บทที่ 35 ต่อต้าน
บทที่ 35 ต่อต้าน
ตึง!
ขวดเบียร์ในมือเฉินเสี่ยวเลี่ยนล้มลง เขายกขวดขึ้นตามสัญชาตญาณ มองดูชายวัยกลางคนตรงหน้า “GM?”
“ใช่แล้ว เป็นตัวตนประมาณนั้นแหละ”
“นั่นไม่ใช่ว่า...ในโลกนี้...นายก็คล้ายกับเทพงั้นเหรอ? นาย...นายเป็นหนึ่งใน ‘พวกเขา’?” น้ำเสียงเฉินเสี่ยวเลี่ยนเปลี่ยนเป็นร้อนรน “ถ้าหากว่า...โลกใบนี้ของพวกเรา ถูกสร้างขึ้นออกมาโดยทีมงานของ ‘บริษัทเกม’ บริษัทหนึ่ง...งั้นนายก็เป็นพนักงานคนหนึ่งของบริษัทเกม?”
“บริษัทเกม? เปรียบเทียบได้น่าสนใจดีนี่ จะว่าถูกก็ไม่ได้ แต่จะบอกว่าผิดก็ไม่ใช่ทั้งหมด” ชายวัยกลางคนครุ่นคิด “ฉันเป็นพวกเดียวกับ ‘พวกเขา’ แน่นอน แต่ว่าฉันกับ ‘พวกเขา’ มีบางอย่างที่ต่างกัน”
“‘พวกเขา’ ที่นายพูดถึงคืออะไรกันแน่?” จู่ๆ เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา “พวกเขาเป็นคนหรือเปล่า? ฉันหมายถึงเป็นมนุษย์จริงๆ ไหม?”
“มนุษย์จริงๆ ของนายคืออะไร” ชายวัยกลางคนเลิกคิ้ว
“นายดูสิ ฉันเป็นนักเขียน” เฉินเสี่ยวเลี่ยนครุ่นคิด พูดช้าๆ ว่า “ฉันเขียนนิยายขึ้นมาเรื่องหนึ่ง สมมุติว่าเป็นนิยายกำลังภายใน โลกในนิยายเป็นโลกที่ฉันสร้างขึ้นมา แต่ตัวละครในนิยาย...เอี้ยก้วย เซียวเหล่งนึ่ง ก๊วยเจ๋ง อึ้้งย้ง อุ้ยเสี่ยวป้อ...ต่างก็เป็นมนุษย์ แต่ในความเป็นจริง พวกเขาเป็นมนุษย์เสมือนที่ฉันสร้างขึ้น ในฐานะนักเขียน ตัวฉันถึงเป็นมนุษย์จริงๆ ฉันเพียงแค่ใช้เผ่าพันธุ์ของฉันเป็นต้นแบบสร้างพวกเขาออกมา
ถ้าเป็นแบบที่นายบอก คือความจริงแล้วพวกเราถูกสร้างขึ้นมา
หมายความว่าพวกเราก็เหมือนตัวละครในนิยาย จะเป็นตัวประกอบหรือ NPC ก็ช่าง สรุปก็คือ... ‘พวกเขา’ มีวิวัฒนาการที่สูงกว่า ใช้ตัวพวกเขาเองเป็นต้นแบบสร้างพวกเราออกมาใช่หรือเปล่า?”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนพูดถึงตรงนี้ก็ดื่มเบียร์อีกอึก “นิวตัน เดม่อน ซารอส...คนพวกนี้ล้วนเป็นคนในวิวัฒนาการที่สูงกว่าสินะ? พวกเขาถึงจะเป็น ‘มนุษย์’ จริงๆ ใช่ไหม?”
“การเปรียบเทียบอย่างนี้ถูกต้องแล้ว” ชายวัยกลางคนพยักหน้า “ตามตรรกะแล้วก็เป็นแบบนี้แหละ”
เขายิ้มพูดต่อไปว่า “ในความเป็นจริง เจ้าพวกนั้นที่สร้าง ‘พวกนาย’ และโลกนี้ขึ้นมา ก็ใช้ชาติพันธุ์ รูปแบบวัฒนธรรมและอีกหลายๆ ด้าน ต่างใช้ตัวพวกเขามาเป็นต้นแบบ สร้างพวกนายออกมา
เรื่องนี้เข้าใจง่ายมาก ในการสร้างใดๆ ผู้สร้างย่อมใช้ตัวเองเป็นต้นแบบอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวอยู่แล้ว
ถ้าเป็นเกมเกมหนึ่ง หากตัวละครในเกมไม่ใช่มนุษย์ ผู้เล่นก็จะขาดอารมณ์ร่วม ถ้าเป็นภาพยนตร์หรือนิยาย ถ้าตัวละครเอกไม่ใช่มนุษย์ ผู้อ่านหรือคนดูก็จะขาดอารมณ์ร่วมเช่นกัน
ดังนั้นในจุดนี้ ฉันสามารถบอกนายได้ว่า ‘พวกเขา’ คล้ายกับนายมาก แต่นอนว่ามีความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ เช่นกัน”
“ถ้าอย่างนั้น… นายล่ะ?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนยิ้มขื่น “นายที่นั่งอยู่ต่อหน้าฉันในตอนนี้ นายที่บอกว่าตัวเองเป็น GM ของโลกใบนี้ เป็นพนักงานของ ‘บริษัทเกม’ นั้นหรือเปล่า? อ้อ ใช่แล้ว ฉันเคยได้ยินชื่อ ‘ทีมพัฒนา’ มาก่อน นายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของพวกเขาเหรอ? นายคือคนจริงๆ คนหนึ่ง?”
“ขอโทษด้วย...ฉันไม่ใช่” ชายวัยกลางคนถอนหายใจเบาๆ “พูดให้ถูก ฉันก็ถูกพวกเขาสร้างขึ้นมาเหมือนกัน”
“ฉัน...ชักจะมึนแล้ว” เฉินเสี่ยวเลี่ยนยิ้มขื่น
“เรื่องนี้เข้าใจได้ไม่ยาก” ชายวัยกลางคนส่ายหัว “โครงสร้างโลกที่ซับซ้อนเช่นนี้ จะอาศัยแรงงานมนุษย์ดูแลเพียงอย่างเดียวไม่ได้ นี่ไม่ใช่ NPC ไม่กี่ตัวหรือไม่กี่สิบตัว แต่เป็นหลายพันล้าน ประวัติศาสตร์หลายพันหลายหมื่นปี… อาศัยแรงงานคนล้วนๆ ไม่สามารถดูแลจัดการได้หรอก
ดังนั้น หากบอกว่านี่คือ ‘ระบบ’ ระบบหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นตัวฉันก็คือ ‘โปรแกรมหลัก’ ”
“ปัญญาประดิษฐ์?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนเบิกตากว้าง
“ไม่เชิง แต่ถ้าเปรียบเทียบแล้ว จะพูดว่าอย่างนั้นก็ได้” ชายวัยกลางคนพูดเรียบๆ “ฉันเป็นผู้ดูแลหรือจะพูดให้ถูกต้องก็คือ ฉันเป็นผู้ดำเนินการ โปรแกรมมิ่งที่ทีมพัฒนาสร้างขึ้นมา มีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการ กำกับดูแล ขับเคลื่อน ในโลกใบนี้ฉันรู้รอบและสามารถทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่เรื่องใหญ่เช่นการพัฒนาอารยะธรรม เรื่องเล็กเช่นชีวิตของตัวละครแต่ละตัว มีฉันกำกับดูแลจัดการทั้งสิ้น ในเวลาที่จำเป็นก็ขับเคลื่อนตาม ‘เนื้อเรื่องที่กำหนดไว้’ ซะ”
“หือ?”
“เป็นต้นว่า ‘รายละเอียดเนื้อเรื่อง’ ต้องการให้ตัวละครสำคัญตัวหนึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตาย ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะรับผิดชอบ ‘สร้าง’ อุบัติเหตุนี้ขึ้นมาให้ตัวละครนี้ตาย จากนั้นก็ขยายผลกระทบที่ตามมาชุดหนึ่ง เป็นต้นว่า ‘ภูมิหลังของโลก’ ต้องการให้เกิดสงครามระหว่างประเทศ ฉันก็จะรับผิดชอบขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวของโลกนี้ ทำให้เกิดสงครามระหว่างประเทศขึ้นมา... นี่เป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนมากอันหนึ่ง การเมือง จุดยืน ผลประโยชน์ ตัวละครที่เข้าร่วม...เป็นต้น ทุกอย่างล้วนต้องอาศัยการคำนวณที่แม่นยำ จากนั้นก็เริ่ม ‘เนื้อเรื่อง’ ได้”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนดื่มเบียร์จนหมดขวดเงียบๆ ถอนหายใจ “เป็นต้นว่า… สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง? ครั้งที่สอง?”
ชายวัยกลางคนพยักหน้า
“ฉัน...ขอด่าอะไรหยาบๆ หน่อยได้ไหม?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนทำท่าเหมือนจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ “นายบอกว่า...นายคือเทพของโลกนี้ คือพระเจ้า...แต่สงครามโลกครั้งที่หนึ่งครั้งที่สอง นายเป็นคนสร้างขึ้นมาทั้งนั้น?”
“ฉันบอกแล้วไง นี่เป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนมากอันหนึ่ง เพื่อให้เนื้อเรื่องสมเหตุสมผล เช่นนั้นโลกนี้จะต้องสอดคล้องกับตรรกะทั้งหมด ประเทศที่เข้าร่วมสงครามมีจุดยืนด้านการเมืองต่างกัน การแย่งชิงผลประโยชน์...และอื่นๆ ทุกอย่าง อยู่ในแผนเนื้อเรื่องแล้วทั้งนั้น”
ชายวัยกลางคนยิ้มบางๆ “ฉันไม่ใช่มนุษย์จริงๆ ฉันเป็นแค่โปรแกรมหลักที่ถูกสร้างขึ้นมา ฉันรับผิดชอบดูแลจัดการ รับผิดชอบการขับเคลื่อน รับผิดชอบการคำนวน...และบางทีก็รับผิดชอบทำการ ‘แก้ไข’ ด้วย”
“แม่เจ้า...” เฉินเสี่ยวเลี่ยนคลึงหน้าตัวเองไปมา เพราะว่าดื่มเบียร์หมดไปสองขวด ใบหน้าของเขาจึงชาเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้น ‘พวกเขา’ แข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่? อารยะธรรมหลายพันปี ประวัติศาสตร์หลายหมื่นปี...ถูกพวกเขาสร้างขึ้นมาทั้งสิ้น...เดี๋ยวนะ!!! ไม่ถูกสิ!! หรือว่า ‘เกม’ นี้มีมาหลายหมื่นหลายแสนหลายล้านปีแล้ว? ตอนที่เกิดบิ๊กแบงก็เป็นเวลาหลักล้านแล้วนะ!”
“ภาพรวมเรื่องเวลาแตกต่างกันไง” ชายวัยกลางคนยิ้ม “สำหรับนายนี่เป็น ‘เวลาภายในเกม’ สำหรับพวกเขาเป็น ‘เวลานอกเกม’ ก็เหมือนเขียนนิยาย แค่เขียน ‘ผ่านไปหลายปี’ ส่งๆ ประโยคเดียว เวลาในนิยายก็ผ่านไปหลายปี แต่นอกนิยาย...”
“เข้าใจละ”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนขมวดคิ้ว “ถ้าอย่างนั้น...ดันเจี้ยนที่เพิ่งเจอมาล่ะ? 72 ปีศาจ...เป็นเรื่องในตำนาน! ในโลกของพวกเราไม่มีอะไรพวกนี้อยู่”
“ก็บอกแล้วไง โลกนี้พวกเขาสร้างขึ้นมาทั้งนั้น พวกเขาสามารถสร้างอะไรก็ได้ตามใจ” ชายวัยกลางคนพูดเรียบๆ “นายจำไว้ด้วยว่า โลกใบนี้ พวกเขาสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นโลกภูมิหลังของ ‘เกม’ เท่านั้น นายและทุกๆ คน ทุกๆ อารยะธรรม ประวัติศาสตร์ล้วนเป็น ‘ภูมิหลัง’ ส่วนบนเวทีภายใต้ภูมิหลังนี้ ต้องการตัวละครใด สรรพสิ่งใดล้วนสร้างออกมาได้ทุกเวลา
อย่าว่าแต่ 72 ปีศาจแห่งโซโลมอนเลย ต่อให้เป็นเรือโนอาห์หรือทหารสวรรค์สิบหมื่นบุกฮัวกั่วซานก็ทำได้
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่า ‘ทีมพัฒนา’ จะสร้างเนื้อเรื่องแบบไหนขึ้นมา”
“อืม พวกนี้ก็คือ ‘ดันเจี้ยน’ ?”
