ตอนที่ 225 เฟิงเซียงหรูยังมีผู้สนับสนุน
คำถามของเฟิงเฟินไดทำให้ฮันชิงุนงง นางพูดอย่างไม่ตั้งใจและไม่คิดว่านางจะสารภาพออกไปโดยไม่รู้ตัวโดยพูดบางสิ่งที่นางควรปกปิด
เมื่อเห็นการจ้องมองของเฟิงเฟินไดเต็มไปด้วยความสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจูก็เกิดความคิดขึ้นอย่างรวดเร็วและพูดว่า “บ่าวรับใช้ก็ได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเจ้าค่ะ บ่าวรับใช้ซุบซิบกันเรื่องนี้ก่อนที่คุณหนูสี่จะเข้ามา อนุฮันคงได้ยินเจ้าค่ะ”
ฮันชิพยักหน้า “ใช่ ข้ารู้สึกเหมือนตอนที่ฝันไปได้ยินคนพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับคุณหนูสามที่ตกน้ำ ตอนแรกข้าคิดว่ามันเป็นความฝัน และในตอนนี้เจ้าพูดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ข้าจึงสับสน” นางพูดอย่างนี้แล้วก็เอียงศีรษะของนาง “ความง่วงทำให้ข้ามึนงง จะมีคนตกลงไปในน้ำตอนกลางคืนได้อย่างไร”
เฟิงเฟินไดรู้สึกว่าคำอธิบายนี้เป็นไปได้และไม่สงสัยเลย นางบอกฮันชิเพิ่มว่า “นางตกลงไปในน้ำจริง ๆ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ข้าก็ไม่แน่ใจ ท่านพักผ่อนเถอะ ข้าจะไปดูก่อน” หลังจากพูดเรื่องนี้นางก็สั่งอาจู “เจ้าต้องดูแลแม่รองฮันอย่างดี”
อาจูพยักหน้าและส่งเฟิงเฟินไดออกจากห้อง
ฮันชิจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขณะที่ตบหน้าอกของนาง “เรื่องนี้ทำให้ข้ากลัวจนตาย”
ใบหน้าเล็ก ๆ ของอาจูก็ขาวซีดเช่นกัน “บ่าวรับใช้คนนี้กลัวตายจริง ๆ ! อนุฮันต้องระวังมากขึ้นนะเจ้าค่ะ โดยเฉพาะคุณหนูสี่ ก่อนพูดอะไรอนุฮันต้องคิดดี ๆ เจ้าค่ะ !”
ฮันชิพูดด้วยความรู้สึกผิด “ข้ารู้ ตอนนี้ข้ารู้สึกกลัวเล็กน้อย มันจะไม่เกิดขึ้นอีก” เมื่อคิดอีกที นางตัดสินใจนั่ง “ช่วยข้าแต่งตัว เราไปดูกันดีกว่า”
อาจูตกตะลึง “คุณหนูสี่บอกว่าอย่าไปนะเจ้าคะ”
“ถ้าข้าไม่ไป ข้าจะสบายใจได้อย่างไร” ฮันชิเริ่มใส่เสื้อผ้าของนาง
อาจูงงงวย “ทำไมอนุฮันถึงไม่สบายใจ ?” คุณหนูสามไม่ได้มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับอนุฮัน นี่เป็นสิ่งที่นางรู้
ฮันชิขมวดคิ้ว เมื่อนางผลักเฟิงเซียงหรูลงไปในน้ำ อาจูไม่ได้อยู่ข้างนางเนื่องจากนางถูกส่งกลับไปที่เรือนของนางก่อน นางไม่ได้วางแผนที่จะบอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงสามารถหาข้อแก้ตัว “ไม่ว่าข้าจะตั้งครรภ์หรือไม่นั้นยังไม่แน่ใจ คนอื่น ๆ ในคฤหาสน์ไปที่นั่นหมดแล้ว มันจะไม่ดีถ้าข้าไม่ไป จะเกิดอะไรขึ้นถ้าท่านแม่สามีตำหนิข้า ข้าจะต้องยอมรับมัน”
อาจูฟังและรู้สึกว่านี่เป็นอย่างที่ฮันชิพูด ดังนั้นนางจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ นางเตือนว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่นั่น อนุฮันจะต้องไม่กังวลเกินไป บ่าวรับใช้คนนี้ได้ยินว่าหากสภาพจิตใจของมารดาไม่สงบเมื่อตั้งครรภ์ จะส่งผลกระทบต่อเด็กในท้องเจ้าค่ะ”
ฮันชิเห็นด้วยกับสิ่งนี้และพยักหน้า “เจ้าพูดถูก”
“เจ้าค่ะ” อาจูจัดเสื้อผ้าของฮันชิในขณะที่ถอนหายใจ “อนุอัน เรื่องนี้เสี่ยงเกินไปจริง ๆ แต่…” ความสงสัยเริ่มคลานเข้าไปในใจบ่าวรับใช้ “ที่อนุฮันพูดถึงด้านข้างของทะเลสาบ หมายถึงอะไรเจ้าคะ ?”
ฮันชิขมวดคิ้วและสภาพจิตใจของนางเริ่มปั่นป่วน “เมื่อข้ากลับมา ข้าเดินผ่านบริเวณนั้น ข้าเหมือนจะได้ยินเสียงบางอย่าง แต่ข้ารู้สึกประหม่ามากในเวลานั้น ข้าจะกังวลเรื่องอื่นได้อย่างไร เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวข้าก็รีบวิ่งออกมา ตอนนี้เมื่อคุณหนูสี่พูด ข้าก็จำเรื่องนี้ได้โดยไม่รู้ตัว”
“โอ้” อาจูยังคงรู้สึกว่าคำอธิบายของนางนั้นตะกุกตุกักเล็กน้อย แต่เนื่องจากฮันชิพูด มันก็ไม่เป็นการดีสำหรับนางที่จะสงสัยเจ้านายของนาง “ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเถอะเจ้าค่ะ บ่าวรับใช้คนนี้ได้ยินจริง ๆ ว่าคุณหนูสามตกลงไปในทะเลสาบ ตอนนี้บ่าวรับใช้ของคฤหาสน์กำลังค้นหา บ่าวรับใช้นี้ไม่มีโอกาสบอกอนุฮันก่อนคุณหนูสี่เจ้าค่ะ”
ฮันชิถอนหายใจเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไรต่อ นางและอาจูไปที่ทะเลสาบ
เมื่อพวกเขาไปถึง การค้นหาใต้น้ำก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง
อันชิกำลังจะหมดสติจากการร้องไห้ แต่เมื่อฮันชิเห็นผลลัพธ์นี้ ใจของนางก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มสักพัก
มันจะดีที่สุดถ้านางไม่พบ ปล่อยให้เด็กหญิงคนนั้นอยู่ในน้ำประมาณ 10 ปีจนเหลือแต่กระดูก
ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่ามืดมนขณะที่นางนั่งบนเก้าอี้ของนาง เมื่อเห็นว่าฮันชิเพิ่งมาถึง นางก็อดไม่ได้ที่จะด่าว่า “เจ้าเป็นคนที่มาถึงช้าที่สุด มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ แต่เจ้ายังมีแก่ใจที่จะนอนหลับอยู่หรือ”
ฮันชิเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อคารวะฮูหยินผู้เฒ่า แล้วกล่าวด้วยความเศร้าโศก “ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาร่างกายของอนุคนนี้รู้สึกไม่ดี นั่นคือสาเหตุที่ข้าตื่นสาย ท่านแม่สามียกโทษให้ข้าด้วยเจ้าค่ะ”
เฟิงเฟินไดไม่ต้องการให้ฮูหยินผู้เฒ่าโต้เถียงกับฮันชิ ดังนั้นนางจึงเข้ามาอย่างรวดเร็วกล่าวด้วยความโศกเศร้าว่า “ข้าได้ยินว่าพี่สามจะไปที่เรือนตงเซิง? นางเป็นคนที่หยิ่ง เราไม่สามารถแม้แต่จะเข้าไปในเรือนตงเซิงในตอนกลางวันได้ แต่พี่สามวิ่งไปที่นั่นในตอนกลางคืน พี่สามและพี่รองสนิทกันจริง ๆ แต่ทำไมพี่รองถึงไม่มา ? หากพูดถึงคนที่จะมาช้าที่สุดควรเป็นพี่รอง”
เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรือนตงเซิง ฮูหยินผู้เฒ่าก็นึกขึ้นได้และถามอย่างรวดเร็วว่า “เจ้าได้ถามคนที่เรือนตงเซิงหรือไม่ ?”
