ตอนที่ 226 รอดูเรื่องสนุก
คำถามของเฟิงเฟินไดก็เป็นสิ่งที่ฮูหยินผู้เฒ่าสงสัย ทำไมหวงซวนจึงมาที่คฤหาสน์เฟิงในตอนกลางคืน
เฟิงหยูเฮงมองเฟิงเฟินไดด้วยความสงสัยพร้อมตอบคำถามว่า “เจ้าหมายถึงอะไร คฤหาสน์เฟิงของเจ้าหรือ? ข้าเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ตระกูลเฟิง มันควรเป็นคฤหาสน์เฟิงของเรา ในฐานะบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ เป็นไปได้หรือไม่ที่ข้าจะต้องขออนุญาตจากน้องสี่ในการที่ข้าส่งคนไปตรวจตราในยามราตรี ?”
“เจ้า…” เฟิงเฟินไดโกรธมาก
ถูกต้อง เฟิงหยูเฮงเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ตระกูลเฟิง ไม่ว่านางจะทำอะไรมันเป็นสิ่งที่บุตรสาวของอนุต้องกังวลด้วยหรือ ?
“โชคดีที่ข้าส่งหวงซวนไปลาดตระเวน ไม่เช่นนั้นถ้ามีเรื่องร้ายแรงนี้เกิดขึ้นกับน้องสามจะทำอย่างไร ?” นางพูดอย่างนี้ในขณะที่มองฮูหยินผู้เฒ่า จากนั้นนางพูดต่อ “แม้ว่าอาเฮงใช้เวลาตลอดทั้งวันในคฤหาสน์เพื่อสำนึกถึงความผิดของตัวเอง แต่บ่าวรับใช้ของคฤหาสน์ยังคงสามารถออกไปได้ เมื่อวานนี้เมื่อหวงซวนไปที่ตำหนักหยู นางบังเอิญไปพบองค์ชายเจ็ดที่นั่น องค์ชายเจ็ดยังถามว่าน้องสามเป็นอย่างไร อาเฮงสงสัยว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับน้องสามในตอนนี้ ข้ากลัวว่าองค์ชายเจ็ดจะมาขอคำอธิบายจากท่านย่า”
ฮูหยินผู้เฒ่าเริ่มตัวสั่นเมื่อนางรู้สึกกลัว
เฟิงเฟินไดเป็นคนที่จะไม่ยอมปล่อยให้ผู้คนไปง่าย ๆ เมื่อพวกเขาพูด เมื่อนางเอาชนะด้วยคำพูดไม่ได้ นางก็คิดอีกเล็กน้อยและถามคำถามอีกหลายข้อ “พี่รองไม่ถูกลงโทษโดยการสำนึกผิดหรอกหรือ ? ทำไมท่านถึงมาที่นี่ ?”
เฟิงหยูเฮงพูดอย่างไม่ลังเล “การสำนึกผิดต้องมีสภาพจิตใจสงบ พวกเจ้าส่งเสียงดังอยู่ที่นี่ในตอนกลางคืน ข้าจะสำนึกผิดได้อย่างไร ?” พูดอย่างนี้นางหันมามองฮันชิ แม้ว่าเฟิงเฟินไดจะอยู่ระหว่างพวกเขา ฮันชิยังสังเกตและเห็นการจ้องมองนี้ นี่ทำให้นางกลัว หลังจากได้ยินเสียงดังสองสามครั้ง นางก็ได้ยินเฟิงหยูเฮงพูดว่า “ทำไมสีหน้าของแม่รองฮันดูแย่กว่าน้องสาม ?”
“ข้า…ข้า…” ฮันชิไม่สามารถพูดได้เนื่องจากความกังวลใจของนาง
แต่มันเป็นเฟิงเฟินไดที่เป็นผู้ตอบโต้ “แม่รองไม่สบาย สีหน้าของนางก็เลยเป็นแบบนี้”
“อะไรนะ ?” เฟิงหยูเฮงก้าวไปข้างหน้าอีกสองก้าว “ข้าเป็นหมอ ถ้าเช่นนั้นให้ข้าตรวจแม่รองฮันดีหรือไม่ ?”
