21 ในที่ประชุม, ฉันได้แต่ยิ้ม
21 ในที่ประชุม, ฉันได้แต่ยิ้ม
หญิงสาวที่นั่งข้างเขานวดขมับของเธอ เธอดูไม่มีความสุขเท่าไหร่
“ขอโทษนะคะคุณหมอ ฉันมีเรื่องอยากจะพูดค่ะ” เสียงเย็นชาจากหญิงสาวได้รบกวนการประชุม
“พูดมาครับ” หัวหน้ากรมอนามัยได้ยินและพูดด้วยรอยยิ้ม
“พวกคุณได้ตรวจเจอโรคที่กั๋วเจิ้งเหอเป็นแล้วเหรอคะ?” เธอถาม
“ผู้ป่วยถูกพิษในตอนที่พิษเข้าสู่กระแสเลือดของเขาครับ” หมอคนหนึ่งพูด
“แล้วเป็นพิษชนิดไหนครับ?” ชายวัยกลางคนที่นั่งข้างเธอพูด เขาเงียบมาตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในห้อง เขาก้มลงอ่านเอกสารหลายแผ่นและพบว่ามันมีแต่กรณีศึกษาผู้ป่วยและการวินิจฉัยโรค ที่เป็นข้อมูลจากผลการทดลอง เขาเงยหน้าขึ้นและถามคำถามออกไปหลังจากได้ยินคำพูดของหมอ
“เป็นพิษที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนครับ”
“ไม่รู้?” หญิงสาวตกใจ “คุณรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเดียวกันหายมาก่อนเหรอไม่ใช่เหรอ? แล้วคุณรักษาเขาได้ยังไงถ้าแม้แต่พิษคุณก็ยังไม่รู้จักว่ามันคือพิษอะไร? บังเอิญงั้นเหรอ?”
“คือ...” หมอของโรงพยาบาลพูดไม่ออก
“พวกคุณได้แต่ปรึกษากันเรื่องส่งตัวคนไข้ แทนที่จะหาสาเหตุของพิษที่ติดมาได้ยังไง มันไร้ประโยชน์ที่จะส่งตัวคนไข้ไปที่เมืองห่ายชิวในจังหวัดฉีหรือโรงพยาบาลในเมืองจิง ในเมื่อแม้แต่สาเหตุของโรคก็ยังหาไม่เจอแบบนี้” หญิงสาวรู้ผิดหวังกับหมอพวกนี้มาก
เมื่อเห็นความคลางแคลงใจจากหญิงสาว ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็พูดไม่ออก
“ทุกท่าน ผมยังมีอีกหนึ่งคำถาม” ชายวัยกลางคนข้างหญิงสาวพูด “มันมีข้อมูลอยู่สองอย่างจากผลการรักษาโรคของชายหนุ่ม หวังเจ๋อเซี่ยว อาการของเขามันคล้ายกับอาการของกั๋วเจิ้งเหอมาก ดังนั้นมันหมายความได้ว่าพวกเขาได้รับพิษชนิดเดียวกัน แต่ว่ามันมีเรื่องแปลกเกี่ยวกับผลเลือดของหวังเจ๋อเซี่ยว มันมีรายละเอียดอะไรที่แตกต่างออกไป? คุณรู้หรือไม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงๆกันแน่?”
“เรา...เราได้พยายามวิเคราะห์แล้ว แต่เราไม่ได้อะไรเลย” หมอที่รับหน้าที่ในการรักษาหวังเจ๋อเซี่ยวก้มมองพื้นด้วยความอับอาย
“ดังนั้น ผมแนะนำให้พวกคุณตามหาหวังเจ๋อเซี่ยวเพื่อทดสอบเลือดของเขาและหาสาเหตุให้เจอ คุณควรจะถามเกี่ยวกับอาหารที่เขาได้กินเมื่อรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลด้วย บางทีเขาอาจจะกินบางอย่างที่ช่วยล้างพิษได้ ผมยังมีรายการยาที่ต้องการให้พวกคุณเตรียมเอาไว้ด้วย”
ชายวัยกลางคนนำรายการยาที่หายากหลายตัวที่เขาเขียนเอาไว้ออกมา
“ทั้งหมดมันเป็นตัวยานำเข้าและมีสองตัวที่ไม่มีในเมืองห่ายชิว” หมอคนหนึ่งพูดขึ้นในตอนที่ส่งต่อรายการ
“ถ้ายังงั้นก็เตรียมเท่าที่มีในตอนนี้ก่อน ส่วนที่เหลือให้พวกคุณไปติดต่อกับเมืองเต้าและให้พวกเขาเตรียมให้”
“ตกลง”
“ทำตามที่เราขอแล้วเราจะไม่วุ่นวายกับพวกคุณ!” หญิงสาวลุกขึ้นเมื่อเธอพูดจบและชายวัยกลางคนก็ติดตามเธอออกไป
“มีแต่พวกไม่ได้เรื่อง!” หญิงสาวพูดด้วยความโกรธหลังจากที่เธอเดินออกมาแล้ว
“คุณหนูครับ เราไม่จำเป็นต้องไปหงุดหงิดกับเรื่องแบบนี้ มันยังมีเรื่องงี่เง่ามากมายในระบบรักษาสุขภาพอีกมาก เพราะเจิ้งเหอเป็นคนสำคัญพวกเขาเลยต้องทำการรักษาอย่างระมัดระวังมากขึ้น แม้ว่าพวกหมอจะทำเป็นหูหนวกไม่สนใจพวกคนธรรมดาทั้วไปก็ตาม” ชายวัยกลางคนพูดเสียงเบา
“พวกเขาเอาศีลธรรมกับจรรยาบรรณของแพทย์ไปที่ไว้ไหนกัน?” หญิงสาวเดือดดาล
“ศีลธรรมกับจรรยาบรรณ—หาได้ยากเหลือเกิน!” ชายวัยกลางคนถอนหายใจ
“หมอในตอนนี้ไม่มีความจริงใจเอาซะเลย!”
“เราไปหาเจิ้งเหอกันเถอะครับ” ชายวันกลางคนพูด
เมื่อพวกเขาไปถึงวอร์ดคนไข้พิเศษ พวกเขาก็มองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงคนไข้ ใบหน้าของเขาเขียวเล็กน้อย บอกให้รู้ว่าเขากำลังป่วยหนัก
“เจิ้งเหอ เจิ้งเหอ?” หญิงสาววิ่งไปที่เตียงเมื่อเธอเห็นเขา เธอกุมมือของเขาเอาไว้ด้วยหวังว่าเขาอาจจะตื่นขึ้นมา แต่มันก็ไม่ได้ผล
“ลุงเหอคะ มีโอกาสที่จะสำเร็จไหมคะถ้าให้ลุงเป็นคนรักษาเขา?” เธอถาม
“ผมสามารถรักษาเขาได้ถ้าเขาเป็นคนอื่น แต่เจิ้งผมทำไม่ได้ เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของท่านผู้บัญชาการ ดังนั้นจะต้องไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นเด็ดขาด” ชายวันกลางคนพูดหลังจากลังเลสักพัก
หญิงสาวก็ไม่ได้บังคับเขาต่อ
“คุณหนู เชื่อผมเถอะครับ ถึงแม้ว่าผมจะทำให้เขาฟื้นไม่ได้ แต่ผมจะทำสุดความสามารถเพื่อไม่ให้อาการของเขาแย่ลงครับ”
“ขอบคุณค่ะ ลุงเหอ”
...
