บทที่ 27 - A Misunderstanding Caused by a Burlap Sack
Chapter 27 - A Misunderstanding Caused by a Burlap Sack
เย่เซี่ยวหวูไม่ได้อยู่เฉยหลังจากที่เขาออฟไลน์ จิตใจของเขายังคงใคร่ครวญถึงคนประหลาดอย่างกู่เฟย หลังจากขบคิดอยู่พักหนึ่ง เขาลุกขึ้น ออกจากห้องทำงานและมุ่งหน้าตรงไปที่แผนกจัดการเกมของบริษัท บริษัทเกมที่อยู่เบื้องหลังเกมพาราเรลเวิร์ลความจริงคือบริษัทที่ถูกควบคุมโดยตัวฝ่ายวิจัยและพัฒนากับฝ่ายการจัดการเกม เย่เซี่ยวหวูเป็นคนจากฝ่ายวิจัยและพัฒนา ส่วนฝ่ายที่มีหน้าที่รับผิดชอบการเคลื่อนไหวประจำวันและดูแลเกมนั้นแท้จริงแล้วเป็นหน้าที่ของฝ่ายการจัดการเกม
ในแผนกการจัดการเกม มันมีกลุ่มเล็กๆที่ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลต่างๆในเกม เมื่อตรวจพบความผิดปกติ พวกเขาจะติดตามและวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบว่าความผิดปกตินั้นตรงกับข้อมูลในเกมหรือไม่ ในระยะสั้น มันเป็นการตรวจสอบเพื่อดูว่าผู้เล่นคนนั้นแฮ็คเกมหรือเปล่า
มีคำพูดเก่าๆที่ว่า "ในขณะที่นักบวชปีนเขาไปย่างเท้าหนึ่ง ปีศาจได้ปีนไปสิบ" ไม่ว่าเทคโนโลยีที่ใช้จะล้ำหน้าเพียงใด การแฮ็คก็แทบเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แม้กระทั่งกับเกมอย่างพาราเรลเวิร์ลที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงเต็มรูปแบบก็ไม่มีข้อยกเว้น สำหรับเกมออนไลน์ การกำจัดแฮ็คเกอร์ถือเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด แฮ็คเกอร์เพียงคนเดียวก็อาจทำให้สมดุลเกมพังทลายได้ แม้ว่าพาราเรลเวิร์ลจะถูกสร้างจากเทคโนโลยีที่ล้ำยุค ซึ่งยากแก่การถูกถอดรหัสโดยกลุ่มแฮ็คเกอร์ ทางบริษัทก็ไม่กล้าหย่อนยานในเรื่องนี้้
พนักงานบางส่วนของทีมตรวจสอบถึงกับสะดุ้งจากเก้าอี้เมื่อประตูของห้องทำงานถูกเย่เซี่ยวหวูเปิดเข้ามาอย่างแรง เมื่อพวกเขาเห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นใคร พวกเขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก "โอ้ หัวหน้าเย่นี่เอง คุณเจอปัญหาที่ต้องทำการแก้ไขหรือ?"
ในฐานะสมาชิกหลักของทีมวิจัยและพัฒนา เย่เซี่ยวหวูได้ชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดของเกมให้ทีมมามาก บ่อยครั้งที่พวกเขาได้ทำงานร่วมกัน และเนื่องจากเย่เซี่ยวหวูมักเป็นคนที่สังเกตข้อผิดพลาดได้ก่อนทีมตรวจสอบเสมอ ทุกคนในทีมจึงมักเรียกเขาว่าหัวหน้าเย่
"ชื่อในเกมว่า 'Thousand Miles Drunk' พวกนายตรวจสอบข้อมูลของบัญชีนี้หน่อย" เย่เซี่ยวหวูกล่าว
"นั่น..." สมาชิกของทีมตรวจสอบมองหน้ากัน ก่อนหนึ่งในพวกเขาจะพูดออกมา "นั่นขัดกับกฏ"
โดยปกติแล้ว สิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวกับข้อมูลภายในเกมนั้นจะเกินขอบเขตอำนาจของคนที่มาจากแผนกวิจัยและพัฒนาเช่นเย่เซี่ยวหวูแล้ว
"ผู้เล่นคนนี้มีบางอย่างผิดปกติ!" เย่เซี่ยวหวูกล่าว
ทั้งหมดตื่นตัวขึ้นเมื่อได้ยินเย่เซี่ยวหวูกล่าว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พวกเขาเป็นคนรับผิดชอบ พวกเขาหยุดงานในมือและทำการตรวจสอบข้อมูลระบบของกู่เฟย ซึ่งกำลังเก็บเลเวลในเกมอยู่ทันที จนมีบางคนพึมพำว่า "ไม่มีอะไรผิดปกติ"
พูดกันตามตรง หากคนอย่างเย่เซี่ยวหวูต้องมาเตือนพวกเขาเรื่องบัญชีที่น่าสงสัยด้วยตัวเอง นั่นมันหมายความว่าทีมตรวจสอบทำงานได้ไม่ดีพอ ตอนนี้ทั้งทีมจึงรู้สึกโล่งอก
เย่เซี่ยวหวูไม่แม้แต่สนใจว่าพวกเขารู้สึกยังไง เขาจ้องมองหน้าจอเพราะเขาต้องการยืนยันข้อมูลระบบบางอย่างของกู่เฟย จนท้ายที่สุดระบบตรวจสอบข้อมูลก็ยืนยันบางสิ่งให้กับเย่เซี่ยวหวู: สิ่งที่เขาสันนิษฐานไว้ก่อนหน้านี้ถูกต้อง
พนักงานที่เหลือก็จับจ้องอยู่ที่หน้าจอเช่นเดียวกัน หลังจากมองมันไปสักพัก พวกเขาจึงมองหน้ากันก่อนถอนหายใจอย่างโล่งอก ผลที่ได้รับจากระบบตรวจสอบข้อมูลแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าบัญชีนี้ไม่ได้ใช้โปรแกรมช่วยเล่นใดๆ
อย่างไรก็ตาม เย่เวี่ยวหวูยังคงจดจ่อกับหน้าจอ พวกเขาทุกคนจึงมองหน้ากันก่อนเริ่มสังเกตมันดูอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน ทุกๆคนก็ปรากฏสีหน้าประหลาดใจ
"เขาเป็นใครกัน?" หนึ่งในพวกเขาถามออกมา
เย่เซี่ยวหวูยังคงเงียบ แน่นอนว่าเขามีเหตุผล อย่างที่หัวหน้าของเขาพูดไว้ก่อนหน้านี้ พนักงานทุกคนถูกห้ามไม่ให้เล่นเกม แม้ว่าเจ้านายของเขาจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่เขาก็ต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
พนักงานทุกคนมองข้อมูลที่ระบบส่งมาทุกตัวอักษร และหนึ่งในพวกเขาพึมพำ "คนๆนี้ทำความเสียหายสูงสุดทุกการโจมตี... มันไม่ใช่ผลของการแฮ็คจริงเหรอ?" ความสามารถที่โดดเด่นเกินไปของกู่เฟยเริ่มทำให้พวกเขาเริ่มสงสัยในข้อตัดสินของตัวเอง
แต่หลังจากตรวจสอบดูข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม: ไม่มีโปรแกรมช่วยเล่นแต่อย่างใด
"พระเจ้า! เขายังเป็นมนุษย์อยู่ไหม? หัวหน้าเย่ คุณไปเจอเขามาได้ยังไง?" หนึ่งในพวกเขาถามออกมาด้วยความประหลาดใจ
"ฉันได้ยินมาจากคนอื่น" เย่เซี่ยวหวูพูดปัดไปก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเรื่อง "บัญชีนี้ไม่มีอะไรผิดปกติใช่ไหม?"
