บทที่ 29 ผู้อำนวยการเฝิง ฉืออี่หนิงเหมาะจริงๆ เหรอ
บทที่ 29 ผู้อำนวยการเฝิง ฉืออี่หนิงเหมาะจริงๆ เหรอ
คุณแม่ของฉางฉิงเสียไปตอนที่ฉางฉิงอายุได้เจ็ดขวบ สมัยที่เธอกับพี่สาวอาศัยอยู่ที่หยางโจว เสิ่นลู่ก็รักเอ็นดูเธอเหมือนกับลูกสาวแท้ๆ
ฉางฉิงชอบไปที่บ้านตระกูลเสิ่นเพราะเสิ่นลู่อบอุ่นเหมือนกับคุณแม่ของเธอ ของกินอะไรที่อร่อยๆ เสื้อผ้าตัวไหนที่สวยๆ เสิ่นลู่ก็เอาให้เธอหมด แม้กระทั่งเรื่องมีประจำเดือนครั้งแรก เธอไม่กล้าบอกคุณย่าและพี่สาว แต่ด้วยความที่เป็นคนละเอียดรอบคอบ เสิ่นลู่จึงรู้เรื่องนี้ คราวก่อนฟู่อวี้บอกว่าเสิ่นลู่เข้าโรงพยาบาล ฉางฉิงเองก็อยากไปเยี่ยม เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเสิ่นลู่จะติดต่อมาหาเธอก่อน
เสิ่นลู่หัวเราะพลางพูดว่า “เมื่อวานเจ้าอวี้บอกป้าว่าเขาเจอหนูเมื่อสองวันก่อน ฉางฉิง ดูเหมือนว่าป้าจะไม่ได้เจอหน้าหนูมานานมากเลยนะ”
“ใช่ค่ะ” ฉางฉิงรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ “คุณป้าคะ หนูได้ยินว่าคุณป้า...ไม่ค่อยสบาย ตอนนี้คุณป้าอยู่โรงพยาบาลไหนคะ พอเลิกงานแล้ว หนูจะไปเยี่ยมค่ะ”
“จะรบกวนเวลาหนูหรือเปล่าจ๊ะ” เสิ่นลู่ไม่ได้ปฏิเสธ กลับดีใจมากเสียด้วยซ้ำ
“คุณป้าอย่าพูดแบบนี้สิคะ หนูควรไปเยี่ยมคุณป้าอยู่แล้ว อีกอย่างหนูเองก็คิดถึงคุณป้ามากเหมือนกัน” ที่เธอพูดเป็นความจริง ไม่ได้พูดไปตามมารยาท
“ดีจ้ะดี ป้าอยู่ที่โรงพยาบาลป๋อฮั่นจ้ะ” เสิ่นลู่ตอบอย่างปลื้มอกปลื้มใจ
ฉางฉิงเหงื่อแตกพลั่ก ช่างบังเอิญอะไรขนาดนี้...แต่โรงพยาบาลป๋อฮั่นก็เป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในเมือง คนส่วนใหญ่ก็ต้องเลือกรักษาที่นั่นเป็นธรรมดา “ตอนนี้พี่สาวหนูก็ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลป๋อฮั่นค่ะ”
“จริงเหรอจ๊ะ” เสิ่นลู่ดีใจ “ป้าเองก็ไม่ได้เจอฉางซินตั้งนานแล้ว หนูบอกเบอร์โทรของฉางซินให้ป้าหน่อยได้มั้ย”
“ได้ค่ะ”
หลังจากนั้นฉางฉิงก็โทรไปบอกพี่สาวอีกที ฉางซินบอกว่าช่วงพักเที่ยงเธอจะไปเยี่ยมเสิ่นลู่
_ _ _ _ _ _ _ _
สิบโมงเช้า สถานีโทรทัศน์จัดประชุมใหญ่ที่ห้องประชุม บรรณาธิการ หัวหน้ากองบรรณาธิการ หัวหน้าและพิธีกรของช่องรายการต่างๆ ล้วนมาเข้าร่วมประชุมกันหมด
ตอนที่ผู้อำนวยการสถานียังไม่มา ทุกคนก็พูดคุยกันถึงเนื้อหาการประชุมครั้งนี้ ที่จริงฉางฉิงก็พอจะเดาได้เล็กน้อย ช่วงก่อนต้นปีเธอได้ยินในสถานีลือกันว่าทางสถานีวางแผนที่จะผลิตละครเรื่องหนึ่งร่วมกับบริษัทผู้ผลิตสื่อแห่งหนึ่ง ว่ากันว่าตัวละครที่สำคัญสองสามตัวจะเลือกจากคนในสถานี ซึ่งนี่เป็นโอกาสดีที่จะได้สร้างชื่อเสียงให้โด่งดังมากขึ้น
ฉางฉิงหูผึ่งตั้งใจฟัง เธอได้ยินชื่อที่คุ้นหูอยู่สองสามชื่อจากปากของทุกคน ซึ่งล้วนแต่เป็นพิธีกรที่มีภาพลักษณ์ดี
“ฉันว่านะ รูปร่างหน้าตาและอายุของเธอเหมาะกับละครเรื่องนี้มากเลย” เจิ้งเหยียนกระซิบที่ข้างหูฉางฉิง
ฉางฉิงกำลังจะพูดตอบ แต่จู่ๆ ผู้อำนวยการสถานีเฝิงก็เดินเข้ามา
ในห้องประชุมเงียบกริบลงทันที พอผู้อำนวยการเฝิงนั่งลงแล้ว ก็เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ “ครั้งนี้บริษัทที่จะมาร่วมงานกับเราคือกลุ่มบริษัทซ่างเหว่ย ซึ่งทางซ่างเหว่ยได้วางตัวไว้แล้วว่าจะให้คนในสถานีของเขามาแสดง ซึ่งได้แก่ กว่านอิงที่เพิ่งเซ็นสัญญาเข้ามาและดาราหน้าใหม่มาแรงอย่างเคอหย่งหยวนและอวี๋ข่าย ส่วนตัวละครสมทบที่เหลือ สถานีเราเลือกได้สี่คน แน่นอนว่าบทที่สำคัญที่สุดคือบทนางรอง บทนี้เด่นมาก คาแรกเตอร์ตัวละครก็น่ารัก เมื่อวานผมได้ปรึกษากับหัวหน้ากองบรรณาธิการและผู้กำกับของแผนกต่างๆ แล้ว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าฉืออี่หนิงค่อนข้างเหมาะกับบทนี้ทีเดียว”
“นึกแล้วเชียว...” เจิ้งเหยียนยิ้มเยาะ แล้วกระซิบที่ข้างหูฉางฉิง “ผู้อำนวยการเฝิงตั้งใจเอาไว้อยู่แล้ว ใครที่ไหนจะกล้าขัดใจเขาล่ะ”
ฉางฉิงไม่ได้ตั้งใจฟังที่เจิ้งเหยียนพูดเลย ในสมองเธอมีแต่คำว่ากว่านอิงและซ่างเหว่ย
ท่าทางฟู่อวี้จะรักกว่านอิงมากจริงๆ หลังจากที่เรียนจบ กว่านอิงทุ่มเทพยายามอยู่หลายปี แต่ก็ได้แต่บทนางรองเบอร์สอง เบอร์สามตลอด แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน กว่านอิงอยากจะโด่งดังมาตลอด ขอให้คราวนี้เธอสมหวังด้วยเถิด
“ผู้อำนวยการเฝิงครับ ฉืออี่หนิงเหมาะจริงๆ เหรอครับ” จู่ๆ จั่วเชียนก็พูดขึ้นมา ทุกคนต่างก็หันไปมองเขา ฉืออี่หนิงสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
จั่วเชียนพูดเสียงเรียบว่า “ก่อนอื่นผมยอมรับว่ารูปร่างหน้าตาของฉืออี่หนิงไม่เลวทีเดียว แต่ในงานเลี้ยงขนาดใหญ่ของทางสถานีเมื่อสามสี่ครั้งก่อน การแสดงออกของอี่หนิงได้รับคำวิจารณ์แง่ลบในอินเตอร์เน็ตอยู่ไม่น้อย ที่จริงแล้วผมคิดว่าบทนี้เหมาะกับเยี่ยนฉางฉิงมากกว่า ความสวยของเธอต่างก็เป็นที่ยอมรับกันดีในวงการ อีกอย่างในสายตาของคนภายนอก ภาพลักษณ์ของเธอก็ใช้ได้ทีเดียว แล้วที่สำคัญที่สุดก็คือ เธอ เจียงตั่วเหยาและหร่วนยั่งล้วนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยภาพยนตร์เป่ยเฉิง เรื่องพื้นฐานการแสดงไม่ต้องพูดถึง”
พอเขาเอ่ยปากพูดออกมา มีคนไม่น้อยที่พยักหน้าเห็นด้วยอย่างเงียบๆ เพียงแต่ไม่กล้าเอื้อนเอ่ย
................................................