ตอนที่แล้วตอนที่ 1 : สุดยอดระบบอินเตอร์เน็ตคาเฟ่(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 : ประสบการณ์การเล่นเกมของหวังใต้(อ่านฟรี)

ตอนที่ 2 : Resident Evil One : สร้างขึ้นใหม่ภาคเสมือนจริง(อ่านฟรี)


ฟางฉี ดึงแขนเสื้อของเขาเบาๆ แล้วมองไปที่เขา เอ่ยถามเขาว่า “นายมีปัญหาอะไรกับมันหรือเปล่า?”

 

หวังใต้ถามกลับว่า “นายจำได้มั้ยว่า สำนักหลิงหยวนจะมีการสอบเข้าพรุ่งนี้ ใกล้ถึงเวลาแล้วคุณได้สมัครสอบหรือยัง” ฟางฉี จับมือของเขา และเอ่ยขึ้นว่า “ฉันไม่ไป ฉันต้องคิดว่าฉันต้องไปร้าน”

 

“ทำไมต้องไปร้าน?” หวังใต้มองไปขณะหนึ่งระหว่างที่มองฟางฉีกำลังเล่นเกม จึงเอ่ยถามไปว่า “นายยอมแพ้แล้วหรอ?”

 

เขาหัวเราะเบาๆ และดึงเก้าอี้มานั่ง “มันอาจะเป็นเรื่องดีที่นายคิดจะยอมแพ้” ถึงมันจะไม่ใช่สิ่งที่นายชอบ แต่มันควรจะเป็นในความคิดฉัน อย่าเสี่ยงเอาทุกอย่างหรือลงทุนลงแรงไปกับสิ่งเดียวถ้าหากพลาดจะทำให้เสียทุกอย่างไปหมด

 

เขายื่นมือเขาที่มีขนาดเท่าแครอทออกมา “ฉันคิดว่าการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ไม่ได้ดีไปกว่าการทำฟาร์ม พ่อฉันบอกว่าถ้าปีนี้ฉันทำไม่ได้ เขาจะส่งฉันไปเรียนโรงเรียนสอนวิชาการ”

 

หวังใต้พูดโน้มน้าวใจ ตื้ออยู่อย่างนั้น แต่ถึงอย่างไรฟางฉีก็ได้แต่เมินเฉย เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้และตอบเพื่อนว่า “ฉันไม่ได้ยอมแพ้...ฉันไม่ได้อยากไปที่นั้นตั้งแต่แรก”

 

“นายหมายถึงอะไร?” หวังใต้สับสนในสิ่งที่ฟางฉีพูด เขาจำได้ว่าฟางฉีเคยสาบานว่าจะเข้าสำนักหลิงหยวนและบางอย่างเพื่อตัวเอง

 

เขาเปลี่ยนไปแล้วจริงๆหรอ?

 

ฟางฉีนั่งลงแล้วชี้ไปที่หน้าคอม “ดูนี่สิ”

 

หวังใต้เกาหัวตัวเอง เอ่ยขึ้นว่า “ฉันยังไม่ได้ถามนายเลย ว่าแต่ร้านใหม่ทำอะไรนี่? แล้วนี่ นี่อะไร?”

 

“นี่เรียกว่าคอมพิวเตอร์” ฟางฉีกล่าว “มันคือจิตวิญญาณ ยังทำอะไรไม่ได้มาก มีแค่เกมเกมหนึ่งเรียกว่าเกม Resident Evil One”

 

“เกม?” หวังใต้คิดถึงเสียงหัวเราะและเกมที่เขาเคยเล่นเมื่อสมัยยังเป็นเด็ก “นี่เรายังไม่แก่เกินเล่นเกมใช่มั้ย?”

