป็นต้องทำก็คือเอาแต้มสถานะไปอัพสเตตัสให้ตรงตามความสามารถของเขา ส่วนเขาจะเล่นอาชีพอะไรนั้นไม่สำคัญ
แม้ว่าแต้มสถานะที่เขาใช้จะเหมาะกับอาชีพไฟท์เตอร์มากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นจอมเวทย์แล้วมันจะไร้ประโยชน์ซะทีเดียว เขายังเป็นกังฟูจอมเวทย์ได้!
ขณะที่กู่เฟยใช้สมาธิครุ่นคิด ชายคนที่โดนพวกอันธพาลรุมกระทืบก็พยายามจะลุกขึ้นยืน
"อาจารย์!" อาฟาไม่กล้าเข้าไปใกล้เขา ดังนั้นเขาจึงออกเสียงเรียกกู่เฟยแทน
กู่เฟยรีบเข้าไปพยุงเขาขึ้นและถาม "คุณเป็นอะไรไหม?"
"ฉันไม่เป็นไร! ฉันไม่เป็นไร!" ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและสูดหายใจเข้าลึกๆ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยฝกช้ำ แต่ลักษณะของเขาดูเป็นคนฉลาดอย่างเห็นได้ชัด ไม่น่าแปลกใจเลยที่คนประเภทนี้จะตกเป็นเป้าหมายของพวกอันธพาล กู่เฟยและอาฟาช่วยพยุงเขาไปน้ำพุตรงจตุรัสกลางของเมือง ชายคนนั้นก้มลงตักน้ำจากน้ำพุมาล้างหน้าก่อนจะหันมายิ้มให้กู่เฟย "ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันFleeting Smile"
เห็นได้ชัดว่ามันคือชื่อในเกม ดังนั้นกู่เฟยจึงแนะนำตัวเองโดยใช้ชื่อที่อาฟาตั้งเอาไว้ว่า "Thousand Miles Drunk" กู่เฟยเกลียดชื่อที่เหมือนคนขี้เหล้านี่เล็กน้อย จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็จับมือกัน ส่วนสำหรับอาฟา Fleeting Smile บอกได้ทันทีว่าอาฟาเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ออกปากทักทาย
"นี่เป็นครั้งแรกที่มีการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้ในเกมMMORPG พวกเราทุกคนต่างเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่มีใครคิดเลยว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น" Fleeting Smile ยิ้มขณะที่เขาลูบคอของเขา
"ดูจากสิ่งที่คุณพูดมา คุณคงจะเป็น GM" กู่เฟยกล่าว
อาฟาค่อนข้างตื่นเต้น เขาถือได้ว่าเป็นเกมเมอร์ระดับสูง ชื่อGM(Game Master)นี้บอกเป็นนัยถึงผู้มีอำนาจในการดูแลเกมในระดับหนึ่ง ตัวตนของGMอาจมีสิทธิเล็กๆอย่างการเปิดเผยข้อมูลลับส่วนหนึ่งไปจนถึงสิทธิขนาดใหญ่อย่างการช่วยให้ผู้เล่นได้รับอุปกรณ์สวมใส่ระดับสูง เหล่าผู้เล่นที่ไม่ได้พบกับเหล่าGMด้วยตัวเองล้วนต่อว่าว่าพวกเขาไม่เป็นธรรม แต่เหตุการณ์จะต่างไปในกกรณีที่พวกเขาได้พบกับเหล่าGM ในตอนนั้นพวกเขาจะเทิดทูนเหล่าGMไม่ต่างจากพ่อบังเกิดเกล้าเลยทีเดียว
Fleeting Smileพยักหน้าพลางแหงนหน้าขึ้นฟ้า "ทันทีหลังจากที่การทดสอบรอบบเบต้าเปิด เราได้รับคำร้องเรียนจากผู้เล่นจำนวนมากกว่ามีกลุ่มผู้่เล่นหลายกลุ่มใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบทางด้านอาชีพมารังแกคนอื่น ฉันเลยเข้าเกมมาดูด้วยตัวเอง แต่ไม่คิดว่าว่าฉันจะโดนรุมกระทืบกับเขาด้วย"