เฮ่อจงเดินไปข้างหน้าแล้วคำนับตอบว่า “บ่าวรับใช้คนนี้ส่งคนไปเป็นแล้ว และบ่าวรับใช้ที่เฝ้าประตูบอกว่าไม่เห็นคุณหนูสามเจ้าค่ะ”
เฟิงเฉินหยูเช็ดน้ำตาแล้วก็สะอื้น “ผ้าเช็ดหน้าและรองเท้าของน้องสามถูกพบในทะเลสาบ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นางยังไปไม่ถึงเรือนตงเซิงเลยเจ้าค่ะ นาง…”
“ท่านแม่สามี!” ทันใดนั้นอันชิตะโกนแล้วคลานไปที่เท้าของฮูหยินผู้เฒ่า นางร้องอ้อนวอน “ข้าขอให้ท่านไปหาคนที่ว่ายน้ำเก่งที่สุดจากนอกคฤหาสน์เข้ามาค้นหาได้ไหมเจ้าค่ะ! อนุผู้นี้ได้ยินว่าทางการมีทหารบางคนที่เก่งในการค้นหาคน ข้าขอท่านขอความช่วยเหลือด้วยเจ้าค่ะ!”
ฮูหยินผู้เฒ่ามีท่าทีหนักใจและถามยายจาวว่า “ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”
ยายจ้าวตอบว่า “ตี 3 เจ้าค่ะ”
เฟิงเฉินหยูสะอื้นอีกครั้ง “อนุอันแม้ว่าเราจะไปขอความช่วยเหลือ มันก็สายเกินไป ! ในน้ำลึกเช่นนี้ น้องสาม…”
“ถ้านางยังมีชีวิตอยู่ข้าต้องเห็นตัว แต่ถ้านางตายแล้วข้าต้องเห็นศพ !” อันชิกัดฟันพูดและพูดอย่างหนักแน่น "แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ศพ ข้าต้องเอานางกลับมา!"
“เหลวไหล !” ฮูหยินผู้เฒ่าเกลียดการได้ยินคำพูดเช่นนี้อย่างแน่นอน เมื่อมองไปที่อันชิ นางดูเหมือนจะเป็นคนปากร้าย จริง ๆ แล้วนางกล้าที่จะพูดกับเด็กสาวของคฤหาสน์แบบนี้ ? “อันชิ เจ้าต้องจำจุดยืนของเจ้าเอง! เป็นไปได้ไหมที่ข้าต้องวิดน้ำทั้งทะเลสาบเพื่อค้นหาบุตรสาวของอนุ ? ทางการไม่ได้อยู่ในความควบคุมของตระกูลเฟิง ดูเวลาด้วย จินหยวนไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ และดูสถานการณ์ของเรือนตงเซิงในตอนนี้ ในหมู่พวกเราสามารถขอความช่วยเหลือจากเจ้าเมืองได้หรือไม่ ?”
อันชิมองฮูหยินผู้เฒ่าด้วยอย่างเห็นธาตุแท้ ในฐานะที่เป็นย่า นางยังสามารถพูดเช่นนี้ได้ สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้ผิดหวังอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว อันชิก็เริ่มสงสัยว่าฮูหยินผู้เฒ่าออกจากห้องของนางโดยไม่ได้เอาสมองมา
