The Dark King – Chapter 110 ชำแหละ [อ่านฟรี 24-05-2019]
The Dark King – Chapter 110 ชำแหละ
“แล้วเธอได้รับสัญลักษณ์เวทมนตร์หรือยัง?” แกสท์เดินออกมาถาม เขาเห็นคราบเลือดบนร่างกายของเกล็นและถามขึ้น
นอกจากฟู่เทียนแล้วสายตาของคนอื่นๆต่างก็จับจ้องไปที่เกล็น พวกเขามองเธออย่างอิจฉา แม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่าสิ่งนี้นั้นไม่ใช่ของตนเองแต่ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“อืม” เกล็นพยักหน้าเบาๆ “ครั้งนี้ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของทุกๆคนมาก ฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการแล้ว”
พวกเขาทุกๆคนต่างก็รู้สึกมีความสุข การมีบุญคุณต่อนักล่ายอดฝีมือนั้นย่อมเป็นประโยชน์ต่อพวกเขามากมายในอนาคต
ฟู่เทียนมองไปยังนักดาบที่ตายไปก่อนหน้านี้และกล่าวว่า “เราจะแบกศพของเขากลับไปหรือเผาศพเขาตรงนี้ดี?”
เกล็นมองกลับไปแล้วถอนหายใจ “ร่างกายของเขานั้นติดเชื้อแล้ว เพียงแต่มันอยู่ในขั้น ‘ฟักตัว’ เขาจะเป็นซอมบี้ในที่สุด พวกเราจะเผาศพเขากันตรงนี้”
สีหน้าของนักล่าคนอื่นๆนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้าทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ นี่คือการสูญเสียจากภารกิจครั้งนี้
“ฉันจะนำดาบของเขากลับไปเอง!” อัศวินเดินมาใกล้ศพของเขาและหยิบดาบขึ้นมา เขาพูดด้วยเสียงต่ำ “พวกเราต่างก็อยู่ในทีมเดียวกันมา 3 สัปดาห์ ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีใครต้องจากไป”
แกสท์เดินมาตบที่ไหล่ของเขาและไม่ได้พูดอะไรออกมา
มันยากนักที่จะหาความหมายของชีวิต สำหรับคนธรรมดานั้นการตายคงเป็นเรื่องที่ยากที่จะได้เจอ แต่สำหรับนักล่านั้นมันเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะต้องยอมรับมันให้ได้
ชายหนุ่มที่ใช้มีดและอัศวินต่างก็เดินตรวจสอบไปรอบๆที่แห่งนี้เพื่อค้นหาสิ่งที่ติดไฟได้ พวกเขาเจอเศษกระดาษ ไม้ และชุดของนักดาบคนนี้ เมื่อโยนไม้ขีดไฟลงไปแล้วร่างของนักดาบก็จมอยู่ในเปลวเพลิงทันที ทุกๆคนต่างยืนสงบนิ่งจนร่างกายของเขากลายเป็นเถ้าถ่านในตอนนี้
เมื่อเปลวเพลิงสงบลงก็เหลือเพียงเถ้าถ่านและเศษกระดูกที่เหลืออยู่ เกล็นขุดหลุมฝังสิ่งที่หลงเหลืออยู่ไว้ที่นี่
หลังจากจัดการกับร่างของนักดาบเสร็จสิ้นเกล็นก็ยืนขึ้นและเดินเข้าไปหาร่างของมัจจุราชทมิฬ
ชายหนุ่มที่ใช้มีดก็เดินเข้ามาเพื่อช่วยเหลือเกล็น พวกเขาทั้งสองคนต่างก็ชำแหละซากของสัตว์ร้ายได้อย่างชำนาญ
นี่เป็นโอกาสหาได้ยากที่จะได้เห็นกายวิภาคของพวกสัตว์ร้ายดังนั้นฟู่เทียนจึงเฝ้ามองพวกเขาในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะได้เรียนรู้เรื่องการชำแหละซากของสัตว์ต่างๆในค่ายฝึกฝนของหน่วยค้นหาแต่การชำแหละชิ้นส่วนต่างๆที่เป็นประโยชน์ของสัตว์ร้ายนั้นเป็นเรื่องที่ยากและซับซ้อนอย่างยิ่ง
เลือดเริ่มไหลทะลักออกมาและส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วในขณะเดียวกันอวัยวะต่างๆก็เริ่มไหลออกมา