**การทดสอบรอบเบต้าคือการเปิดให้ผู้เล่นเข้ามาทดลองระบบก่อนเพื่อตรวจหาข้อผิดพลาดหรือปัญหาต่างๆของเกม จากนั้นสักพักเมื่อตัวเกมแก้ไขปัญหาพวกนี้เสร็จแล้วบริษัทจึงจะเปิดเกมอย่างเป็นทางการ
"พวกคุณคิดจะจัดการกับเรื่องพวกนี้ยังไง?" กู่เฟยถาม
"บอกตามตรง ฉันเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน" Fleeting Smile กล่าว "มันขึ้นอยู่กับพวกแผนกเทคโนโลยี ปัญหาเกี่ยวกับตัวเกมยังมีอีกมาก ดังนั้นกว่าตัวเกมจะเปิดอย่างเป็นทางการคงต้องใช้เวลาสักพัก"
ณ ตอนนั้นกู่เฟยและอาฟาเริ่มเงยหน้ามองฟ้าเมื่อพวกเขาสังเกตว่าFleeting Smileเอาแต่นั่งอยู่ท่าเดิม แต่ก็มีเพียงเม็ดฝนตกพรำลงบนใบหน้าของพวกเขา หรือเขากำลังล้างหน้าอยู่? กู่เฟยครุ่นคิดแล้วก้มหัวของเขาลงตามเดิม
"พวกคุณสองคนมองอะไรกัน?" Fleeting Smile ถามอย่างประหลาดใจ
"แล้วคุณมองอะไรล่ะ?" อาฟาถามกลับ
"เด็กน้อย จมูกของฉันยังเลือดกำเดาไหลอยู่เลย!" Fleeting Smileกล่าว
ทั้งสองไม่รู้จะตอบอะไรกลับไปดี หลังจากนั้นพักหนึ่ง Fleeting Smileก็ก้มหัวลงและลูบจมูกของเขาพลางกล่าว "เอาล่ะ ฉันจะไปลองดูที่อื่นต่อ แล้วพวกคุณสองคนล่ะ?"
"ฉันจะไปเก็บเลเวล!" กู่เฟยตอบ ในตอนนี้เขาอยากจะลองดูว่าร่างกายที่อ่อนแอของจอมเวทย์จะสามารถดึงความสามารถของกังฟูออกมาใช้ได้ไหมหลังจากที่เขาอัพแต้มสถานะแล้ว
อาฟาลังเลเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า "ผมอยากจะไปกับคุณด้วย!"
Fleeting Smileยิ้ม "เด็กน้อย ฉันเป็นแค่พนักงาน ตามไปก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ"
อาฟาหน้าแดงด้วยความอับอายเมื่อความแตก เขาพูดแก้เก้อ "ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรแบบนั้น ผมแค่จะตามคุณไปเพื่อทำความคุ้นเคยกับตัวเกม"
"งั้นก็ไปกันเถอะ!" เขาหัวเราะร่วนก่อนหันไปหากู่เฟย "คุณอยากจะมาทำความคุ้นเคยกับตัวเกมด้วยกันไหม?" เขาเน้นเสียงคำว่า 'คุ้นเคย' ทำให้อาฟายิ่งหน้าแดงมากกว่าเดิม
"ไม่เป็นไร ไปเถอะ" กู่เฟยโบกมือให้พวกเขาทั้งคู่
หลังจากแยกจากทั้งสอง กู่เฟยก็มุ่งหน้าออกจากเมืองหยุนตวนไปยังสถานที่ที่พวกมอนสเตอร์อยู่ทันที
ในเกมMMORPG พื้นที่เก็บเลเวลบริเวณรอบเมืองมักเป็นสถานที่ของพวกมอนสเตอร์ระดับต่ำและในพาราเรลเวิล์ดก็ไม่มีข้อยกเว้น มอนสเตอร์พวกนี้จะไม่โจมตีผู้เล่นก่อน พวกมันส่วนใหญ่เป็นแมว หมา และกระต่าย พวกมันทุกตัวล้วนเป็นมิตรกับผู้คน เนื่องจากการเป็นเกมเสมือนจริง สัตว์ทุกตัวจึงดูน่ารักด้วยขนปุกปุยของพวกมัน มอนสเตอร์ระดับต่ำพวกนี้ไม่แม้แต่สู้กลับ อย่างมากที่สุดพวกสัตว์ก็เพียงแค่ร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดเท่านั้นหลังจากถูกโจมตีโดยผู้เล่น
กู่เฟยไม่อาจทนทนได้อีกหลังจากฆ่าพวกหมาไปได้แค่สองตัว ผู้เล่นที่อยู่รอบๆก็ต่างลังเลเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ผู้เล่นบางคนที่ใจแข็งพอต่างก็ต้องหยุดเช่นเดียวกันหลังจากถูกจ้องมองด้วยสายตาดูแคลนจากคนรอบข้าง ผู้เล่นส่วนใหญ่ในพื้นที่เก็บเลเวลนี้ต่างยืนนิ่งขณะที่พวกเขาจ้องมองสัตว์ตัวเหล็กเหล่านี้วิ่งเล่นกันไปมา แถมสัตว์บางตัวยังกระทั่งเอาตัวถูขาของเหล่าผู้เล่นเพื่อแสดงความรัก
