บทที่ 33 ทุกหนทุกแห่ง
บทที่ 33 ทุกหนทุกแห่ง
โทรศัพท์วางอยู่บนพื้น ดังอยู่ครู่หนึ่งก็เงียบไป
ในห้องรับแขก บนพื้นมีกระป๋องโค้กตกอยู่ โค้กไหลหกออกมา
แมวอ้วนตัวหนึ่งตะกายออกมาเลียสองสามที จากนั้นก็กระโดดขึ้นโซฟาแบบไม่เหลียวหลัง นอนซุกอยู่หลังหมอนอิง
ในห้องรับแขกไม่มีคน
ประตูบ้าน...เปิดอยู่
เฉินเสี่ยวเลี่ยนวิ่งพุ่งลงจากบันได
เขาไม่ใช้แม้กระทั่งลิฟต์ วิ่งลงบันไดอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากวิ่งออกจากทางเดินตึกมาข้างนอก เขาก็หายใจหอบแฮก รีบสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไป
(นี่มันเรื่องอะไรกัน? นี่มันเรื่องอะไรกัน? นี่มันเรื่องอะไรกันแน่วะ!!!)
อารมณ์ดีสบายอกสบายใจมาตลอดทางก่อนหน้านี้ ความรู้สึกยินดีที่รอดตายแล้วพบว่าเรื่องทั้งหมดเป็นแค่ฝันไป สูญหายไปจนหมดสิ้น!
ไม่ใช่ฝัน!
ไม่ใช่ความฝัน!!
ไม่อย่างนั้น เจ้าแมวกวนตีนตัวนั้นมันจะโผล่มาจากไหน?!
เฉินเสี่ยวเลี่ยนสติแตกวิ่งออกมานอกเขตที่พักอาศัยของตน จนมาถึงข้างถนนใหญ่
ทำยังไงดีล่ะ?
แจ้งความ?
เฉินเสี่ยวเลี่ยนทำหน้าเศร้า จะแจ้งความว่าอะไรล่ะ?
จะบอกว่า...บางทีตัวเขาอาจฝันไป? จากนั้นความฝันก็กลายเป็นความจริง?
ลุงตำรวจจะส่งฉันไปโรงพยาบาลตรวจสมองหรือเปล่า?
สติของเขาสับสนวุ่นวาย...ตื่นตระหนกตกใจ...และยังรู้สึกหวาดกลัวอีกด้วย!
เหล้า!
ใช่! ฉันต้องดื่มเหล้าสักแก้ว!!
อืม ข้างทางไม่มีมินิมาร์ทเลย แต่เฉินเสี่ยวเลี่ยนพุ่งเข้าโรงแรมเล็กๆ ที่อยู่ข้างทางนอกเขตชุมชน
“เอาเบียร์มาขวดหนึ่ง! เร็ว!”
“เขาเบียร์เสวี่ยฮวาหรือชิงเต่าครับ? ที่นี่เรามีโปรโมชั่นตะลุยขอบฟ้าราคาพิเศษ...”
“ใครจะไปสน! รีบเอามาขวดหนึ่ง!”
หลังเคาน์เตอร์ ลุงวัยกลางคนใช้สายตาแปลกประหลาดมองเฉินเสี่ยวเลี่ยน จากนั้นก็หยิบเบียร์ขวดหนึ่ง...ที่แพงที่สุดออกมา
“สิบเหรียญ!” ลุงยังถามอีกว่า “เอากับแกล้มสักสองอย่างไหม?”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนหยิบเบียร์ขึ้นมา ใช้ฟันเปิดฝาขวดออก จากนั้นก็กระดกลงคอหลายอึก
ล้วงเงินออกจากกระเป๋าวางแปะลงบนเคาน์เตอร์
ตอนที่กำลังจะออกไปนั้นเอง จู่ๆ ลุงเจ้าของก็พูดออกมาคำหนึ่ง
ลุงที่แต่เดิมหน้าตาอัปลักษณ์คล้ายกับเปลี่ยนไปคนละคน
“จริงๆ แล้ว...นั่นไม่ใช่ความฝันหรอกนะ”
“พรูดดด!!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนได้ยินก็พ่นเบียร์พรวดออกมา สีหน้าเหมือนกับเห็นผี มองดูเจ้าของโรงแรม
สายตาของลุงจริงจัง “อยากรู้เรื่องไหมละ ฉันอธิบายให้นายฟังได้นะ...”
