ตอนที่ 20 ศรัทธา
ตอนที่ 20 ศรัทธา
ขณะที่หลายคนกำลังพิจารณาจะจัดการต่อยังไงดี ก็ได้ยินเสียงโวยวายแหลมสูงของผู้หญิงดังมาจากที่ไม่ห่างไกล
"หมายความว่ายังไงที่พวกเราควรจะร่วมมือ เรื่องอะไรพวกเราต้องร่วมมือ! ตำรวจใหญ่นักเหรอ!" เสียงของหญิงสาวคำรามอย่างไม่พอใจ หวังอ้ายกั๋วที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอกำลังอธิบายอะไรบางอย่างชุลมุน แต่หญิงสาวกลับมองตาขวางอย่างโมโห ไม่มีทีท่าจะทำความเข้าใจ
"เรื่องอะไรกัน" ต้าเจิ้งสังเกตเห็นนักข่าวที่รุดมาถึงนอกเทปกั้น ถ้าตอนนี้เกิดความผิดพลาดอะไรจนมีข่าวเสนอออกไป จะทำให้เกิดแรงกดดันมากขึ้นกับงานสืบสวน
หญิงสาวมองสำรวจต้าเจิ้ง ดูเหมือนเป็นหัวหน้า ไม่สนใจหวังอ้ายกั๋วตอบว่าอย่างไรต่ออีกก็รีบบอกอย่างอารมณ์ร้อน "แม่ฉันอายุมากแล้ว หมายความว่ายังไง ต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจไปบันทึกคำให้การ ท่านเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ ไม่ถูก...อะไรเนี่ย" พูดพลางมองผ้าใบสีฟ้าที่อยู่ไม่ไกลอย่างรังเกียจ "ไม่ถูกของสกปรกนี้ทำให้ตกใจจนไม่สบายก็ถือว่าบุญโขแล้ว ถ้าไม่สบายขึ้นมา คอยดูเถอะ ฉันจะฟ้องพวกคุณ!"
หวังอ้ายกั๋วส่งสายตาจนปัญญาไปให้ต้าเจิ้ง "ลูกสาวของคุณยายหยาง ซึ่งก็คือพยานคนแรกที่เห็นเหตุการณ์ นั่งอยู่ตรงนั้น ที่นี่คนเยอะวุ่นวาย พวกเราอยากเชิญคุณยายไปให้ปากคำที่กองบังคับการ เธอ..."
ด้านนี้หวังอ้ายกั๋วยังพูดอยู่ คุณหยางก็ก้าวฉับๆ เดินไปถึงตัวคุณยาย "แม่ เราไปกันเถอะ"
คุณยายโบกมือ ถึงแม้หน้ายังซีดเซียวอยู่แต่มือก็ยังชี้ไปด้านตำรวจ หมายความว่าควรจะพูดให้รู้เรื่องก่อน
"มีอะไรจะพูดกับพวกเขาอีก แม่ความดันสูง คอเลสเตอรอลก็สูงด้วย ฉันจะพาแม่ไปตรวจร่างกายตอนนี้เลย ไม่ใช่ตกใจจนเป็นอะไรขึ้นมา"
ต้าเจิ้งรีบสาวเท้าเข้าไปหา "คุณหยาง ผมทราบว่าคุณยายสุขภาพไม่ค่อยดี แต่ให้ความร่วมมือในการสืบสวนสอบสวนเป็นหน้าที่ของพลเมืองครับ"
"หน้าที่บ้านคุณนะสิ!" คุณหยางพาลใส่ "เรื่องฆ่าคน สืบสวนพรรค์นี้ เป็นงานของตำรวจอย่างพวกคุณอยู่แล้ว แม่ฉันอายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว ยังหวังจะให้ท่านมาจับคนร้ายเหรอ ท่านอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว เห็นของพวกนี้เข้าก็ช่างมันเถอะ พวกคุณยังคิดจะให้ท่านค่อยๆ นึกย้อนกลับไปอีกเหรอ ฝันไปเถอะ สิ่งที่แม่ฉันรู้ก็พูดไปหมดแล้ว อย่างอื่นไม่รู้อะไรทั้งสิ้น ไปเถอะแม่ พวกเราหารถไปวัดความดันที่โรงพยาบาลกัน"
"แต่ว่า..." หวังอ้ายกั๋วยังตามต่ออย่างไม่หมดหวัง
"แต่อะไรแต่! ฉันบอกพวกคุณไว้นะ ตำรวจอย่างพวกคุณไม่ได้เรื่อง จับผู้ร้ายไม่ได้! ก็อย่ามาหวังให้คนอื่นทำอะไรเลย!" คุณหยางประคองคุณยายพลางหันมาชี้หน้าหวังอ้ายกั๋วแล้วพูด
"นี่คุณพูดอย่างนี้ได้ยังไง!" เซวียหยางอดไม่ได้ที่บ่นไปคำหนึ่ง
เห็นบรรยากาศเริ่มแย่ คุณยายหยางที่สีหน้าไม่ดีตั้งแต่แรกยิ่งซีดเผือดเข้าไปอีก คอยฉุดลูกสาวไว้ อยากห้ามเธอพูดอีก
"ฉันพูดผิดเหรอ! ฉันพูดผิดเหรอ! ถ้าไม่ใช่ตำรวจอย่างพวกคุณไม่ได้เรื่อง จะให้ศพถูกทิ้งไว้ที่ปากทางสวนสาธารณะจนคนแก่ตกใจอย่างนั้นเหรอ เจอศพแล้วแทนที่จะไปจับคนร้ายกลับมาวุ่นวายกับชาวบ้านอย่างพวกเรา!" การดึงของแม่ไม่สามารถห้ามปรามเสียงคำรามตามอารมณ์ที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ของเธอได้
"คุณหยาง หน้าที่ของตำรวจคือจับผู้ร้าย แต่ถ้าไม่มีความร่วมมือจากพวกคุณ..."
"เรื่องอะไรพวกเราต้องร่วมมือด้วย เรื่องอะไร เรื่องอะไร พวกคุณเป็นตำรวจ พวกคุณมีปืน มีกระสุน พวกเรามีอะไร ถ้าเกิดฆาตกรคนนี้รู้ว่าแม่ฉันพูดอะไรเกี่ยวกับเขาจนมาหาพวกเรา พวกเรามีอะไร พวกเรามีอะไรบ้างล่ะ!" คุณหยางหันไปคิดจะจูงแม่จากไป
เซวียหยางรู้สึกความดันของตัวเองก็ขึ้นสูงด้วย มองดูต้าเจิ้งที่ไม่พูดอะไรเลยมาตลอด เขาก็ได้แต่อดกลั้นไว้ "คุณหยางครับ ผมเข้าใจสิ่งที่คุณกังวล แต่นี่เป็นการสืบสวนคดีฆาตกรรม ถ้าจำเป็น พวกเราสามารถบังคับให้คุณยายไปให้ปากคำ คุณคิดดีๆ นะครับ"
คุณยายหยางกำลังจะพูด ลูกสาวก็โดดขึ้นมาก่อน "พวกคุณคิดจะขู่ฉันใช่ไหม ตำรวจอย่างพวกคุณใหญ่มากใช่ไหม จับคนร้ายไม่ได้ก็มาจับชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเราใช่ไหม!"
"ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น..."