“คุณหนูใหญ่และคุณหนูสี่อยู่ที่นี่แล้ว ฮูหยินผู้เฒ่า ข้าไม่คิดเลยว่าท่านจะเย็นชาขนาดนี้” สถานะของบุตรสาวของนางเองไม่ชัดเจน และทันใดนั้นอันชิก็ลุกขึ้นไป ถ้าเฟิงเซียงหรูไม่มีชีวิตอีกต่อไปนางคงไม่อยากอยู่เหมือนกัน สำหรับคนที่ไม่กลัวความตาย นางจะกลัวหญิงชราผู้นี้ได้อย่างไร นางไม่ร้องไห้และไม่คุกเข่าอีกต่อไป นางยืนขึ้นพร้อมกับปิงเอ๋อ และเหม่ยเซียงรีบไปข้างหน้าเพื่อช่วยนาง อันชิกล่าวว่า “ในเมื่อฮูหยินผู้เฒ่าจะไม่แม้แต่จะช่วยหลานสาวของนางเอง อนุผู้นี้ก็จะไปขอร้องคนอื่น ตระกูลเฟิงไม่สามารถพึ่งพาได้ แต่ยังมีตำหนักชุน! ฮูหยินผู้เฒ่าคงลืมว่าคุณหนูสามและองค์ชายเจ็ดสนิทกันมาก ในช่วงเวลาที่งานจัดเลี้ยงขององค์หญิงแห่งมณฑลจีอัน องค์ชายเจ็ดทรงมอบชุดเสื้อผ้าให้ หลังจากนั้นคุณหนูสามตกลงไปในน้ำที่งานเลี้ยงก็เป็นองค์ชายเจ็ดที่เป็นผู้ช่วยชีวิตนางไว้ อนุผู้นี้จำได้ว่าได้ยินบ่าวรับใช้บอกว่าหลังจากที่องค์ชายเจ็ดได้ช่วยคุณหนูสามแล้ว พระองค์ยังคงอยู่บนเรือและดูแลนาง เอาเสื้อมาคลุมให้นางเองกับมือ นอกจากนี้ครั้งสุดท้ายเรื่องของคุณหนูรองเข้าไปในพระราชวัง คุณหนูสามถูกส่งไปที่ตำหนักชุนเพื่อสอบถาม ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีเด็กผู้หญิงคนใดได้รับอนุญาตให้เข้าไปในตำหนักชุนมาก่อน แต่มันเปิดให้คุณหนูสามของเรา ก็ดีถ้าฮูหยินผู้เฒ่าลืมเรื่องเหล่านี้ อนุจำได้ทั้งหมด ข้าจะไปที่ตำหนักชุนเพื่อขอความช่วยเหลือจากองค์ชายเจ็ด พระองค์จะได้ช่วยคุณหนูสามขึ้นจากน้ำและช่วยชีวิตนางอีกครั้ง”
อันชิจากไปพร้อมกับบ่าวรับใช้ของนางหลังจากที่นางพูดจบ
ฮูหยินผู้เฒ่ารีบตะโกนเรียกอย่างไม่รู้ตัว “ช้าก่อน” นางกลัวอันชิ
ถูกต้อง ! นางจะลืมความสัมพันธ์นี้ได้อย่างไร ? ไม่ว่าองค์ชายเจ็ดจะมีความคิดเช่นนั้นหรือไม่ แต่เขาก็ใส่ใจเฟิงเซียงหรู สถานการณ์ในปัจจุบันไม่ชัดเจนนักดังนั้นนางจึงไม่อาจวอกแวกได้ หากนางล่าช้าในการช่วยชีวิตของเฟิงเซียงหรูและด้วยการสอบสวนขององค์ชายเจ็ด ตระกูลเฟิงก็ไม่สามารถรับมือได้
ฮูหยินผู้เฒ่ามีความคิดเหล่านี้ แต่เฟิงเฉินหยูและเฟิงเฟินไดยืนนิ่งเงียบ
แม้ว่าพวกเขาจะไม่สนใจว่าเฟิงเซียงหรูจะตายหรือไม่ก็ตาม คำพูดของฮูหยินผู้เฒ่าทำให้พวกเขารู้สึกผิดหวังอย่างแท้จริง พวกเขาเป็นบุตรสาวของอนุทั้งหมด เป็นไปได้ไหมว่าบุตรสาวของอนุมีการดำรงอยู่ที่คล้ายคลึงกันกับสุนัขและแมวของฮูหยินผู้เฒ่า? หลังจากตกลงไปในน้ำ นางจะไม่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะค้นหาพวกมันใช่หรือไม่ ?
สีหน้าของพวกเขาดูแปลก ๆ ยายจาวเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นและตระหนักได้ทันทีว่าฮูหยินผู้เฒ่าพูดแรงเกินไปก่อนหน้านี้ นางกล่าวว่า “ท่านฮูหยินผู้เฒ่า รีบไปที่คฤหาสน์เจ้าเมืองเพื่อขอความช่วยเหลือเจ้าค่ะ !”