ฮันชิตัวสั่นและถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว เฟิงเฟินไดก็เริ่มกังวลและพูดอย่างรวดเร็วว่า “ไม่ต้อง ไม่จำเป็น พี่รองเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ และแม่รองฮันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าอนุ เราไม่สามารถจ่ายเงินให้พี่รองเพื่อตรวจนางได้”
นางไม่ยืนกรานและหยุด นางยืนอยู่อีกต่อไปโดยกล่าวว่า “ก็ดีแล้วที่น้องสี่จำได้ว่าข้าเป็นบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ แม้ว่าข้าจะไม่ใช่ ข้าก็ยังเป็นพี่สาวของเจ้า เช่นเดียวกับน้องสามคือน้องสาวของข้า หากคำพูดของน้องสาวที่ดูหมิ่นพี่สาวถูกร่ำลือออกไป ข้ากลัวว่าน้องสาวจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อแต่งงานในอนาคต ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจเหตุผลนี้”
“เฟินไดยังเด็ก อาเฮงอย่าตำหนินางเลย” นั่งอยู่บนเก้าอี้นุ่ม ๆ ของนาง ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าว นี่เป็นครั้งแรกที่นางออกหน้าให้เฟิงเฟินได
เฟิงเฟินไดเงียบ เป็นเรื่องยากที่ฮูหยินผู้เฒ่าจะให้การสนับสนุนนางในครั้งนี้ ดังนั้นเด็กหญิงตัวน้อยจึงเคลื่อนไหวเล็กน้อย นางรีบวิ่งไปที่ฮูหยินผู้เฒ่าและพูด “ท่านย่า เฟินไดไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่รองโกรธ”
อย่างไรก็ตามฮูหยินผู้เฒ่าไม่คิดที่จะปลอบนาง ในความเป็นจริงนางไม่แม้แต่จะมองเฟิงเฟินได นางหันมามองเฟิงเซียงหรูและพูดว่า “ดีที่เจ้าไม่เป็นอะไร ตอนนี้บิดาของเจ้าไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้า ข้าจะอธิบายกับจินหยวนอย่างไร !” ฮูหยินผู้เฒ่าพูดอย่างนี้ในขณะที่ซับน้ำตา
เฟิงเซียงหรูมองฮูหยินผู้เฒ่าโดยปราศจากความรู้สึกใด ๆ นางโค้งคำนับและพูดว่า “ท่านย่า ทั้งหมดมันเป็นความผิดของเซียงหรู”
เฟิงหยูเฮงกล่าวว่า “สองสามวันที่ผ่านมา ข้าได้สำนึกถึงความผิดของข้า ทำให้ข้าไม่ได้ไปรักษาหลังของท่านย่า พลาสเตอร์ยาเกือบหมดแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ ? อาเฮงจะส่งคนเอาไปให้ท่านย่าในวันพรุ่งนี้เจ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าส่ายหน้าของนางพร้อมกับตอบว่า “ไม่จำเป็น ไม่จำเป็นต้องส่งมาแล้ว ข้าดีขึ้นแล้ว แค่พักมันอีกสักหน่อยก็จะดี หมอข้างนอกส่งยาหม้อมาให้มันดีมาก ข้าไม่ต้องการพลาสเตอร์ยาอีกต่อไปแล้ว”
เฟิงหยูเฮงยกคิ้วขึ้นมาและยิ้มบาง ๆ แน่นอนว่าฮูหยินผู้เฒ่ามีปัญหาเช่นเดียวกับนางเมื่อสามปีก่อน เมื่อนางรู้สึกว่าภัยจะมาถึงตัว นางก็รีบตัดความสัมพันธ์ออกไป เมื่อสามปีก่อนนางไล่อดีตฮูหยินใหญ่และบุตรของนาง ตอนนี้นางกำลังจะตัดความสัมพันธ์เช่นเดิมอีกครั้ง
“ก็ดีเหมือนกันเจ้าค่ะ” นางพูด “เมื่อเร็ว ๆ นี้อาเฮงไม่สามารถดูแลตัวเองได้และไม่สามารถดูแลท่านย่าได้ หากหมอจากข้างนอกช่วยดูแล ท่านย่าสามารถหลีกเลี่ยงการถูกพัวพันได้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น” หลังจากที่นางพูดเรื่องนี้ นางไม่รอให้ฮูหยินผู้เฒ่าตอบ ก่อนที่จะหันไปหาอันชิและกล่าวว่า “แม่รองฮันต้องดูแลน้องสามให้ดี ไม่ต้องกังวล แม้จะไม่มีอาเฮงแต่ยังมีองค์ชายเจ็ด หากน้องสามมีปัญหา นางสามารถไปหาพระองค์ได้ที่ตำหนักชุน” หลังจากพูดแล้วนางก็หันมามองเฉินหยู และถามว่า “หืม? วันนี้วันอะไร?”