“ทำไมนายไม่ลองเล่นละ?” ฟางฉีก็ไม่สามารถอธิบายได้ชัด เขาชี้ไปที่กระดานดำ “แต่นายต้องจ่ายก่อนนะ”

“ก็แค่เงินน่า เราเป็นเพื่อนกันมานานแค่ไหนแล้ว?” หวังใต้มองไปที่กระดานดำแล้วหัวเราะออกมา “เจ็ดคริสตัลต่อชั่วโมง? นายต้องล้อเล่นฉันเล่นแน่ๆ!”

 

แม้ว่าคนที่นี่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาของโลกคำนวณเวลาเป็นหลัก แต่หวังใต้ก็รู้ว่า คำว่า ‘ชั่วโมง’ มีความหมายว่าอย่างไร

 

(ผู้แปล: เวลาของโลก 1 ชั่วโมง เท่ากับที่นี่ประมาณ 2 ชั่วโมง)

 

ครอบครัวของเขาร่ำรวยมากเพราะเป็นเจ้าของร้านอาหารในเมืองใหญ่เมืองนี้ แต่ถึงอย่างนั้นคริสตัลเจ็ดก้อนก็ยังคงเป็นจำนวนที่มาก โดยเฉพาะเด็กหนุ่มอย่างเขาที่ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง!

 

“ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะราคานั้นน่ะ” ฟางฉีกล่าวอย่างจริงจัง

เมื่อเห็นสีหน้าของฟางฉี หวังใต้ก็รู้สึกผิดหวัง “ฉีเอาจริงๆ ฉันช่วยเหลือนายแล้ว ทำไมนายถึงคิดราคาฉันแพงขนาดนั้นละ?”

 

ฟางฉี คาดเดาเหตุการณ์ไว้แล้วว่าต้องมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เขาจึงอธิบายว่า “ทำไมฉันคิดราคาแพงน่ะหรอ เอางี้ถ้านายเชื่อใจฉันแค่จ่ายคริสตัลมา แต่ถ้าหากนายไม่พอใจฉันจะคืนเงินทั้งหมดให้”

 

เมื่อหวังใต้ได้ยินแบบนั้นแล้วก็หวั่นใจเล็กน้อย “จริงๆหรอ?” เขาเหลือบตามองไปทางฟางฉีเล็กน้อยก่อนจะดึงเก้าอี้และนั่งลง เนื่องจากเขาสามารถรับเงินคืนได้ ลองเล่นเกมสักหน่อยจะเป็นไรไป

 

เขาหยิบคริสตัลที่เป็นประกายออกมาเจ็ดเม็ดแล้ววางมันลงบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ “ฉันจะลองเล่นเกมดู ไม่ว่าจะเป็นยังไง ฉันจะไม่ยอมเสียเจ็ดคริสตัลไปโดยที่ไม่คุ้มหรอก!”

 

เขาจะเอาเงินนี้ไปติดสินบนผู้คุมสอบในวันพรุ่งนี้ สำหรับตอนนี้เอาไว้บนโต๊ะแบบนี้ละโอเค ฟางฉีดูอ่อนแรงมากจากการต่อสู้ ทักษาะของพวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน!

 

ความจริง เขาไม่ได้คิดเลยว่าเกมไหนๆจะมีค่าเท่าเงินขนาดนี้ แต่สิ่งที่เขาอยากรู้คือการค้นหาว่าฟางฉีกำลังทำอะไรอยู่กันแน่

 

ฟางฉีไม่ได้โกรธ แต่กลับหัวเราะในสิ่งที่เขาพูด “แน่นอนฉันสัญญากับนายแล้วว่าจะคืนเงินให้นายถึงแม้ว่านายจะไม่พอใจเพียงเล็กน้อยก็ตาม”

 

“เฮ้โย่!” หวังใต้ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีหลังจากมองไปที่ ‘สิ่งประดิษฐ์จากจิตวิญญาณ’ สีดำบนโต๊ะก่อนจะหันไปหาฟางฉี

เขากล่าวว่า “ฉัน! หวังใต้ จะหาให้เจอว่าเกมนี้มันให้อะไรกับนายมั่นใจได้เลย!”

 

เขายืนขึ้นแล้วจับเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ มันไม่ได้หนักมากจนเขาอดที่จะถามไม่ได้ว่า “มันจะไม่พังใช่มั้ย?”

“เล็กไป?” ฟางฉีถาม ด้วยลำตัวผอมของเขา เขาดึงเก้าอี้มาวางด้วยกันและเอาที่วางแขนออก ทันทีที่เอาออกก็เปลี่ยนเป็นเก้าอี้ขนาดใหญ่

 

หวังใต้ยิ้ม “นี่สิ ดีกว่าเดิม” หลังจากที่ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ หวังใต้สังเกตุว่าถึงแม้เก้าอี้นั้นจะเบาแต่เมื่อเขาทิ้งตัวลงก็ไม่มีสั่นค่อนสักนิด!

ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ โต๊ะ แม้กระทั่งป้ายด้านนอก ล้วนมีจัดเป็นระบบอย่างดี ไม่แปลกใจที่คนส่วนมากมักจะชมว่าระบบสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้เสมอ! เก้าอี้โต๊ะและบอร์ดของพวกนั้นดูแข็งแรงมาก คล้ายว่าแผ่นดินไหวก็ไม่ทำให้สั่นคลอนได้

 

ผู้คนในโลกใบนี้ไม่รู้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นยังไงและการเล่นเกมบนเครื่องสเมือนจริงคืออะไร?

เนื่องจากฟางฉีเปิดเพิ่งร้าน และเขาก็ได้ตัดสินใจว่าจะสอนวิธีการใช้งาน

หวังใต้ คลิกเปิดเกม Resident Evil One และเปิดเครื่องของเขา

 

[Resident Evil!]

 

หวังใต้รู้สึกถึงความหนักหน่วงจากอนิเมชั่นและเสียงเพลงเปิดตัวของเกมที่ฟังดูแล้วน่าขนลุก ฟางฉีได้ช่วยเขาโหลดตัวช่วยในการเล่นเกมและเริ่มเข้าเกมอย่างรวดเร็ว

 

อนิเมชั่นนั้นดูเสมือนจริงอย่างเหลือเชื่อ หวังใต้รู้สึกว่า เขาดูจอคอมพิมเตอร์ผ่านๆ แต่เสมือนจริงมาก เหมือนว่าเห็นแผนที่และตัวเขาเอง นี่ฉันไม่ได้ตาฝาดไปนะ!

 

แม้ว่าเกมนี้จะถูกสร้างขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ แต่ทุกอย่างถูกแปลเปลี่ยนเป็นภาษาของผู้เล่น ดังนั้นหวังใต้จึงว่างใจและเขาก็เข้าใจทุกอย่างมากขึ้น

 

Resident Evil One เกิดขึ้นในคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยซอมบี้ ซึ่งนั่นคือ จุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดของเชื่อโรคอันตรายทั้งหมด

 

‘คฤหาสน์’ เป็นบ้านพักชราซึ่งคฤหาสน์หลังนี้ก่อตั้งโดย บริษัท อัมเบรลล่า ในเมืองแร็คคูน พร้อมห้องปฏิบัติการทางชีวเคมีลับในห้องใต้ดิน

 

ฉากแรกคือ ทีมอัลฟ่ามุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์หลังนี้โดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อค้นหาสมาชิกของทีมบราโว่

 

“นี่คืออะไร?” สิ่งประดิษฐ์ใหม่ทางจิตวิญญาณที่บินได้? หวังใต้ประหลาดใจกับเฮลิคอปเตอร์ที่บินอยู่ในอากาศด้วยความอยากรู้ “นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของผู้สร้างทางจิตวิญญาณหรอ?”