"ไม่มีเลย!" ทุกคนตอบอย่างมั่นใจ
"แล้วสิ่งที่เขาทำอยู่ตรงตามกฏรึเปล่า?"
"แน่นอน" พนักงานคนหนึ่งยิ้ม "สามารถสร้างความเสียหายสูงสุดได้ด้วยความแม่นยำและพลังของการโจมตี สิ่งนี้เป็นแนวคิดที่คุณและคนของแผนกวิจัยและพัฒนาเป็นคนออกแบบ คุณคงดีใจที่เห็นว่ามีคนทำอย่างนั้นได้จริงๆ"
"ใช่แล้ว ดีใจมาก" เย่เซี่ยวหวูพยักหน้า
"พูดกันตามตรง คนๆนี้น่าจะเป็นคนที่มีความสามารถในการควบคุมสูงสุดแล้วในพาราเรลเวิร์ลตอนนี้" หนึ่งในพวกเขากล่าว
เย่เซี่ยวหวูหัวเราะและโบกมือ "เอาล่ะ ตอนนี้เราก็มั่นใจแล้วว่าบัญชีนี้ไม่ได้โกง งั้นฉันขอไปก่อน โชคดีทุกคน"
ในระหว่างทางกลับห้องทำงานของเขา เย่เซี่ยวหวูยังคงไตร่ตรองถึงคำถามหนึ่ง "Thousand Miles Drunk เขาจะถือว่าเป็นตัวทำลายสมดุลของเกมหรือเปล่า?"
ในขณะนี้ ผู้ต้องสงสัยในการทำลายสมดุลของเกมกู่เฟยกำลังฝึกฝนกังฟูของเขาในเขตเก็บเลเวลอย่างขมักเขม้น และในตอนนั้นเอง เขาก็ได้รับข้อความจากFireball ที่พยายามชวนกู่เฟยไปดื่ม
กู่เฟยถือว่าFireballเป็นเพื่อนคนแรกของเขาในเกมนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เก็บเลเวลด้วยกัน แต่พวกเขาก็ยังไปมาหาสู่กันเป็นครั้งคราว ช่วงนี้เขาไม่ได้ติดต่อกับFireballเลย กู่เฟยจึงเก็บของและเตรียมมุ่งหน้ากลับเมืองทันที
จำนวนน้ำหนักที่กู่เฟยรับได้นั้นน้อยมากจริงๆ โชคร้ายที่เขาสู้มอนสเตอร์ได้เร็ว มันจึงมีไอเท็มเหลือทุกครั้งที่เขาเก็บเลเวล ด้วยเหตุนี้เขาจึงทำกระสอบมาเก็บของเบ็ดเตล็ดพวกนี้โดยด้วยตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากของที่เก็บไว้ในกระเป๋าเก็บของ กู่เฟยสามารถสัมผัสได้ถึงน้ำหนักของไอเท็มพวกนี้ได้อย่างชัดเจน ซ้ำร้ายไอเท็มพวกนี้ยังไม่ถูกปกป้องโดยระบบบ
ถุงกระสอบที่เขาถืออยู่ทำให้แต่ละก้าวของกู่เฟยเต็มไปด้วยความยากลำบาก จริงอยู่ว่าเขาได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นจากตราสัญลักษณ์ ทว่าความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะเก็บเลเวลได้ไวขึ้นอย่างเดียว แต่ไอเท็มที่ดรอปจากมอนสเตอร์ก็มากขึ้นด้วย กู่เฟยรู้สึกเหมือนมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยเมื่อความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของเขาต้องถูกชดเชยจากของที่เขาต้องแบก
ในขณะที่เขาเดินผ่านเขตเก็บเลเวลอีกแห่งหนึ่ง แต่ละก้าวของเขาก็ยิ่งหนักมากขึ้น เขาบังคับให้ตัวเองฝืนเดินต่อไปอีกสองสามก้าวก่อนจะวางถุงกระสอบลงบนพื้น เขาวางแผนจะพักสักสองสามนาทีขณะที่เขาเอนตัวพิงต้นไม้พลางหอบหายใจ
