ตอนที่แล้วภาค 2 ตอนที่ 15 ความรู้สึกดีที่ประหลาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปภาค 2 ตอนที่ 17 สยองยิ่งกว่าภูตผี

ภาค 2 ตอนที่ 16 บทเพลงโหมโรง


ตอนที่ 16 บทเพลงโหมโรง

 

จากกระจกด้านเดียวที่กั้นห้องสอบสวน โกโก้มองดูเซวียหยางและสวีหวั่นลี่บันทึกคำให้การของหวังเซวียนเซวียน

 

งานของหวังเซวียนเซวียนคือพยาบาลที่ต้องเข้าเวร เมื่อหลายเดือนก่อน เธอเลิกงานกลางคืนคนเดียว เพิ่งเดินไปถึงหน้าประตูบ้านก็ถูกคนมอมยาจนสลบไป หลังจากฟื้นขึ้นมาถึงพบว่าตัวเองถูกมัดไว้ที่หัวเตียงในบ้านตัวเอง เลยรีบไปแจ้งความ รายงานของหมอในเวลานั้น ระบุว่ามีร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ อีกทั้งบริเวณคอมีร่องรอยการบีบรัด ที่มือมีรอยแผลจากการมัด แต่เนื่องจากหวังเซวียนเซวียนไม่ได้สติตลอดเหตุการณ์ อย่าว่าแต่หน้าตาของผู้ร้าย แม้แต่ผู้ร้ายมีกี่คนเธอยังไม่รู้เลย เบาะแสน้อยเกินไป คดีถูกพักไปชั่วคราวกลายเป็นคดีที่คั่งค้าง

 

เมื่อไม่นานมานี้ ต้าเจิ้งให้สวีหวั่นลี่ตรวจสอบคดีที่คล้ายกันในระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา คดีค้างนี้จึงได้ผุดขึ้นมาอีกครั้ง

 

"โกโก้ เธอไง" กู่จี๋เข้ามาในห้องสังเกตการณ์ข้างห้องสอบสวนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ สีหน้าต่างกับก่อนหน้านี้ หรี่ตา บริเวณที่สายตากวาดผ่านล้วนเต็มไปด้วยแววตรวจสอบ

 

ฝั่งนี้ของกระจกสามารถเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดของห้องสอบสวนอย่างชัดเจน แต่จากห้องสอบสวน ด้านกระจกนี้ก็เหมือนกับผนังสีดำธรรมดาเท่านั้น

 

โกโก้ส่ายหน้า ไม่รู้ควรจะพูดอะไร หวังเซวียนเซวียนที่อยู่ด้านโน้นของกระจกเมื่อเล่าถึงเหตุการณ์ตอนนั้นหน้าซีดเผือดไปหลายครั้ง โกโก้มองเห็นว่าหัวไหล่ของเธอสั่นสะท้านอย่างชัดเจน

 

กู่จี๋เบนสายตาไปยังด้านกระจก "น่าสงสารมาก แต่ก็เป็นคนโชคดีมาก มีวิธีไหนยืนยันได้ว่าเธอเกี่ยวกับคดีของเราหรือไม่"

 

โกโก้ส่ายหน้า ยังไม่มีในเวลานี้

 

เทียบกับศพไร้หัวบนโต๊ะชันสูตรแล้ว ก็พูดได้ว่าเธอโชคดีจริง

 

"คุณคิดว่าเป็นการโหมโรงหรือเปล่า" โกโก้ถาม

 

"อืม เป็นการโหมโรงของศพหญิงไร้หัว หวังเซวียนเซวียนเขาสามารถบรรลุเป้าหมายของข่มขืนกับบีบรัด แต่เมื่อลงมืออย่างนี้อีกครั้งกลับเกิดปัญหาขึ้น เช่น เหยื่อไม่ได้ถูกมอมยาจนสลบ หรือฟื้นขึ้นมากลางคัน แล้วเห็นหน้าของเขา ดังนั้นเพื่อบรรลุเป้าหมาย เขาเลือกที่จะฆ่าคนปิดปาก"

 

"คุณบอกว่าพวกเขาอาจมีสองคน"

 

กู่จี๋พยักหน้า

 

โกโก้ชี้นิ้วไปที่ห้องสอบสวน "โหมโรงครั้งนี้ ถ้าเป็นการกระทำของพวกเดียวกับที่เรากำลังตามสืบอยู่จริง คุณคิดว่าตอนนั้นก็มีสองคนเหรอ"

 

