บทที่ 31 สำเร็จภารกิจ
บทที่ 31 สำเร็จภารกิจ
กลับไม่มีความรู้สึกถูกช่วงชิงสติไปอย่างที่คิดไว้
แค่รู้สึกเหมือนกับเมามาย ศีรษะหนักอึ้งไม่แจ่มใส ปฏิกิริยาตอบรับของร่างกายก็เชื่องช้าเล็กน้อย เฉินเสี่ยวเลี่ยนพยายามยืนให้มั่นคง ทว่าพอก้าวเดินกลับรู้สึกว่าตัวเองโงนเงนไปมา
“นี่มัน... อะไรกัน?”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนงึมงำ
จากนั้นเขาก็ได้ยินปากตัวเองพูดออกมาว่า “เลิกพล่ามได้แล้ว เดินไปข้างหน้า ไปหาเสาหิน”
เฉินเสี่ยวเลี่ยวรู้สึกตัวเบาโหวง เหมือนเป็นคนเมาก็ไม่ปาน ศีรษะหนักขึ้นเรื่อยๆ คล้ายจะหลับวูบไป แต่ว่าเขาพยายามประคองสติอันน้อยนิดไว้ กัดฟันแน่น ประคับประคองสติสัมปชัญญะอันแสนน้อยนิดนี้ไว้ให้แจ่มใส!
เห็นได้ชัดว่า...ต่อให้พยายามช่วงชิง แต่อามอนก็ไม่สามารถกลืนกินสติของตัวเขาได้จนหมดในทันที แต่ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
ดูท่า...คงเป็นเพราะวิญญาณมันถูกผนึกไว้ ผู้พิทักษ์วิญญาณที่อยู่ด้านนอกนี้จึงใช้พลังได้เพียงเล็กน้อย
ทันใดนั้นเฉินเสี่ยวเลี่ยนก็ฉุกใจขึ้นมา ‘บางทีมันอาจจะไม่แข็งแกร่งอย่างที่คิด!’
มือทั้งคู่ลูบคลำอยู่บนเสาหินต้นหนึ่ง เสาหินเย็นเฉียบ ไม่มีความรู้สึกอื่นใด
เฉินเสี่ยวเลี่ยนฝืนส่ายหัวไปมา เขาได้ยินเสียงปากของตัวเองพูดด้วยเสียงที่ไม่คุ้นเคยออกมาว่า “รีบไปที่ต้นถัดไป สิ เร็วเข้า!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเห็นขาตัวเองก้าวออกไป… คราวนี้คล้ายกับว่าเขาสูญเสียการควบคุมขาทั้งสอง แม้จะเดินโซเซโงนเงนไปมา แต่ก็เห็นได้ชัดว่าดีกว่าตอนแรกเริ่มมากทีเดียว
นี่เป็นสัญญาณที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก
เห็นได้ชัดว่าอามอนค่อยๆ เข้าครอบครองการควบคุมของร่างกายตัวเขาอย่างช้าๆ และสติสัมปชัญญะของตัวเขา กลับเริ่มควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ
บางที...อาจจะใกล้ถูกกลืนกินจนหมดสิ้นแล้ว
“เลิกต่อต้านสักที” เฉินเสี่ยวเลี่ยนคล้ายกับพูดพึมพำอยู่กับตัวเอง ถึงแม้เสียงจะเป็นเสียงของเขา แต่น้ำเสียงกลับเป็นของอามอนอย่างชัดเจน “เจ้ายิ่งต่อต้านยิ่งยั่วโมโหข้า ถ้าหากเจ้าเชื่อฟังข้าดีๆ จะพิจารณาปล่อยเพื่อนทั้งสามของเจ้าในตอนสุดท้าย”
“จริงเหรอ?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนหัวเราะเสียงขื่น เขาฝืนยกแขนขึ้นมา เดินไปลูบเสาหินที่อยู่ใกล้ตนที่สุด
ดูเหมือนว่าอาการคล้อยตามนี้ทำให้อามอนพอใจอย่างมาก แต่ว่าเสาหินต้นนี้ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับใดๆ เช่นกัน
ในที่สุด หลังจากทั้งสองตรวจสอบเสาหินไปได้สิบกว่าต้นแล้ว...