“นั่นเป็นความคิดที่ดี” ฮูหยินผู้เฒ่าพยักหน้าและกำลังจะส่งคนออกไปจากคฤหาสน์ ก่อนที่นางจะพูด เฮ่อจงจ้องมองไปในทิศทางที่แตกต่าง เขาอ้าปากค้างและใบหน้าแสดงความตกใจอย่างมาก
ที่ด้านข้างของเขามียามคอยเฝ้าดูทิศทางนั้นอยู่ เขาเป็นคนแรกที่พูดว่า “นั่นไม่ใช่…คุณหนูรองและคุณหนูสามหรือขอรับ ?”
เมื่อได้ยินว่าคุณหนูสาม ทุกคนก็หันไปมอง พวกเขาเห็นว่าเฟิงเซียงหรูเดินจูงมือมากับเฟิงหยูเฮงจากเรือนตงเซิง
ตรงหน้าพวกเขา คุณหนูสามนั้นสวมรองเท้าที่เข้ากับเท้าและผ้าเช็ดหน้าในมือ นอกเหนือจากใบหน้าของนางซีด ทุกอย่างก็ดูดี
ทุกคนตกใจและอันชิเป็นคนแรกที่วิ่งไปหา นางวิ่งไปจนมาถึงเฟิงเซียงหรู แต่นางก็ไม่กล้าเรียก นางได้แต่มองเฟิงเซียงหรูเท่านั้น
เฟิงเซียงหรูยิ้ม นางจับมืออันชิ “แม่รองเกิดอะไรขึ้น ? ท่านทำเหมือนจำเซียงหรูไม่ได้ ?”
จากนั้นอันชิก็ได้สติและมองไปที่เฟิงเซียงหรูกับเฟิงหยูเฮง และทำความเข้าใจเล็กน้อย แต่มือของเฟิงเซียงหรูเย็นมาก ไม่ว่านางจะมองอย่างไร นางก็ไม่ได้มีสุขภาพที่ดี
แม้ว่านางจะเป็นห่วง แต่นางรู้ว่านางไม่สามารถขออะไรได้มากเกินไปในตอนนี้ ดังนั้นนางจึงพูดว่า “เจ้าหายไปทำให้ข้าเป็นห่วงมาก เจ้าไปไหนมา ?”
เฟิงเซียงหรูจับมืออันชิและเฟิงหยูเฮงเดินไปหาคนอื่น ๆ หลังจากหยุด นางพูดว่า "วันนี้ข้าเป็นไข้ และข้าไม่สบายใจในตอนกลางคืน ข้าอยากไปหาพี่รองเพื่อให้พี่รองตรวจ เมื่อมาถึงทะเลสาบ ข้ารู้ว่าข้าลืมเสื้อคลุม ข้าจึงให้บ่าวรับใช้กลับเรือนไปเอาเสื้อคลุมมาให้ ข้ายืนอยู่ที่นี่คนเดียวริมทะเลสาบ ข้าประมาทและตกลงไปในน้ำ โชคดีที่หวงซวนบ่าวรับใช้ของพี่รองผ่านมาจึงช่วยข้าได้ทัน ต้องขอบคุณที่ทำให้ข้ามีชีวิตรอดมาได้”
ในที่สุดฮูหยินผู้เฒ่าก็สงบลง ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ตามตราบใดที่เฟิงเซียงหรูยังมีชีวิตอยู่มันก็ดี ในตอนแรกนางไม่สนใจเกี่ยวกับหลานสาวนี้ แต่หลังจากได้ยินคำเตือนของอันชิ นางเริ่มกังวลเกี่ยวกับตัวนาง
“เป็นเรื่องดีที่เจ้าไม่เป็นอะไร” ฮูหยินผู้เฒ่าแสดงความกรุณาและมองไปที่เฟิงเซียงหรู “ตอนที่ข้ารู้ว่าเจ้าตกลงไปในน้ำ ข้ากังวลมาก ดีที่เจ้าไม่เป็นอะไร”
เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าพูด ใบหน้าของฮันชิเผยให้เห็นถึงความตื่นตระหนกและความตึงเครียดซึ่งเฟิงเฟินไดมองเห็น
เด็กหญิงขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเดินไปข้างหน้า นางหันมาจ้องมองเฟิงหยูเฮงและพูดอย่างสงสัยว่า “พี่สามไปที่เรือนตงเซิง ? แต่ทำไมเมื่อเราส่งคนไปถามบ่าวรับใช้บอกว่าพวกเขาไม่เห็นพี่สาม ? นอกจากนี้ทำไมหวงซวนถึงมาคฤหาสน์ของเราในตอนกลางคืน ?”