ตอนที่ 99 เฟโลเนีย
รอยรถถูกทิ้งไว้บนผืนทรายโดยลู่ฉิงและพวกเธอ เหมือนกับรอยย่นบนกระดาษขาว-มันเด่นชัดอย่างที่ควรเป็น หานเซี่ยวตามร่องรอยไปโดยไม่หยุด
ตำแหน่งของพวกเธอกระพริบอย่างต่อเนื่องบนเรดาห์ และมันก็ยังคงอยู่ในทะเลทรายกว้างขวาง ตอนนี้เขากำลังมุ่งหน้าไปยังขอบด้านนอกของทะเลทรายโซมาร์ มันถูกระบุในข้อมูลสภาพอากาศว่าจะมีพายุทรายเกิดขึ้น
ทะเลทรายไร้สิ้นสุดทำให้หานเซี่ยวรู้สึกเหนื่อยล้าทางจิต หลังไล่ล่าอยู่ครึ่งชั่วโมง รถจิ๊ปก็ปรากฏในสายตา
ในที่สุดฉันก็ไล่ทัน!จิตใจของหานเซี่ยวตื่นตัวขึ้น
เมื่อหานเซี่ยวเห็นรถอีกฝาย พวกกุหลาบสงครามบนรถก็เห็นหานเซี่ยว
“มันคือขวากหนาม!”ซูลี่กรีดร้อง
สีหน้าของลู่ฉิงดำมืดก่อนเธอจะกวาดตามองอย่างกระวนกระวายและตระหนักว่ากำลังถูกไล่ล่าด้วยรถแค่คันเดียว เธอจึงผ่อนคลายขึ้น
แกกล้าไล่ตามเราเพียงลำพัง?คิดว่าเราจัดการได้ง่ายขนาดนั้น?!
“กลับรถ...”
บรื้นน..
ขวากหนามยิงด้วยอาวุธทั้งหมด-ระเบิดและจรวดไล่ตามรถของลู่ฉิง
ลู่ฉิงรีบเปลี่ยนคำสั่ง“แค่ก แค่ก หนีจนกว่ากระสุนเขาจะหมด!”
เธออับอายเล็กน้อย
รถสองคันวิ่งด้วยกำลังสูงสุด พวกเขาขับผ่านเนินทราย ทรายที่ลอยคลุ้งทำให้ง่ายต่อการไล่ตาม
...
ผู้แสวงบุญในชุดขาดรุงรังกำลังเดินผ่านทะเลทรายร้อนระอุ ผู้อาวุโสสุดหอบอย่างหนักและเสื้อผ้าเขาก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาหยิบขวดน้ำออกจากสัมภาระและกระดกด้วยมือสั่นเทา แต่เขาก็ไม่อาจคลายความเหนื่อยล้าและกระหายได้
ผู้แสวงบุญอาวุโสหมุนตัวและเหลือบมองกลุ่ม ทุกคนล้วนย่ำแย่ จากนั้นเขาก็คิดย้อนกลับไปตอนเขายังหนุ่ม มีเพื่อนร่วมชาติหลายหมื่นที่หลบหนีมาได้และร่วมเดินทางด้วยกัน แต่ทว่า หลังความอุตสาหะอยู๋หลายปี มันก็เหลือแค่20คน บางคนตายระหว่างเดินทาง และบางคนก็ยอมแพ้ กลุ่มเล็กๆนี่คือผู้แสวงบุญกลุ่มสุดท้าย
ผู้แสวงบุญอาวุโสอดสงสัยถึงการมีอยู่ของเฟโลเนียไม่ได้ แต่ทว่า หากเขายอมแพ้ ความพยายามหลายปีเขาคงสูญเปล่า
เสียงเครื่องยนต์ดังจากระยะไกล-รถของหานเซี่ยวและกุหลาบสงครามปรากฏในวิสัยทัศน์ และกลุ่มทรายด้านหลังรถก็กำลังเข้ามาใกล้
เหล่าผู้แสวงบุญไม่ได้ตกใจเพราะมันคือเหตุการณ์ปกติบนทะเลทราย ทันทีที่พวกเขายืนยันว่ารถไม่ได้กำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา พวกเขาก็คลายความกังวล พวกเขายืนนิ่งและรอให้รถสองคันหายไป
ในเวลานี้ จรวดขนาดเล็กก็บินไปในท้องฟ้าและตกลงบนทราย
ทันใดนั้น บางสิ่งที่ไม่คาดฝันก็อุบัติขึ้น!
พื้นสั่นสะเทือนอย่างแรง และทรายก็ดูดลงในจุดที่จรวดระเบิด เมื่อทรายตกลงไป หลุมดำก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน หลุมขยายใหญ่อย่างต่อเนื่อง คล้ายกับปากยักษ์ที่กำลังเปิด!
ทรายยังคงตกลงไปเรื่อยๆ และเผยให้เห็นพื้นที่ว่างภายใต้ผืนทราย+
..