“อธิบายน้องสาวแกสิ!! ฉันไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น!! ฉันไม่อยากมีส่วนร่วมอะไรทั้งนั้น!!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนวิ่งพุ่งออกไป
เฉินเสี่ยวเลี่ยนวิ่งออกมาจากโรงแรม เจ้าของโรงแรมคนนั้นคล้ายกับอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็เกาหัว มองดูภายในโรงแรมด้วยความสงสัย “เอ๋? ตะกี้ฉันใจลอยอีกแล้วเหรอเนี่ย?”
……
เฉินเสี่ยวเลี่ยนหน้าตาตื่นวิ่งพุ่งออกมาถึงถนน ไฟข้ามถนนเป็นสีแดง รถวิ่งขวักไขว่ไปมา เฉินเสี่ยวเลี่ยนไม่มีทางเลือกได้แต่ยืนรอท่ามกลางผู้คน
จู่ๆ คุณป้าที่ถือตะกร้าผักด้านข้างก็หันหน้ามา ใช้สายตาเคร่งขรึมจ้องเฉินเสี่ยวเลี่ยน “ในดันเจี้ยนนายตัดสินใจได้กล้าหาญขนาดนั้น ทำไมตอนนี้ถึงตื่นเต้นขนาดนี้ล่ะ? จริงๆ แล้ว แม้ทุกอย่างไม่ใช่ความฝัน แต่บางทีนายอาจจะได้อย่างอื่นมากกว่านี้นะ...”
“อ๊ากกก!!!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนแหกปาก วิ่งออกจากกลุ่มคนโดยไม่สนใจไฟแดง หลบหลีกรถบนถนนอย่างไปยังฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
คุณป้าตัวสั่นน้อยๆ มองตระกร้าผักในมือ “เอ๋? เมื่อกี้ฉันใจลอยเหรอเนี่ย?” พอเห็นเฉินเสี่ยวเลี่ยนที่วิ่งอย่างลำบากอยู่กลางถนนห่างออกไประหว่างรถที่เคลื่อนตัว “ฮึ เด็กสมัยนี้แย่จริงๆ ฝ่าไฟแดง...”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนวิ่งมาได้ครึ่งทาง ก็เห็นแท็กซี่คันหนึ่งกำลังจอดริมถนน ผู้โดยสารลงรถพอดี เขารีบพุ่งขึ้นรถ ส่งเสียงดัง “ออกรถ! ออกรถ!”
“ไปไหนครับ?” คนขับหันมาถาม
“ไปหน้าตลาด! เร็วๆ!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนบอกชื่อถนนที่คึกคักหนาแน่ที่สุดของเมืองนี้ไปตามสัญชาตญาณ ตอนนี้ในใจเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก นึกอยากจะไปในที่ที่มีคนเยอะๆ เท่านั้น
รถแท็กซี่ออกตัว...
จากนั้น บนถนนเฉินเสี่ยวเลี่ยนมองหน้าคนขับอย่างเครียดๆ คล้ายกับกลัวคนขับจะพูดอะไรแปลกๆ ออกมา
เงียบไปตลอดทาง เฉินเสี่ยวเลี่ยนค่อยๆ สงบลง
เห็นรถแท็กซี่ติดไฟแดงบนถนน เฉินเสี่ยวเลี่ยนกำลังหันไปมองนอกหน้าต่างอย่างตื่นๆ
จู่ๆ คนขับด้านหน้าก็พูดช้าๆ โดยไม่หันกลับมามองว่า “ต่อให้นายกลัว แต่ว่ารางวัลสำเร็จภารกิจดันเจี้ยนก็ไม่เอาแล้วเหรอ? นั่นนายใช้ชีวิตแลกมาเขียวนะ”
“...”