"แบบนี้เราจะเก็บเลเวลได้ยังไง!" ผู้เล่นชายคนหนึ่งเขวี้ยงอาวุธของเขาลงพื้นและถอนหายใจ
"ใช่ เราไม่ได้เก็บเลเวลแน่ๆ! พวกมันน่ารักเกินไป" ผู้เล่นหญิงคนหนึ่งวางอาวุธของเธอแล้วหยิบกระต่ายตัวหนึ่งที่อยู่ตรงขาของเธอขึ้นมา เธอเอาหน้าถูกับกระต่ายตัวนั้นด้วยความรักก่อนจะพูดโกรธๆ "บริษัทเกมนี้คิดอะไรอยู่! ทำไมพวกเขาถึงออกแบบมอนสเตอร์ให้น่ารักขนาดนี้?!"
ทุกๆคนเริ่มพูดคุยและแสดงความไม่พอใจต่อการตั้งค่าของเกม กู่เฟยบ่นกับคนที่อยู่ข้างเขาพักหนึ่งก่อนจะออกมา ในเมื่อเขาเก็บเลเวลที่นี่ไม่ได้ งั้นเขาจะไปเก็บเลเวลที่อื่น นั่นคือสิ่งที่กู่เฟยตัดสินใจ
พูดตามตรงเขาไม่สนใจที่จะสู้กับพวกสัตว์ กังฟูที่เขาฝึกมาเป็นสิบปีมีวัตถุประสงค์เพื่อเอาไว้ใช้กับมนุษย์ เขายังไม่เคยเรียนด้วยซ้ำว่าจุดตายของพวกสัตว์อยู่ตรงไหน ถึงแม้นี่จะไม่ได้หมายความว่าเขาจะสู้พวกมันไม่ได้ แต่เขารู้สึกว่าการเอากังฟูที่เขาภูมิใจมาจัดการกับพวกมันนั้นไม่คู่่ครวรกับหยาดเหงื่อ เลือดเนื้อ และน้ำตาของเขาที่เสียไปตลอดหลายปี
เขาเดินต่อไปตามถนนสายหลักและค่อยๆออกห่างจากตัวเมืองไปเรื่อยๆ ภาพตรงหน้าของเขาเหมือนยืดยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาไม่เห็นแมว กระต่าย และลูกหมาสุดน่ารักอีกแล้ว เขาเดินข้ามยอดขนาดเล็กลูกหนึ่งและมองลงไปข้างล่าง สภาพพื้นข้างล่างทั้งเหมือนเทือกเขาทั้งเหมือนตุ่มน้ำ แถวเนินด้านล่างเขาจากตรงที่เขายืนอยู่ไม่ไกลนักมีกองไฟอยู่กองหนึ่งปะทุอยู่ มีคนจำนวนหนึ่งล้อมอยู่รอบกองไฟขณะที่พวกเขางีบหลับด้วยความเบื่อหน่าย
ในแวบแรก กู่เฟยมั่นใจทันทีว่าคนพวกนี้ไม่ใชผู้เล่นแต่เป็นมอนสเตอร์ นั่นเป็นเพราะว่าถึงแม้พวกเขาจะเป็นแฝดกันทั้งหมด แต่พวกเขาก็ไม่ควรจะมีความสูง น้ำหนัก รูปร่าง และเสื้อผ้าที่เหมือนกันขนาดนี้
มอนสเตอร์ที่มีรูปลักษณ์เป็นมนุษย์เป็นสิ่งที่กู่เฟยต้องการ
"พวกมันน่าจะเป็นมอนสเตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้ผู้เล่นใหม่ใช้อัพเลเวลใช่ไหม?" กู่เฟยคิดกับตัวเองขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกลุ่มคนเล็กๆกลุ่มนี้
พวกเขาทั้งหกนั่งอยู่รอบกองไฟและพวกเขาย่อมเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดรอบด้าน อันที่จริงตัวของกู่เฟยเองก็น่าจะถูกพบตั้งแต่ตอนที่เขาหยุดยืนอยู่ที่เนินเขาแล้ว อย่างไรก็ตาม กว่ามอนสเตอร์ทั้งหมดจะขยับตัวกู่เฟยก็เข้ามาใกล้ระยะหนึ่งแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกมันถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้ตอบสนองต่อผู้เล่นที่เข้ามาในระยะที่กำหนดเท่านั้น หลังจากนั้นพวกมันก็ชี้มาทางกู่เฟยและตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น
กู่เฟยได้ยินอย่างชัดเจนว่าพวกมันพูดว่า "นั่นแกะอ้วน! จับมัน!"
หากนี่เป็นเกมออนไลน์ธรรมดาคงมีกรอบคำพูดลอยอยู่เหนือหัวมอนสเตอร์พวกนั้น แต่เนื่องจากเกมนี้ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง กรอบคำพูดทั้งหมดจึงถูกแทนที่ด้วยเสียงที่ตั้งค่าไว้
ทั้งหกพุ่งเข้าใส่กู่เฟยด้วยความเร็วและจังหวะที่เท่ากันเป๊ะ ตำแหน่งของพวกม้นตั้งแต่ลุกขึ้นจนมาถึงตรงหน้าของกู่เฟยกระทั่งไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย
มอนสเตอร์ทั้งหมดเริ่มหยุดพูดเมื่อตัวที่อยู่หน้าสุดเริ่มแทงมีดแล่เนื้อใส่กู่เฟย เขาเอี้ยวตัวหลบมันอย่างคล่องแคล่วแล้วต่อยหมัดตรงสวนออกไปอย่างรวดเร็ว
มันค่อนข้างแตกต่างจากการสู้กับผู้เล่นในเมืองก่อนหน้านี้ ในตอนนั้นทุกๆคนถูกป้องกันการPVP ทำให้พวกอันธพาลไม่เป็นอะไรเลยนอกจากได้รับความเจ็บปวดเล็กน้อยเนื่องจากเทคโนโลยีเสมือนจริง แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ในเมือง แม้จะมาจากอาชีพอ่อนแออย่างนักเวทย์แต่หมัดนี้ก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับพวกมอนสเตอร์ได้
มอนสเตอร์โคลงเคลงเล็กน้อยจากหมัดของกู่เฟยและแทงมีดกลับมา กู่เฟยหลบมันอย่างง่ายดายอีกครั้งก่อนจะต่อยหมัดซ้ำออกไป
มอนสเตอร์ทั้งหกล้อมกู่เฟยจากทุกด้านแต่ทั้งหมดก็ไม่มีการโจมตีประสานกันเลยแม้แต่น้อย กู่เฟยค่อยๆหลบการโจมตีและจัดการพวกมันไปทีละตัว เขาไม่รู้ว่ามอนสเตอร์พวกนี้มีเลเวลเท่าไหร่ แต่การต่อสู้กับพวกมันง่ายยิ่งกว่าตอนที่สู้กับพวกอันธพาลสี่คนในเมืองเสียอีก
เขารูู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับเกมเสมือนจริงนี้เพราะดูเหมือนว่าความสมจริงจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เกมนี้แตกต่าง มอนสเตอร์ทั้งหมดยังคงเคลื่อนไหวตามขั้นตอนที่ถูกกำหนดมา ในสายตาของกู่เฟยการเคลื่อนไหวแบบซ้ำซากพวกนี้แทบไม่ต่างกับยืนเฉย แถมความสามารถในการหลบหลีกของพวกมันก็เป็นศูนย์ ความเร็วในการหลบหลีกและความเร็วในการโจมตีของมอนสเตอร์ทุกตัวล้วนขึ้นอยู่กับสเตตัสที่ระบบตั้งค่าไว้
กู่เฟยไม่มีทางแพ้พวกมัน ปัญหามีเพียงอย่างเดียวคือเขาจะชนะเร็วหรือช้าเท่านั้น เขาอัดทั้งหกด้วยรูปแบบซ้ำๆ จนหลังจากผ่านไปสองสามนาทีในที่สุดหนึ่งในNPCก็คร่ำครวญและล้มลง จากนั้นไม่นานNPCอีกห้าตัวก็ตายตามไป ร่างกายของกู่เฟยส่องแสงวูบวาบอย่างต่อเนื่อง การล้มNPCทั้งหกทำให้เขาเลเวลอัพมาถึง6เลเวล