ท่านค้นพบสถานที่ลับ[เฟโลเนีย-08]ท่านได้รับค่าประสบการณ์สำรวจ1000หน่วย
นักล่าค่าหัว(กุหลาบสงคราม)[บรรลุความต้องการลับ]
เอ๊ะ?หานเซี่ยวประหลาดใจจนเกือบหันรถกลับ
เกิดอะไรขึ้น
ฉันทำภารกิจสำเร็จโดยบังเอิญ ฉันโชคดีขนาดนั้นเลย?
แต่ฉันจะใช้โชคกับสถานที่เช่นนั้นได้ยังไง?นี่มันเสียเปล่า!
หลุมทรายยังคงขยายใหญ่ หานเซี่ยวคิดว่สพายุทรายไม่กี่วันก่อนตองไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างชั้นทรายในบริเวณนี้ เหตุนั้น การระเบิดเขาจึงไปกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาห่วงโซ่
แม้เขาจะอยากรู้เกี่ยวกับเฟโลเนียมาก การล่ากุหลาบสงครามก็สำคัญกว่า
หลังตั้งพิกัดไว้บนเรดาห์ เขาก็ไล่ล่ากุหลาบสงครามต่อ
ในไม่ช้ารถสองคันก็ขับไปไกล
มือของผู้แสวงบุญอาวุโสสั่นสะท้าน ด้วยความดีใจ เขาร้องเรียกกลุ่มคนด้านหลังเขา
“นี่....นี่ต้องเป็นเฟโลเนียแน่ๆ พวกเราเร็วเข้า!”
เหล่าผู้แสวงบุญเหมือนพบโอเอซิสตรงหน้า พวกเขารีบวิ่งไปทางหลุม
“สมบัติแห่งเฟโลเนีย...สมบัติแห่งเฟโลเนีย...”ผู้แสวงบุญอาวุโสหยุดพึมพำไม่ได้ หยาดน้ำตาไหลเป็นทาง ในที่สุดสิ่งที่เขาเชื่อหมดหัวใจก็เป็นจริง
...
หลังไล่ล่าหลายกิโลเมตร ในที่สุดขวากหนามก็หมดกระสุน ไม่ว่าอาวุธจะแข็งแกร่งแค่ไหน กระสุนก็ยังมีวันหมด แต่หานเซี่ยวกลับถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาดีใจที่การไล่ล่านี้กำลังจะสิ้นสุดลง
พวกกุหลาบสงครามควรหยุดได้แล้ว หากพวกเธอไม่หยุดหนีและโต้กลับ มันก็เป็นไปแค่พวกขี้ขลาด
“อาวุธของมันหมดแล้ว!”
ซูลี่คือคนแรกที่พบความผิดปกติของขวากหนาม ยังไงซะ เธอก็คือผู้สร้างขวากหนาม
ลู่ฉิงโล่งอก จากนั้นเธอก็กล่าวอย่างไร้ปราณี“กลับรถ!”
รถสองคันห่างกัน400เมตร หานเซี่ยวได้หยุดรถเขา เมื่อเขาเห็นรถจิ๊ปหมุนกลับมาอย่างดุดัน เขาก็ยิ้มเย็นและเริ่มยิงด้วยปืนไรเฟิลซุ่มยิง
ระยะ400เมตรพอให้เขายิงได้8-10นัด
เขาต้องใช้กระสุนเจาะแกนหมุน4นัดเพื่อทำลายกระจกกันกระสุน และกระสุนนัดที่5ก็พุ่งใส่คนขับ
ลู่ฉิงที่นั่งอยู่ด้านหน้ารีบยกมือเธอขึ้นและป้องกันคนขับ กระสุนเหมือนกับพบเจอกำแพงที่ไม่มีวันพัง เกิดระลอกคลื่นสีขาวก่อนมันจะถูกสะท้อนกลับออกมา
สนามพลังของเอสเปอร์ หานเซี่ยวหรี่ตาแคบ เขารู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
เอสเปอร์มีความสามารถทุกประเภท แต่บางคนจะปลุกความสามารถที่คล้ายกันขึ้น สนามพลังคือประเภทความสามารถหลักของเอสเปอร์ ประเภททั่วไปอื่นๆก็เช่น การควบคุมโมเลกุล เสริมพลังให้ร่างกาย และการแปรรูป
ความสามารถที่เกี่ยวกับสนามพลังจะรวมถึงการควบคุมวัตถุ กำแพงล่องหน การโจมตีล่องหน มันคือความสามารถที่เอาไว้ต่อต้านอาวุธปืนโดยเฉพาะ
เมื่อเขาคิดเสร็จ หานเซี่ยวก็บรรจุกระสุนเฮมและยิงอีกครั้ง ลู่ฉิงสะท้อนกระสุนอีกครั้งด้วยสนามพลัง แต่ทว่า เมื่อกระสุนถูกบีบ มันก็ปล่อยก๊าซพิษสีเขียวออกมา ทุกคนบนรถติดพิษทันที พวกเธอเริ่มตาลาย หน้าอกบีบแน่น และพลังชีวิตก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลการต่อสู้ หานเซี่ยวรู้ว่าลู่ฉิงมีระดับเดียวกับเขา-ระดับ30-ดังนั้นเธอต้องยังไม่อาจใช้ทักษะควบคุมก๊าซได้
จากนั้นหานเซี่ยวก็ยิงกระสุนระเบิดแรงสูง ซึ่งเข้าไปจุดไฟภายในรถ แต่ทว่า ไฟกลับถูกดับอย่างรวดเร็วโดยเครื่องดับไฟ ตัวรถถูกออกแบบมาสำหรับการอพยพ ดังนั้นมันจึงถูกติดตั้งด้วยเครื่องดับไฟ
หานเซี่ยวไม่มีทางเลือกนอกจากต้องล้มเลิกแผนบังคับให้ศัตรูทิ้งรถ แต่เขาก็ไม่ได้กระวนกระวาย เขายิงกระสุนเฮมอีกสองนัด และตอนนี้ รถจิ๊ปก็เต็มไปด้วยก๊าซพิษ
หลังยิงกระสุนเหล่านี้ ระยะห่างจากศัตรูก็เหลือแค่ร้อยเมตร
หานเซี่ยวเก็บปืนลงไปและเหยียบคันเร่งอย่างแรง เขาคิดพุ่งชนใส่รถจิ๊ปของศัตรู!
สีหน้าของซูลี่เปลี่ยนไปและสั่งคนขับอย่างตื่นตระหนก“หลบเร็วเข้า เกราะภายนอกของขวากหนามแข็งอย่างมาก เราไม่อาจปะทะกับมันได้”
คนขับรีบหักพวงมาลัยหลังได้ยินคำสั่ง เมื่อเห็นเช่นนี้ หานเซี่ยวก็หักรถตาม แต่เขาช้าเกินไป เขาทำได้แค่เบียดด้านข้างของรถจิ๊ป เขาอยากทำลายรถศัตรูด้วยการบดขยี้กับมัน หากเขาทำสำเร็จ จากนั้นเขาก็สามารถใช้ขวากหนามเหยียบศัตรูและหนีไปได้ แต่ทว่า พวกกุหลาบสงครามกลับตอบสนองเร็วเกินไป
ลู่ฉิงตระหนักว่าแม้ขวากหนามจะไม่เหลือกระสุน มันก็ยังไม่ใช่รถธรรมดาทั่วไป เธอไม่มีทางเลือกนอกจากระงับความโกรธในใจ“ช่างมัน รีบหนีกันเถอะ”
รถจิ๊ปยูเทิร์นและขับไปไกลสิบเมตรก่อนลู่ฉิงจะตระหนักว่าขวากหนามไม่ได้ไล่ตามพวกเธอ เธอโล่งใจ คิดว่าหานเซี่ยวยอมแพ้แล้ว จากนั้นก็กัดฟันแน่นด้วยความโกรธ
ฉันจะปล่อยแกไปก่อน ครั้งหน้าที่เราพบกันจะเป็นวันตายของแก!
เมื่อเธอคิดจบ คลื่นที่มองไม่เห็นก็ถูกส่งจากขวากหนาม รถจิ๊ปสูญเสียความสามารถมัน และไหลอยู่หลายสิบเมตรเนื่องด้วยโมเมนตัมตกค้างก่อนหยุดลง
บนขวากหนาม หานเซี่ยวได้ใช้EMPเขา ซึ่งหมายความว่าขวากหนามเองก็สูญเสียความสามารถไปเช่นกัน
หานเซี่ยวถอนหายใจ นี่คือไพ่สุดท้ายเขาเพื่อกันศัตรูจากการหลบหนี เขาไม่คิดใช้มัน แต่ก็ตระหนักว่าลู่ฉิงไม่คิดอยู่และสู้อีก ดังนั้น เขาจึงต้องใช้มันอย่างช่วยไม่ได้ แม้เขาจะพยายามซ่อมขวากหนาม มันก็ต้องใช้เวลากว่าสิบนาที
ต่อไป มันจะเป็นศึกของมนุษย์!
“คลื่นEMP!รถพังแล้ว!”ลู่ฉิงโง่งม หลังถูกกระตุ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอก็ไม่อาจระงับความโกรธได้อีกต่อไป เธอเดินออกจากรถและปล่อยสนามพลังใต้เท้า ซึ่งช่วยให้การก้าวเพียงครั้งเดียวไปไกลหลายเมตร เธอพุ่งใส่หานเซี่ยวอย่างรวดเร็วคล้ายจรวด และสนามพลังรอบเธอก็เปล่งเสียงน่ากลัวออกมา
“แกอยากตายนักใช่ไหม?!”
ก่อนลู่ฉิงจะถึงตัวหานเซี่ยว เสียงตะโกนของเธอก็แหลมบาดเข้ามาในหูของหานเซี่ยว