เมื่อผู้เล่นหลายคนที่กำลังเก็บเลเวลอยู่ในเขตนี้สังเกตเห็นเหตุการณ์แปลกๆนี้ ดวงตาของพวกเขาหลายคนก็ลุกวาว และต่อมาพวกเขาแต่ละคนก็แย่งกันเข้ามาหากู่เฟย
"คุณต้องการให้ช่วยไหม? ผมช่วยคุณแบกของพวกนั้นได้นะ!" หลายคนรีบวิ่งมาตรงหน้าของกู่เฟย และตะโกนในสิ่งเดียวกันขณะที่พวกเขาพยายามผลักคนอื่นออกไป
"อ่า ไม่ต้องถึงขนาดนั้น จริงๆแล้วฉันแค่—"
"โอ้ คุณไม่ต้องเกรงใจไป! ให้ผมได้ช่วยคุณเถอะ!" หนึ่งในผู้เล่นเหล่านั้นถือวิสาสะเดินออกมาโดยไม่รอให้กู่เฟยกล่าวจบ เขาคว้าถุงกระสอบของกู่เฟยขึ้นบ่าและมองกู่เฟยด้วยตาเป็นประกาย "บอกมาได้เลย! คุณจะไปที่ไหน?"
"เมืองหยุนตวน" กู่เฟยตอบ "แต่ฉัน..."
"งั้นไปกันเถอะ!" คนผู้นั้นกล่าวขึ้นแบบไม่สนใจอะไรอีก และเพียงรีบเดินไปข้างหน้าอย่างรีบเร่ง ผู้เล่นคนอื่นๆโดยรอบต่างเผยให้เห็นถึงความอิจฉาและไม่เต็มใจ
"แต่ฉันไม่ใช่NPCนะ ฉันเป็นผู้เล่น!" กู่เฟยกล่าวหลังจากนั้นไม่นาน อย่างไรก็ตาม บุคคลนั้นที่ก้าวฉับๆไปนานแล้วไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ส่วนสำหรับผู้เล่นที่ยังอยู่รอบๆกู่เฟย พวกเขาได้ยินอย่างชัดเจน หลังจากตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง พวกเขาต่างพยายามอย่างยิ่งที่จะกลั้นเสียงหัวเราะขณะที่ไม่มีใครอาสาไปเตือนคนๆนั้นเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาทั้งหมดยกนิ้วโป้งให้กู่เฟย "เพื่อน นายคิดไว้แล้วใช่ไหม? ร้ายกาจจริงๆ!"
เนื่องจากอิทธิพลของนิยายดาษเดื่อน ผู้เล่นหลายคนจึงครั่นคร้ามอยากหาเควสลับที่สามารถส่งผลให้เกิดเหตุการณ์พิเศษได้ทุกชนิด ทุกคนต่างมองหาวันที่พวกเขาจะได้เจอเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์กับตัว เครื่องแต่งกายแปลกๆของกู่เฟยและความจริงที่ว่าไม่มีไอเท็มทที่หน้าตาเป็นกระสอบแบบนี้ในเกม ทำให้ใครก็ตามที่ได้เห็นรู้สึกว่าเขาเป็นตัวละครลับ
ความเข้าใจผิดเช่นนี้เกิดขึ้นทุกครั้งตอนที่กู่เฟยลากถุงกระสอบกลับเมืองและเดินผ่านเขตเก็บเลเวลของผู้เล่น แต่ทุกครั้งที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น กู่เฟยจะอธิบายด้วยตัวเองและผู้เล่นคนอื่นๆจะจากไปหลังจากประเมินเขาทีหนึ่ง ทว่าผู้เล่นคนนี้ไม่เหมือนใคร เขาแสวงหาในภารกิจลับมากจนเขาไม่แม้แต่จะสนใจที่กู่เฟยพูดและเอาแต่แบกถุงกระสอบเดินต่อไป
"เฮ้ นาย!" กู่เฟยไล่ตามเขาและตะโกน
ทว่าคนๆนั้นกลับเพียงโบกมือเท่ห์ๆเหมือนพระเอกหนังและกล่าว "วันนี้จะไม่มีอะไรหยุดผมจากการช่วยคุณแบกถุงกระสอบนี้ไปจนถึงเป้าหมายได้!"
กู่เฟยปิดปากเงียบ เมื่อคิดว่าคนๆนี้ติดสนใจอย่างแน่แล้ว ก็คงดีกว่าที่จะปล่อยให้เขาได้ทำจนกว่าเขาจะพอใจ กู่เฟยไม่เคยบังคับคนอื่นให้ทำในสิ่งที่พวกเขาไม่อยากทำ งั้นแบกมันจะกว่านายพอใจละกัน! กู่เฟยก็แฮปปี้กับการที่มีคนช่วยแบกของให้เขาเช่นกัน เขาเดินเอื่อยๆตามเขาไป คนๆนี้สวมอุปกรณ์เป็นเกราะหนักทั่วตัว และถุงกระสอบของกุ่เฟยที่วางอยู่บนไหล่ของเขาดูเบามากเมื่อเขาเป็นคนแบก เห็นได้ชัดว่าอาชีพของเขาคือนักรบ หนึ่งในอาชีพที่มีสมรรถภาพทางร่างกายสูงที่สุด แต่คนๆนี้ดูผอมบางมากเมื่อดูจากร่างกายของเขา
แน่นอน อ้วนหรือผอมไม่ได้บ่งบอกว่าผู้เล่นแข็งแกร่งแค่ไหน ตัวอย่างเช่นกู่เฟยที่ฝึกกังฟูมามากกว่าสิบปีก็ยังดูเหมือนบางยิ่งกว่ากระดาษเมื่ออยู่ในเกมนี้
จากตำแหน่งปัจจุบัน พวกเขาจำเป็นต้องใช้เวลาอีกกี่ไม่กี่นาทีแล้วในการไปถึงเมืองหยุนตวน กู่เฟยสังเกตว่าผู้เล่นที่ช่วยเขาแบกถุงกระสอบคนนี้ยืนตรงอย่างภาคภูมิมาตลอดทาง และสิ่งนี้ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อคิดว่าเขาเองก็เป็นแบบนี้ได้เช่นกันหากเขาได้เล่นอาชีพนักสู้! ร่างกายของจอมเวทย์นั้นอ่อนแอเกินไป
ทั้งสองมาถึงเมืองได้ในที่สุด แล้วคนๆนั้นก็วางถุงกระสอบลงจากไหล่ขณะที่เขาจ้องมองกู่เฟยอย่างเร่าร้อน
"ขอบคุณมาก" กู่เฟยตบไหล่ของเขาก่อนก้มลงแบกถุงกระสอบและเดินโซเซไปด้านหน้า
เขาสับสนอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็ไล่ตามกู่เฟยไปและกล่าวขึ้น "คุณจะแบกพวกนี้ไปไหน? ฉันจะช่วยเอง!"
"โอ้ นั่นไม่จำเป็น คลังเก็บของอยู่แค่ข้างหน้าเรานี่ ถูกไหม?" กู่เฟยกล่าว
"คลังเก็บของ?" เขาตกตะลึง คลังเก็บของอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาจริงๆ แต่มันเป็นสิ่งที่มีไว้ให้พวกผู้เล่นใช้เท่านั้น เขาเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องและกล่าวกับกู่เฟย "คุณเป็น..."
"สวัสดี ฉัน Thousand Miles Drunk" กู่เฟยกล่าว
"นะ-นายไม่ใช่NPCเหรอ?" เขากล่าวด้วยสีหน้าประหลาดใจ
กู่เฟยสูดหายใจลึกและกล่าวว่า "ฉันเปล่า"