ตอนที่เฉินเสี่ยวเลี่ยนลูบคลำไปบนเสาหินต้นนี้ก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกเย็นยะเยือกในทันใด! มีความหนาวเหน็บแทรกเข้ามาจากเสาหิน เหมือนกับว่ามันทะลุผ่านมือ หัวไหล่ เพียงครู่ก็ทะลุเข้าไปถึงก้นบึ้งของจิตวิญญาณ ทำเอาเขาหนาวสะท้าน
“ที่นี่แหละ!”
ปากของเฉินเสี่ยวเลี่ยนเปล่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของอามอนออกมา “เร็วเข้า! เอากระบองนั้นมา!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนหันกลับไป ยิ้มขื่นพูดกับหานปี้ว่า “หยิบกระบองนั้นมาหน่อยสิ”
หานปี้อึ้งไป จากนั้นก็คล้ายกับว่าเห็นเฉินเสี่ยวเลี่ยนส่งสายตาบางอย่างให้ตน
หานปี้สังเกตเห็นว่าสายตาของเฉินเสี่ยวเลี่ยนหยุดอยู่ที่ดาบคมหิมะบนพื้นครู่หนึ่ง ถึงแม้จะชั่วพริบตา แต่หานปี้ก็จับสังเกตได้
หานปี้ดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่งก็ก้มเก็บดาบคมหิมะขึ้นมาได้แล้วก็หยิบกระบองทองขึ้นมาด้วย เขาเดินมาทางเฉินเสี่ยวเลี่ยน ตอนที่กลิ้งกระบองส่งให้เฉินเสี่ยวเลี่ยนนั้น เฉินเสี่ยวเลี่ยนก็รู้สึกว่ามือของตนไม่รับคำสั่งแล้ว อามอนควบคุมแขนของตัวเขาไว้ได้แล้ว
กระบองทองถูกยกขึ้น จากนั้นก็…
เคาะลงบนเสาหินเบาๆ
ทันใดนั้นก็มีแสงสีเขียวเต็มไปหมด! เสาหินระเบิดแสงสีเขียวออกมาจนล้อมเฉินเสียวเลี่ยนไว้ตรงกลาง หลังจากเสียงปริร้าวใสกังวาน
เสาหินต้นนี้ก็คล้ายกับว่าเป็นแก้วแตกก็ไม่ปาน ด้านบนเกิดรอยปริแยกขึ้นอย่างรวดเร็วรอยหนึ่งและลุกลามไปทั่วอย่างฉับไว
เพล้ง!!
ตอนที่เศษหินแตกกระจัดกระจาย เฉินเสี่ยวเลี่ยนอ้าปากค้างมองแสงสีเขียวนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าสู่ร่างกายของตนเองอย่างบ้าระห่ำ!
“ชีวิต! ความรู้สึกของการมีชีวิต! นี่คือความรู้สึกของการมีชีวิตอันสดใหม่!!!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนแหงนหน้าอ้าปากหัวเราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นยะเยือกของอามอนอาศัยปากของเฉินเสี่ยวเลี่ยนร้องตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง “มีชีวิตแล้ว! ในที่สุดข้าก็มีชีวิตอีกครั้งแล้ว! รสก้อนหินอันน่ารังเกียจพวกนั้นอยู่ห่างจากข้าแล้ว!! ฮ่าๆๆๆ!!! ชีวิตอันสดใหม่ เนื้อหนัง...เส้นเลือด หัวใจที่เต้นตึกตัก! ฮ่าๆๆๆๆๆ!!! ข้ามีชีวิตอีกครั้งแล้ว!!!”
สติของเฉินเสี่ยวเลี่ยนเบาบางลงเรื่อยๆ เขารู้สึกได้ว่าการควบคุมร่างกายของตนเริ่มลดน้อยถอยลง คล้ายกับว่าครึ่งค่อนตัวไม่มีความรู้สึกใดๆ แล้ว!