"พวกคุณยังเห็นกฎหมายอยู่ในสายตาหรือเปล่า!" เสียงของคุณหยางยิ่งพูดยิ่งดัง แต่รอบตัวมีตำรวจที่แอบมาล้อมไว้จนไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ในเวลาอันสั้น
ต้าเจิ้งเหลือบตามองด้านหลังตัวเอง ถึงแม้จะอยู่นอกพื้นที่กั้นของตำรวจ แต่เหล่านักข่าวเล็งกล้องมาด้านนี้ตั้งนานแล้ว นี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลที่เขาไม่ได้ออกเสียงด่ากลับไป แต่เขาก็ไม่คิดจะปล่อยตัวพยานปากแรกจากไปอย่างนี้ ขณะที่สมองคิดอย่างรวดเร็วว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรดี โกโก้ที่อยู่ด้านหลังก้าวไปยืนอยู่หน้าคุณยายหยาง
"ขอโทษนะคะ" โกโก้พูด
ทุกคนตะลึง
คุณหยางที่ยังด่าอยู่อ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น มองดูตำรวจใส่เสื้อกราวน์ที่อยู่หน้าตัวเอง
หวังอ้ายกั๋วกับเซวียหยางคาดไม่ถึงว่าหมอนิติเวชจะพูดขึ้นมา
เสียงเซ็งแซ่โวยวายเงียบลงทันตา
ต้าเจิ้งมองไปยังโกโก้ เธอเม้มปาก สีหน้าไร้อารมณ์ แต่นัยน์ตาเปล่งประกายที่ต้าเจิ้งไม่เคยพบเห็นมาก่อน แหลมคมและรุนแรง นั่นเป็นสีหน้าโกรธแค้นผสมกับไม่ยอมแพ้ ซึ่งก็เพราะอารมณ์อย่างนี้ทำให้เธอพอเอ่ยปากก็ขอโทษต่อพยานที่เหตุการณ์
ขอโทษ ที่ทำให้คุณยายเห็นโศกนาฏกรรมอย่างนี้
ขอโทษ ที่พวกเราไม่สามารถจับเขาได้เร็วกว่านี้
มือของคุณยายหยางที่ยังจับชายเสื้อของลูกสาวอยู่ปล่อยลงช้าๆ ก่อนที่ทุกคนจะรู้ตัวว่าควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เธอก็พูดออกมาอย่างช้าๆ "ไม่มีอะไรต้องขอโทษ เฮ้อ...เวรกรรมจริงๆ ให้ปากคำเหรอ ก็ทำเถอะ"
"แม่!" ดูเหมือนคุณหยางจะไม่พอใจกับการตัดสินใจของแม่
คุณยายโบกมือห้ามเธอพูดต่อ "ฉันอายุเจ็ดสิบหกแล้ว เห็นเรื่องราวมามากมาย ตกใจแค่นี้ไม่ถือว่าเป็นอะไร เด็กคนนั้น...ที่นอนอยู่ตรงนั้น อายุเท่าไหร่เหรอ" เธอพูดพลางเงยหน้ามองโกโก้
หน้าของโกโก้มีอารมณ์ขึ้นมา "ประมาณยี่สิบ"
"เฮ้อ...เวรกรรมจริงๆ ให้ปากคำก็ได้ ฉันเห็นอะไรก็จะบอกพวกคุณหมด...พวกคุณจับฆาตกรได้ไหม" คุณยายพูดพลางเงยหน้ามองโกโก้อีกครั้ง
โกโก้ขมวดคิ้ว นึกถึงคำพูดที่กู่จี๋พูดเมื่อสักครู่ กับ ‘คน’ ที่นอนอยู่ไม่ไกลออกไป พยักหน้า
ต้าเจิ้งก้าวมาทางนี้ “คุณหยาง ให้ปากคำใช้เวลาไม่มากหรอกครับ พอเสร็จผมจะจัดคนส่งคุณยายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกองทัพที่อยู่ข้างๆ กองบังคับการ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดพวกเราเป็นคนออก คุณคิดว่าอย่างนี้ได้ไหม พวกเราต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณยายตกใจ ผมขอรับรองจะพยายามสุดความสามารถจับคนร้ายคนนี้ให้จงได้”
คุณหยางมองสีหน้าของแม่ รู้อยู่แก่ใจว่าคุณยายที่อ่อนโยนคนนี้ถ้าตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ใครพูดก็ไม่มีประโยชน์ จึงได้แต่ถอนหายใจลึกๆ พยักหน้า
——————————————
"โกโก้ เธอไม่ไปพร้อมพวกเราเหรอ" ต้าเจิ้งถามไล่หลังโกโก้
โกโก้ส่ายหน้า แล้วชี้ไปที่รถขนศพสีฟ้า "ฉันจะไปกับรถขนศพ จะต้องไปมหาวิทยาลัยการแพทย์อีกครั้ง ฉันจะจัดการชันสูตรศพทั้งหมดภายในวันนี้"
ต้าเจิ้งมองสีหน้าของโกโก้ รู้สึกว่าเธอต่างจากเมื่อก่อน เหมือนกับมีพลังที่ถูกกระตุ้นออกมา ทั้งคนเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
"ต้าเจิ้ง" เท้าข้างหนึ่งของโกโก้เหยียบขึ้นไปบนรถขนศพแล้วหันมา "นายพูดถูก ช่างมันเถอะอารมณ์ส่วนตัว ก่อนที่จะจับพวกเขาได้ ฉันไม่ต้องการอารมณ์อะไรทั้งสิ้น!"