ฟู่เทียนกำลังเฝ้ามองอย่างเงียบๆ
ไม่นานหลังจากนั้นเปลือกแข็ง หัว หนาม ซี่โครงและส่วนอื่นของมัจจุราชทมิฬต่างก็ถูกแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน ฟู่เทียนเห็นเกล็นตัดเปิดศีรษะของมัจจุราชทมิฬออก เธอดึงอะไรบางอย่างสีขาวออกจากร่องในกระดูกขากรรไกร ดูจากสีหน้าของเธอแล้วนี่ย่อมเป็นสิ่งที่ล้ำค่าอย่างแน่นอน
“แปลก ครงนี้มันว่างเปล่า! หรือว่า?” สีหน้าของชายที่ใช้มีดนั้นเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาเปิดท้องของมัจจุราชทมิฬออกมา
เกล็นหันกลับมามองทันทีเมื่อเธอได้ยินคำพูดของเขา ในท้องของมันนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากอวัยวะภายใน
ฟู่เทียนรู้สึกงงๆเมื่อได้ยินบทสนทนานี้แต่เขาก็คิดว่าพวกเขาอาจจะหมายถึงไข่ของมัจจุราชทมิฬ
“หรือว่ามันจะไปวางไข่ก่อนออกหาอาหารแล้ว?” เกล็นกำลังครุ่นคิดในตอนนี้ก่อนที่เธอจะส่ายศีรษะและพูดออกมาว่า “ไม่เป็นไปไม่ได้ ไข่อ่อนนั้นมีอัตราการรอดชีวิตที่ต่ำมาก ยากมากที่มันจะฟักตัวออกมาได้ แม้ว่าจะฟักตัวออกมาได้หนอนวิญญาณกาฝากที่อยู่ภายในนั้นก็อ่อนแอเกินกว่าที่จะเป็นสัญลักษณ์เวทมนตร์ได้”
ชายที่ใช้มีดนั้นรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากและพยายามชำแหละชิ้นส่วนที่มีประโยชน์ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ฟู่เทียนเห็นว่าเขานำของเหลวสีเหลืองออกมาจากท้องของมัน เขาพบว่ามันแปลกและถามว่า “นี่คืออะไรหรอครับ?”
“นี่คือไขมันของมัน” ชายที่ใช้มีดมองมายังฟู่เทียน เขาสุภาพต่อฟู่เทียนมากยิ่งขึ้นในตอนนี้ “มันเป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับตะเกียงน้ำมัน พวกคนชั้นสูงนั้นชอบมาก”
ฟู่เทียนตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเพราะเขาไม่ได้คาดหวังว่าผู้คนจะยินดีใช้สิ่งนี้เพื่อจุดตะเกียงน้ำมันของตนเอง
ไม่นานหลังจากนั้นร่างกายขนาดใหญ่ของมัจจุราชทมิฬก็ถูกชำแหละออกมาอย่างสมบูรณ์ ทุกส่วนที่มีค่าของมันถูกเก็บไปหมดแล้วตอนนี้เหลือเพียงอวัยวะที่ไร้ประโยชน์ เลือด และเศษเนื้อของมันเท่านั้น เกล็นไฟเผาเศษชิ้นส่วนที่หลงเหลืออยู่เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายตัวอื่นๆตามมากินซากที่เหลือไว้ในตอนนี้
อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นฉุนแปลกๆ มันมีกลิ่นเหมือนกับเนื้อแช่อยู่ในเลือดกำลังสุก
ฟู่เทียนปิดจมูกของตนเอง แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้กลิ่นของมัจจุราชทมิฬขึ้นมา เขาพยายามตรวจสอบที่มาของกลิ่นนี้มากขึ้นเรื่อยๆและดูเหมือนว่ามันจะออกมาจากใต้ดิน
ฟู่เทียนรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาสูดดมกลิ่นมากขึ้นเพื่อตรวจหาตำแหน่งที่มีการแพร่กระจายของกลิ่น ห่างออกไปไม่กี่เมตรจากสถานที่แรกที่พวกเขาฆ่ามัจจุราชทมิฬตรงนั้นเป็นพื้นที่ราบเรียบแต่กลับดูอ่อนนุ่ม เขานึกถึงบทสนทนาระหว่างชายหนุ่มที่ใช้มีดกลับเกล็น “นั่นหรอ?”
ในตอนนี้ชายหนุ่มที่เป็นนักธนูรีบกล่าวขึ้นว่า “การล่ามัจจุราชทมิฬจบลงแล้ว ฉันขอตัวไปตรวจสอบพื้นที่รอบๆที่แห่งนี้ก่อนเผื่อจะมีอะไรที่เป็นประโยชน์บ้าง ตอนนี้ฉันรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวเป็นอย่างมาก บางทีฉันอาจจะโชคดีก็ได้ใช่ไหมล่ะ? ฮ่าๆๆ?”
เกล็นเก็บทุกอย่างเอาไว้ในกระเป๋าขนาดใหญ่ “ได้แน่นอนแต่ฉันเพิ่งจะได้รับสัญลักษณ์เวทมนตร์อันใหม่มาเลยรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยตอนนี้และอยากกลับไปพักผ่อนที่ในกำแพงยักษ์ ถ้านายอยากจะไปก็ไปสิ แต่จำไว้ด้วยว่าที่นี่นั้นอันตรายมาก!”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันได้ยินมาว่าในพื้นที่หมายเลข 6 นั้นมีทีมที่กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ ฉันอาจจะได้ขอเข้าร่วมและอาจจะได้อะไรที่เป็นประโยชน์บ้างก็ได้!” นักธนูคนนั้นหัวเราะออกมา
เกล็นคิดถึงเรื่องนี้และกล่าวว่า “งั้นก็ขอให้นายโชคดี”
ฟู่เทียนนึกถึงสิ่งที่เขาเก็บเอาไว้ในพื้นที่หมายเลข 9 และรีบกล่าวออกมาว่า “ผมก็อยากจะไปด้วยเหมือนกัน”
“นายหรอ?” เกล็นมองมาที่เขาและขมวดคิ้ว “พื้นที่หมายเลข 6 นั้นอันตรายมากเกินไป มันมีสัตว์ร้ายเลเวลสูงอยู่มากมายไม่เหมาะกับนายหรอก”
“ผมจะไปที่พื้นที่อื่น” ฟู่เทียนกล่าว “พวกซอมบี้นั้นอาจจะไม่ได้อยู่ในสายตาของคุณ แต่สำหรับผมแล้วมันทำรายได้ได้ดีเลยล่ะ”
เกล็นนึกขึ้นมาในตอนนี้ “โอเค แต่ผลึกเหมันต์นั้นไม่ได้มีค่ามากนักหรอก ถ้าหากว่านายกังวลเรื่องเงินฉันสามารถให้ยืมได้ตราบใดที่ไม่เกิน 100,000 เหรียญทอง”
ฟู่เทียนตะลึง 100,000 เหรียญทองงั้นหรอ? นี่มันเงินมากมายเลยนะ มันพอที่จะซื้อเมืองเล็กๆในย่านที่อยู่อาศัยได้เลย!
“ผมไม่ได้ขาดเงินมากนักหรอก ยิ่งไปกว่านั้นผมอยากจะหาประสบการณ์ให้ตัวเอง” ฟู่เทียนตอบกลับไป
เกล็นเห็นความมุ่งมั่นของเขา “เอาหละ ฉันจะไปเป็นเพื่อนเธอเอง”
ฟู่เทียนรีบพยักหน้าทันทีเพราะเขาไม่กล้าที่จะเดินทางคนเดียวในพื้นที่แห่งนี้