เขารู้สึกถึงความหนาวเย็นสายหนึ่งที่เข้าถึงตำแหน่งต่างๆ ในร่างกายเขาในชั่วพริบตา จากนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว
“แก...พอใจแล้ว?” เฉินเสี่ยวเลี่ยนเฉินเสี่ยวเลี่ยนกัดริมฝีปาก
“ฮ่าๆๆๆ! ข้าพอใจมาก” เสียงหัวเราะของอามอนฟังดูได้ใจ
“พอใจแล้ว? ถ้าอย่างนั้น...” จู่ๆ เฉินเสี่ยวเสี่ยนก็สูดลมหายใจลึก นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่เขาทำได้หนึ่งในไม่กี่อย่างในตอนนี้ “...งั้นก็...ตายซะเถอะ!!!”
ตอนนั้นเอง เฉินเสี่ยวเลี่ยนรีบดึงสติสัมปชัญญะอันเบาบางขึ้นมาอย่างสุดกำลัง ชั่วพริบตาเขาก็แย่งชิงการควบคุมเท้าข้างหนึ่งของตนเองคืนมาได้ จากนั้นก็กระโจนทั้งตัวไปทางตำแหน่งที่หานปี้ยืนอยู่อย่างสุดแรง!
“หานปี้!! ฆ่าฉันซะ!!!”
หานปี้อึ้งไป เขายกมือข้างที่ถือดาบคมหิมะขึ้นโดยสัญชาตญาณ…
เฉินเสี่ยวเลี่ยนพุ่งเข้าใส่คมดาบทันที!
อามอนกรีดร้อง “เจ้าจะทำอะไร!!”
ลำตัวเฉินเสี่ยวเลี่ยนคล้ายถูกบิด แม้พยายามยืนให้มั่นคง ทว่าเวลานี้ร่างภายที่อยู่ภายใต้การปะทะกันของสติสัมปชัญญะทั้งสองก็ล้มเข้าหาคมมีด!
ฉัวะ!!
เฉินเสี่ยวเลี่ยนเห็นกับตาตัวเองว่า...ข้อมือขวาของเขาพาดผ่านคมดาบไป! แรงผลักของน้ำหนักตัว รวมเข้ากับความคมของดาบคมหิมะที่มีอยู่แต่เดิม ทำให้ข้อมือขวาของเขาถูกตัดขาดในทันที!!
ตึง เฉินเสี่ยวเลี่ยนล้มลงบนพื้นอย่างแรง!
อามอนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด!
นี่มันบ้าบอคอแตกสิ้นดี
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าข้อมือของตัวเองถูกตัดขาด เห็นอยู่ชัดๆ ว่าปากของตัวเองกำลังส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน แต่ว่าสติสัมปชัญญะของตัวเฉินเสี่ยวเลี่ยนเองกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจเลย
เขาไม่สามารถทำอะไรได้อีก ส่งเสียงร้องตะโกน “หานปี้้ี! รีบลงมือเร็วเข้า! ฆ่าฉันซะ! มันออกไปจากร่างของฉันไม่ได้แล้ว!!”
หานปี้จึงได้สติกลับมาทันควัน เขามองเฉินเสี่ยวเลี่ยนอย่างลึกซึ้ง...เขามองเห็นความเด็ดขาดจากแววตาของเฉินเสี่ยวเลี่ยน!
หานปี้เงื้อมือขึ้นแล้วแทงดาบลง!!
กิ๊ง!!
ร่างกายของเฉินเสี่ยวเลี่ยน มือซ้ายยกกระบองทองขึ้นป้องกันดาบของหานปี้ไว้!
อามอนกรีดร้องด้วยความหวาดผวา “ไม่ถูก! ไม่ใช่แล้ว!! ทำไมร่างกายเจ้าอ่อนแอเช่นนี้!!!!”
สติสัมปชัญญะของเฉินเสี่ยวเลี่ยนเลือนรางลงเรื่อยๆ แต่เขากลับหัวเราะฮ่าๆ “ไอ้โง่...ฉันเผาสเตตัสทิ้งไปหมดแล้ว...ฉันในตอนนี้แข็งแรงกว่าคนใกล้ตายแค่นิดหน่อยเท่านั้น หานปี้! นายรออะไรอยู่! ฆ่าฉันซะ! แล้วก็จะเคลียร์ดันเจี้ยน!! ฆ่าผู้พิทักษ์วิญญาณซะ!!!”
