ตอนที่ 223 หาที่ตาย
เฟิงเซียงหรูรู้สึกเวียนหัวตลอดทั้งวัน นางรู้สึกไม่สบายใจมาก
เฟิงเซียงหรูนอนอยู่บนเตียงใต้ผ้าห่มหนา ๆ ของนาง
อันชินั่งอยู่ข้างนาง เอามือแตะที่หน้าผากของเฟิงเซียงหรูเป็นครั้งคราว นางกังวลเล็กน้อย นางพูดว่า “มันร้อนขึ้นมาก ข้าจะไปแจ้งท่านย่าของเจ้าให้นำหมอมารักษาเจ้า”
เฟิงเซียงหรูคว้าตัวอันชิและส่ายหัว “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ หากเรียกหมอมา จะเป็นการรบกวนคนอื่น มันไม่ดีเจ้าค่ะ เดียวไข้ก็ลดเองหากมีเหงื่อออกเล็กน้อย”
อันชิยังรู้ว่ามันจะไม่ดีที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายตอนกลางดึก ยิ่งกว่านั้นเฟิงเซียงหรูก็เป็นเพียงบุตรสาวของอนุ ดังนั้นนางจึงไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของฮูหยินผู้เฒ่า ดังนั้นนางทำได้แค่สั่งเหม่ยเซียง “ไปเอาถ่านมาใส่เพิ่ม”
เหม่ยเซียงปฏิบัติตามและไปเอาถ่านมาเพิ่ม เฟิงเซียงหรูพูดกับอันชิว่า “ข้ารู้สึกกังวลใจมากและไม่สามารถหยุดกังวลเกี่ยวกับพี่รองได้ แม่รอง พี่รองจะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่เจ้าคะ ?”
อันชิยังเป็นห่วงเช่นกัน แต่นางก็ยังคงปลอบโยนเฟิงเซียงหรู “หวงซวนไม่ได้บอกเจ้าหรือ? นางบอกว่าจะไม่เป็นอะไรดังนั้นมันจะไม่เป็นไร เจ้าก็รู้ว่าพี่รองของเจ้าทำอะไรนางจะระมัดระวังอยู่เสมอ เป็นไปได้อย่างไรที่นางจะอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนั้น ยังไม่มีองค์ชายเก้าค่อยดูแล พระองค์จะไม่ปล่อยให้พี่รองของเจ้าต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดใด ๆ”
เมื่อได้ยินการพูดถึงองค์ชายเก้า จิตใจของเฟิงเซียงหรูก็เริ่มคิดอีกครั้ง นางอ้าปากเหมือนอยากจะเอ่ยบางอย่าง แต่เมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปาก นางกลับไม่สามารถเอ่ยออกมาได้
อันชิเป็นมารดาของนาง ดังนั้นนางจะไม่เข้าใจความรู้สึกของบุตรสาวของนางได้อย่างไร นางอดไม่ได้ที่จะให้คำแนะนำ “ครั้งที่แล้วท่านย่าของเจ้าเป็นคนสั่งให้เจ้าไปที่ตำหนักชุน เวลานี้ท่านย่าของเจ้าไม่ได้พูดอะไร ดังนั้นเจ้าจึงไม่สามารถคิดถึงมันได้”
เฟิงเซียงหรูก้มหน้าลงและใบหน้าเล็ก ๆ ของนางก็กลายเป็นสีแดงเล็กน้อย นางรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย “ข้าไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย แม่รอง”
“ไม่ว่าเจ้าจะคิดเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจ” อันชิถอนหายใจด้วยเสียง “อย่าโทษข้าที่โหดร้าย บางทีในอดีตเจ้าไม่สามารถบอกได้ แต่ลองดูพี่รองของเจ้าตอนนี้ ในอดีตนางได้รับเกียรติอย่างมาก แต่เนื่องจากนางไม่สามารถรักษาขาขององค์ชายเก้าได้ ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับนาง?”
“ท่านแม่พึ่งบอกว่าพี่รองสบายดี” เฟิงเซียงหรูหัวเราะแสดงความไม่พอใจของนาง “ท่านแม่ยังบอกอีกว่าองค์ชายเก้าจะไม่ยอมให้พี่รองต้องทนทุกข์ทรมาน”
“ความจริงคืออะไร ?” อันชิรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย “ไม่ว่านางจะทนทุกข์กับความคับข้องใจหรือไม่ก็ตาม แต่ข่าวลือและการใส่ร้ายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เจ้าเห็นหรือไม่ว่าสถานการณ์ปัจจุบันของคฤหาสน์เราเป็นเช่นไร ? เจ้าเห็นหรือไม่ว่ามีคนกี่คนที่ถูกส่งไปยืนรอบ ๆ ทางเข้าเรือนตงเซิง ? พวกเขาไม่เห็นว่านางเป็นสมาชิกของครอบครัวแม้แต่น้อย พวกเขามองนางเป็นคนนอก ! จะว่าไปข้าก็ไม่ควรทำเช่นนี้ อย่ามองว่าท่านย่าของเจ้าปฏิบัติต่อพี่รองของเจ้าอย่างดี เมื่อมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นท่านย่าจะเป็นคนแรกที่ตีตัวออกห่างจาก นางไม่ลังเลที่จะตัดสินใจเช่นเดียวกับที่นางทำเมื่อสามปีก่อน เฟิงเซียงหรู ถ้าเจ้ายังคงปักใจกับองค์ชายเจ็ด เจ้าจะพบจุดจบที่คล้ายกัน”
เฟิงเซียงหรูที่รู้สึกหนาวอยู่แล้ว แต่ตอนนี้นางได้ยินสิ่งที่อันชิพูดแล้วนางรู้สึกหนาวมากขึ้น แต่นั่นเป็นเพียงวิธีที่ผู้คนบอกไม่ให้คิดอะไรเกินเลยกับผู้อื่น ในตอนแรกเฟิงเซียงหรูมีแต่ความรู้สึกชื่นชมซวนเทียนฮั่วเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินคำพูดของอันชิ มันก็เหมือนกับยิ่งห้ามก็ยิ่งยุ
คืนนั้นเฟิงเซียงหรูนอนไม่หลับเป็นครั้งคราว นางรู้สึกหนาวจากนั้นก็มีเหงื่อออกมาและฝันแปลก ๆ ไม่หยุด ตอนแรกมันจะเกี่ยวกับซวนเทียนฮั่ว หลังจากนั้นก็เรื่องที่อันชิเตือนนาง
นางก็ตื่นขึ้นมา นางคิดว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว แต่เหม่ยเซียงผู้เฝ้าสังเกตการณ์บอกกับนางว่า “คุณหนูพักผ่อนเพียงครึ่งชั่วยามเองเจ้าค่ะ ทำไมคุณหนูถึงตื่นขึ้นมาเจ้าค่ะ ?”
นางตกใจ “ครึ่งชั่วยาม ?” นางคิดว่าพระอาทิตย์กำลังจะขึ้น
นางไม่สามารถนอนหลับได้ นางจึงตัดสินใจสวมเสื้อผ้า และลุกจากเตียง เหม่ยเซียงรีบเอาเสื้อคลุมมาคลุมกลัวว่านางจะไม่สบายอีกครั้ง
“เหม่ยเซียง เจ้าคิดว่าพี่รองนอนแล้วหรือยัง ?” เฟิงเซียงหรูนั่งหน้าเตาถ่าน พร้อมกับจิตใจที่ไม่มั่นคงของนาง
เหม่ยเซียงส่ายหัว “บ่าวรับใช้คนนี้ไม่รู้ แต่ตอนนี้อนุอันไปนอนแล้วเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าคุณหนูรองคงนอนไปแล้วเช่นกันเจ้าค่ะ”
“งั้น…เราไปดูกันดีไหม?” เมื่อคำเหล่านี้ออกมาเฟิงเซียงหรูคิดทันที “นั่นถูกต้องแล้ว เราจะไปดูกัน เหม่ยเซียง ข้าป่วย ในคฤหาสน์นี้มีเพียงพี่รองเท่านั้นที่เป็นหมอ ดังนั้นข้าจะไปหาพี่รองเป็นสิ่งที่สามารถอธิบายได้ พี่รองจะยอมออกมาพบข้าหรือไม่ ?”
เหม่ยเซียงโบกมือด้วยความกลัว “คุณหนูทำแบบนั้นไม่ได้นะเจ้าค่ะ! ไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน ! คุณหนูป่วยอยู่แล้ว และอากาศข้างนอกก็หนาวและทางเดินก็ลื่นมาก ถ้าคุณหนูไม่สบายหรือลื่นล้มขึ้นมาจะทำอย่างไรเจ้าค่ะ หากคุณหนูอยากพบคุณหนูรอง เรารอให้พระอาทิตย์ขึ้นก่อนดีไหมเจ้าค่ะ? บ่าวรับใช้คนนี้จะติดตามคุณหนูไปอย่างแน่นอน เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ข้าจะรีบปลุกท่านตื่นทันทีเจ้าค่ะ”
แต่เฟิงเซียงหรูตัดสินใจแล้ว นางจะฟังบ่าวรับใช้ได้อย่างไร เมื่อเห็นว่าเหม่ยเซียงไม่เห็นด้วย นางจึงตัดสินใจไม่สนใจ นางใส่เสื้อผ้าและเดินออกไปที่ประตู
เหม่ยเซียงไม่สามารถทำอะไรได้ นางวิ่งตามเฟิงเซียงหรูและกล่าวว่า “ถ้าคุณหนูต้องออกไปข้างนอก คุณหนูต้องบอกอนุอันก่อนเจ้าค่ะ !”
เฟิงเซียงหรูหันหลังกลับ และจ้องมองที่เหม่ยเซียงพูดว่า “ข้าเป็นคุณหนูสามของคฤหาสน์ เจ้าเป็นบ่าวรับใช้ที่ดูแลข้า ถ้าเจ้าไม่สามารถติดตามเจ้านายของเจ้าแล้ว แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่ข้าจะเก็บเจ้าไว้” เฟิงเซียงหรูไม่ค่อยได้ใช้น้ำเสียงแบบนี้บ่อยนักเมื่อพูด แต่มันทำให้เหม่ยเซียงหยุดนิ่งด้วยความประหลาดใจ “รีบตามมา หากเสียงตะโกนของคุณหนูทำให้แม่รองอันตื่นขึ้นมา ข้าจะขายเจ้าออกไปจากคฤหาสน์ในตอนเช้า เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นว่าคำพูดของข้าหรือคำพูดของแม่รองอันที่เจ้าต้องเชื่อฟัง”
เหม่ยเซียงไม่กล้าพูดคำอื่นอีกต่อไปมันเป็นอย่างที่เฟิงเซียงหรูพูด แม้คุณหนูสามจะเป็นบุตรสาวของอนุแต่ก็ยังมีสถานะที่สูงกว่าอนุในคฤหาสน์ นางเป็นบ่าวรับใช้ของคุณหนูสาม ดังนั้นนางจึงควรร่วมทุกข์ร่วมสุข ไม่ต้องพูดถึงการไปหาคุณหนูรอง ต่อให้เป็นการลอบวางเพลิง นางก็จะต้องจัดเตรียมเครื่องมือที่จำเป็น !
เมื่อคิดถึงสิ่งต่าง ๆ เหม่ยเซียงก็สงบลงและเชื่อฟังเฟิงเซียงหรูออกจากเรือน
ทั้งสองมุ่งตรงไปยังเรือนตงเซิง ทั้งสองเดินไปจนถึงทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในคฤหาสน์เฟิง ก่อนที่พวกเขาจะข้ามสะพานเล็ก ๆ ปากของเฟิงเซียงหรูก็ซีดด้วยความหนาว
นางหนาวสั่นและกอดตัวเอง นางหันมาพูดกับเหม่ยเซียง “ข้ารีบมากเกินไป ข้าลืมหยิบเสื้อคลุมออกมาด้วย กลับไปเอาเสื้อคลุมให้ข้า ข้าจะหนาวตายอยู่แล้ว”
เหม่ยเซียงลืมเรื่องนี้ไป แม้ว่านางจะหนาว แต่ก็ยังดีกว่าเฟิงเซียงหรูที่ป่วยมาก เมื่อได้ยินว่าเฟิงเซียงหรูพูดว่าหนาว ในที่สุดนางก็สังเกตเห็นว่าเฟิงเซียงหรูไม่ได้ใส่เสื้อคลุม
เด็กสาวกระทืบเท้าของนาง ดังนั้นนางจึงโทษตัวเองว่า “มันเป็นความผิดพลาดของบ่าวรับใช้เองเจ้าค่ะ คุณหนูรอข้าที่นี่นะเจ้าคะ ข้าจะรีบกลับมา” หลังจากเหม่ยเซียงพูดจบ นางก็หันหลังกลับวิ่งกลับเรือนทันที
เฟิงเซียงหรูยืนอยู่คนเดียวถัดจากสะพาน ลมหนาวทำให้ฟันของนางกระทบกัน ความรู้สึกเย็นเมื่อนางเป็นไข้นั้นแตกต่างจากความรู้สึกปกติของความหนาวเย็น ราวกับว่าร่างกายของนางเย็นรวมทั้งอวัยวะภายในของนางด้วย
เฟิงเซียงหรูยืนต่อไปไม่ได้อีกต่อไป นางทำได้แค่นั่งลงพิงสะพาน นางกอดตัวเอง นางสั่นและขดตัวเป็นลูกบอล ในใจของนางนางหวังว่าเหม่ยเซียงจะกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาได้เดินมาไกลแล้ว นางจะกลับมาเร็วได้อย่างไร
นางไม่รู้ว่านางนั่งข้างสะพานนานแค่ไหน เมื่อนางได้ยินเสียงฝีเท้า เสียงเหมือนพวกเขารีบและเสียงหอบหายใจด้วยความเหนื่อย
เซียงรองคิดว่ามันคือเหม่ยเซียง ในช่วงเวลาแห่งความสุข นางลืมตาและลุกขึ้นยืนด้วยอาการสั่น ๆ พูดเสียงดังว่า “เหม่ยเซียงเร็วหน่อย ข้าจะแข็งตายอยู่แล้ว!”
