บทที่ 38 ทุ่มทุนสุดๆ
บทที่ 38 ทุ่มทุนสุดๆ
เห็นสายตาจริงจังของเฉินเสี่ยวเลี่ยน ร็อดดี้ที่อยากบ่นอีกหลายคำก็สะกดกลั้นอารมณ์ไว้ได้ในที่สุด พูดตรงไปตรงมาว่า
“เฉียวเฉียว ฉายาคุณหนูเฉียว ราชินีเฉียว นิสัยบางทีก็เย็นชา บางทีก็โมโหร้าย สรุปก็คือมีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสุดยอดสาวสวยอ่อนหวาน แต่สวรรค์กลับมอบวิญญาณสาย S[1] ให้เธอเสียนี่… ถ้านายไม่ได้เป็น M ก็อย่าไปยั่วโมโหเธอจะดีกว่า เกิดในตระกูลร่ำรวย เป็นลูกคนเดียว พ่อเธอเล่นหุ้น มีเงินมากแค่ไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน ส่วนแม่เธอ ฉันก็ไม่เคยเจอ ได้ยินว่าหย่ากันเมื่อหลายปีก่อน หนีไปอยู่ในที่ไกลแสนไกล ใช่แล้ว ราชินีเฉียวต่อยตีโคตรเก่ง...ฉันเคยเห็นเธอออกหน้าแทนเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง เตะทีเดียวทำเอาโค้ชเทควันโดจอมลามกกระอักเลือดเลย”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนพยักหน้า “พูดเรื่องน้องสาวเธอเถอะ เด็กผู้หญิงที่ชื่อซูซูน่ะ”
ร็อดดี้จ้องเฉินเสี่ยวเลี่ยนทีหนึ่ง “นาย...คงไม่ได้เป็นโรคใคร่เด็กจริงๆ ใช่ไหม?!”
“จะพูดหรือไม่พูด?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนขมวดคิ้ว
“ชาติที่แล้วฉันติดหนี้นายสินะ...” ร็อดดี้กลอกตาค้อน “ซูซู ชื่อเต็มชอนอินซู เป็นคนเกาหลี ถึงจะบอกว่าเป็นพี่น้องกัน แต่เธอไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับราชินีเฉียว ดังนั้นถ้านายชอบแบบแพคคู่ก็ต้องผิดหวังแล้วละ...” พูดถึงตรงนี้ ร็อดดี้เห็นสีหน้าโหดเหี้ยมของเฉินเสี่ยวเลี่ยนจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง พูดอย่างรวดเร็วว่า “ได้ยินว่าพ่อของเฉียวเฉียวมีเพื่อนคู่ค้าชาวเกาหลีอยู่คนหนึ่ง ตอนหลังเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ตายหมดบ้านเหลือแค่ลูกสาวคนเดียว ก็เลยถูกคุณพ่อเฉียวรับเป็นลูกบุญธรรม ปีนี้อายุสิบขวบ ถูกราชินีเฉียวมองเป็นแก้วตาดวงใจ...อืม ฉันคิดว่านอกจากราชินีเฉียวจะเป็นสาย S แล้วยังเป็นซิสค่อน[2]ด้วยนะเนี่ย!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนฟังแล้วก็พยักหน้าลุกขึ้นยืน จากนั้นยื่นมือไปตบไหล่ร็อดดี้ ถอนหายใจทีหนึ่ง “อืม ขอบใจนะ”
เห็นเฉินเสี่ยวเลี่ยนจะไป ร็อดดี้ก็ทำหน้ามึน “จะไปแล้ว? นายคงไม่ได้คิดจะไปก่อกวนสองพี่น้องนั่นอีกใช่ไหม? ในฐานะเพื่อนฉันขอเตือนนาย ไม่ควรก่อกวนราชินีเฉียวนะ! ที่เธอพูดว่าจะตอนขาที่สามของนายนั่น เธอกล้าทำจริงๆ!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเดินไปจนถึงปากประตูแล้วหันกลับมายิ้ม “สนใจตัวเองเหอะ… สาย S สาย M ซิสค่อนอะไรของนาย...วันหลังดูพวกอนิเมะให้มันน้อยๆ หน่อยนะ”
รอจนเฉินเสี่ยวเลี่ยนเดินออกจากห้องไปครู่หนึ่งแล้ว ร็อดดี้ถึงรู้ตัว “...อะ...ไอ้นี่มันว่าฉันเป็นหนุ่มจูนิเบียว[3]เหรอวะ?”
……
เดินออกมาจากโรงแรม เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็โบกแท็กซี่กลับบ้าน
ประตูบ้านเปิดอยู่ เดินเข้าประตูมาก็เห็นการ์ฟิลด์นอนขดอยู่บนโซฟา... เจ้าแมวอ้วนติงต๊องตัวนี้ ขนาดนอนยังน้ำลายไหล ทำเอาหมอนอิงเปียกเป็นวง
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเดินไปอุ้มแมวอ้วนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน นั่งลงที่โซฟาแล้วถอนหายใจ รวบรวมสมาธิพูดในใจ
ออกมาเลย...ระบบ
ภายใต้ขอบเขตการมองเห็น ระบบที่แสนคุ้นเคยนั้นก็ปรากฏออกมา หน้าจอระบบกึ่งโปร่งแสง ดูคล้ายกับ ‘ภาพฝัน’ ไม่มีผิด!
‘แจ้งเตือน: คุณเคลียร์ดันเจี้ยน ‘ดันเจี้ยนย่อย 72 ปีศาจแห่งโซโลมอน’ แล้ว ได้รับรางวัลดันเจี้ยน ปีศาจลำดับที่เจ็ดใน 72 ปีศาจ เสาผนึกดยุกอามอนแห่งไฟ’
‘แจ้งเตือน: คุณสังหารผู้เล่นนิวตัน โอกาสเล็กน้อยที่จะได้รับอุปกรณ์ของเป้าหมายที่ถูกสังหาร ยาอัพเกรดยีนx2 เลือดบำรุงขั้นกลางx5 ดาบกางเขนประดับยศx1’
‘แจ้งเตือน: เคลียร์ดันเจี้ยน ‘ดันเจี้ยนย่อย 72 ปีศาจแห่งโซโลมอน’ คำนวนแต้มจากดันเจี้ยน ฆ่าทหารปีศาจx456 ได้รับชิ้นส่วนวิญญาณทหารปีศาจx456 และยังได้รับแต้มรางวัล 456 แต้ม สามารถใช้ได้ที่หน้าแลกเปลี่ยน’
‘แจ้งเตือน: เนื่องจากใช้สกิล ‘หลอมแสงตะวัน’ ค่าสเตตัสของผู้เล่นถูกลดต่ำลงถึงจุดวิกฤต เข้าสู่สภาวะอ่อนแอ โปรดอัพเกรดสเตตัสก่อนเข้าดันเจี้ยนในครั้งถัดไป มิฉะนั้นหลังจากเข้าดันเจี้ยน จะใช้เวลาดันเจี้ยนเป็นพื้นฐาน หากมีสภาวะอ่อนแอต่อเนื่องนาน 180 นาที ผู้เล่นจะตายโดยอัตโนมัติ’
‘แจ้งเตือน: เนื่องจากผู้เล่นเคลียร์ดันเจี้ยนเป็นคนแรก สิ้นสุดช่วงทดลองระดับต้น กลายเป็นผู้เล่นอย่างเป็นทางการ เปิดโหมดแจ้งเตือนสเตตัสส่วนตัว โปรดตรวจสอบ’
หือ? ผ่านช่วงทดลอง? อันนี้น่าสนใจ
การแจ้งเตือนทุกอย่างอยู่ตรงหน้านี้แล้ว
เฉินเสี่ยวเลี่ยนถอนหายใจ ในใจรู้สึกสับสน
ชั่วคืนเดียว เขาค่อยๆ ย่อยเรื่องที่น่าตกใจนี้หมดแล้ว ตอนนี้มองดูการแจ้งเตือนจากระบบตรงหน้า ในใจกลับรู้สึกบรรยายไม่ถูก
พูดได้ว่ารางวัลและสิ่งที่ได้รับเยอะแยะหลากหลายมาก เฉินเสี่ยวเลี่ยนเปิดดูไอเทมพวกนี้ทีละอันๆ ในกระเป๋าไอเทมจึงเริ่มรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา
เสาผนึกอามอน เขียนคำแนะนำไว้ว่า: หนึ่งใน 72 ปีศาจแห่งโซโลมอน เสาผนึกวิญญาณดยุกอามอนแห่งไฟ วิธีใช้ไม่ชัดเจน ไอเทมพิเศษ
เอาเถอะ ไอเทมพิเศษ...นึกว่าของชิ้นนี้จะสามารถเรียกอามอนออกมาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ซะอีก
หรือว่า...รวบรวมเสาผนึก 72 ปีศาจได้แล้ว ก็จะสามารถเรียกโซโลมอนออกมาได้?
ฮึ มองในมุมของเกมแล้ว การกำหนดค่าแบบนี้เป็นไปไม่ได้หรอก
ฆ่าทหารปีศาจ 456 ตัว...อืม หรือว่าระบบเอาการจุดระเบิดเสาห้องโถง จนห้องโถงถล่มลงมาทับทหารปีศาจตายมาคำนวนเป็นแต้มของเขาด้วย? อืม เป็นไปได้ ตัวเขาเป็นคนออกความคิด และตอนจุดระเบิดเขาก็เข้าร่วมด้วย
ชิ้นส่วนวิญญาณทหารปีศาจ 456 ตัว ดูจากคำอธิบายน่าจะเป็นของประเภทวัสดุหลอมรวม ไม่ได้บอกวิธีใช้ที่ชัดเจน
ส่วนแต้ม เป็นสิ่งที่ที่เฉินเสี่ยวเลี่ยนสนใจมาก เขาจำได้ว่าแต้มสามารถใช้แลกไอเทมต่างๆ ในระบบแลกเปลี่ยนได้ อาหารแมวอันนั้นของเขาก็ได้หานปี้ช่วยแลกเปลี่ยนมาให้ ...จริงสิ เขาเองยังติดหนี้หานปี้ 5 แต้ม
แต่ว่าปัญหาก็คือระบบของเขาแม่งเป็นเวอร์ชั่นตัดทอน ไม่มีฟังก์ชันแลกเปลี่ยน
ช่างมันเถอะ GM คนนั้นบอกว่าจะหาวิธีอื่นแก้ปัญหานี้ แต้มก็เก็บไว้ก่อน ไม่แน่ว่าจะได้ใช้ภายหลัง
พอดูแล้ว ของที่เยี่ยมที่สุดคงจะเป็นของที่ได้จากการฆ่านิวตัน!
‘ยาอัพเกรดยีน: ใช้อัพเกรดสเตตัสส่วนตัวของนักรบ หลังใช้ ค่าสเตตัสทุกอย่างจะเลื่อนขึ้นเป็นระดับ B แต่ไม่มีผลกับค่าพลังงาน ยานี้ใช้ได้หนึ่งครั้ง ใช้ซ้ำจะไม่มีผลใดๆ’
เห็นได้ชัดว่า ยาอัพเกรดพื้นฐานนี้เป็นไอเทมอัพเกรดที่เหมาะสำหรับผู้เล่นใหม่ที่ยังอ่อนแอ สำหรับผู้เล่นระดับสูงเช่นเดม่อน ซารอส นิวตัน ยาชนิดนี้ไม่มีประโยชน์อะไร
ในตัวนิวตันมีของเช่นนี้ คงเพราะว่าเขาเป็นผู้นำในสมาพันธ์ จึงพกของแบบนี้เพื่อแจกจ่ายให้ผู้เล่นใหม่ของสมาพันธ์ละมั้ง
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเปิดดูค่าสเตตัสของตัวเองทันที
เป็นอย่างที่แจ้งเตือนไว้จริงๆ หน้าสเตตัสส่วนตัวมีบางอย่างต่างออกไป
สเตตัสหลักทั้งสามของร่างกาย คือ ความแข็งแกร่ง พละกำลัง ความว่องไว… แม่งเพราะหลัง ‘หลอมแสงตะวัน’ ค่าสเตตัสในหน้าตั้งค่าส่วนตัวของเฉินเสี่ยวเลี่ยนก็กลายเป็น E ไปหมด!
แล้วตัว E ยังเป็นสีแดงเถือกอีกต่างหาก!
อืม ถ้าเข้าดันเจี้ยนในสภาวะอ่อนแอจะตายใน 180 นาที
เพื่อรักษาชีวิตน้อยๆ ใช้ยายีนสเปซ มารีนส์นี่ให้หมดเลยแล้วกัน
โชคดีที่หลังจากเคลียร์ดันเจี้ยนแล้วกลายเป็นผู้เล่นอย่างเป็นทางการ ในหน้าสเตตัสส่วนตัว คำอธิบายระดับความต่างของสเตตัสก็ปรากฎออกมาแล้ว
แบ่งจากต่ำไปสูงคือ E-D-C-B-A-S… ระดับที่สูงกว่า S ระบบแจ้งว่า: ยังไม่ปรากฏ
สเตตัสแต่ละอันอธิบายไว้ดังนี้:
ความแข็งแกร่ง (รวมค่าพลังและความสามารถในการสร้างและฟื้นฟูของเซลล์)
พละกำลัง (รวมค่าความทนทานและระยะเวลาในการทนรับดาเมจ)
ความว่องไว (รวมค่าความไวในการตอบสนองของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ)
ค่าพลังงาน (พลังในการใช้สกิลที่ออกห่างจากตัว)
เฉินเสี่ยวเลี่ยนไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาหยิบยาอัพเกรดยีนออกมาหนึ่งอันจากระบบ มันดูไปแล้วคล้ายกับหลอดฉีดยาที่มีกลิ่นอายแบบไซไฟเป็นอย่างมาก หลังจิ้มเข้าไปในร่างกายก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน เฉินเสี่ยวเลี่ยนมองดูค่าความความแข็งแกร่ง พละกำลัง ความว่องไว เปลี่ยนเป็นระดับ B ด้วยความยินดี
นี่เหมือนกับพวกทหารที่ดัดแปลงพันธุกรรมในภาพยนตร์ไซไฟ...
อืม ค่าสเตตัสหลักทั้งสามเป็นระดับ B น่าจะสู้มือเปล่ากับแมวคลั่งสี่ตาได้แล้ว
หลังจากฉีดยาเข้าไปแล้วเฉินเสี่ยวเลี่ยนกลับไม่รู้สึกว่าร่างกายของตนมีปฏิกิริยาผิดปกติใดๆ เขาหยิบเบียร์ออกมาจากตู้เย็นกระป๋องหนึ่ง บีบในมือเบาๆ มันก็ระเบิดแล้ว!
“...น่าสนใจดีนี่” เฉินเสี่ยวเลี่ยนลูบคางพูดเสียงต่ำ “ความแข็งแกร่งระดับนี้ ต่อยตีมือเปล่ากับสักหลายสิบคนก็คงไม่มีปัญหาละมั้ง”
ยาอัพเกรดยีนยังเหลืออีกอันหนึ่ง เฉินเสี่ยวเลี่ยนกลับไม่แตะต้องมัน แต่เก็บไว้ในกระเป๋าไอเทม
เลือดบำรุงขั้นกลางx5 ของดี!
ส่วนดาบกางเขนประดับยศ หลังจากดึงออกมา เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ประหลาดใจเล็กน้อย
นี่เป็นดาบทรงไม้กางเขนที่เดิมทีนิวตันมอบให้ตนแล้วก็เอาคืนไปในภายหลัง มันกลายเป็นของแขวนประดับชิ้นเล็กๆ อันหนึ่ง เฉินเสี่ยวเลี่ยนจึงแขวนมันไว้บนคอ
อืม ดูหน่อยซิ ในกระเป๋ายังมีของอีกอย่าง
วิญญาณแม่ม่ายดำ
ตอนนั้นเขาตัดใจกำจัดเจ้าแมวแบ๊วไม่ได้ จึงเอาสัตว์ระดับ A นี้มาเป็นสัตว์เลี้ยงไม่ได้...แต่ว่าตัวเขาเองก็ไม่รู้จะจัดการยังไงจึงปล่อยทิ้งไว้ในกระเป๋า
ตอนนี้พอเปิดออกดูกลับทำให้เฉินเสี่ยวเลี่ยนค้นพบด้วยความดีใจว่าในที่สุดก็มีคำอธิบายขึ้นมาแล้ว
แม่เอ้ย ผ่านช่วงทดลองกลายเป็นผู้เล่นจริงช่างแตกต่างกันจริงๆ!
‘วิญญาณแม่ม่ายดำ: ใช้เพื่ออัญเชิญแมงมุมแม่ม่ายดำมาเป็นสัตว์เลี้ยง หรือให้สัตว์เลี้ยงตัวอื่นกลืนกินเพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตของสัตว์เลี้ยง’
การเติบโต!