เฟิงเฉินหยูตกใจและหัวใจของนางเริ่มเต้นรัว
เฟิงหยูเฮงพูดต่อ “เหลือเวลาไม่กี่วัน ข้าไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก ดังนั้นข้าจึงหวังว่าพี่ใหญ่จะช่วยอาเฮงดูแลน้องสาวได้ อย่าปล่อยให้สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขาอีก”
เฟิงเฉินหยูกัดริมฝีปากล่างของนางอย่างรุนแรง ขณะที่ความรู้สึกจากการถูกคุกคามแน่นเต็มหัวใจของนาง แต่เมื่อนางดูใบหน้าของเฟิงหยูเฮง ชัดเจนว่า: ข้ากำลังขู่เจ้า แต่เจ้าจะทำอะไรได้ ?
ไม่มีอะไรที่นางทำไม่ได้นอกจากพยักหน้า “น้องรองไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลน้องสาวของข้าอย่างดี”
“ดีมาก” เฟิงหยูเฮงยิ้มและไม่พูดอะไรอีกเลย นางพูดกับเฟิงเซียงหรูว่า “พี่รองจะไปส่งเจ้ากลับเรือน ระหว่างทางข้าจะตรวจเจ้าเอง”
เฟิงเซียงหรูพยักหน้าและคารวะฮูหยินผู้เฒ่าพร้อมกับอันชิ จากนั้นก็เดินตามเฟิงหยูเฮงซึ่งหันหลังและเริ่มเดินไปแล้ว
เมื่อคนที่เหลือเห็นพวกเขาจากไป พวกเขาทั้งหมดก็ถอนหายใจยาว
ฮูหยินผู้เฒ่ามองไปรอบๆ ทุกคน ในตอนท้ายหยุดที่จินเฉินและแค่นเสียงออกมา “ไร้ค่า !” จากนั้นนางก็โบกมือแล้วกลับไปที่เรือนซูหยา
จินเฉินรู้สึกผิดและโกรธ นางจ้องมองม่านซี
คนอื่นไม่ได้อยู่นานเพราะพวกเขากลับไปที่เรือนของตัวเองทีละคน บ่าวรับใช้ที่เหลืออยู่งงงัน หนึ่งในบ่าวรับใช้ที่ว่ายน้ำเก่งถามเฮ่อจง “อนุอันบอกว่าแต่ละคนจะได้รับ 50 เหรียญเงิน นางยังจำคำพูดได้หรือไม่?”
เฮ่อจงไตร่ตรองเล็กน้อยแล้วพูดว่า “คำพูดของอนุอันเชื่อถือได้ อย่างไรก็ตามวันนี้ดึกมากแล้ว ทุกคนกลับไปก่อน พรุ่งนี้ตื่นก็คงได้รับรางวัล”
บ่าวรับใช้ได้แต่ทำใจให้สงบและแยกย้ายกันไป
เฟิงหยูเฮง, เฟิงเซียงหรูและอันชิไปยังเรือนเล็ก ๆ ของพวกเขา ไล่บ่าวรับใช้คนอื่น นางเข้าไปในห้องพร้อมหวงซวนเท่านั้น
เมื่อเข้าไปในห้อง อันชิถามเฟิงเซียงหรูอย่างรวดเร็ว “เจ้าตกลงไปในทะเลสาบจริง ๆ หรือ ? เจ้าไม่ได้ซุ่มซ่ามและตกลงไปด้วยตัวเองใช่หรือไม่ ?”