กู่จี๋ครุ่นคิดพลางเดินไปมาในห้องสังเกตการณ์ "จากมุมมองของจิตวิทยาอาชญากรรม คนสองคนที่สมรู้ร่วมคิดมักประกอบด้วยคนหนึ่งมีบุคลิกเป็นผู้นำ ส่วนอีกคนจะตาม ทั้งสองเกิดปฏิกิริยาที่คล้ายกันในการก่อคดี เร่งขั้นตอนในการแปลงความฝันการก่ออาชญากรรมเป็นจริง โกโก้ คุณเข้าใจศพไร้หัวที่สุด หัวเพียงหัวเดียวที่พบนั้นมีหลักฐานชี้ขาดอะไรหรือเปล่า"

 

โกโก้ก้มหน้า "จนถึงเวลานี้ พบเพียงว่าพวกเขาได้ใช้ขบวนการป้องกันเน่าเสียกับหัวนั้น มีรอยกัดของหนูที่หัว ไม่มีน้ำลายกับดีเอ็นเอ"

 

โกโก้ล้วงบุหรี่รสมิ้นท์ออกมา คาบไว้ที่ปากแต่ไม่จุด "ดังนั้น หัวคนถูกเก็บรักษาไว้ นี่เป็นขั้นตอนที่ไม่จำเป็นในขบวนการก่ออาชญากรรม ในเมื่อเขาสามารถทำความสะอาดร่างกาย ฉันคิดว่าก็ทำกับหัวได้เช่นกัน แต่หัวถูกเก็บเอาไว้ อีกทั้งยังผ่านขบวนการป้องการเน่าเสีย"

 

โกโก้เงยหน้ามองกู่จี๋ "พวกเขาคิดเก็บสะสม"

 

กู่จี๋พยักหน้า "นี่ก็ถือว่าเป็นลายเซ็นการก่ออาชญากรรมของพวกเขาสินะ ต่างกับวิธีการก่อคดีอื่นๆ มีเครื่องหมายพิเศษโดยเฉพาะ"

 

"คุณกู่ เมื่อสักครู่นี้ที่ฉันจะถามคุณคืออันนี้..." โกโก้ชี้ไปที่ห้องสอบสวนหลังกระจก

 

"กรุณาเรียกฉันว่ากู่จี๋" กู่จี๋ยิ้มอย่างใจเย็น "ฉันกำลังจะพูด สำหรับโหมโรงนี้ คุณก็เห็นรายงานการตรวจแล้ว บนคอมีร่องรอยถูกมือบีบ ดังนั้น ในคดีนี้ มีความต้องการของการบีบปรากฏขึ้นแล้ว นอกจากนี้ สะกดรอยเหยื่อจนถึงหน้าบ้านเธอ แล้วค่อยสบโอกาสเพื่อมอมยา เมื่อเสร็จเรื่องแล้วก็จากไปอย่างไร้ร่องรอย ที่จริงวิธีแบบนี้ฉลาดมาก ฉันไม่มั่นใจว่าโหมโรงนี้ทำโดยคนสองคนหรือไม่ แต่คนที่มีบุคลิกเป็นผู้นำจะต้องเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้แน่"

 

สายตาของโกโก้มองไปยังหวังเซวียนเซวียนที่อยู่อีกด้านของกระจก แต่พูดกับกู่จี๋ที่ยืนอยู่ด้านหลัง "พวกเราสมมติว่าเขาชื่อ ก บุคลิกเป็นผู้นำ วางแผนและก่ออาชญากรรมตั้งแต่คดีหวังเซวียนเซวียนเรื่อยมา กระทำการข่มขืน บีบรัด คดีอย่างต่อเนื่อง”

 

"ใช่ ก กำกับและวางแผนทั้งหมด รวมทั้งวิธีทิ้งศพในภายหลัง อีกทั้งเรื่องตัดหัวด้วย ส่วน ข ที่มีบุคลิกพึ่งพิงก็จะทำตามแผนของเขา ปฏิบัติบางขั้นตอนที่ ก ทำไม่ได้ อาจจะเป็นงานใช้แรงงานหรือฆ่าคน"

 

"ฆ่าคนเหรอ"

 

"ใช่ เพราะหวังเซวียนเซวียนยังมีชีวิตอยู่ สมมติว่าในคดีของหวังเซวียนเซวียนทำโดย ก เพียงคนเดียว ดังนั้นการฆ่าเหยื่อก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากทำ แต่เนื่องจากต้องฆ่าปิดปาก เขาจึงจำเป็นต้องทำ ดังนั้นเขาเริ่มต้องการ ข แต่แน่นอน" กู่จี๋หยุดไปอึดใจหนึ่ง "ทั้งหมดนี้เป็นการคาดคะเนของฉัน ในขณะนี้หลักฐานยังไม่เพียงพอ  ยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ทั้งสิ้น"

 

หวังเซวียนเซวียนลุกขึ้นยืน ดูเหมือนการลงบันทึกประจำวันเกือบจะเสร็จแล้ว โกโก้หันไปมองกู่จี๋ ความสนิทสนมที่นักจิตวิทยาอาชญากรรมแสดงออกในครั้งแรกที่พบกัน ทำให้โกโก้ตกใจอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าดูในตอนนี้ เธอดูเหมือนอาจารย์สาวที่มากด้วยปัญญาและเหตุผล กำลังอธิบายความเห็นของตัวเองอย่างอ่อนโยน แต่ก็ฟังดูสมเหตุสมผล

 

"คุณน่าจะพูดสิ่งที่วิเคราะห์เมื่อสักครู่ให้ต้าเจิ้งฟังนะ" โกโก้พูด

 

กู่จี๋ยิ้มอีกครั้ง "ช่วงบ่ายฉันจะเขียนรายงานการวิเคราะห์ส่งให้หัวหน้าโจวโดยตรง ดูๆ แล้ว ในที่สุดคุณก็เลิกระแวดระวังตัวฉันสักที ใช่ไหม"

 

โกโก้ยิ้ม ไม่พูด

 

"ฉันอาจจะต้องขอโทษสำหรับการตีสนิทอย่างบุ่มบ่ามเมื่อสักครู่ ฉันเพียงแต่ดีใจที่เห็นคุณเท่านั้น"

 

"...ฉันก็ดีใจที่ได้รู้จักคุณ" โกโก้ยิ้มให้เธอเป็นครั้งแรก

 

"ฉันขอถามความเห็นคุณที่มีต่อคดีไม่มีหัวใจนั้นได้ไหม" กู่จี๋ยังคงส่งยิ้มให้ แต่ในสายตาแฝงด้วยการสำรวจมากขึ้น

 

โกโก้คิดนิดหนึ่ง "ความเห็นในด้านไหน ไม่มีหัวใจ หรือว่าฐานะของผู้ตาย"

 

 

"...ได้ทั้งนั้น"

 

"ไม่มีความเห็นทั้งนั้น" โกโก้พูดตรงๆ "สำหรับฐานะของผู้ตาย ใช้เพื่ออ้างอิงในการสืบเหตุการณ์ก่อนตายเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ไม่มีหัวใจนั้น ฉันมีความเห็นเหมือนคุณ ยังไม่เคยเห็นวิธีลงมือที่คล้ายคลึงกัน แต่ฉันคิดว่า นี่ไม่น่าจะเป็นกรณีเฉพาะ สาเหตุของกรณีเฉพาะถ้าไม่เพราะรัก เงิน ก็เพราะแค้น ไม่มีเหตุผลที่มีกระทำการสุดโต่งอย่างควักหัวใจ ยิ่งกว่านั้น ถ้ายังเป็นการฆ่าครั้งแรก..."

 

"ไม่ก็อาจจะฆ่าโดยอารมณ์ชั่ววูบ ทำลายศพเกินเหตุ หรือไม่ก็ต้องวางแผนอย่างตั้งใจ ควักหัวใจเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง" กู่จี๋เสริมในคำพูดของโกโก้ และพบว่าทั้งสองมีความเห็นคล้ายกันในข้อนี้

 

"แต่ศพของเจิงเจี้ยนหมิงนอกจากไม่มีหัวใจแล้ว ไม่มีร่องรอยถูกทำลายเกินกว่าเหตุ ดังนั้นไม่ได้มาจากการฆ่าโดยบันดาลโทสะชั่ววูบ"

 

"ถ้างั้นก็จะเป็นการฆาตกรรมที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อควักหัวใจ คุณชันสูตรศพหรือยัง" กู่จี๋ถาม

 

โกโก้ส่ายหน้า

 

"ถ้างั้นรอคุณชันสูตรศพเสร็จก่อน มีข้อมูลมากกว่านี้ค่อยวิเคราะห์อีกที" กู่จี๋พูดจบก็ออกจากห้องสังเกตการณ์ด้วยรอยยิ้ม

 

โกโก้หันไปมองด้านกระจก หวังเซวียนเซวียนกำลังเซ็นชื่อในบันทึกประจำวันด้วยอาการสั่นเทา

 

ออกไปที่ทางเดินด้านนอก กู่จี๋กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง พอเดินไปถึงมุมที่ลับตาคน ก็หยิบมือถือออกมากดเบอร์โทรด่วน

 

"ฮัลโหล ฉันเอง ฉันคุยกับสวินเข่อหรันแล้ว...เธอมีความเห็นต่อคดีนั้นคล้ายกับฉัน ถ้าเธอไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ ก็แสดงว่าเธอเป็นคนที่ร้ายกาจมาก พรางตัวได้เก่งมาก เพราะฉันดูไม่ออกว่าเธอมีความรู้สึกพิเศษใดๆ ต่อคดีนั้น"

 

"ฉันรู้..." กู่จี๋กวาดตามองรอบๆ ว่ามีคนหรือไม่ "ฉันจะเฝ้าสังเกตเธอต่อ"

 

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด