ตอนที่ 6 : ความซื่อสัตย์และประนีประนอมกับผลกำไรอันเล็กน้อย(อ่านฟรี)
“อะไร!?” ซงฉิงเฟิง ตะลึงงัน เค้ากำลังมุ่งเน้นคิดทำการแผนการใหญ่ในหัวของเขาแต่แล้วเวลาเล่นเกมของเขาก็หมดลง
นี่เขาเล่นมานานเท่าไหร่แล้ว? รู้สึกเหมือนเพิ่งเริ่มต้น!
“เฮ้!!! นี่มีการจำกัดเวลาการเล่นด้วยหรอ?”
“มันเขียนอยู่บนกระดานดำข้างประตูแต่ละคนสามารถเล่นได้มากสุด 6 ชั่วโมงต่อวัน”
“6 ชั่วโมงหรอ?” เขามองไปทางซ้ายและขวาแล้วพูดว่า “นี่มัน 6 ชั่วโมงแล้วหรอ? ฉันฆ่าสัตว์ประหลาดไปไม่กี่ตัวเอง…”
เค้าใช้เวลามากมายในการต่อสู้กับซ่อมบี้และสุนัขซอมบี้รู้จักเขาไม่ต้องการให้พวกมันแตะต้องตัวเขาดังนั้นเวลาผ่านไปรวดเร็วจริงๆโดยที่เขายังไม่มีความสามารถคืบหน้ามากนัก
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!” ซงฉิงเฟิง ตะโกนออกมาทันที “กดแบบนี้คืออะไรฉันมีเงินทำไมฉันถึงเล่นไม่ได้”
“กฎก็คือกฎ”
“...” เป็นเจ้าของธุรกิจประเภทไหน? ทำไมเจ้าของธุรกิจถึงได้เตะลูกค้าที่ให้เงิน
เขากัดฟันของเขาและชูนิ้ว 2 นิ้วก่อนจะพูดว่า “ฉันจะเพิ่มเงินเป็นสองเท่า”
ฟีงฉียังคงนั่งนิ่ง
“ฉันจะเพิ่มเงินให้คุณห้าเท่า” ซงฉิงเฟิง ชูห้านิ้วขึ้นมา
“ห้า…” ดวงตาของฟางฉี เกือบหลุดออกจากเบ้าตาเมื่อได้ยิน ก่อนที่เขาจะพบกับระบบอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ทรัพย์สมบัติของเขารวมกันได้น้อยกว่าหนึ่งคริสตัล เขาไม่เคยเห็นเงินมากขนาดนี้มาก่อน!
เมื่อเขาได้ยินแบบนั้นเขาจึงก้มถามระบบทันทีว่า “เราทำผิดกฎซักเล็กน้อยจะได้ไหมเค้าเต็มใจจ่าย 10 คริสตันต่อชั่วโมงเลยนะ”
“ไม่!!!” ระบบไม่ยอมรับคำแนะนำจากฟางฉี “ในฐานะโฮสต์ของระบบ คุณต้องไม่ประนีประนอมเพื่อผลกำไรเล็กๆน้อยๆคุณต้องซื่อสัตย์สุจริต!”
“เชี้ย!!” ฟางฉีได้ยินเล่นนั้นแล้งรู้สึกแย่อยากมาก จนอยากจะกระอักเลือด (ดูเว่อ) นี่เขาเป็นเพียงเจ้าของร้านอินเตอร์เน็ตต้องมีความซื่อย์ขนาดนั้นเชียวหรือ?
เขามองไปที่ 10 คริสตัลในมือของซงฉิงเฟิงและปฏิเสธอย่างไม่เต็มใจ ย้ำถามระบบอีกครั้งว่า “ฉันทำไม่ได้จริงๆหรอ?”
ระบบไม่ตอบสนองในเวลานี้
“แม่ง!!!!” ฟางฉีกัดฟันปฏิเสธข้อเสนอของซงฉิงเฟิง
ในตอนนี้หวังใต้ ก็เล่นมานานพอสมควร เขามองไปที่ชายหนุ่มที่มีท่าทางหงุดหงิดและพูดกับฟางฉีว่า “ฉีดูเหมือนว่าชายคนนี้จะมาจากตระกูลที่มีชื่อเสียงนายแหกกฎเล็กน้อยให้เขาไม่ได้หรือ?”
ฟางฉีส่ายหัว
“นี่เจ้าหนุ่ม” ชายหนุ่มผ้าคลุมสีเท่ายิ้มเยาะแล้วเอ่ยขึ้นว่า “เขาอยากทำสิ่งนี้ หรือว่านายอยากให้ฉัน…”
“นายคิดว่านายเป็นใคร! ถอยกลับ!” ซงฉิงเฟิง ถลึงตาใส่ชายก่อนจะหันไปหาฟางฉี
ฟางฉี ไม่สามารถทำอะไรได้เค้าได้แต่หันไปมองที่กระดานดำที่แขวนอยู่ตรงประตู เขียนไว้ว่า :
[อย่าก่อปัญหาและอย่าสาปแช่งเจ้าของ ผู้ไม่ปฏิบัติตามกฎ ท่านจะถูกเตะออกไปตลอดกาล]
ซงฉิงเฟิง หันไปมองกระดานตามสายตาของฟางฉีและเห็นประโยคเหล่านี้ใบหน้าที่หล่อเหล่าของเขาเปลี่ยนสีทันที
เค้าไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับวิธีจัดการกับร้านอินเตอร์เน็ตนี้…
“ชายกล้บกันเถอะค่อยมาใหม่พรุ่งนี้”
“นายท่านเราจะไป… แบบนี้หรอ?” ก่อนที่ชายในชุดคลุมสีเทาจับพูดจบประโยค ซงฉิงเฟิงก็ชิงเปิดประตูออกไป
หลังจากที่ชายหนุ่มออกจากร้านมาเค้าได้พูดกับชายว่า “
ไปตามหาว่าเจ้าของร้านเป็นใครและเขามาจากที่ไหน”
“รับทราบ..”
เมื่อพวกเขาเดินจากไปหวังใต้ยิ้ม เอ่ยขึ้น “ฉี… วันพรุ่งนี้ฉันสอบแล้ว แต่ฉันยังไม่รู้ว่าจะผ่านหรือเปล่า นายคิดว่าฉันจะทำได้มั้ย...?”
ว้าว! เพื่อนคนนี้นี่ก็มีความเห็นอกเห็นใจเหมือนกัน
“นายเล่นมานานแล้วแต่ถ้าพรุ่งนี้นายสอบไม่ผ่านในอนาคตนายจะได้เป็นนักรบหรอ?”
หวังใต้รู้สึกเสียหลักเมื่อได้ยินคำพูดจากฟางฉี เพื่อนคนนี้นี่มันจริงๆเล้ย!
เขาไม่มีทางเลือกนอกจากเดินออกจากร้านยังท่าทางเศร้าๆและเตรียมตัวสอบในวันรุ่งขึ้น
…
ฟางฉีกลับมาอยู่คนเดียวอีกครั้ง ไม่มีใครอยู่รบกวนเขาจึงกลับเข้าไปเริ่มเล่นเกมอีกครั้ง
คฤหาสน์นั้นเต็มไปด้วยกับดักและซอมบี้ แม้ว่าสัตว์ประหลาดทุกประเภทจะดูอ่อนแอ แต่ใน Resident Evil พวกมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ถ้าไม่มีใครยิงซอมบี้พวกเขาก็จะบ้าคลั่งไปหมด และยิ่งไปกว่านั้นหลังจากเล่นไประยะหนึ่งผู้เล่นจะได้พบกับนักล่า นักผจญภัยในสถานการณ์ที่เหมือนจริงซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะเคลียร์เลเวลเกมในระบบที่ทำขึ้นใหม่
ในระบบที่สร้างขึ้นใหม่การฆ่าสัตว์ประหลาดจะให้คะแนนประสบการณ์แก่ผู้เล่น ดังนั้นซอมบี้ส่วนใหญ่จะต้องถูกฆ่าก่อนที่ผู้เล่นจะตาย เพื่อที่ผู้เล่นจะได้เลื่อนขั้นขึ้น ด้วยเหตุนี้การใช้ปืนสั้นจึงสะดวกต่อกันปลิดชีพ!
หากผู้เล่นต้องการเคลียร์เลเวล ไม่เพียงแต่จะต้องมีความสามารถในการยิงซอมบี้ทั้งหมดพวกเขายังต้องมีความสามารถในการฆ่าซอมบี้ด้วยกิจหรืออาวุธอื่นๆโดยไม่ได้รับบาดเจ็บนอกจากนี้ผู้เล่นยังต้องต่อสู้กับนักล่าระยะประชิดด้วย
Headshot หรือการยิงหัว ในเวอร์ชั่นนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนกดปุ่ม แต่ ผู้เล่นต้องเด็ดหัวซอมบี้เพื่อฆ่ามัน!
หากผู้เล่นใช้ปืนพกพวกเขาจะต้องยิงหัวซอมบี้หลายหลายครั้งเพื่อฆ่ามัน!
แต่หากใช้มีดสั้น
ฟางฉี ก้มลงรางกับเป็นเสือจากัวร์พร้อมที่จะกระโจนเข้าหาเหยื่อ เขาค่อยๆย่องไปข้างหน้าซอมบี้อย่างเงียบๆ
เขาอยู่ห่างซอมบี้แค่เพียงหนึ่งเมตร เขายิงปืนขึ้นแล้วหยิบกริชออกมาแทงเข้าขมับของซอมบี้ เขายังไม่พอใจกับการโจมตีเช่นนี้ เนื่องจากเขาเห็นว่าซอมบี้ยังคงดิ้นทุรนทุราย!
มันยังไม่ตาย!
เขาถือกริชและแทง ฉึบ! ฉึบ!! ฉึบ!!! ด้วยพลังทั้งหมด
หลังจากกระตุกเป็นพิธีสองสามวิ ซอมบี้ก็ร่วงลงพื้น
พลังงานอบอุ่นไอจากซอมบี้เข้าไปในตัวฟางฉี : เขาออกมาหน้าหลักตัวละครพบว่าตอนนี้เขาอยู่ในเลเวล 9
ยิ่งระดับสูงขึ้นเท่าไรก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้ระดับของฟางฉี มากกว่า หวังใต้และซงฉิงฟงเป็น 2 เท่า
การเพิ่มขึ้นของระดับสะท้อนให้เห็นทักษะในชีวิตจริงทั้งด้านพลังและความเร็วของฟางฉี ซึ่งอาจสูงกว่า ซงฉิงเฟิง เล็กน้อย ซงฉิงเฟิงผู้ที่เกิดมาในครอบครัวที่มีคนเคารพนับถือ มีขื่อเสียง และฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่ยังเด็ก!
ฟางฉีสบัดเลือดที่ติดอยู่บนกริชออกเขายังคงมุ่งหน้าค้นหาสัตว์ประหลาดในคฤหัสถ์ต่อไป นั่นสัตว์ประหลาดมีเกล็ดก็ปรากฏขึ้น ก้ามใหญ่ของมันนั้นคมและพร้อมที่จะปลิดชีพเขา!
นักล่า!
หัวใจของฟางฉีเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะนี่เป็นสัตว์ประหลาดที่เอาชนะยากที่สุดในเกม Resident Evil One! เขาจำได้ว่าตอนเขาเริ่มเล่นเกมนี้เป็นครั้งแรก เมื่อใดก็ตามที่ HP ของเขาจกอยู่ในสถานะ ‘สีเหลือง’ เค้ามักถูกกรงเล็บของนักล่าตบตายในพริบตา! จากสัตว์ประหลาดทั้งหมดนักล่าเป็นตัวเดียวที่น่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ!
เขาเกินน้ำลายลงคอพร้อมมือที่ถือกริช!
แทนที่จะใช้ปืน เขาตัดสินใจที่จะต่อสู้กับมันด้วยกริช
ไม่ใช่ทุกคนที่ร่ำรวยและหยิ่งทนงอยากรู้อยากเห็นเหมือนอย่างซงฉิงเฟิง หลังจากที่เขาและหวังใต้ออกจากของฟางฉีไปแล้ว ในตอนเย็น ได้มีชายหนุ่มชุดดำคนหนึ่งเดินเข้าไปในร้าน แล้วเปิดประตู เอ่ยขึ้น “ท่าน!” ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงถามว่า “ร้านของท่านทำอะไร?”
"คุณสามารถเล่นเกม Resident Evil ที่นี่" ฟางฉีกล่าว พร้อมชี้ไปที่คอมพิวเตอร์ของเขา "คุณอยากลองไหม?"
"เกม?" ชายหนุ่มมอง ฟางฉีด้วยท่าสายแปลก ๆ และเอ่ยถามว่า "ฉันจะเล่นได้ยังไง ราคาเท่าไร?"
ฟางฉี ชี้มือไปที่กระดานดำข้างประตู
"คริสตัล?" สีหน้าของชายหนุ่มซีดลง เขาหลังกลับทันที ในขณะที่เขาเดินออกมาเขาสบถ "ไม่คุ้มค่าเลยจริงๆ!"
“...” ใบหน้าของฉีดูตึงๆ
เย็นวันนั้นก็มีไม่กี่คนเข้ามาในร้านของเขา แต่ก็ไม่มีใครร่ำรวยและอยากรู้อยากเห็นเหมือนซงฉิงเฟิง
ฟางฉีถอนหายใจและกลับไปเล่นเกมของเขา เขาเล่นเพลินจนถึงตี 3 หรือมากกว่านั้น
บนหน้าจอคอมพิวเตอร์คริสเต็มไปด้วยบาดแผลขนาดต่างๆทั่วร่างกาย นักล่าที่ แต่ถึงอย่างนั้นนักล่าที่มีเลือดไหลออกมามากมันก็ยังไม่ตาย “คืออะไรวะแม่ง!!!”
มันอาจสายไปสำหรับฟางฉี ที่เล่น มาครึ่งวันรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของเค้าลดลงต่างจาก ซงฉิงเฟิง เขาจะสู้ทุกครั้งที่เจออะไรยากๆ
เพื่อที่จะได้สัมผัสกับความตื่นเต้นของการค่านักล่าเค้าไม่เคยออกเกมเว้นแต่ว่าเค้าจะตาย แต่ถึงอย่างไรเค้าอาจจะไม่สามารถชนะได้แม้ว่าเขาจะเล่นถึงจุดนี้
หลังจากออกเกมแล้วฟางฉีรู้สึกหมดแรงที่จะเอาชนะการฆ่าสัตว์ประหลาดทำให้เขารู้สึกเหนื่อยทั้งกายและจิตใจ เขาไม่ใช่คนที่จะเล่นเกมส์ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวันดังนั้นเขา จึงตัดสินใจปิดร้านและเข้านอน