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ถูกพูดขึ้นมาอีกครั้ง ความกลัวที่เฟิงเซียงหรูได้เก็บกดไว้ก็ลุกฮือขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางก็ซีดกว่าเดิมและมือของนางก็เริ่มสั่นเทาเช่นกัน
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วอันชิจะไม่เข้าใจได้อย่างไร นางดึงเฟิงเซียงหรูขึ้นไปนั่งบนเตียง จากนั้นนางก็มองไปที่เฟิงหยูเฮงและคุกเข่า “อนุผู้นี้ขอบคุณคุณหนูรองที่ช่วยชีวิตนางไว้เจ้าค่ะ”
เฟิงหยูเฮงรีบพยุงนางลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “แม่รองอันทำอะไร ลุกขึ้นเถิด”
แต่ไม่เพียงแต่อันชิเท่านั้นที่จะยืนหยัดได้ เฟิงเซียงหรูก็คุกเข่าบนพื้นและพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ถ้าไม่ใช่เพราะผู้คุ้มกันลับของพี่รองที่อยู่ข้างทะเลสาบ เซียงหรูก็คงจะกลายเป็นพรายน้ำ”
ไม่มีอะไรที่เฟิงหยูเฮงทำได้ นางทำได้แค่เฝ้าดูทั้งสองขอบคุณก่อนที่จะช่วยพวกเขา
อันชิถามเฟิงเซียงหรูว่า “เจ้าเห็นหรือไม่ว่าใครเป็นคนทำ ?”
เฟิงเซียงหรูพยักหน้า “แม่รองฮันเจ้าค่ะ” จากนั้นนางก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น อันชิโกรธจนอยากจะแล่นไปทำร้ายฮันชิ
โชคดีที่เฟิงหยูเฮงหยุดนางไว้ “ฟังก่อน เหตุผลที่ข้าไม่ให้เซียงหรูพูดถึงเรื่องที่น่ารังเกียจของฮันชิก็คือเพราะเซียงหรูยังเด็กอยู่ ในเวลานั้นถ้าฮันชิยืนกรานปฏิเสธก็คงไม่มีอะไรที่เราจะทำได้ ประการที่สอง…” นางพูดอย่างเย็นชา “หากฮันชิให้กำเนิดบุตรชายแก่เฟิงจินหยวน นั่นจะมีเรื่องสนุก ในเวลานั้นแม้ว่าเราต้องการให้นางมีชีวิตอยู่ แต่เฟิงจินหยวนจะไม่ให้อภัยนางอย่างแน่นอน”
หลังจากประสบการณ์ในคืนนั้นฮันชิขวัญผวาไปหลายวัน เมื่อเห็นว่าด้านของเฟิงเซียงหรูดูเหมือนจะไม่ได้ทำอะไรเลย ในที่สุดนางก็ผ่อนคลายเล็กน้อย
สำหรับราชสำนัก มีข่าวแพร่หลายออกไปมากขึ้นว่าฮ่องเต้ได้ใช้เวลาของพระองค์กับองค์ชายใหญ่ซวนเทียนฉี นอกจากนี้พระองค์ไม่สนใจองค์ชายองค์อื่น ๆ แม้แต่องค์ชายเก้าซึ่งพระองค์เคยโปรดปรานมากที่สุดเสมออย่างซวนเทียนหมิงก็ถูกปฏิบัติอย่างเย็นชา
เมื่อการสำนึกผิดของเฟิงหยูเฮงครบกำหนด ก็มีพระราชโองการของฮ่องเต้มาว่าองค์หญิงแห่งมณฑลจีอันไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพระราชวังหากไม่ถูกเรียกตัว
ข่าวทุก ๆ เรื่องได้ไปถึงหูคฤหาสน์เฟิง และทราบไปถึงฮูหยินผู้เฒ่าพร้อมกับเจ้านายของแต่ละเรือน
ทุกคนเริ่มรู้สึกตื่นตระหนกแต่พวกเขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร เฟิงจินหยวนไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง และไม่มีใครในตระกูลเฟิงสามารถตัดสินใจได้ แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่ได้เคลื่อนไหว นอกจากดูอย่างเงียบ ๆ นางก็ไม่ทำอะไร
ความเกลียดชังที่เฟิงเฉินหยูมีต่อเฟิงเซียงหรูเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซวนเทียนฮั่วบุคคลที่นางใช้ความพยายามอย่างมากในการเข้าใกล้ ตอนนี้ก็กลายเป็นผู้สนับสนุนเฟิงเซียงหรู ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่เข้าใจว่าทำไมสิ่งต่าง ๆ ถึงเป็นแบบนี้
ยี่หลินมองไปที่ตุ๊กตาที่ถูกปักด้วยหมุดมากมายที่เฟิงเฉินหยูถืออยู่ นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงคลื่นความหวาดกลัว “คุณหนูต้องไม่ทุ่มเทพลังงานทั้งหมดของคุณหนูในการจัดการกับคุณหนูสาม !” ไม่มีอะไรที่นางจะทำได้ ดังนั้นนางจึงตัดสินใจหยิบตุ๊กตาที่ติดชื่อของเฟิงเซียงหรู “รอบเดือนของคุณหนูมาเมื่อวานนี้ มันใกล้จะได้เวลาแล้ว คุณหนูห้ามทำผิดพลาดอีก คุณหนูเข้าใจหรือไม่เจ้าคะ ?”
สีหน้าของเฟิงเฉินหยูผิดปกติเล็กน้อย และมือของนางแตะไปที่หน้าท้องส่วนล่างของนาง นี่เป็นครั้งแรกที่นางไม่รู้สึกรำคาญกับความเจ็บปวดของรอบเดือนนาง
ยี่หลินพูดถูก ตราบใดที่นางอดทนอีกไม่กี่วัน นางก็จะไปหาเฟิงหยูเฮงได้ เมื่อเรื่องนี้ได้รับการแก้ไข นางไม่จำเป็นต้องทนต่อการคุกคามของเด็กหญิงผู้นั้นอีกต่อไป
“เตรียมเงินไว้หรือยัง ?”
“เจ้าค่ะ” ยี่หลินพยักหน้า “คุณหนูไม่ต้องกังวล ฝ่ายเราพร้อมแล้วเจ้าค่ะ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดอยู่ เสียงของบ่าวรับใช้มาจากข้างนอก “คุณหนูใหญ่ บ่าวรับใช้ผู้นี้มีบางอย่างที่ต้องรายงานเจ้าค่ะ”
ยี่หลินเปิดประตู และบ่าวรับใช้คนหนึ่งเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเฟิงเฉินหยู นางพูดว่า “เรือนซูหยาเชิญให้คุณหนูไปเยี่ยมหลังเที่ยงเจ้าค่ะ”
เฟิงเฉินหยูขมวดคิ้ว และถามนางว่า “ข้าคนเดียวหรือ ?”
บ่าวรับใช้ส่ายหัวของนาง “พวกเขาไม่ได้พูด แต่คิดว่ามันไม่ควรเป็นเช่นนั้น บ่าวรับใช้นี้ได้ยินจากคนที่ส่งข้อความพร้อมกล่าวว่าจะมีงานเลี้ยงวันเกิดพระนัดดาของฮ่องเต้ที่ตำหนักหยวน มีเทียบเชิญส่งมาถึงคุณหนูของเราทุกคน”
“งานฉลองวันเกิดของพระนัดดาของฮ่องเต้…” เฉินหยูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ดวงตาของนางจะสว่างขึ้น และนางก็ถามว่า “บรรดาองค์ชายล่ะ ? พระองค์จะไปไหม”
“บ่าวรับใช้ผู้นี้ไม่ทราบเจ้าค่ะ”
ยี่หลินรู้สึกว่าหัวใจของนางบีบรัดและผลักบ่าวรับใช้ออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อปิดประตูนางก็เตือนเฟิงเฉินหยูอย่างเคร่งขรึม “คุณหนูต้องไม่คิดถึงองค์ชายเจ็ดแล้วนะเจ้าค่ะ ! นั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ เจ้าค่ะ”
เฉินหยูรู้สึกหดหู่ใจ “ใครบอกว่าข้ากำลังคิดถึงองค์ชายเจ็ด ข้าไม่สามารถคิดถึงองค์ชายสามได้หรือ ?”
ยี่หลินพยักหน้า “คุณหนูทำได้ คิดถึงองค์ชายสามดีที่สุดเจ้าค่ะ”
เฟิงเฉินหยูโกรธถึงขีดจำกัดและกำลังจะระเบิดออกมา แต่นางก็ได้ยินเสียงของบ่าวรับใช้คนอื่นมาจากข้างนอกโดยพูดว่า “คุณหนูใหญ่ มีคนจากตำหนักจิงมาส่งของให้คุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ”
ภายในห้องทั้งสองคนตกตะลึง ยี่หลินไม่สามารถตอบโต้ และถามด้วยความสับสน “องค์ชายจิง”
อย่างไรก็ตามเฉินหยูสามารถตอบโต้ได้ แต่นางก็ยิ่งตื่นตระหนกยิ่งขึ้นไปอีก “องค์ชายใหญ่หรือ ?”