บทที่ 16 - Meeting at Ray's Bar (Part 1)
Chapter 16 - Meeting at Ray's Bar (Part 1)
คำถามของกู่เฟยแทบทำให้นักดาบปีศาจรู้สึกคลั่งตาย
ทำไม? มันก็เป็นเพราะเขานั่นแหละ! ใครจะเชื่ออีกว่านักดาบปีศาจแข็งแกร่งพอที่จะเป็นผู้นำหลังจากที่โจรเลเวล25อย่างเขาต้องแพ้ให้กับจอมเวทย์เลเวลแค่10 แม้ว่าเขาจะเป็นผู้เล่นมืออาชีพ แต่ความจริงที่ว่าเขาแพ้ให้กับจอมเวทย์ที่เลเวลต่ำกว่า15เลเวลได้ทำให้ชื่อเสียงในอดีตของเขากลายเป็นของไร้ค่า ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจเมื่อนักดาบปีศาจพบว่าผู้ติดตามที่เหลืออยู่ไม่มากแล้วของเขาได้แตกกระจายกันไปจนหมด
อย่างไรก็ตามนักดาบปีศาจไม่ได้โกรธแค้นกู่เฟยเพราะในการต่อสู้ครั้งนั้นพวกเขาต่างต่อสู้กันอย่างซื่อตรง เพียงแต่ว่าเพราะมันเป็นกู่เฟยที่ถามนักดาบปีศาจจึงรู้สึกหัวเสียเล็กน้อย
"เหอะๆ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ! มาพูดถึงเรื่องกลุ่มทหารรับจ้างดีกว่า นายสนใจไหม?" นักดาบปีศาจถาม
"ตอนนี้ฉันก็ไม่ค่อยมีอะไรสำคัญต้องทำ ไปดูหน่อยก็ไม่เสียหาย" กู่เฟยกล่าว จริงๆแล้วเขาไม่ค่อยสนใจการเข้ากลุ่มอะไรเทือกนี้ แต่หลังจากเห็นสีหน้าของนักดาบปีศาจบวกกับเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์ของนักดาบปีศาจที่Fireballเคยเล่าให้ฟัง กู่เฟยก็ระแคะระคายว่าเขาอาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้กิลด์ของเขาแตก และหากเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาก็รู้สึกผิดที่ได้ทำไป
หากกู่เฟยรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น เขาคงจะปล่อยให้นักดาบปีศาจได้โจมตีสักสองสามท่าก่อนจะเผยช่องว่างในการต่อสู้เล็กน้อยเพื่อไม่ให้มันขาดรอยจนเกินไป ด้วยบุคลิกของนักดาบปีศาจ หลังจบเรื่องเขาก็คงจะไม่ติดใจเอาเรื่องกับเขาและFireballอีกแน่
กู่เฟยรู้ดีว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหนเมื่อโดนคนอื่นคว่ำบาตร แถมในกรณีของนักดาบปีศาจมันยังแย่ยิ่งกว่าเขา ความเป็นจริงนั้นโหดร้ายเมื่อผู้คนมากมายต่างตัดสินคนอื่นโดยดูจากลักษณะภายนอก ทั้งๆที่ไม่ว่าตัวเขาเองหรือคนพวกนั้นก็เพียงแค่โชคดีที่เกิดมาไม่น่าเกลียดเท่านั้น
การผสมผสานกันระหว่างความรู้สึกผิด ความเข้าใจ และความเห็นใจทำให้กู่เฟยรู้สึกว่าอย่างน้อยในเมื่อมันไม่มีผลเสียกับเขา เขาก็น่าจะตอบสนองต่อคำขอของนักดาบปีศาจบ้างเพื่อเป็นการชดเชย
ในทางกลับกัน นักดาบปีศาจที่ไม่คิดว่าคำตอบของกู่เฟยจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นก็พยักหน้าเมื่อเห็นกู่เฟยไม่ปฏิเสธ "ดี! เดี๋ยวบ่ายนี้เราค่อยมาพบกันอีกที ฉันจะพานายไป"
"ตอนบ่าย? เวลาอะไร?" กู่เฟยถาม
"บ่ายสองโมง" นักดาบปีศาจกล่าว
"ตามนั้น" กู่เฟยยืนยัน
"งั้นไว้เจอกัน" นักดาบปีศาจพยักหน้าอีกครั้งขณะที่เขากลับเข้าไปในป่าเพื่อเก็บเลเวลต่อ
กู่เฟยเหยียดไหล่ผ่อนคลายเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์ต่อ
เมื่อถึงเวลาบ่ายโมงห้าสิบ นักดาบปีศาจก็ส่งข้อความหาเขา "นายอยู่ไหนแล้ว?"
