The Dark King – Chapter 104 เคลื่อนไหว [อ่านฟรี 12-05-2019]
The Dark King – Chapter 104 เคลื่อนไหว
ฟู่เทียนสังเกตเห็นสายรัดบริเวณต้นขาทั้ง 2 ข้างของเธอ มีมีด 2 เล่มที่เสียบอยู่ตรงนั้น ทั้ง 2 เล่มนั้นยาวกว่ามีดปกติประมาณ 2-3 เซนติเมตร ปลายของมีดโค้งเล็กน้อยจนเหมือนกับเคียว ในตอนนี้มีเลือดหยดลงจากปลายของใบมีด เป็นเลือดของหมาป่าจระเข้
“นักฆ่า!” ฟู่เทียนนึกถึงตำแหน่งหน้าที่ของเกล็นขึ้นมา เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินเรื่องของ 2 นักล่าที่มีชื่อเสียงของสมาคมเมลลอน ตามข่าวที่ว่าเขาได้ยินหนึ่งในนั้นเป็นนักรบในขณะที่อีกคนเป็นหน่วยสอดแนม เกล็นนั้นเป็นหน่วยสอดแนม แต่เธอก็ได้ยกระดับตัวเองจนเป็นนักฆ่าและนักลอบสังหารในตอนนี้
ชื่อเล่นของเธอคือ – นักฆ่าเงาวิญญาณ!
พวกยอดฝีมือจะมีชื่อเล่นตามความสามรถของสัญลักษณ์เวทมนตร์ของผู้ใช้ เหมือนกับสัญลักษณ์เวทมนตร์ของเกล็นที่มีชื่อว่า ‘โกสอาย’ มันมาจากสัตว์ร้ายที่น่ากลัวอย่างยิ่ง เกล็นนั้นมีการมองเห็นที่ดีมาก ร่างกายที่ยืดหยุ่นและการปิดบังกลิ่นอายของตนเองทำให้เธอสามารถเข้าใกล้ศัตรูได้อย่างง่ายดาย เธอเป็นนักฆ่าโดยกำเนิด เธอเป็นเหมือนกับงูที่สามารถซ่อนตัวในเงามืดและรอให้เหยื่อเข้าถึงระยะสังหารของตนเอง
ตอนที่กลิ่นของเธอหายไปจากการรับรู้ของเขานั่นคงเป็นเพราะความสามารถของสัญลักษณ์เวทมนตร์
ฟู่เทียนตกตะลึงไปในตอนนี้เพราะเขารู้ว่าหมาป่าจระเข้นั้นเป็นสัตว์ร้ายเลเวล 13 พลังของพวกมันนั้นเหนือกว่าหมาป่าวิญญาณที่เขาได้ฆ่าไปก่อนหน้านี้เสียอีก แต่หญิงสาวผู้นี้กลับฆ่ามันไปได้อย่างง่ายดาย ฟู่เทียนไม่อาจมองเห็นการเคลื่อนไหวของเธอได้ ยิ่งไปกว่านั้นการลงมือของเธอแสดงให้เห็นว่าเธอมีประสบการณ์ในเรื่องนี้มากขนาดไหน
มีดของเธอโจมตีเข้าไปที่ส่วนที่อ่อนแอและเป็นจุดตายของศัตรูอย่างแม่นยำ!
เกล็นโบกมือเพื่อให้ทุกๆคนเดินทางต่อ
นักล่าอีก 5 คนที่เหลือเมื่อได้เห็นความสามารถของเธอก็พูดไม่ออกและมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว ถ้าเป็นพวกเขาคงต้องร่วมมือกันอย่างดีเพื่อฆ่าหมาป่าจระเข้ทั้ง 3 ตัวนี้ ยิ่งไปกว่านั้นหากผิดพลาดเพียงน้อยนิดพวกเขาก็อาจจะตายได้ ความห่างระหว่างพวกเขากับนักล่ายอดฝีมือนั้นช่างแตกต่างกันเหลือเกิน!
“กลิ่นของเลือดจะนำพาสัตว์ร้ายตัวอื่นๆให้มาที่นี่ แต่ ‘มัจจุราชทมิฬ’ นั้นมักจะชอบซ่อนตัวอยู่แล้ว มันคงไม่ออกมาง่ายๆหรอก ไล่ล่าต่อไป!” เกล็นกระซิบเบาๆเมื่อเธอเดินออกไป
อีก 5 คนที่เหลือรีบตามไปอย่างรวดเร็ว
ฟู่เทียนมองไปยังศพของสัตว์ร้ายทั้ง 3 ตัวในตอนนี้ “ร่างของพวกมัน… เราไม่ทำอะไรซักอย่างหรอครับ…?”
“ร่างกายของหมาป่าจระเข้ไม่ได้มีค่านักหรอก ไขมันในร่างกายของมันนั้นมีขนาดเล็กเกินไปและเส้นขนของพวกมันก็มีค่ารังสีสูงเกินไป มันไม่มีค่าอะไรหรอก พวกเราจะเสียเวลาเปล่าๆ” ชายที่อยู่คนสุดท้ายของกลุ่มพูดกับฟู่เทียน พวกเขาไม่ได้ดูถูกฟู่เทียนแล้วในตอนนี้เพราะว่าความสามารถในการรับรู้เรื่องกลิ่นของเขา
ฟู่เทียนเร่งความเร็วของเขาเพื่อที่จะตามกลุ่มให้ทัน
พวกเขากำลังตามรอยเท้าของ ‘สิงโตภูเขา’ ไปในตอนนี้ บางครั้งรอยเท้าก็จะหายไป แต่เพราะความสามารถของฟู่เทียนทำให้ทุกๆคนสามารถเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องได้ ประโยชน์ของการตามกลิ่นนี้ทำให้ทุกๆคนรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่ง
ตลอดการเดินทางนั้นพวกเขาเจอสัตว์ร้ายเป็นบางครั้ง พวกมันไม่ได้สร้างปัญหาอะไรเพราะเกล็นสามารถฆ่าพวกมันได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อพวกเขาต้องพบกับกิ้งก่าพิษเลเวล ‘19’ เกล็นก็เลือกที่จะเดินอ้อมไปแทนที่จะต่อสู้กับมัน แม้ว่าพวกเขาทั้ง 7 คนจะสามารถรับมือกับมันได้แต่ก็คงเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่และอาจทำ ‘มัจจุราชทมิฬ’ นั้นไหวตัวหนีไปได้
นอกจากกิ้งก่าตัวนี้แล้วพวกเขายังได้พบกับสัตว์ร้ายที่ไม่มีชื่อ เกล็นกล่าวว่าหากพวกเขาฆ่ามันได้และนำร่างของมันกลับไปที่กำแพงยักษ์พวกเขาจะได้รับรางวัลพิเศษ เธอบอกว่ามันเป็นสัตว์ร้ายชนิดใหม่
เกล็นไม่อยากที่จะล้มเลิกการตามหามัจจุราชทมิฬในตอนนี้ดังนั้นพวกเขาจึงไล่ตามร่องรอยของ ‘สิงโตภูเขา’ ต่อไป
“พักตรงนี้ก่อน”
เพราะการเดินทางที่เร่งรีบนี้เกินกว่าขีดจำกัดของทุกๆคน เกล็นเองก็ต่อสู้มาตลอดทางและเสียพลังไปมาก ในตอนบ่ายพวกเขาก็ตัดสินที่จะหยุดพัก เกล็นกล่าวกับทุกๆคนว่า “พักทานอะไรกันก่อน พวกเราอาจจะไม่มีโอกาสได้พักกินข้าวอีกหลังจากนี้”
พวกเขาต่างก็เชื่อฟังคำสั่งของเธอ นั่งลงและนำอาหารแห้งและน้ำออกมาจากกระเป๋าเป้
ฟู่เทียนรีบนั่งลงแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรในตอนนี้ เขากำลังมองคนอื่นๆทานอาหารของตนเอง
“รับไปสิ” เกล็นชำเลืองมองเขาขณะที่เธอนำอาหารแห้งออกมาจากกระเป๋าของเธอและมอบให้ฟู่เทียน “ถ้านายหามันเจอได้ ถือว่าฉันเป็นหนี้บุญคุณนายแล้ว”
ฟู่เทียนรับอาหารแห้งมา เขารู้สึกขอบคุณแต่ก็แปลกใจในเวลาเดียวกัน “หนี้บุญคุณ? คุณเป็นหนี้บุญคุณอะไรกัน? พวกเราต่างก็มาทำภาระกิจของสมาคมไม่ใช่หรอ?”
“นี่เป็นคำสั่งของสมาคมแต่ไม่ใช่สำหรับฉัน ฉันมาเพื่ออยากจะให้ตัวเองได้ก้าวหน้าต่อไป” เกล็นกล่าวต่อไปว่า “มันก็เหมือนกับการช่วยสมาคมในแง่หนึ่ง แต่ถ้าเราจับหรือฆ่ามันได้ฉันจะมีสิทธิ์เลือกเป็นคนแรก ถ้าฉันไม่สนใจ ทางสมาคมจะให้ 1 ใน 8 นักล่าระดับกลางพัฒนาขึ้นโดยใช้สัตว์ร้ายตัวนี้ แต่ความสามารถของมัจจุราชทมิฬในการแกะรอยศัตรูนั้นเป็นสิ่งที่ฉันต้องการ”
ฟู่เทียนคิดได้ว่าเขายังไม่ได้อ่านเงื่อนไขของสัญญาในภาระกิจนี้เลย ส่วนใหญ่สัญญานั้นจะระบุถึงนักล่าระดับกลาง สิทธิพิเศษและลำดับความสำคัญของพวกเขานั้นสูงกว่าพวกนักล่าระดับต่ำอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นในกรณีที่เขาสามารถจับสัตว์ร้ายได้ด้วยตัวคนเดียว เขาก็ต้องส่งมอบมันให้แก่สมาคมแทนที่จะสามารถใช้มันพัฒนาตนเองได้ หมาป่าวิญญาณที่เขาได้ฆ่าไปก่อนหน้านี้ก็ต้องส่งมอบให้แกสมาคมหากเขาเป็นนักล่าระดับต่ำแต่เขาโชคดีที่หนอนพวกนั้นได้ชอนไชเข้ามายังร่างกายของเขา
“คุณสุภาพจนเกินไปแล้ว แน่นอนว่าผมจะทำทุกอย่างที่ผมทำได้” ฟู่เทียนกล่าวอย่างสุภาพแต่ในจิตใจของเขากำลังก่นด่าอยู่ในตอนนี้
เกล็นส่ายศีรษะของเธอ: “ฉันไม่อยากรู้สึกว่าฉันเป็นหนี้บุญคุณคนอื่น ฉันจะคิดว่ามันเป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม ต่อจากนี้ตราบใดที่นายต้องการความช่วยเหลือของฉันและหากอยู่ในขอบเขตความสามารถของฉัน ฉันจะช่วยเหลือนาย 1 ครั้ง แน่นอนว่าต้องเป็นหลังจากที่เราล่ามัจจุราชทมิฬได้สำเร็จ”
ฟู่เทียนเห็นเธอเป็นคนตรงไปตรงมาดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและตอบกลับไปแต่น้ำเสียงของเขานั้นไม่ได้สุภาพอีกต่อไป “ผมรู้ ผมจะทำให้ดีที่สุด”
“ดี” เกล็นกล่าวและพยักหน้า เธอหันออกไปมองพื้นราบอันกว้างใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า
ฟู่เทียนรีบกินอาหารในตอนนี้ แม้ว่าเกล็นจะสัญญาว่าจะช่วยเหลือเขาในอนาคตแต่เขาก็ไม่ได้ยึดมั่นในคำสัญญานี้มากนัก แน่นอนว่าความช่วยเหลือของเธอก็มีข้อจำกัดด้วยเช่นกัน
ทันใดนั้นฟู่เทียนก็ได้กลิ่นอะไรบางอย่าง เขายืนขึ้นและกล่าวว่า “ผมเจอสิงโตภูเขาแล้ว”
คนอื่นๆนั้นกำลังรับประทานอาหารอย่างเงียบๆและดื่มด่ำกับความคิดของตัวเอง แต่เมื่อพวกเขาได้ยินฟู่เทียนพูดก็รีบยืนขึ้นและทิ้งอาหารของตนเองทันที “ที่ไหน?”
ฟู่เทียนชี้ไปทางซ้าย “ไปทางทิศนี้ประมาณ 20 ไมล์หรือมากกว่านั้น”
“ไป!” เกล็นรีบตัดสินใจและเดินไปทิศทางที่ฟู่เทียนบอกทันที
ทุกๆคนต่างก็รีบวิ่งตามหลังเธอไป