“ไม่มีประโยชน์หรอก ไม่ว่านายจะหนีไปที่ไหน ขอแค่ข้างตัวนายมีคนอยู่ ฉันก็คุยกับนายได้เสมอ” คนขับมองเฉินเสี่ยวเลี่ยนผ่านกระจกหลัง ฉีกยิ้มโชว์ฟันสีเหลืองที่เกิดจากการสูบบุหรี่ “บนโลกนี้ นายหนีฉันไปไม่ได้หรอก”
“มึงเป็นเหี้ยอะไรเนี่ย!!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเปิดประตูรถสุดแรง จากนั้นวิ่งลงจากรถ...พุ่งไปยังฝั่งตรงข้าม…
ตอนนั้นเอง…
รถแลนด์โรเวอร์สีดำแล่นฉิวผ่านมา เห็นเฉินเสี่ยวเลี่ยนกำลังจะถูกชนก็ลดความเร็วลงทันควัน จากนั้นหักรถหลบไปด้านข้าง ทำให้หลีกเลี่ยงการชนตรงๆ ไปได้ แค่เฉียดเฉินเสี่ยวเลี่ยนไปเท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นเฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ยังล้มลงบนพื้น
รถแลนด์โรเวอร์จอดสนิท
หญิงสาวผมดำยาวที่สวมผ้าปิดปากไว้กระโดดลงมาจากฝั่งคนขับ สายตาเย็นชา สะกดกลั้นความโกรธไว้
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
หญิงสาวนั่งยองๆ ลงข้างเฉินเสี่ยวเลี่ยน
พอเห็นเเฉินเสี่ยวเลี่ยนลุกนั่ง หญิงสาวก็พูดเสียงดังด้วยความโมโห “คุณบ้าไปแล้วหรือไง!! วิ่งพล่านบนถนนทำไมหะ! อยากตายเหรอ? ต่อให้รีบแค่ไหนก็อย่าเอาชีวิตมาล้อเล่นสิ!!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนทำหน้ามึนมองหญิงสาว จู่ๆ ก็สายตาก็โฟกัสได้ “...พวกเรา...พวกเรารู้จักกัน!!!”
“หา?”
“สนามบิน! สนามบิน!!” เฉินเสี่ยวเลี่ยนร้องเรียงดัง เขากระโดดลุกขึ้น ไม่สนใจมือและหัวเข่าที่ถลอกปอกเปิก เขาจับไหล่ของหญิงสาวไว้ พูดด้วยความตื่นเต้นว่า “นอกสนามบิน! จำได้ไหม?”
“อ๊ะ! แกมันไอ้โรคจิตที่รังควานน้องสาวฉันนี่!” หญิงสาวถลึงตากลมโต
“น้องสาวเธอ...น้องสาวเธอ...” สีหน้าเฉินเสี่ยวเลี่ยนหม่นลง จ้องมองหญิงสาวไม่ละสายตา พูดเสียงสั่นและจริงจัง!
“ฉันถามอะไรหน่อย! เธอต้องตอบฉันนะ! มันสำคัญมาก! สำคัญสุดๆ จริงๆ!!”
ท่าทางของเฉินเสี่ยวเลี่ยนคล้ายกับทำให้หญิงสาวตื่นตระหนก “เธอ...เธอพูดอะไรน่ะ?”
“น้องสาวเธอ! น้องสาวเธอ...ชื่อซูซูหรือเปล่า?”
“...โรคจิตจริงๆ!! นายกล้าเหล่น้องสาวฉันเหรอ!! พูด...นายไปสืบชื่อเธอมาจากไหน!!”
หญิงสาวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ต่อยเข้าที่จมูกเฉินเสี่ยวเลี่ยนทีหนึ่ง เฉินเสี่ยวเลี่ยนล้มลงทันควัน แต่หญิงสาวยังใช้เท้าถีบซ้ำหลายที!
“ไอ้โรคจิต! ไอ้โรคจิต! กล้าเหล่เด็กไม่บรรลุนิติภาวะเหรอ!!!”
คนมาล้อมมุงดูรอบๆ อย่างรวดเร็ว...
จากนั้นตำรวจในเครื่องแบบก็แหวกฝูงคนเข้ามา “หยุดนะ! ห้ามตีกัน! หยุดเดียวนี้!”
……
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ณ สถานีตำรวจใกล้ๆ
เฉินเสี่ยวเลี่ยนมีสำลีก้อนหนึ่งอุดไว้ รอบดวงตาเขียวปั้ด นั่งอยู่ตรงนั้น
หญิงสาวที่ใส่ผ้าปิดปากนั่งลงตรงโต๊ะอีกตัว
“ไอ้หมอนั่นมันโรคจิต! มันแอบตามแล้วก็สืบข้อมูลน้องสาวฉัน! น้องฉันเพิ่งจะอายุสิบขวบ! เขาเป็นโรคใคร่เด็ก[1]!! พวกเราเจอกันที่สนามบินครั้งหนึ่งแล้ว ใครจะไปคิดว่าเขาจะตามมาตลอดทาง ไม่รู้ว่าหาฉันเจอได้ยังไง! คุณตำรวจคะ!!”
หญิงสาวพูดเสียงดังอย่างอารมณ์ขึ้น
ตำรวจที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอนั่งฟังเงียบๆ จนจบ พูดเรียบๆ ว่า “เอาผ้าปิดปากออก! ตอนนี้ลงบันทึกแจ้งความอยู่! ฉันถามอะไรเธอก็ตอบมา! อธิบายเรื่องที่เธอตีคนข้างถนนมาให้ชัดเจนก่อน”
“...” หญิงสาวสะกดอารมณ์เอาไว้ จ้องเฉินเสี่ยวเลี่ยนที่นั่งอยู่ไม่ไกลอย่างดุดัน
จากนั้นภายใต้สายตากดดันของตำรวจ เธอก็ถอดผ้าปิดปากออก
ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเยาว์วัย ซ้ำยัง...ดูสวยเกินคาด!
ใบหน้ารูปไข่ เครื่องหน้าดูอ่อนโยน จมูกโด่ง ตาทั้งสองเป็นประกาย ตอนนี้ดวงตาคู่นั้นกำลังสะกดกลั้นความโกรธเอาไว้
“ชื่ออะไร?”
“...เฉียวเฉียว เฉียวแบบคำว่าเฉียวมู่ แซ่เฉียว ชื่อก็ชื่อเฉียว” หญิงสาวทำปากยื่น พูดอย่างรวดเร็วว่า “อายุ 18 เลขประจําตัวประชาชนคือxxxxxx... อาชีพนักเรียน โรงเรียนมัธยมxxx อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่xxxถนนxxx...”
ตำรวจเงยหน้ามองเฉียวเฉียว “โห คล่องดีนี่” พูดพลางก็คีย์ข้อมูลบางอย่างอยู่หลังคอมพิวเตอร์ จากนั้นเงยหน้ามองเฉียวเฉียวทีหนึ่ง “ที่แท้ก็เคยมาก่อนนี่นา! ฉันดูประวัติเธอแล้ว ภายใน 1 ปีโดนกักตัวไว้ถึง 2 ครั้งเพราะว่าทะเลาะวิวาท ฮึ...ดูท่ายังไม่เข็ดใช่ไหม? คราวนี้ก็ตีชาวบ้านข้างถนนอีกแล้ว?”
เฉียวเฉียวกัดฟันไม่พูดอะไร
ตำรวจถอนหายใจ “เด็กสาวอย่างเธอฉันเห็นมาเยอะแล้ว อาศัยว่าตัวเองยังเด็กก็เลยมุทะลุ ฟังฉันนะสาวน้อย เธออายุ 18 แล้ว กฎหมายคุ้มครองผู้ยังไม่บรรลุนิติภาวะช่วยอะไรเธอไม่ได้แล้ว ทีหลังถ้ายังทำผิดอีก...”
“คุณตำรวจ!! เขาเป็นโรคจิตจริงๆ!! เขาคิดจะยุ่งกับน้องสาวฉัน!!”
เฉียวเฉียวกราดเกรี้ยว
เฉินเสี่ยวเลี่ยนนั่งอยู่ไม่ไกล สายตาจ้องมองนาฬิกาบนกำแพง ใจลอยไปไหนต่อไหน
ซูซู…
เด็กผู้หญิงคนนั้นชื่อซูซู!
เหอๆ...เหอๆ...ฮ่าๆๆๆ…
เฉินเสี่ยวเลี่ยนจะพูดอะไรได้อีก? เขายังจะหวังอะไรได้อีก?
ตั้งแต่แมวตัวนั้นออกมาจากกระเป๋าเดินทาง
ระหว่างทางเจอคนเข้ามาพูดจาแปลกๆ กับเขา…
สิ่งสุดท้ายที่ทำให้ความหวังในใจของเขาแตกสลายก็คือคำตอบของหญิงสาวคนนั้น
ซูซู!
ไม่ผิดสาวน้อยโลลิเกาหลีคนนั้นชื่อซูซูแน่นอน!!
นี่มันไม่มีทางคิดเป็นอย่างอื่นอีกแล้ว
ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มเยาะแปลกประหลาดขึ้นมา จากนั้น...จู่ๆ ก็ยืนขึ้น
เฉินเสี่ยวเลี่ยนพุ่งเข้าไปในห้องโถงสถานีตำรวจ ร้องตะโกนเสียงดัง
“เฮ้ย! อยู่ไหน? ไหนบอกว่าฉันหนีนายไม่ได้ไม่ใช่หรือไง? ได้! ฉันไม่หนีแล้ว! ฉันอยากจะคุยด้วยตอนนี้!!”
คนในห้องโถงหันมามองเด็กหนุ่มคนนี้ด้วยสายตาแปลกประหลาด
ตอนนั้นเองก็มีชายหนุ่มวัยกลางคนในชุดเครื่องแบบเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเฉินเสี่ยวเลี่ยน
“ยอมคุยแล้วเหรอ?”
“อือ” เฉินเสี่ยวเลี่ยนยิ้มขื่น “สงบใจได้แล้ว”
“ดี ตามฉันมาสิ”
ชายวัยกลางคนเดินนำเฉินเสี่ยวเลี่ยนเดินอาดๆ ออกไปจากห้องโถง
เฉียวเฉียวร้อนใจ “เขา… ทำไมเขาไปแล้วละ!?”
“เธอสนใจอะไรนักหนา? นั่นคือเจ้าหน้าที่ฝ่ายชี้แนะของพวกเรา! คงพาเขาไปตรวจบาดแผลมั้ง! สาวน้อย ตอบคำถามเรื่องเธอมาก่อน! ทำไมถึงไปทำร้ายคนล่ะ?”
…………………………
[1] โรคใคร่เด็ก (Pedophilia) เป็นความผิดปกติทางจิตที่ผู้ใหญ่หรือเด็กช่วงวัยรุ่นตอนปลาย มีความต้องการทางเพศเป็นหลักหรือจำกัดเฉพาะต่อเด็กก่อนวัยเจริญพันธุ์