25 คำสัญญาจากหญิงสาวคนหนึ่ง
25 คำสัญญาจากหญิงสาวคนหนึ่ง
“ฉันไม่ได้สนใจเรื่องของเขา ฉันสนใจแค่ว่าเขาเป็นคนที่สามารถทำยาเพื่อมารักษาเจิ้งเหอได้เท่านั้น” กั๋วซือหรงพูด
“เราควรจะหาใครสักคนมาสะกดรอยตามเขาดีไหมครับ?” เหอฉีเชิงพูดหลังจากคิดสักพัก
“ไม่ได้ ฉันให้สัญญากับเขาไปแล้วว่าจะไม่ทำให้ชีวิตพวกเขาต้องถูกรบกวน เรื่องนี้จะรู้แค่ฉันกับคุณลุงเท่านั้นนะคะ”
เธอไม่มีทางกลืนนำ้ลายตัวเองแน่นอน
“ครับ”
ในกระท่อมบนเนินเขา หวังเย้าได้เริ่มต้นทำยาแก้พิษ สมุนไพรแก้พิษได้ถูกเก็บรักษเอาไว้ภายในช่องเก็บของของระบบ เขาหยิบหม้อที่สะอาดและฟืนมาจำนวนหนึ่ง เขาได้โยนสมุนไพรแก้พิษลงไปในน้ำแร่โบราณเมื่อน้ำเริ่มเดือดแล้ว และน้ำก็เริ่มกลายเป็นสีเขียว คล้ายกับหยกที่กำลังละลาย มันงดงามมากและมีกลิ่นของสมุนไพรที่โดดเด่นลอยออกมา
ยาแก้พิษก็เสร็จเรียบร้อยในเวลาเพียงไม่กี่นาที
เมื่อทุกอย่างเสร็จแล้ว เขาได้นำยาใส่ลงไปในขวดแก้วและเก็บเอาไว้ในช่องเก็บของ เขามองขึ้นไปบนฟ้าจึงได้รู้ว่ามันเป็นเวลากลางวันแล้ว
เขาล็อกประตูกระท่อมและสั่งซานเซียนให้เฝ้าแปลงสมุนไพรเอาไว้ แล้วจึงลงเขาไป เขาได้ขี่มอเตอร์ไซด์ออกไปข้างนอกและกลับมาในอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาเพื่อทานข้าว สุดท้ายเขาจึงไปที่โรงพยาบาล
ภายในโรงพยาบาล กั๋วซือหรงรอคอยด้วยความกังวล แม้ว่าหวังเย้าจะให้สัญญากับเธอว่าจะทำยาแก้พิษมาให้ แต่เธอก็ยังคงกังวลในเมื่อน้องชายของเธอยังคงนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง
เมื่อเธอกำลังมองไปที่นาฬิกา โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา มันเป็นเบอร์แปลก
“ฮัลโหล”
“ผมคือหวังเย้า ผมอยู่ตรงล็อบบี้ของโรงพยาบาลแล้ว”
“รอเดี๋ยวนะ ฉันกำลังจะลงไป” กั๋วซือหรงบอกกับเหอฉีเชิงก่อนที่เธอจะลงไปข้างล่าง
เมื่อเธอมาถึงล็อบบี้ เธอก็เจอเขาทันทีเขาดูเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ในมือของเขามีถุงผ้าอยู่ แม้ว่าที่ล็อบบี้จะมีคนอยู่จำนวนมาก แต่ก็ยังแยกเขาออกจากคนอื่นได้อย่างง่ายดาย เพราะการแต่งตัวที่โดดเด่นของเขา
“ยาเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ?” กั๋วซือหรงถามด้วยความกังวล
“ใช่ แล้วคนป่วยอยู่ที่ไหน?”
“เชิญตามฉันมาค่ะ”
กั๋วซือหรงนำทางไปยังหอผู้ป่วย ภายในหอผู้ป่วย มีหมอสองคนกำลังปวดหัวกับการตรวจอาการของคนไข้ และพวกเขาก็หยุดงานที่ทำอยู่เมื่อเห็นกั๋วซือหรง
“คุณกั๋ว” พวกเขาพูดด้วยความเคารพ
“อาการน้องชายของฉันเป็นยังไงบ้าง?” กั๋วซือหรงถาม
“อาการของเขายังคงที่ไม่มีปัญหาอะไรครับ” หมอคนหนึ่งพูด พวกเขาได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่สิ่งที่พวกเขาทำได้กลับเป็นเพียงการคงอาการของคนไข้ไม่ให้แย่ลงไปกว่าเดิมเท่านั้น
“พวกคุณช่วยออกไปรอข้างนอกสักครู่จะได้ไหมคะ?”
“ได้ครับ” พวกเขาสั่งให้พยาบาลรีบเก็บอุปกรณ์ แม้จะไม่รู้ว่ากั๋วซือหรงต้องการจะทำอะไรก็ตาม แล้วพวกเขาก็ออกไปจากห้องผู้ป่วยภายในห้านาที เหลือเพียงคนสี่คนอยู่ภายในห้อง สามคนกำลังยืนอยู่ในขณะที่อีกคนนอนอยู่บนเตียง
หวังเย้ามองไปที่ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง ชายคนนี้อายุเท่าๆกับเขา แต่ใบหน้าของเขากลับดูเขียวอย่างน่าประหลาด นี้เกือบจะเป็นอาการเดียวกันกับของหวังเจ๋อเซี่ยว
“เอาสิ่งนี้ป้อนให้เขา” หวังเย้านำขวดแก้วที่มียาแก้พิษสีเขียวอยู่ออกมาจากกระเป๋าผ้า
เหอฉีเชิงรับมาและเปิดฝาออก กลิ่นหอมที่โดดเด่นได้ลอยไปทั่วห้อง เขาชิมมันเล็กน้อยและรู้สึกได้ว่าทั่วทั้งร่างกายของเขาอุ่นขึ้น เขาป้อนมันให้กับคนไข้เมื่อยืนยันว่ามันไม่มีอันตรายอะไร
“ป้อนทั้งหมดให้กับเขา” หวังเย้าพูดเมื่อเห็นว่ายาเหลืออยู่ก้นขวดอีกเล็กน้อย
เมื่อยาแก้พิษได้หมดลง กั๋วซือหรงและเหอฉีเชิงก็มองไปที่คนไข้ด้วยความกังวล
ปี๊บ! ปี๊บ! ปี๊บ! เครื่องวัดสัญญาณชีพของคนไข้ได้ส่งเสียงดังขึ้น และเหอฉีเชิงจึงรีบตรวจสอบมัน
“เขามีอะไรผิดปกติไหมคะ?” กั๋วซือหรงถามด้วยความกังวล
“การเต้นของหัวใจและความดันของเขาค่อยๆลดลง ซึ่งหมายความว่าอาการของเขากำลังดีขึ้นครับ” เหอฉีเชิงพูดด้วยความประหลาดใจ
ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงขยับริมฝีปากของเขาหลังจาก20นาทีผ่านไป
“น้ำ!”
“เจิ้งเหอ เจิ้งเหอ!?” กั๋วซือหรงตะโกนใส่เขา
ชายหนุ่มที่ไม่รู้สึกตัวมาหลายวัน ในที่สุดก็ลืมตาขึ้น
“พี่สาว”
“อ้าห์ ในที่สุดเธอก็ฟื้น!” กั๋วซือหรงดีใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา
หวังเย้าหยิบขวดแก้วที่วางไว้บนโต๊ะและออกไปจากห้อง หมอและพยายาลหลายคนรีบเข้าไปยังห้องผู้ป่วยในตอนที่เขากำลังเดินออกมา
“มหัศจรรย์เหลือเกิน มันคือเวทมนต์ ผมไม่เคยเห็นยาสมุนไพรที่มีผลลัพท์เเบบนี้มาก่อนเลย” เมื่อมองไปที่ผลตรวจในมือของเขา มือของเหอฉีเชิงก็สั่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ทำไมคุณถึงได้ตื่นเต้นขนาดนี้คะ คุณลุงเหอ?” กั๋วซือหรงพูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณหนู คุณไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับวงการนี้มาก คุณจึงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่สำหรับผม ผลลัพท์ของยาสมุนไพรตัวนี้มันคือเวทมนต์ เรื่องแรกคือพิษทั้งหมดที่อยู่ภายในร่างกายของเจิ้งเหอได้ถูกนำออกไปภายในเวลาสั้นๆเท่านั้น เรื่องที่สองสภาพร่างกายของเขาได้พัฒนาขึ้นมากแม้ว่ามันจะเคยอ่อนแอมาก่อน คุณไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้ไป ในสายตาของผมมันคือปาฏิหาริย์ ผมอยากจะพบผู้เชี่ยวชาญที่เป็นคนปรุงยาตัวนี้มาก!” เหอฉีเชิงอุทานออกมา “น่าเสียดายที่คุณได้สัญญาเอาไว้ว่าจะไม่สร้างปัญหาให้กับพวกเขา!”
“มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่เจิ้งเหอได้ฟื้นขึ้นมา พรุ่งนี้คุณสามารถไปกับฉันเพื่อขอบคุณเขาได้นี้คะ” กั๋วซือหรงพูด
“ได้ครับ”
เช้าต่อมา หวังเย้าเข้าไปในกระท่อมหลังจากทำงานในแปลงสมุนไพรเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเขาได้เริ่มชั่งสมุนไพรให้ตรงตามปริมาณที่ต้องการในการทำอันเฉินซาน (ยารักษาอาการไอเรื้อรัง)
ภารกิจในการปรุงอันเฉินชานได้มาถึงครึ่งทางแล้ว และการเติบโตของสมุนไพรดอกแสงจันทร์ก็กำลังเป็นไปด้วยดี มีใบสีเขียวอยู่บนต้นสมุนไพร มันยังต้องใช้เวลาอีกนานเพื่อให้มันเติบโตเต็มที่ แต่มันก็โตพอที่จะนำมาทำยาได้แล้ว
โสม, ตังกุย, ฝูหลิง, รากชะเอม...
เขาได้จัดแจงสมุนไพรตามรายการของสูตรปรุงยา
“สมุนไพรบางตัวใกล้หมดแล้ว ฉันควรจะเข้าเมืองเพื่อซื้อเพิ่ม”
โฮ่ง! โฮ่ง! อยู่ๆซานเซียนก็เห่าขึ้นมาในตอนที่หวังเย้ากำลังใช้ความคิดอยู่
“มีใครมาเหรอ?” หวังเย้าลุกขึ้นและเดินออกมาจากบ้าน เขาเห็นรูปร่างที่คุ้นเคยเดินเข้ามา พวกเขาคือกั๋วซือหรงและเหอฉีเชิงที่มาขอร้องให้เขาปรุงยาให้เมื่อวาน ครั้งนี้พวกเขาพร้อมกับของขวัญ
“พวกคุณอีกแล้วเหรอ ครั้งนี้มาทำอะไรล่ะ?”
“สวัสดีค่ะ เรามารบกวนคุณอีกแล้ว” กั๋วซือหรงยิ้มเมื่อเห็นเขา
เธอรู้สึกชื่นชมชายที่ทำตัวเหมือนกับฤษีคนนี้ที่ได้ช่วยชีวิตน้องชายของเธอเอาไว้ แม้ว่าครั้งก่อนเธอจะโกรธเขามากแค่ไหน แต่สุดท้ายเธอก็คิดว่ามันคุ้มมาก