เมืองซงป่าย หมู่บ้านหวังเจีย
รถหลายคันในเข้ามาจอดทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน มีหลายคนออกมาจากรถและเดินตามเลขากรรมการเขต หวังเจียนหลี่ ไป
“ที่นี่ครับ” หวังเจียนหลี่นำพวกเขาไปที่ประตูบ้านหลังหนึ่ง
“ยี่หรง!” หวังเจียนหลี่ตะโกนเขาไปในบ้าร
“ครับ!” มีเสียงตอบกลับออกมาพร้อมกับเสียงเปิดประตู ชายวัยสี่สิบได้เดินออกมา “เลขากรรมการ มาหาพวกเรามีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“มีเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับพวกคุณที่เราต้องการจะคุยด้วยครับ” หวังเจียนหลี่พูด
“ได้ครับ”
กลุ่มคนเดินเข้าไปในบ้านแล้วหวังยี่หรงจึงไปเตรียมน้ำมาให้พวกเขา
“ไม่จำเป็นต้องเตรียมน้ำให้พวกเราหรอกครับ พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในเมืองและเขตและพวกเขามาที่นี่เพราะอยากจะถามคุณเท่านั้น”
“อ่อ!” หวังยี่หรงฟังและนั่งลง เขารู้สึกกังวลเพราะเขาไม่เข้าใจว่าผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้มาหาเขาเพื่ออะไร
พวกเขาคือหมอที่เพิ่งเสร็จการประชุมเรื่องของกั๋วเจิ้งเหอ
“ลูกชายของคุณคือหวังเจ๋อเซี่ยวใช่ไหม?”
“อ่า ใช้ครับ”
“เมื่อสิบวันก่อนเขาถูกพิษ และเขาได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในเมือง ใช่ไหม?”
“ใช่”
“ตอนนี้ลูกชายของคุณอยู่ที่ไหน?”
“เขากำลังทำงานอยู่ในเมืองครับ”
“เรียกเขากลับมาเดี๋ยวนี้!” เสียงของหมอที่พูดดูหงุดหงิด
“ได้ครับ ได้ครับ ผมจะโทรหาเขา” หวังยี่หรงรู้สึกได้ว่าพวกเขากำลังมีเรื่องด่วน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ เขาก็ไม่ได้สนใจและโทรเรียกลูกชายของเขาให้กลับมาบ้าน
“มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับลูกชายของผมเหรอครับ?” เขารู้สึกไม่สบายใจเมื่อเขาโทรหาลูกของเขาเสร็จ เพราะเขาจำได้ว่าพวกเขาคือหมอที่ได้เคยรักษาลูกชายของเขาที่โรงพยาบาล
“มันไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับลูกชายของคุณ เราแค่ต้องการความช่วยเหลือจากเขาเท่าบางเรื่องเท่านั้น”
หมอทุกคนรอคอยอย่างใจเย็นและ 20 นาทีต่อมา หวังเจ๋อเซี่ยวก็กลับมาถึงบ้าน หวังเย๋อเซี่ยวมีร่างกายผอมบาง แต่เขาดูดีและดูสุขภาพดี
“พ่อ เกิดอะไรขึ้น?”
“ใช่แล้ว นั้นแหละเขา!” หมอคนหนึ่งพูดด้วยความตื่นเต้น เขาเคยพบหวังเจ๋อเซี่ยวมาก่อน เพราะเขาเป็นหัวหน้าของทีมที่ทำการรักษาหวังเจ๋อเซี่ยว หมอคนนี้ชื่อว่า คุณโจว
“เร็วเข้า” หมออีกคนพูด
หมอคนหนึ่งนำกล่องอุปกรณการแพทย์ออกมาพร้อมเครื่องมือสำหรับเจาะเลือด
“พวกคุณกำลังทำอะไรหน่ะ?” เมื่อมองไปที่การกระทำของหมอ หวังเจ๋อเซี่ยวและพ่อของเขาก็รู้สึกสับสน
“พวกเราแค่ต้องการตรวจร่างกายของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีสุขภาพร่างกายที่ดี คุณกลับไปที่โรงพยาบาลพร้อมกับเราได้ไหม?”
“ผมแข็งแรงมาก ดังนั้นมันไม่จำเป็นต้องตรวจอะไร” คำตอบของหวังเจ๋อเซี่ยวทำให้หมอหลายคนตกใจ