ตอนที่แล้วบทที่ 31 ซ่งฉู่อี๋เห็นเธออยู่กับฟู่อวี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 33 ต่อไปอย่าเดินใกล้ฟู่อวี้เกินไปนัก

บทที่ 32 กำลังเอาใจเขาอยู่งั้นเหรอ


บทที่ 32 กำลังเอาใจเขาอยู่งั้นเหรอ

 

หลังจากจัดเก็บเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซ่งฉู่อี๋ถึงค่อยเงยหน้าขึ้นมา “คุณฟู่นี่เก่งจริงๆ นะครับ คุณแม่คุณไม่สบายหนักขนาดนี้ ยังมีผู้หญิงขนาบข้างทั้งซ้ายทั้งขวาเลย”

 

พอจ้องมองดูการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของซ่งฉู่อี๋อย่างละเอียดแล้ว ฟู่อวี้ก็พบว่าคนๆ นี้ไม่เกรงกลัวเขาเลยสักนิด เขาอมยิ้มพองามและพูดอย่างหยิ่งยโสว่า “คุณหมอซ่งครับ เรื่องความรักน่ะ ผู้ชายเราแพ้แล้วก็คือแพ้แล้ว ผู้หญิงที่ทะเยอทะยานอย่างกว่านอิงไม่ใช่คนที่คุณจะ hold เอาไว้ได้หรอก บางทีอีกสี่ห้าปีคุณอาจจะมาขอบคุณผมก็ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะผมช่วยให้คุณหลุดพ้นจากเธอล่ะก็ ไม่แน่ว่ารอให้พวกคุณแต่งงานกันไปแล้ว เธอถึงค่อยสวมเขาให้คุณทีหลัง คุณอาจจะอับอายขายหน้ายิ่งกว่านี้ก็ได้”

 

หลังจากได้ยินที่เขาพูด ซ่งฉู่อี๋ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ใบหน้าหล่อเหลาดูเคร่งขรึมอย่างมาก

 

“พรุ่งนี้คุณหมอซ่งก็ช่วยผ่าตัดดีๆ แล้วกันนะครับ ถ้าผ่าตัดสำเร็จ ผมจะจ่ายเงินให้คุณไม่อั้นเลย” ฟู่อวี้พูดเสียงเนือยแล้วหมุนตัวเดินจากไป

 

พอเขาไปแล้ว ซ่งฉู่อี๋ก็ถอดชุดกาวน์ออกแล้วเขวี้ยงลงบนเก้าอี้อย่างเย็นชา

 

ตอนที่ออกจากโรงพยาบาล ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว

 

เมื่อกลับถึงบ้าน แสงไฟสว่างไสวไปหมด แล้วก็มีเสียงความเคลื่อนไหวเบาๆ ดังลอยมาจากห้องครัว

 

เขาเดินสาวเท้ายาวเข้าไปดู ภายใต้แสงไฟสีส้มอมเหลือง ฉางฉิงกำลังออกแรงปิดฝาหม้อหุงข้าวอยู่ที่ข้างเคาน์เตอร์ครัว เมื่อเธอหันมาเห็นเขา ดวงตากลมโตของเธอก็กะพริบปริบๆ ด้วยความร้อนตัวอยู่หลายที “คือว่า...ฉันอยากจะทำอาหารเย็นให้คุณ แต่ฝาหม้อหุงข้าวปิดยังไงก็ปิดไม่ได้สักทีค่ะ”

 

ซ่งฉู่อี๋เดินไปหาด้วยความหงุดหงิดแล้วออกแรงกดปิดฝาหม้อเสียงดัง ทำให้ฉางฉิงรู้สึกไม่สบายใจ เธอรีบอธิบายเสียงเบาว่า “คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะ ฟู่อวี้กับคุณป้าเสิ่นเป็นเพื่อนบ้านสมัยที่ครอบครัวฉันอาศัยอยู่ที่หยางโจว ตอนที่ฉันเป็นเด็ก คุณป้าเสิ่นท่านดีกับฉันมาก ฉันรู้มาว่าท่านไม่สบายก็เลยไปเยี่ยม ตอนเที่ยงพี่สาวฉันก็ไปเยี่ยมเหมือนกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณจะโทรไปถามพี่สาวฉันถามคุณพ่อฉันก็ได้”

 

ดูท่าทางแม่สาวคนนี้จะกังวลมาก ดวงตากลมโตเปียกรื้น อีกทั้งมองเขาอย่างประจบเอาใจ ชุดอยู่บ้านสีขาวที่เธอสวมใส่อยู่ช่วยขับให้ผิวของเธอดูชุ่มชื่นเนียนละเอียด ลำคอเรียวระหงเนียนสวย มือเล็กๆ ที่จับชายแขนเสื้อเขาด้วยความประหม่าดูเรียวยาวได้สัดส่วน และริมฝีปากบนก็เม้มลงมาที่ริมฝีปากล่าง ดูสวยน่ารักและไร้เดียงสาจริงๆ