"ฉันกำลังไป!" กู่เฟยฝึกฝนกังฟูและเก็บเลเวลของเขาไม่หยุดจนกลับเมืองมาเมื่อคิดว่ามันใกล้ถึงเวลาที่นัดกันแล้ว พาราเรลเวิร์ลไม่มีวิธีการเดินทางไปกลับเมืองอย่างรวดเร็วให้ โดยทางบริษัทเกมให้เหตุผลว่าเพื่อคงบรรยากาศความเหมือนจริงของเกม แต่ผู้เล่นหลายคนเชื่อว่ามันเป็นเล่ห์เหลี่ยมของทางบริษัทเกมที่ใช้เพื่อยืดเวลาที่ผู้เล่นต้องใช้ในเกมให้นานขึ้น หลักฐานคือความจริงที่ว่าทางเกมจะใช้บัตรเวลาแทนการจ่ายรายเดือนในอนาคต
"ดี" นักดาบปีศาจตอบกลับ
"สถานที่นัดพบอยู่ที่ไหน? ฉันจะตรงไปที่นั่นเลย" กู่เฟยถาม
"บาร์ของเรย์" นักดาบปีศาจตอบ
"โอเค ฉันกำลังไป" กู่เฟยกล่าว
บาร์ของเรย์เป็นตำนานเนื่องจากมีสถานะเป็นร้านค้าของผู้เล่นแห่งแรกในเกมพาราเรลเวิร์ล มันมีเงื่อนไขว่าผู้เล่นจำเป็นต้องมีเลเวล20ก่อนจึงจะสามารถตั้งร้านค้าส่วนตัวได้ ทว่าเลเวลที่ใช่นั้นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาที่แท้จริงคือจำนวนเงินที่จำเป็นในการซื้อร้านค้าร้านหนึ่งต่างหาก
ระบบจะไม่แทรกแทรงหรือเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆหากผู้เล่นตั้งร้านค้าตามถนน แต่ถ้าพวกเขาอยากตั้งร้านค้าจริงๆ พวกเขาจะต้องซื้อผ่านระบบด้วยสกุลเงินเหรียญในเกม
แม้ว่าเมืองต่างๆในเกมนี้จะมีขนาดใหญ่ แต่สินทรัพย์ที่สามารถซื้อได้นั้นมีจำกัดและราคาแพงมาก ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดว่าจะมีผู้เล่นที่สามารถซื้อร้านค้าได้ทันทีหลังจากเพิ่งขึ้นถึงเลเวล20ได้ไม่นาน แถมยังมีพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่อีดต่างหาก
เขาเก็บเงินจำนวนมากขนาดนั้นในอาทิตย์เดียวได้ยังไง? มีเพียงคำอธิบายเดียวที่เป็นไปได้หลังจากถกเถียงกันอยู่พักหนึ่งคือเขาใช้เงินจริงเพื่อซื้อไอเท็มผ่านตลาดแลกเปลี่ยน และขายไอเท็มเหล่านั้นเพื่อเงินในเกมผ่านตลาดซื้อขาย หรือสรุปก็คือเป็นคนรวยนั่นเอง!
ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาจึงเลือกเปิดบาร์หลังจากมีเหรียญทองจำนวนมหาศาล ถึงตอนนี้บาร์อาจจะเป็นธุรกิจที่ดี แต่เมื่อการทดสอบรอบบเบต้าจบลงและบัตรเวลาเริ่มถูกนำมาใช้ มันจะไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าผู้เล่นเหล่านี้จะยังเต็มใจเสียเวลาไปกับที่นี่อยู่ นอกจากนี้บาร์ที่ถูกบริหารโดยNPCของระบบก็มีเครื่องดื่มทุกชนิดอยู่แล้ว ในทางกลับกันผู้เล่นจะหาเครื่องดื่มพวกนั้นมาจากไหน? ถึงแม้จะมีผู้เล่นหลายคนที่เชี่ยวชาญการทำเบียร์และสามารถหมักเหล้าเองได้ แต่ปริมาณที่พวกเขาทำได้จะไม่มากพอเนื่องจากเลเวลในปัจจุบันของพวกเขา และมันคงไร้สาระเกินไปถ้าหากพวกเขาจะซื้อเครื่องดื่มจากบาร์ของNPCเพื่อนำมาขายใหม่ในร้านของตัวเอง
ทว่าบาร์ของเรย์กลับทำอย่างนั้นจริงๆ! เขาซื้อและขายเครื่องดื่มในราคาเดียวกันกับระบบในขณะที่จ่ายภาษีทางการค้าไปด้วย โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นธุรกิจที่สร้างมาเพื่อผลาญเงินเล่นชัดๆ!
เสียเงินไปวันๆแต่ก็ยังมุ่งมั่นทำต่อไป ผู้ชายคนนี้ต้องหลงไหลในสิ่งที่ทำถึงขนาดไหน! ทุกคนคิด
เมื่อพูดถึงผู้ชายที่ร่ำรวยและหลงใหลในบางสิ่งอย่างลึกซึ้ง ชื่อของ"เรย์"จะเป็นชื่อที่ถูกทุกคนต้องเอ่ยถึง
ชื่อของเขาเป็นชื่อแรกที่ทุกคนในเกมพาราเรลเวิร์ลต้องรู้จัก แม้ว่าหลายคนจะคิดว่าเขาเป็นคนโง่ แต่เขาก็เป็นคนโง่ที่เจ๋งมากไม่ว่าจะยังไงก็ตาม และเขาจะเป็นคนที่ผู้เล่นหลายคนในเมืองหยุนตวนภาคภูมิใจ
กู่เฟยย่อมรู้จักคนที่มีชื่อเสียงคนนี้รวมถึงร้านค้าของเขาด้วย เขาก็เคยไปที่นั่นกับFireballครั้งหนึ่งแล้ว เขากระทั่งเคยเห็นเรย์ที่เป็นเจ้าของร้านยืนขายเหล้าอยู่หลังบาร์ด้วยตัวเองด้วยซ้ำ
แม้จะสูญเสียเงินอย่างต่อเนื่องทุกวัน แต่เรย์ก็ยังคงไม่เลิกที่จะเป็นบาร์เทนเดอร์และดูแลลูกค้าด้วยตัวเอง เขาเป็นคนที่หลั่งน้ำตาเพื่อสิ่งที่ปรารถนาอย่างแท้จริง ครึ่งหนึ่งของผู้เล่นที่มาเยี่ยมเยือนบาร์ของเรย์ต่างก็ให้ความเคารพต่อชายผู้อยู่เหนือหนทางแห่งฟิลิสเตียผู้นี้
เมื่อกู่เฟยมาถึงด้านหน้าบาร์ของเรย์ เขาดูเวลาและเห็นว่าเป็นเวลาบ่ายสองพอดี เขาผลักประตูเข้าไปและสูดหายลึกทีหนึ่งก่อนเดินเข้าไปเลือกที่นั่ง
เขามองไปรอบห้องแต่ก็ไม่เห็นกลุ่มของนักดาบปีศาจเลย ขณะที่เขากำลังจะส่งข้อความไปหานักดาบปีศาจ Comrade rayก็ร้องออกมาว่า "มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?" **(รายละเอียดชื่อท้ายตอน)
"ฉันหาคนอยู่" กู่เฟยอธิบายลักษณะของนักดาบปีศาจให้ฟัง
'เขาดูน่าเกลียดกว่าคนปกติ' กู่เฟยเพิ่งเริ่มอธิบายรายละเอียดของนักดาบปีศาจไปแค่นั้น Rayก็ชี้ไปทางมุมหนุ่มของร้านแล้ว "ห้อง3" ในฐานะที่เป็นบาร์ที่ถูกเปิดโดยผู้เล่น ตัวสถานที่จึงดูไม่เก่าเหมือนโรงเตี๊ยมที่ถูกเปิดโดยระบบ Rayกระทั่งใช้เสาไม้เพื่อแบ่งบางส่วนของบาร์ให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวเพื่อทำให้ที่นี่ดูเหมือนบาร์ที่ทันสมัยเหมือนโลกจริง
"ขอบคุณมาก!"
"ไม่เป็นไร เรียกหาฉันได้ถ้านายมีอะไรให้ช่วย" รอยยิ้มสุภาพของเรย์นั้นสมควรต่อชื่อเสียงของเขามากจริงๆ
"Ray!" กู่เฟยยกนิ้วชี้ขึ้นกระดิกไปมาและกล่าว "ฉันรู้แล้ว! ชื่อจริงของนายคงเป็นRay feng ใช่ไหม?" **(รายละเอียดชื่อท้ายตอน)
"ตลกมาก" Rayหัวเราะติดตลก
กู่เฟยยิ้มขณะที่เขากล่าวลาและเดินไปยังห้อง3
เสาไม้ที่ทำหน้าที่เป็นผนังห้องไม่กว้างพอที่จะใช้ทำเป็นประตู ดังนั้นประตูห้องจึงถูกแทนด้วยผ้าผืนหนึ่ง กู่เฟยจับผ้าและเขย่ามันเล็กน้อยเพื่อใช้มันแทนการเคาะประตู
"เข้ามาได้เลย! คนที่อยู่ข้างในกล่าวขึ้น
เมื่อกู่เฟยยกผ้าขึ้นเพื่อเข้าไป เขาก็เผอิญสังเกตเห็นคนที่อยู่ตรงข้ามทางเข้าพอดี
หนึ่งคำ: สวย
สองคำ: สวยมาก
สามคำ: โคตรมีเสน่ห์
สี่คำ: โอ้พระเจ้าช่วย
ห้าคำ: นั่นผู้ชายจริงเหรอ?
มีคนๆหนึ่งนั่งข้างนักดาบปีศาจและกำลังหันหน้าเข้าประตู กู่เฟยคงไม่เชื่อว่าเขาเป็นผู้ชายถ้าไม่ใช่เพราะหน้าอกที่แบนราบและลูกกระเดือกที่นูนออกมาของเขา
คนๆนั้นวางแขนข้างหนึ่งบนไหล่ของนักดาบปีศาจ และยกแขนอีกข้างชี้ไปทางกู่เฟยเมื่อเขาเข้ามา "นั่นคือผู้ชายคนนั้นเหรอ?"
นักดาบปีศาจพยักหน้าขณะที่เขาเดินไปหากู่เฟย "นายมาถึงสักที"
กู่เฟยพยักหน้าตอบกลับ "อืม"
ชายหน้างามผู้นั้นชี้ไปทางที่นั่งว่างมุมขวาของเขาและกล่าว "นั่งสิ!"
กู่เฟยเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีคนอีกสามคนหลังจากที่เขานั่งลงแล้ว คนหนึ่งธรรมดา คนหนึ่งดูจืดจาง และอีกคนหนึ่งทั่วไป เมื่อเทียบกับความสวยจนน่าตกตะลึงกับน่ากลัวจนน่าหวาดหวั่นของนักดาบปีศาจและชายคนนั้น ทั้งสามดูธรรมดามากจนกู่เฟยแทบจะไม่สามารถบอกเอกลักษณ์เฉพาะในตัวของพวกเขาได้เลย
"เดี๋ยวฉันแนะนำทุกคนเอง" นักดาบปีศาจบอกกู่เฟยโดยเริ่มจากคนที่อยู่ด้านข้างของกู่เฟย "War Without Wounds!(สงครามไร้บาดแผล) เขาอาชีพนักรบ"
War Without Woundsเป็นลุงวัยกลางคนที่มีร่างกายที่ดีและให้บรรยากาศของผู้มีวุฒิภาวะและความเป็นผู้ใหญ่ "สวัสดี" เขายื่นมือออกมาพลางกล่าวแนะนำตัว "ฉันรักนักรบ เพราะงั้นฉันถึงเลือกอาชีพนักรบเสมอในทุกๆเกมออนไลน์"
"และเขาก็มักจะเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดเสมอ" นักดาบปีศาจกล่าวเสริม
"สวัสดี" กู่เฟยอดหมวกฝากของเขาด้วยมือซ้ายและยื่นมือขวาออกไปจับมือเขาอย่างรวดเร็ว ในตอนนั้นเขาตระหนักได้ทันทีว่านักรบคนนี้บีบแรงมาก วอริเอ่อร์ส่วนใหญ่จะลงค่าสถานะส่วนใหญ่ไปกับค่าความแข็งแกร่ง ส่วนกู่เฟยเป็นจอมเวทย์ที่เน้นค่าความคล่องแคล่ว ดังนั้นการจับมือในครั้งนี้จึงรู้สึกเหมือนกับว่ากระดูกของเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ โชคดีที่เขาไม่ทำให้เรื่องต่างๆเป็นเรื่องยากสำหรับกู่เฟย มือของเขาที่กำลังกำอยู่คลายออกหลังจากนั้นไม่นาน เห็นได้ชัดว่าเขาทำไปด้วยความเคยชินเท่านั้น กู่่เฟยทำได้แค่ยิ้มแห้ง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่การจับมือทำให้เขาต้องหวาดระแวง
"คนนี้คือBrother Assist เขาสุ่มเลือกอาชีพทุกเกม และคราวนี้เขาเป็นอัศวิน Brother Assistเก่งในเรื่องการรวบรวมข้อมูล เขามักสักเกตเห็นรายละเอียดที่คนอื่นๆอาจมองข้าม" นักดาบปีศาจแนะนำคนที่สอง
"Brother Assistเหรอ? คุณดูไม่เหมือนคนอายุมาก" กู่เฟยยื่นมือออกไปอีกครั้ง **(Brother Assist = ผู้สนับสนุนน้องชาย)
"โทษที! ชื่อจริงของฉันคือหยูเกอ โทษทีถ้ามันทำให้นายรู้สึกอึดอัด" Brother Assistเกาหัวเจื่อนๆ ก่อนยื่นมือไปจับมือของกู่เฟย เขามีรอยยิ้มที่เป็นมิตรและเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนง่ายๆ
"ฉันเข้าใจ" กู่เฟยยิ้ม
"คนๆนี้ชื่อRoyal God Call(เสียงเรียกแห่งพระเจ้า) เขาเล่นจอมเวทย์เก่งมาก แต่เกมนี้เขาเลือกเล่นนักธนู" นักดาบปีศาจแนะนำคนที่สาม คนๆนี้ดูอายุไม่เยอะมากนักและมีใบหน้าเรียบเฉย เขาแผ่บรรยากาศจองหองของพวกเด็กวัยรุ่น มีโอกาสมากที่เขาจะเป็นเด็กนักเรียน
"สวัสดี" กู่เฟยยื่นมือออกไปด้วยท่าทีจริงจังยิ่งกว่าสองครั้งก่อน กู่เฟยรู้ว่าวิธีที่ดีที่สุดในการตอบโต้กับพวกเด็กคือการไม่ทำเหมือนพวกเขาเป็นเด็ก กู่เฟยต้องทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกเคารพ
เห็นได้ชัดว่าRoyal God Call เป็นคนหัวสูงขณะที่เขาไม่คิดแม้แต่จะยื่นมือของเขาออกมา เขาเพียงแค่นเสียงพูดมาคำหนึ่ง "อืม"
'เจ้าเด็กบัดซบ อายุเท่านี้ยังไม่รู้จักการเคาระผู้อาวุโสกว่า!' กู่เฟยตำหนิเงียบๆ
"คนๆนี้เป็นคนสุดท้าย! ชื่อYoung Master Han เขาเป็นคู่หูในเกมออนไลน์เกมเก่าของฉัน เขาเล่นอาชีพนักบวชเสมอ" ในที่สุดนักดาบปีศาจก็แนะนำตัวมาจนถึงคนที่นั่งอยู่ถัดจากเขา
- - - - - - - - - -
Comrade ray- ถูกเขียนอยู่ในนิยายต้นฉบับในชื่อ 小雷同志. 同志, ซึ่งในกรณีนี้หมายถึง 'comrade' มันมักถูกใช้เพื่อเรียกเพื่อนร่วมชาติในรัฐคอมมิวนอสต์
Ray Feng- ถูกเขียนอยู่ในนิยายต้นฉบับในชื่อ雷锋 เขาเป็นทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชน รวมถึงเป็นตำนานคนหนึ่งของคอมมิวนิสต์และเป็นสัญลักษณะทางด้านวัฒนธรรมในประเทศจีน เขาเป็นผู้จงรักภักดีต่อพรรคคอมมวนิสต์ที่รู้จักกันว่าเป็ฯคนเสียสละและถ่อมตนจนถูกมองว่าเป็นบุคคลตัวอย่าง