 

เขาคิดไปเรื่อยเปื่อย หรือว่าเพื่อนเรามีพลังจากที่พ่อปลูกฝังมากันนะ? สิ่งนี้มันดูสมจริงสุดๆ! แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังไม่ส่งมอบคริสตัลด้วยความเต็มใจแน่นอน!

 

ทันทีที่เกมเริ่ม เสียงดังขึ้นในหูของเขา “คุณต้องการเข้าสู่โหมดเสมือนจริงหรือไม?”

 

“ใช่!”

 

“กรุณาคลิก [Enter]”

 

“คลิ้ก!” หวังใต้กดตกลง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกทันทีว่าตอนนี้วิวทิวทัศรอบตัวเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว!

 

เขารู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าเขาอยู่ห่างแค่ปลายนิ้ว! เขารู้สึกเหมือนเขาสามารถสัมผัสทุกสิ่งได้

เขาเป็นเหมือนวิญญาณที่ล่องลอยหลงอยู่ในความมืด ข้างหน้ามีแต่ความมืดมิดและเขาเห็นเพีลงแค่คนห้าคนซุ่มอยู่ในความมืด

 

ฟางฉี รู้จักพวกเขา พวกเขาเป็นสมาชิกของทีมอัลฟ่าใน Resident Evil One!

 

“โอ้พระเจ้าช่วย!!” หวังใต้สะดุ้ง กระโดดขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความหวาดกลัว “ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?”

 

“อย่าเสียงดังสิ!” ฟางฉีอดไม่ได้ที่จะหันไปดุหวังใต้ “ถ้านายคิดจะออก ตัวเลือกก็จะขึ้นมา นี่แหละที่เขาเรียกเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง”

เทคโนโลยี VR ที่ระบบจัดไว้ให้นั้นล้ำหน้้าไปมากกว่าเทคโนโลยีในโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ ไม่แปลกใจที่หวังใต้จะกลัว

 

หวังใต้คิดคำว่า ‘ทางออก’ ในใจของเขา หน้าจอจึงปรากฏแสงพิเศษขึ้นต่อหน้าเขา

 

[คุณต้องการออกหรือไม่]

 

เข้ารู้สึกกังวลใจ เขาคลิก [ออก] เขาออกเกมอย่างรวดเร็วและถอดชุดหูฟัง VR ออก จากนั้นเขามองไปรอบๆ “นี่… นี่ฉันออกมาแล้วจริงๆหรอ?”

 

เพียงไม่กี่วิ เขาจ้องมองไปที่ฟางฉีอย่างงุนงง เอ่ยถามว่า “นายแน่ใจนะว่านี่ไม่ใช่อีกโลกที่ฉันไปมา?”

 

มันไม่ใช่ความผิดของเขาที่คิดถามคำถามนี้ เพราะสิ่งที่เขาเห็นนั้นเหมือนจริงมากจนรู้สึกเหมือนว่าเขาอยู่ที่นั่นเจอเหตุการณ์นั้นเหมือนทุกสิ่งเพิ่งเกิดขึ้น!

 

ฟางฉี ชี้ที่ตัวเองและถามว่า “นายคิดว่าฉันมีความสามารถมากพอที่จะสร้างโลกเกมทั้งโลกให้นายเล่นหรอ?”

 

หวังใต้ส่ายหัวทันที “ไม่!”

 

เขาไม่เคยเห็นอะไรที่วิเศษเสมือนจริงขนา่ดนั้นเลย เขาจึงถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “นายแน่ใจนะ... ว่านั้นเป็นแค่เกมจริงๆ?”

 

“แน่นอนสิ เกมนี้มีชื่อว่า Resident Evil One : สร้างขึ้นใหม่ภาคเสมือนจริง” ถึงแม้ว่า Resident Evil One จะเป็นเกมเก่า ปี 1990 แต่ระบบของฟางฉีจะตัดส่วนที่ไม่ชัดเจนออกและเหลือส่วนที่น่ากลัวไว้ทั้งหมด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด