ตอนที่ 97 บุก
อันโตนิโอ้ลงจากรถเขาและยืนข้างหานเซี่ยวขณะเฝ้าดูระเบิด เขาจุดบุหรี่และพ่นควันก่อนหัวเราะอย่างหนัก“มันนานมาแล้วที่ฉันไม่ได้เห็นภาพสวยงามขนาดนี้ ฉันเกือบลืมไปแล้วว่าการระเบิดเป็นยังไงหลังนั่งในสำนักงานมานาน”
“ไปสิและเพลิดเพลินกับมัน”
หานเซี่ยวเหยียดคอเพื่อบรรเทาความเมื่อย
ในที่สุดเปลวไฟก็ลดลง อันโตนิโอ้และหานเซี่ยวเดินเข้าหามันอย่างระมัดระวัง กลิ่นเหม็นฉุนจากการเผาไหม้ศพและก๊าซบินพัดมาทางพวกเขา
ฮึบ ฉันลืมไปเลยว่ายังมีก๊าซพิษเหลืออยู่!
หานเซี่ยวงุนงงเมื่อดูพลังชีวิตเขาลดลงบนหน้าต่างสถานะ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากถอยออกห่าง และสามารถย้อนกลับไปได้หลังก๊าซพิษกระจายหาย
“อึก...”มีเสียงคร่ำครวญบนสนามรบ มันมาจากรหัส3 ผู้ที่ตายไปแล้วครึ่งตัว แขนขาเขาใช้การไม่ได้ และร่างเขาก็เต็มไปด้วยรอยไหม้สีแดงและดำ เขาเงยหน้าขึ้นด้วยพลังเฮือกสุดท้ายและมองหานเซี่ยวอย่างอาฆาต
“แก...ทำไม...”
หานเซี่ยวมองเขาและใช้อินทรีคลั่งเพื่อปิดชีวิตเขาก่อนจะพูดจบ
คนดีสามารถเอาชนะการต่อสู้ได้ด้วยคำพูด และคนเลวมักแพ้และตายเพราะพูดมากไป มีบทเรียนจำนวนนับไม่ถ้วนในอดีต หานเซี่ยวอยากลองคุยกับรหัส3 แต่เขาเชื่อว่าเขาไม่ใช่พวกคนดี ดังนั้นเขาจึงฆ่ารหัส3โดยไม่พูดอะไรสักคำ
การฆ่านี้ทำให้ฉันได้รับค่าประสบการณ์ค่อนข้างมาก รหัส3...ชื่อของเห็บหมัดตัวไหนกัน?
หานเซี่ยวมองหน้าต่างสถานะเขาขณะดูถูกชื่อศัตรู
รอก่อนนะ ดูเหมือนจะมีศัตรูหายไปจากประวัติการฆ่าฉัน
ดวงตาหานเซี่ยวเปล่งประกายและสำรวจรอบตัวทันที ทันใดนั้นเขาก็ยิงปืนใส่พื้นห่างไป20เมตร
ฟุบ
เงาดำกระโดดออกจากใต้ทราย-มันคือจิ้งจอกวิญญาณ เธอถีบตัวมาอย่างรวดเร็วและแทงเธอด้วยมีดใส่คนใกล้ตัวสุดอย่างอันโตนิโอ้
การฝึกในฐานะนักสู้ช่วยให้เธอขุดหลุมได้ง่ายๆ เธอรอดพ้นการระเบิดได้ด้วยการขุดหลุมทรายก่อนเกิดการระเบิด เธอตั้งใจซ่อนตัวจนกว่าศัตรูจะหายไป แต่เนื่องจากหานเซี่ยวเห็นตัวเธอ เธอจึงต้องสู้เพื่อเอาชีวิตรอด
แสงแดดสะท้อนบนผิวมีด เปล่งประกายเยียบเย็น ดวงตาของอันโตนิโอ้หรี่แคบ และเขาก็กระแทกแขนขนาดใหญ่เขาใส่จิ้งจอกวิญญาณ ฝ่ามือเขาเกือบมีขนาดใหญ่เท่ากับหมี
จิ้งจอกวิญญาณก้มร่างเล็กๆของเธอลง ทำให้เธอหลบได้ง่ายๆ เธอวนไปด้านหลังของอันโตนิโอ้และแทงมีดใส่หัวใจเขา ทันใดนั้น เงาดำก็ระเบิดใส่ตรงหน้าเธอ และฝ่ามือคล้ายหมีก็ไล่ตามเธอมาและคว้าหัวเธอไว้ ฝ่ามือใหญ่จนเกือบคลุมทั้งกะโหลกเธอ
อันโตนิโอ้ขว้างเธอไปไกลกว่าสิบเมตรราวกับขว้างหิน พลังที่เกิดขึ้นทำให้เกิดร่องรอยคล้ายคลื่นบนพื้นรอบเธอ เธอบาดเจ็บสาหัสจากการขว้าง แต่ทว่า เธอก็กัดฟันแน่นและถีบตัวใส่อันโตนิโอ้อีกครั้ง ด้วยการจับตาดูของหานเซี่ยว เธอจะถูกลอบยิงหากพยายามหนี เธอไม่มีทางเลือกนอกจากสู้ต่อ
ปัง ปัง ปัง
ขณะที่อันโตนิโอ้คิดลงมือ หานเซี่ยวกลับยิงปืนพกคู่เขาก่อน ซึ่งทำให้เธอล้มลง (น่าสงสารจัง)
[ท่านได้ฆ่าจิ้งจอกวิญญาณ(ระดับ29) ท่านได้รับค่าประสบการณ์9400หน่วย]
เอ๊ะ ระดับพลังเธอค่อนข้างสูง ทำไมถึงอ่อนแอนัก?หานเซี่ยวมองข้อมูลการต่อสู้และตระหนักถึงเหตุผล : อาชีพหลักของจิ้งจอกวิญญาณเป็นแค่ระดับ8 และระดับที่เหลือเธออยู่ในอาชีพรอง ซึ่งไร้ประโยชน์อย่างมาก
“คุณควรให้โอกาสผมได้ออกกำลังบ้าง ร่างกายผมขึ้นสนิมหมดแล้ว”อันโตนิโอ้บ่น
“ร่างกายยังอุ่นอยู่ คุณสามารถใช้มันเพื่อออกกำลังกายได้”หานเซี่ยวถูจมูกอย่างเฉยเมย
“คุณเป็นคนปากร้ายจริงๆ”
เมื่อก๊าซพิษกระจายตัว หานเซี่ยวก็ก้าวเข้าไปจุดระเบิดเพื่อเก็บกู้EMPเขา
แม้รหัส3จะรู้แผนเขา แต่เขาได้ทำหลายแผนพร้อมกัน เขาไม่ได้วางแค่หนึ่งแต่เป็น4กับดักพร้อมกัน แต่ละจุดอยู่คนละทิศทาง เว้นแต่ศัตรูจะไม่ไล่ตามเขา พวกเขาย่อมติดกับดักสักอัน
ตราบเท่าที่แกกล้าไล่ล่าฉัน ฉันก็จะฆ่าแก
หลังเก็บEMP หานเซี่ยวก็เริ่มปล้นสะดมจากศพ เขาพบอาวุธปืนและกระสุนจำนวนมากที่สามารถขายเป็นเงินได้ อย่างไรก็ตาม การปล้นสะดมที่ร่ำรวยสุดก็คือรถดัดแปลง-ขวากหนาม เขาสามารถใช้มันได้หลังเขาแก้ไขส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ภายในมัน
ต่อมา มันได้เวลาหยิบยืมความช่วยเหลือ
…
“จิ้งจอกวิญญาณขาดการติดต่อ?!”
พวกเขามีนักฆ่าสามคนคอยซุ่มโจมตีและยังมีข้อมูลเหนือกว่า แต่พวกเขาก็ยังติดกับศัตรู!
ลู่ฉิงเป็นคนใจแคบ เธอเพิ่งสูญเสียไปสองทีมและรถดัดแปลง ขวากหนาม ตอนนี้ ฐานไร้การป้องกันใดๆ ซึ่งนับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่
เธอติดต่อผู้สนับสนุนลับอีกครั้งและอธิบายสถานการณ์
“พวกคุณต้องถอยออกมาก่อน”คนๆนั้นกล่าวผ่านโทรศัพท์
“..รับทราบแล้ว”
หลังวางสาย เธอก็สั่งให้กองทัพเธอขนของล้ำค่าขึ้นรถเพื่อเตรียมทิ้งฐานและถอยหนีชั่วคราว มันไม่ใช่ครั้งแรกที่กุหลาบสงครามเผชิญกับวิกฤติเช่นนี้ ทั้งหมดที่พวกเธอต้องทำคือหาสถานที่หลบภัยสักพักก่อนผู้สนับสนุนจะส่งคนมาเพิ่ม จากนั้นพวกเธอก็จะกลับมามั่นคงอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม มีทรัพย์สินแค่ครึ่งเดียวที่ถูกบรรจุขั้นก่อนเสียงเตือนภัยจะส่งไปทั่วฐาน
“ศัตรูโจมตี!”
ทหารยามตะโกนดังสุดเท่าที่จะทำได้ ลู่ฉิงประหลาดใจ เธอปีนขึ้นบนป้อมยามและมองไปข้างหน้า และนั่นก็คือตอนที่เธอเห็นคลื่นทรายกำลังเข้ามาใกล้ มันเป็นขบวนรถของโควโต้
“บัดซบ พวกมันมากันเร็วเกินไป!”
กุหลาบสงครามประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ ดังนั้นพวกเธอย่อมตกเป็นเหยื่อของกลุ่มอำนาจอื่น และโควโต้ก็ไม่มีทางพลาด จุดประสงค์หลักของการทิ้งฐานคือการหลีกเลี่ยงขุมอำนาจอื่น แต่ทว่า พวกโควโต้มาเร็วเกินไป มันต้องมีบางคนแจ้งข่าวให้พวกมันรู้
ลู่ฉิงโกรธ ทหารรับจ้างโควโต้กำลังโจมตีฐาน หากพวกเธอพยายามหลบหนีด้วยรถ มันย่อมกลายเป็นการไล่ล่า ซึ่งทำให้มันอันตรายยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
พวกเธออยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก!
“ผู้บัญชาการ เราควรทำยังไงกันดี?”
“โต้กลับพวกมัน!”ลู่ฉิงกล่าวอย่างไม่ยอมแพ้
กองทัพละทิ้งอุปกรณ์ในมือและรีบประจำตำแหน่งป้องกัน พวกเธอเริ่มปูพรมใส่กองรถของโควโต้ด้วยปืนกลและปืนยิงจรวด อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนั้นก็โต้กลับเช่นกัน
ผู้คนสามารถเห็นได้แค่กระสุนที่บินไปมาระหว่างสองฝั่ง ก่อให้เกิดม่านแห่งความตาย
กระสุนปืนจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงในทรายเหลือง ระเบิดก็ทำให้เกิดหลุมทรายบนพื้น ทำให้ดูคล้ายผิวดวงจันทร์ กุหลาบสงครามได้เปรียบเรื่องการป้องกันของฐาน พวกเธอสามารถต้านรับได้แม้จะมีคนน้อย
ด้านหลังกำแพงทั้ง4ของฐาน ลู่ฉิงบัญชาการอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซูลี่เดินเข้ามาและกระซิบ“ในเมื่อขาดกำลังคน ระบบป้องกัน1ใน4เราจึงไร้ผล นอกจากนี้ ด้วยความที่เราอยู่ด้านในฐาน เราจะพบเจออันตรายสูงหากขุมกำลังอื่นตัดสินใจร่วมด้วย”
ทันทีที่เธอพูดจบ เสียงเครื่องยนต์คำรามก็ดังจากระยะไกล หัวใจของลู่ฉิงและซูลี่เต้นกระหน่ำ พวกเธอรับรู้ว่าเสียงเครื่องยนต์นั้นต่างกัน
ในอีกด้านของสนามรบ หานเซี่ยวกำลังขับขวากหนามอย่างดุร้าย รถกระโดดลงจากเนินทรายราวกับเสือดุ ผิวรถสะท้อนกับแสงแดด และยางรถก็หมุนอย่างบ้าคลั่ง
รถชนกับพื้น ซัดทรายกระจายไปด้านข้างก่อนพุ่งใส่ฐานอย่างป่าเถื่อน
ไม่ใช่ว่าขวากหนามเป็นของกุหลาบสงคราม?
ดวงตาของโควต้อนหรี่แคบ และเขาก็รีบสั่งให้ลูกน้องเขาถอยกลับตำแหน่ง เขาคิดว่าขวากหนามมาจากฝั่งศัตรู และก็รู้ดีถึงพลังของมัน ดังนั้น เขาจึงอยากเตรียมการป้องกันก่อนศัตรูจะได้ทำลายพวกเขา
เขาไม่รู้ว่าฝ่ายกุหลาบสงครามนั้นกังวลยิ่งกว่าเขา พวกเธอรู้ชัดถึงความสามารถแท้จริงของมันดี
“หยุดเขาเร็ว เราไม่อาจปล่อยให้มันเข้าใกล้ฐานได้!”ซูลี่กรีดร้อง
ลู่ฉิงร้องคร่ำครวญในใจ ขวากหนามเคยเป็นไพ่ตายพวกเธอ และตอนนี้ มันกลับถูกชิงไปและใช้ต่อต้านพวกเธอ!
มันราวกับผู้หญิงที่ถูกคนอื่นแย่งไป และเขาก็ยังกล้านำเธอมาอวดต่อหน้า ใครจะทนความอับอายเช่นนั้นได้?
ลู่ฉิงไม่อาจทนต่อมันได้ เธอเกลียดนักฆ่ามากจนอยากจะบดขยี้เขาให้กลายเป็นกองกระดูก!