เมื่อกล่าวคำพูดเหล่านี้ออกมา นางก็นิ่งงัน มีใครบ้างที่ถูกพบบนเส้นทางเล็ก ๆ ?
นางนั่งลงข้างหลัง ดังนั้นนางจึงหันหน้าเข้าหาทางเดิน ด้วยวิธีนี้นางจะสามารถเห็นเหม่ยเซียงกลับมา
แต่ในขณะนี้ทางเดินตรงหน้านางว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่นก
แต่นางเพิ่งได้ยินเสียงฝีเท้าอย่างชัดเจน ?
ในคืนที่มืดมน เด็กหญิงถูกทิ้งให้ยืนอยู่คนเดียว ด้านหลังของนางเป็นสะพาน ทั้งสองฟากคือทะเลสาบ และตรงหน้านางจะเป็นทางเดินที่ไร้ผู้คน ยิ่งนางคิดมากเท่าไหร่นางก็ยิ่งกลัว ในที่สุดนางก็เริ่มรู้สึกเสียใจที่ออกมา
นางอยากจะกลับไปที่เรือนจริง ๆ เพียงแค่วิ่งกลับไปตามทางเดินเพื่อกลับเรือนของนาง โชคไม่ดีที่ขาของนางไม่มีแรงเพราะนางกลัวจนไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอีกครั้ง คราวนี้เฟิงเซียงหรูได้ยินอย่างชัดเจนว่าไม่ได้มาจากทิศทางที่เหม่ยเซียงวิ่งไป แต่กลับมาจากข้างหลังนาง
คราวนี้เสียงช้าลงราวกับกำลังเข้ามาใกล้
แต่ยิ่งช้านางก็ยิ่งกลัว หัวใจของนางเกือบหยุดเต้น
เมื่อเสียงฝีเท้าอยู่ห่างออกไป 3 ก้าว เฟิงเซียงหรูก็กัดฟันด้วยกล้าหาญจากสถานที่ที่ไม่รู้จัก ทันใดนั้นนางก็ยืนขึ้น และหันไปรอบ ๆ เมื่อเผชิญหน้ากับ "สิ่ง" ที่โผล่ขึ้นมาข้างหลัง นางก็พบกับดวงตาของมัน
"เจ้า"
“ทำไมมันเป็นเจ้า ?”
เฟิงเซียงหรูตกใจมาก นางไม่กลัวอีกแล้ว ท้ายที่สุดให้แน่ใจว่ามันเป็นคนที่มีชีวิตดีกว่าการคาดเดา
แต่คนนี้ ...
“อนุฮัน ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่ ?” เฟิงเซียงถอยห่างฮันชิซึ่งอยู่ห่างออกไปสามก้าว เมื่อเห็นว่าผมของนางยุ่งเหยิงและปิ่นปักผมผมห้อยลงมาจากผมของนาง มองไปที่มันดูเหมือนว่ามันกำลังจะร่วงลงพื้น คอของนางก็เปิดออกกว้าง ในคืนฤดูหนาวที่หนาวเหน็บนางได้เผยผิวสีขาวของหิมะ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือมีรอยแดงหลายจุดที่คอของนาง ฮันชิต้องการใช้เสื้อผ้าของนางเพื่อซ่อนมัน แต่ไม่เพียงแต่นางล้มเหลวในการปกปิดมันหลังจากพยายามสักสองสามครั้ง
เฟิงเซียงหรูตกใจกับสิ่งที่นางเห็น แม้ว่านางจะเป็นเด็ก แต่ก็ไม่ใช่ว่านางไม่เข้าใจอะไรเลย ลักษณะของฮันชินั้นชัดเจนมาก ถ้านางไม่ได้มีอะไรกับคู่รักจะเป็นอะไรได้อีก?
แต่บิดาของนางไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ !
ฮันชินี้ ...
“คุณหนูสาม” เสียงของฮันชินั้นไม่คงที่ นางไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอกับเฟิงเซียงหรูในสถานที่แบบนี้ในช่วงเวลานี้ ไม่ว่านางจะคิดมากแค่ไหนนางก็แค่จะเดินผ่านทาง อย่างดีก็คงจะเจอยาม แต่นางไม่ได้คิดว่าสิ่งที่นางวิ่งเข้าไปนั้นเป็นคุณหนูสามของตระกูลเฟิง
ทั้งคู่ต่างก็หวาดกลัว เช่นนี้พวกเขายืนอยู่ที่นั่นมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าพวกเขาจะพูดอะไรได้
จิตใจของฮันชิทำงานอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้านางก็นึกถึงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้หลายร้อยอย่างสำหรับนาง ข้อใดไม่ถูกลงโทษถึงตาย ?
นางยืนแทบจะไม่อยู่ เรื่องนี้ไม่สามารถแพร่กระจายได้อย่างแน่นอน นางไม่ต้องการตาย นางยังคงต้องให้กำเนิดบุตรชายแก่ตระกูลเฟิง นางยังต้องทำให้เฟิงเฟินไดขึ้นสู่ตำแหน่งบุตรสาวของฮูหยินใหญ่ นางจะจบแบบนี้ได้อย่างไร
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ดวงตาของนางที่จ้องมองที่เฟิงเซียงหรูเหมือนมีไฟออกมา
เฟิงเซียงหรูเห็นว่าดวงตาของฮันชิเริ่มที่จะส่องสว่าง และรู้สึกว่าสายตาของนางนั้นมีความปรารถนาอันโหดร้าย
ใจของนางระเบิดขึ้นทันทีด้วยความคิดที่ว่าฮันชิต้องการฆ่านาง !
เฟิงเซียงหรูถอยกลับด้วยความกลัว ทันใดนั้นนางก็ส่งเสียงกรี๊ดและหันหลังจะวิ่งหนี
แต่ความปรารถนาของฮันชิที่จะฆ่านางก็รุนแรงเช่นกัน ดังนั้นนางจะปล่อยให้เฟิงเซียงหรูหนีไปได้อย่างไร
ดังนั้นคนหนึ่งวิ่งหนีและอีกคนไล่ล่า ในท้ายที่สุดเด็กเล็กไม่สามารถหนีจากผู้ใหญ่ได้ เพียงไม่กี่ก้าวฮันชิก็คว้าเสื้อของนางได้อย่างมั่นคง
เฟิงเซียงหรูต้องการกรีดร้อง แต่นางหายใจไม่ออก ดังนั้นนางถูกฮันชิลากไปที่ริมทะเลสาบโดยไม่อาจขัดขืนได้
ในท้ายที่สุดเมื่อพวกเขาจ้องหน้ากัน ฮันชิพูดกับนางว่า “คุณหนูสาม ถ้าเจ้ายังไม่ตายวันนี้ ข้าก็ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ อย่าว่าอะไรข้าเลย หากเจ้าต้องตำหนิอะไรจงตำหนิตัวเองที่เห็นสิ่งที่เจ้าไม่ควรเห็น”
เฟิงเซียงหรูส่ายหัวอย่างหมดหวัง นางต้องการบอกฮันชิว่านางจะปิดปากและจะไม่บอกใคร
แต่นางทำอะไรไม่ถูกในขณะที่นางถูกรัดคอแน่นเกินไป นางทำได้แค่อ้าปากแต่ไม่มีเสียงออกมา
เช่นนี้นางมองฮันชิ ฮันชิบ้าไปแล้ว ผลักนางลงไปกลางทะเลสาบ ทันใดนั้นนางก็ตกลงไปในน้ำ นางคิดกับตัวเองว่า ถ้าข้าขยันฝึกกับพี่รองของข้า วันนี้ข้าคงจะไม่ตาย ?