ที่แมวคลั่งสี่ตากลายเป็นสัตว์เลี้ยงตัวตลกสุดอ่อนก็เพราะความสามารถของมันอยู่ในระดับ B...และการเติบโตก็...แม่งเป็นระดับ B!!!
หมายความว่าไม่ว่าจะเลี้ยงดูมันยังไง ไอ้ตัวติงต๊องนี่ก็ไม่มีทางเพิ่มพลังได้เลย!!
แต่ถ้าหาก...กลืนกินวิญญาณสัตวตัวอื่นแล้วจะเพิ่มการเติบโตได้ละก็…
เอ๋? ก็ไม่ถูกอยู่ดี ถ้ากลืนกินวิญญาณสัตว์ตัวอื่นก็สามารถเพิ่มการเติบโตได้ ถ้าอย่างนั้นแมวคลั่งสี่ตาก็ไม่ควรโดนดูถูกขนาดนี้สิ…
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรีบเปิดหน้าสัตว์เลี้ยงในระบบดูทันที
ลองเอาวิญญาณแม่ม่ายดำให้แมวคลั่งสี่ตากินดู…
ผลคือ…
‘แจ้งเตือน: วิญญาณแม่ม่ายดำที่ใส่ไว้ มีสถานะไม่สัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงแมวคลั่งสี่ตา โอกาสกลืนกินสำเร็จคือ 1.3% ต้องการดำเนินการต่อหรือไม่?’
“...มึงแม่งกากจริงๆ!” เฉินเสี่ยวเลี่ยนมองการ์ฟิลด์ที่อยู่ข้างตัว
ดำเนินการต่อหาตูดอะไรละ! เลือกกด ‘ไม่’ แบบไม่ลังเล!
……
ตรวจของที่ได้รับจากระบบหมดแล้ว เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกหิวขึ้นมาจึงรีบต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ตัวเองอย่างรวดเร็ว หลังจากกินเข้าไปอย่างตะกละตะกลาม ก็พุ่งเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกาย
เขายืนอยู่หน้ากระจก เฉินเสี่ยวเลี่ยนมองดูใบหน้าที่ใสสะอาดในกระจกแล้วถอนหายใจ “ช่วยเทพเจ้าของโลกต่อสู้กับผู้ที่ทะลุมิติมาจากภายนอก? ดูท่าทางนายก็ไม่เห็นเหมือนกับผู้กอบกู้โลกนี่หว่า...เฮ้อ เน้นรักษาชีวิตรอดเป็นเรื่องสำคัญก็แล้วกัน”
หลังสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ปรับความคิดของตัวเองได้เรียบร้อยแล้ว
เขาตัดสินใจว่า ไม่ว่าวันนี้หรือวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เรื่องที่สำคัญด่วนจี๋เป็นอันดับหนึ่งก็คือไปตามหาหานปี้กับซูซูให้เจอ!
ที่อยู่ที่บ้านและโรงเรียนของหานปี้ เฉินเสี่ยวเลี่ยนเคยได้ยินเขาบอกกับตนเองไว้แล้ว แต่ว่าหานปี้อยู่เมืองหนึ่งที่ไกลออกไปหลายร้อยกิโลเมตร
ส่วนซูซู...กลับอยู่ในเมืองนี้นี่เอง!
อีกอย่าง GM บอกว่า จริงๆ แล้วซูซูไม่ได้สูญเสียความทรงจำ แต่เพราะเหตุผลพิเศษบางอย่างจึงดูคล้ายกับว่าไม่รู้จักเขา
ไม่ว่าอย่างไรเฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ต้องหาซูซูให้เจอก่อนแล้วค่อยว่ากัน!
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ฮัลโหล ร็อดดี้เหรอ? ฉันลืมถามนายไปเรื่องหนึ่ง เอ่อ...ราชินีเฉียวกับน้องสาวของเธอพักอยู่ที่ไหนเหรอ?”
อีกฟากของโทรศัพท์ “เฉินเสี่ยวเลี่ยน! นายจะโชว์โรคใคร่เด็กให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลยหรือไง? ไม่ได้! ในฐานะคนดีคนหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมบอกนายเด็ดขาด!”
“ฉันจำได้ว่าชั่วโมงพละคราวที่แล้วตอนอยู่ใต้แป้นบาส นายแอบดูกางเกงในใต้กระโปรงของหัวหน้าห้อง...”
“ถุ้ย! พ่อแค่บังเอิญเห็นเข้าพอดี! อีกอย่าง นายมีหลักฐานหรือไง!”
“อืม ตอนที่คนบางคนเอา notebook มาให้ฉันยืม ฉันบังเอิญไปเห็นว่าในไดรฟ์ E มีโฟลเดอร์หนึ่งซ่อนอยู่ ชื่อว่า ‘ฉันรักหัวหน้าห้อง’ ทั้งโฟลเดอร์เป็นผลงานของดาราหนัง AV ญี่ปุ่นที่หน้าคล้ายหัวหน้าห้องอยู่หลายส่วนเลยละ… จริงสิ ฉันแคปหน้าจอไว้ด้วยนะ”
“...พี่ชาย พี่ก็รู้ว่าฉันเป็นคนมีคุณธรรมน้ำมิตรเป็นที่สุด! ที่อยู่ของราชินีเฉียวก็คือเลขที่XXX ตึก A-B1 ถนนXX!”
……
หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เฉินเสี่ยวเลี่ยนเพิ่งจะนั่งแท็กซี่มาถึงหน้าประตูเขตไฮโซที่ราชินีเฉียวพักอยู่
ทว่ารถเพิ่งจอดสนิท เฉินเสี่ยวเลี่ยนยังไม่ทันได้จ่ายเงิน ก็เห็นรถแลนด์โรเวอร์สีดำที่เคยขับชนตนคันนั้นขับออกมาจากด้านในประตูใหญ่
จากกระจกที่ลดลงครึ่งบาน เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็มองเห็นได้พอดีว่าคนที่กำลังขับรถคือเฉียวเฉียว และคนที่นั่งบนที่นั่งข้างคนขับก็คือซูซู
มองเห็นรถแลน์โรเวอร์ขับไปทางถนนใหญ่ เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็รีบบอกคนขับแท็กซี่ว่า “เร็ว! รีบตามแลนด์โรวเวอร์คันนั้นไป!”
คนขับรู้สึกสนใจขึ้นมา มองเฉินเสี่ยวเลียนแวบหนึ่ง “น้องชาย? ตามจีบหญิงเหรอ?”
“อือ! เร็วเข้า! อย่าให้หลุดไปได้ล่ะ!” เฉินเสี่ยวเลี่ยนไม่อยากพูดมาก
คนขับหัวเราะฮ่าๆ เหยียบคันเร่งตามไปทันที “อย่ามองว่าเธอขับแลนด์โรเวอร์ ส่วนพี่ขับแท็กซี่เชียว พี่เป็นขาซิ่งหัวแถวของบริษัทเชียวนะ!”
ตามกันไปกว่าครึ่งชั่วโมงก็เห็นเฉียวเฉียวขับรถขึ้นทางด่วนไป คนขับอดพูดไม่ได้ว่า “น้องชาย เขาขึ้นทางด่วนแล้ว ถนนเส้นนี้ตรงไปสถานีรถไฟ สถานีรถไฟไกลมากนะ ค่ารถไม่ถูกนา”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนไม่พูดอะไร ดึงธนบัตรสีแดงปึกหนึ่งในกระเป๋าเงินออกมาส่งให้ “ขับถึงไหนตามถึงนั่น!”
คนขับถอนหายใจครู่หนึ่ง “เด็กสมัยนี้ จีบสาวโคตรทุ่มทุน...”
…………………………
[1] S (Sadism) หมายถึงการมีความสุขจากการทรมานผู้อื่น M (Masochism) หมายถึง การมีความสุขเมื่อตนได้รับความเจ็บปวด
[2] ซิสค่อน (Siscon) หมายถึง พวกนิยมชอบพี่สาวตัวเองหรือน้องสาวตัวเอง
[3] จูนิเบียว (Chuunibyou) หรือ โรค ม.ต้น ปี 2 เป็นคำเรียกในแง่ลบถึงคนที่ชอบทำตัวเหมือนกับว่าเก่ง รู้ไปซะทุกเรื่อง หรือทำเหมือนว่าตัวเองมีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นๆ เช่นนึกว่าตัวเองเป็นฮีโร่บ้าง มีพลังพิเศษบ้าง ซึ่งปกติจะพบได้มากในวัยเด็ก ม.ต้น