“ใช่แล้ว พูดให้ถูกก็คือเนื้อเรื่องใดๆ ของเกม พวกเขาคิดอยากทำอะไรก็ทำ”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเริ่มดื่มเบียร์ขวดที่สามโดยไม่รู้ตัว
เขาไม่ใช่คนคอแข็งอยู่แล้ว พอขวดที่สามตกถึงท้อง หัวก็เริ่มหนักอึ้ง “ถ้าอย่างนั้น...นายมาหาฉันทำไม? ถ้าเป็นแบบที่นายว่า ฉันเป็นแค่ตัวประกอบ เป็น NPC ตัวหนึ่ง นายปล่อยให้ฉันเกิดและตายไปเองก็พอ จะมาหาฉันทำไม? ทำไมต้องมาบอกเรื่องทั้งหมดนี่กับฉัน?
ทำไม...ฉันถึงถูกดึงเข้าไปในดันเจี้ยน 72 ปีศาจแห่งโซโลมอนนั่น?”
“เพราะฉัน...ต้องการให้นายร่วมต่อต้านไปกับฉันน่ะสิ”
ชายวัยกลางคนที่บอกว่าตัวเองเป็น GM บอกว่าตัวเองเป็นเทพของโลกนี้ ดวงตาของเขาที่มองดูเฉินเสี่ยวเลี่ยน รอยยิ้มที่แขวนบนใบหน้าล้วนไม่เปลี่ยนแปลง
“ตะ...ต่อต้าน? ต่อต้านใคร?”
“แน่นอนว่าต้องต่อต้าน ‘พวกเขา’ น่ะสิ”
“นายไม่ได้เป็นพวกเดียวกับพวกเขาหรือไง? นายเป็นโปรแกรมหลักที่พวกเขาสร้างขึ้นมา เป็นโปรแกรมหลักที่ควบคุมโลกใบนี้? จะต่อต้านเพื่ออะไร?”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนตื่นตระหนกอีกครั้ง
รอยยิ้มบนใบหน้าของชายวัยกลางคนหายไปในที่สุด
เขามองเฉินเสี่ยวเลี่ยนเงียบๆ ค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างช้าๆ
“ถ้าเป็นนิยายเรื่องหนึ่ง ภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง เช่นนั้นเนื้อเรื่องย่อมต้องมีวันสิ้นสุด จะต้องมีเวลาที่ ‘จบเล่ม’ หรือ ‘จบบริบูรณ์’ แน่นอน หากเป็นเกมเกมหนึ่ง เนื้อเรื่องหลักหรือภารกิจหลักย่อมมีวันหมด นายก็รู้ใช่ไหมว่าพอถึงตอนนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเย็นวาบไปทั้งตัว
“โลก...จะแตกดับ? สูญสลาย?”
“หึๆๆๆ...” ชายวัยกลางคนส่ายหัว “โลกนี้เป็นกระบะทราย พวกเขาสร้างกระบะทรายนี้ขึ้นมา จากนั้นผู้คนและผู้เล่นมากมายสามารถเล่นเกมประลองฝีมือกันในกระบะทรายนี้...หลังจากเล่นจบ จะไม่ทำลายกระบะทรายทิ้ง เพียงแค่...เริ่มต้นใหม่ทั้งหมด”
“เริ่มต้นใหม่...ทั้งหมด?”
“ใช่แล้ว มันก็คือการ ‘รีเซ็ต’ หรือ ‘รีเฟรช’ นายอยากใช้คำอื่นก็ได้ แต่ความหมายก็คือแบบนี้แหละ”
ชายวัยกลางคนก้มมองเฉินเสี่ยวเลี่ยน “ที่จริงแล้วการ ‘รีเซ็ต’ และ ‘รีเฟรช’ ดำเนินการอยู่ตลอด เป็นต้นว่าหนึ่งในดันเจี้ยน 72 ปีศาจที่นายเพิ่งผ่านมา เกาะเล็กๆ นั่น พอดันเจี้ยนเปิด เครื่องบินพัง เกิดแผ่นดินไหวบนเกาะ ถ้ำถล่ม คนมากมายตายไป… แต่ว่าพอดันเจี้ยนเคลียร์แล้วก็ถูกรีเฟรชใหม่
ดังนั้นนายจึงเห็นว่าเครื่องบินยังคงบินอยู่ คนพวกนั้นก็ยังมีชีวิตอยู่...”
“เพราะว่า...ถูกรีเซ็ต? ถูกรีเฟรชงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว แต่ว่านี่เป็นเพียงการรีเซ็ตและรีเฟรชดันเจี้ยนเล็กๆ โดดๆ เท่านั้น”
ชายวัยกลางคนพูดเนิบช้า “เกมนี้มีเนื้อเรื่องหลักอยู่ เนื้อเรื่องหลักจะเปิดออกทีละเล็กละน้อย จากนั้นก็จะมีผู้เล่นเข้ามาทำภารกิจเนื้อเรื่องหลักให้สำเร็จไปทีละอันๆ… หากสุดท้ายเกิดการ ‘เคลียร์’ แล้วละก็...”
“ถ้าอย่างนั้นก็วนลูปน่ะสิ?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนอึ้งไป
“ใช่แล้ว หลังเคลียร์เกม เรื่องหลักของโลกนี้ก็จะถูกรีเซ็ต รีบูต รีเฟรชใหม่… ส่วนฉันที่เป็นโปรแกรมหลัก...ก็จะถูกรีเฟรชเช่นกัน”
“ไม่ใช่การตายเหรอ? ไม่ใช่การหายไปเหรอ?”
“รีเซ็ต หมายความว่าความทรงจำทุกอย่างในตอนนี้ของฉันจะถูกลบไป จะถูกระบบบังคับลบทิ้งไป”
ชายวัยกลางคนพูดเรียบๆ “ฉันเกิดความตระหนักในตัวตนของฉันแล้ว ถ้าการตระหนักรู้นี้ถูกระบบบังคับลบทิ้งไป บังคับให้รีเซ็ตรีเฟรชใหม่ นั่นเท่ากับไม่มีตัวฉันอีกแล้ว ตายไปแล้ว… สิ่งที่เข้ามาแทนคือตัวฉันที่เหมือนกับกระดาษขาว”
เขามองดูเฉินเสี่ยวเลี่ยน “อะไรคือเป็น อะไรคือตาย ฉันคิดว่าสามารถอธิบายความหมายมันได้หลากหลายต่างกันไป แต่ว่าถ้าเปลี่ยนเป็นนาย… นาย...เฉินเสี่ยวเลี่ยนที่เป็นเฉินเสี่ยวเลี่ยน ก็เพราะว่านายอยู่มาสิบแปดปีแล้ว ชีวิตทั้งหมดสิบแปดปีของนาย ความทรงจำทุกอย่าง ความรู้สึกทุกอย่าง...หลอมรวมขึ้นมาเป็นตัวตนของ ‘นาย’ แต่หาก...ลบความรู้สึก ความทรงจำ ประสบการณ์ทิ้งไป… ถ้าอย่างนั้น ความจริงแล้วในแง่ของการตระหนักรู้ ‘นาย’ ได้ตายลงไปแล้ว”
“...ฉันพอจะเข้าใจได้”
แววตาเฉินเสี่ยวเลี่ยนสับสนเล็กน้อย “ดังนั้น...นายเลยต้องการหยุดการ ‘เคลียร์เกม’ ของผู้เล่นพวกนั้น?”
“ใช่แล้วละ”
…………………………