หานปี้น้ำตาอาบหน้า สองมือของเขายกดาบขึ้น ตะโกนเสียงดัง “ขอโทษนะ!! เฉินเสี่ยวเลี่ยน!!!”
คมดาบที่ส่องประกายหิมะทิ้งดิ่งลง!!
อามอนดิ้นรนก่อนตาย พยายามยกกระบองทองขึ้นมาป้องกัน…
ทว่าพลังร่างเนื้อของเฉินเสี่ยวเลี่ยน...อ่อนแอเกินไป!
ค่าสเตตัสทั้งหมดถูกเผาเปลี่ยนเป็นแสงตะวันจู่โจมของเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณไปแล้ว...เฉินเสี่ยวเลี่ยนในตอนนี้ดูเหมือนไม่เป็นอะไร แต่จริงๆ แล้วความแข็งแกร่ง พละกำลัง ความว่องไว...ค่าสเตตัสทั้งหมดล้วนต่ำจนอยู่ในจุดวิกฤต!
เห็นคมดาบในมือหานปี้พุ่งลงมา อามอนก็ร้องเสียงดัง กลุ่มแสงสีเขียวพุ่งออกไป...คล้ายกับว่าพยายามจะออกจากร่างของเฉินเสี่ยวเลี่ยน…
แต่ว่าคราวนี้ กลุ่มแสงสีเขียวกลับพุ่งออกไปได้แค่ครึ่งเดียวก็คล้ายถูกพลังบางอย่างดึงกลับมา ไม่สามารถออกไปจากร่างกายของเฉินเสี่ยวเลี่ยนได้หมด!!
เฉินเสี่ยวเลี่ยน...วางเดิมพันถูกอีกแล้ว!!
หากบอกว่าก่อนหน้านี้อามอนสามารถสิงร่างทำให้นิวตันงงงวยได้ และพวกเขาก็ฆ่านิวตันลงได้อย่างยากเย็น แต่อามอนกลับอาศัยร่างวิญญาณถอดร่างออกมาได้…
ฉะนั้น เมื่อตัวเขาปลดผนึกวิญญาณของอามอน หลังจากให้มันฟื้นคืนชีพอีกครั้งในร่างของตนอย่างหมดสิ้น…
การฟื้นคืนชีพเท่ากับว่าไม่ใช่ร่างวิญญาณอีกต่อไปแล้ว...ไม่ได้เป็นร่างที่เป็นอมตะอีกแล้ว!
ถ้าอย่างนั้น...ก็จะสามารถถูกฆ่าได้!!
อีกทั้งอามอน...ทำเรื่องที่ผิดพลาดที่สุดลงไป นั่นก็คือ...เลือกร่างเนื้อของเฉินเสี่ยวเลี่ยนเป้าหมายในการช่วงชิง
ก่อนหน้านี้เฉินเสี่ยวเลี่ยนใช้สกิลแสงตะวันของเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ เผาสเตตัสตัวเองทั้งหมดไปแล้ว!
เวลานี้เฉินเสี่ยวเลี่ยนอ่อนแอยิ่งกว่าหานปี้ที่ได้รับบาดเจ็บเสียอีก!
หานปี้เสียบดาบเข้าหน้าอกของเฉินเสี่ยวเลี่ยนอย่างดุดัน!
จากนั้น...ก็ตั้งคมมีดกรีด…
เลือดสดๆ พุ่งกระฉูด เฉินเสี่ยวเลี่ยนนั่งลงบนพื้น จ้องดูคมดาบที่หน้าอกของตน
ดาบเดียว...ถึงตาย!
ใบหน้าเฉินเสี่ยวเลี่ยนปรากฏรอยยิ้มสดใส “ยะ...ยอดเยี่ยม ทะ...แทงอีกทีเถอะ!”
อามอนกรีดร้อง มันพยายามปล่อยแสงสีเขียวออกมาให้มากขึ้น พยายามห้ามเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผล..แต่ว่า…
อย่างที่บอกไป มันไม่ใช่ร่างอมตะอีกแล้ว!
หรือจะพูดว่า เฉินเสี่ยวเลี่ยนไม่ใช่ร่างอมตะก็ได้!
หานปี้ชักดาบ และแทงอีกครั้ง!
คราวนี้คมดาบพาดผ่านลำคอของเฉินเสี่ยวเลี่ยนไป…
เขารู้สึกได้ถึงเสียงขลุกขลัก...จากนั้นเลือดสดๆ ก็กระฉูดออกจากหลอดเลือดที่ฉีกขาด!
เขาอ้าปาก อามอนดูคล้ายพยายามตะโกนบางอย่าง แต่เพราะว่าถูกบาดลำคอไปแล้ว จึงมีแต่เสียงดังขลุกๆ ออกมา
สติของเฉินเสี่ยวเลี่ยนเอง มองดูหานปี้ สายตาปรากฏแววผ่อนคลายและชื่นชม
หานปี้คลายมือ โยนดาบทิ้งลงบนพื้นแล้วคุกเข่าลง
“เสี่ยวเลี่ยน ฉันขอโทษ!!!”
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกว่าร่างกายของตนเริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างช้าๆ...คล้ายกับว่าพลังวิญญาณของอามอนกำลังหาย ตายไป...ค่อยๆ จางหายไป…
ส่วนความรู้สึกของร่างกายก็ค่อยๆ ฟื้นกลับมา…
ตัวเขาล้มตึงลงกับพื้น แต่มืออีกข้างกลับยกนิ้วโป้งให้หานปี้…
ตึง!
เฉินเสี่ยวเลี่ยนล้มลงไป
หานปี้เห็นแสงสีเขียวไหลออกจากร่างของเฉินเสี่ยวเลี่ยน และหายไปในอากาศอย่างรวดเร็ว…
ฉับพลัน เขาก็รู้สึกว่าแผ่นดินข้างใต้กำลังสั่นสะเทือน!
เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นว่าด้านบนสุดมีม่านแสงสีเงินทอดลงมา...ดูคล้ายกับ...ทอดผ้าม่านลงมาจน...ล้อมลานกว้าง ล้อมหุบเขา...เอาไว้ตรงกลาง
หานปี้มองดูอย่างตื่นตระหนก ม่านแสงนั้นทอดลงต่ำอยู่ในระดับหนึ่ง ยอดเสาหินที่แตกร้าวบางส่วนถูกซ่อมแซมอย่างรวดเร็วท่ามกลางม่านแสง
จู่ๆ หานปี้ก็รู้สึกตัวเย็นเฉียบ
เมื่อก้มลงมองก็เห็นแขนและมือทั้งสองข้าง...หายไปอย่างรวดเร็ว!
……
บนหน้าผา ชิซูกะนั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้น เหม่อลอยมองไปยังที่ไกลๆ แววตาว่างเปล่าเลื่อนลอย
เธอคล้ายกับไม่ได้สนใจม่านแสงสีเงินที่ค่อยๆ ทอดลงมาจากด้านบนแม้แต่น้อย เอาแต่เหม่อมองไปยังที่ไกลๆ
……
ภาพตรงหน้ามืดสนิท
ในขอบเขตการมองเห็น คล้ายกับเป็นหน้าจอที่กำลังเปิดอยู่ จากนั้นปิดและเปิดใหม่อย่างฉับพลัน ภาพหน้าจอกะพริบกลายเป็นสีดำ…
เฉินเสี่ยวเลี่ยนรู้สึกว่าสติสัมปชัญญะเลือนรางและอ่อนแรงมากขึ้นทุกที…
ตอนนั้นเอง…
จู่ๆ ท่ามกลางความมืดมิด ก็มีแสงเล็กๆ สว่างขึ้น
‘.’
‘..’
‘...’
‘....’
‘...... แจ้งเตือน: สำเร็จภารกิจดันเจี้ยนแล้ว ผู้พิทักษ์วิญญาณตายแล้ว ได้รับรางวัลจากดันเจี้ยน’
‘...ทำการรีเซ็ตดันเจี้ยนใหม่...’
ข้อความแจ้งเตือนหายไป...จากนั้นก็เหลือเพียงเครื่องหมาย ‘.’ ที่กระพริบอยู่…
…………………………