 

เธอเป็นผู้หญิงที่ออดอ้อนเก่งเสียเหลือเกิน

 

ซ่งฉู่อี๋ยอมรับว่าระหว่างทางที่เขาขับรถกลับมาบ้าน เขารู้สึกหัวเสียมาก แล้วก็เสียใจมากที่แต่งงานกับเธอ ในหัวเขามีความคิดมากมายร้อยแปดพันเก้า บางทีลึกๆ แล้วฉางฉิงอาจจะเป็นเหมือนกับกว่านอิงก็ได้ เพื่อความโด่งดังแล้ว ยินยอมที่จะเล่นนอกกติกา แต่เขาคิดไม่ถึงว่าพอกลับมาแล้วจะเห็นเธอดูท่าทางกังวลแบบนี้ แถมยังทำอาหารให้เขาอีก

 

เขาเคยได้ยินเยี่ยนเหล่ยบอกว่าฉางฉิงทำอาหารไม่เป็นเลย เธออยากจะเอาใจเขาอย่างนั้นเหรอ

 

หลังจากที่สีหน้าเขาดีขึ้นอยู่พักหนึ่ง ตอนนี้กลับเริ่มเคร่งขรึมอีกแล้ว “ผมเพิ่งกลับมาและดูเหมือนว่าจะยังไม่ได้พูดอะไรเลย แบบนี้จะให้ผมเข้าใจว่าคุณกินปูนร้อนท้องได้หรือเปล่า”

 

“ฉันเปล่านะคะ” ฉางฉิงเบิกตาโตพลางทำเสียงฮึดฮัด “ฉันกลัวว่าคุณจะเข้าใจผิด ก็เลยหวังดีอธิบายให้คุณฟัง ถึงยังไงฉันก็เป็นคนเปิดเผยตรงไปตรงมาอยู่แล้ว”

 

เธอยืดอกโดยไม่รู้ตัว

 

ซ่งฉู่อี๋ก้มหัวลง ชุดอยู่บ้านของฉางฉิงเป็นแบบรูดซิป อาจจะเป็นเพราะหน้าอกใหญ่ไป เสื้อก็เลยปริออกเล็กน้อย ทำให้เห็นร่องอกด้านในสั่นไหวมาพอดี

 

ดวงตาเขาสีเข้มขึ้น แล้วยื่นมือไปช่วยเธอรูดซิปขึ้นมาเล็กน้อย

 

ใบหน้าของฉางฉิงร้อนฉ่าด้วยความเขินอาย ขณะที่กำลังจะต่อว่าเขา ซ่งฉู่อี๋ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า “ผมช่วยรูดซิปขึ้นให้คุณก็ผิดด้วยงั้นเหรอ”

 

ฉางฉิงหน้าแดงและแสดงสีหน้าประมาณว่า ‘ไม่อยากคุยกับคุณแล้ว’ จากนั้นก็เดินโมโหปึงปังออกจากห้องครัวไป

 

“นี่ คุณจะทำอาหารไม่ใช่เหรอ” จู่ๆ ซ่งฉู่อี๋ก็ไม่โกรธแล้ว แถมยังอยากหยอกเย้าเธอด้วย

 

“ไม่ทำแล้ว เชอะ” คุณยั่วให้ฉันโมโหแล้ว

 

ฉางฉิงกระฟัดกระเฟียด แล้วไปดูทีวีในห้องนั่งเล่น

 

ซ่งฉู่อี๋ขำพลางส่ายหัว ที่จริงเขาเหนื่อยมากแล้ว แน่นอนว่าการกลับมาบ้านแล้วได้ทานอาหารกลิ่นหอมฉุยเป็นอะไรที่วิเศษมาก แต่ถ้าไม่ได้กิน ก็คงได้แต่ลงมือทำเอง

 

เพียงแต่ว่าปกติเขาไม่ค่อยจะได้ทานข้าวที่บ้านสักเท่าไร พอเปิดตู้เย็นออกดู กับข้าวก็มีอยู่น้อยนิดเหลือเกิน

 

สุดท้ายซ่งฉู่อี๋ก็ทำซุปสาหร่ายใส่ไข่กับแตงกวาผัดแฮม

 

พอฉางฉิงเห็นอาหาร ริมฝีปากอมชมพูของเธอก็เบ้อย่างแรง ดูไม่พอใจ “อาหารมื้อแรกของการมาอยู่ที่นี่ของฉันต้องกินอาหารต๊อกต๋อยแบบนี้น่ะเหรอ ไม่มีเนื้อสัตว์เลย...”

 

เมื่อก่อนเวลาอยู่ที่บ้าน ป้าจางที่มีฝีมือระดับเชฟจะทำอาหารเต็มโต๊ะอยู่เสมอทุกมื้อ ช่างแตกต่างกับที่นี่เสียเหลือเกิน ฉางฉิงแอบรู้สึกน้อยใจอยู่ครู่หนึ่ง

 

...................................................

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด