บทที่ 28 ซ่งฉู่อี๋ ฉันไม่สนใจคุณแล้ว
บทที่ 28 ซ่งฉู่อี๋ ฉันไม่สนใจคุณแล้ว
ซ่งฉู่อี๋สูดหายใจเข้าเบาๆ แล้วถลึงตาใส่เจ้าร็อบเบน
มันส่งเสียง “โฮ่ง” ด้วยความน้อยใจ ปล่อยผ้าห่ม แล้ววิ่งไปนอนแผ่คว่ำหน้าที่อีกด้านหนึ่ง
ซ่งฉู่อี๋ค่อยๆ เดินเข้าไปหยิบผ้าห่มที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาและกำลังจะห่มให้เธอ แต่ทันใดนั้นเองฉางฉิงก็ลืมตาสะลึมสะลือขึ้นมา แววตาเธอหยุดนิ่งอยู่สองสามวินาที เหมือนกับคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วเธอก็ก้มลงมองดูตัวเองด้วยสีหน้าแข็งทื่อ...
“ว้าย...คุณๆๆ...” ฉางฉิงร้องกรี๊ดหน้าแดงก่ำ แล้วรีบดึงผ้าห่มมาห่มตัวเองอย่างรวดเร็ว เธอพันห่อตัวเหมือนกับหมีขาว แล้วจ้องเขาตาถลนด้วยความอับอายปนโมโห “คุณ...ไอ้คนเลว...ตาแก่บ้ากาม”
เธออายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ท่าทางที่น่าเกลียดของเธอถูกเขาเห็นหมดเสียแล้ว
คิ้วที่หล่อเหลาของซ่งฉู่อี๋กระตุกเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะเรียกเขาว่าตาแก่บ้ากาม เขาแก่มากงั้นเหรอ ยัยเด็กคนนี้นี่
ชายหนุ่มสีหน้าเย็นยะเยือกมาก เมื่อคิดๆ ดูแล้ว เขาไม่อาจบอกเธอได้ว่าเป็นฝีมือของเจ้าร็อบเบน “เมื่อกี้ผมเพิ่งกลับมา แล้วเห็นคุณถีบผ้าห่มออก ก็เลยจะช่วยห่มให้”
ฉางฉิงงงงัน ดูเหมือนว่าเธอจะมีนิสัยชอบถีบผ้าห่มจริงๆ
ให้ตายสิ
ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าขายหน้า ฉางฉิงซุกหน้าอยู่ในผ้าห่ม ใบหูที่โผล่ออกมาแดงระเรื่อ ดูแล้วเหมือนกับเต่าตัวน้อยอย่างไรอย่างนั้น
ดวงตาของซ่งฉู่อี๋สีเข้มขึ้น แล้วอดพูดไม่ได้ว่า “จะว่าไป คุณไม่เห็นจำเป็นต้องเครียดขนาดนี้ก็ได้ ช่วงล่างคุณผมเคยเห็นหมดแล้ว”
ฉางฉิงหัวร้อน ‘ปุดๆ’
หลังจากที่เจอกับซ่งฉู่อี๋อีกครั้ง สิ่งที่เธอกังวลที่สุดคือกลัวว่าเขาจะเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาอีก เลือดสูบฉีดใบหน้าและหัวใจสุดขีด ราวกับว่าอากาศข้างนอกร้อนจัด คราวนี้แม้แต่ศีรษะเธอก็มุดหดเข้าไปในผ้าห่มด้วย ซ่อนตัวอย่างมิดชิดสุดๆ มีเพียงเสียงอู้อี้ที่ดังลอยออกมาจากในผ้าห่ม “ซ่งฉู่อี๋ คนนิสัยไม่ดี ฉันไม่สนใจคุณแล้ว”
ซ่งฉู่อี๋มองดูฉางฉิงที่ขดตัวกลมเป็นก้อน นัยน์ตาฉายแววยิ้มอย่างไม่รู้ว่าจะโกรธหรือหัวเราะดี “เอาล่ะๆ เลิกอุดอู้อยู่ในผ้าห่มได้แล้ว ผมแค่กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวต้องกลับไปทำงานต่อ”
เขาลุกขึ้นเดินออกไป แล้วปิดประตูตามหลัง
ฉางฉิงโผล่หน้าออกมา พอมองประตูห้องที่ปิดสนิท ใบหน้าเธอก็ร้อนวูบวาบ
เธอนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงต่ออีกครึ่งชั่วโมง แล้วถึงค่อยตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาอย่างอืดอาดและเดินออกจากห้อง บนโต๊ะอาหารมีข้าวโพด น้ำเต้าหู้และไข่ไก่ที่ร้อนควันฉุยวางอยู่
นี่อาหารเช้าของเธอหรือเปล่านะ
ฉางฉิงไม่ค่อยแน่ใจ
ขณะนั้นเอง ซ่งฉู่อี๋ก็เดินออกมาจากห้องนอนใหญ่ เขาเปลี่ยนเป็นเสื้อถักสีเทาอ่อน ด้านในเป็นเสื้อยืดคอวี ผมหน้าม้าที่ยังชื้นอยู่เล็กน้อยถูกหวีเก็บขึ้นไปหมด ใบหน้าเขาดูเกลี้ยงเกลาและสะอาดตาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ความเหนื่อยล้าในแววตากลับเห็นได้อย่างชัดเจน
ใบหน้าของฉางฉิงร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่เอาไหนอีกแล้ว เธอกวาดตามองเขาแวบหนึ่ง แล้วเบนสายตาไปอย่างรวดเร็ว
ท่าทางขวยเขินของเธอทำให้ซ่งฉู่อี๋ประหลาดใจเหมือนกันที่เมื่อกี้ตัวเขาเองก็พูดจาแบบนั้นเป็นกับเขาด้วย นอกจากสมัยเรียนแล้ว ภายหลังที่นิสัยดูนิ่งสุขุมขึ้น เขาก็พูดจาหยอกล้อผู้หญิงแบบนี้น้อยมาก
“อาหารเช้าบนโต๊ะผมเอามาให้คุณ ผมไปทำงานละ” ซ่งฉู่อี๋เดินไปทางประตู
ฉางฉิงตะลึงงันแล้วเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “คุณทำงานมาทั้งคืนแล้ว ตอนนี้คุณไม่พักผ่อนสักหน่อยเหรอคะ”
“ทำยังไงได้ สองสามวันนี้ผมต้องรับผิดชอบเวรกลางวัน เพียงแต่เมื่อคืนผมแลกเวรกับคนอื่นกะทันหัน ถ้ากลางวันนี้นอนพักผ่อน ก็ต้องเข้าเวรตอนกลางคืนอีก” ซ่งฉู่อี๋พูดพลางเปลี่ยนรองเท้า
หลังจากรอจนเขาออกไปแล้ว ฉางฉิงถึงค่อยถอนหายใจออกมา ถ้าให้เธอทำงานติดต่อกันยี่สิบสี่ชั่วโมง เธอต้องทนไม่ไหวแน่นอน
เช้านี้ฉางฉิงก็ต้องรีบไปประชุมที่สถานีโทรทัศน์เช่นกัน เธอจึงเอาอาหารเช้าไปทานในรถ ข้าวโพดกับน้ำเต้าหู้รสชาติไม่เลว เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าซ่งฉู่อี๋จะซื้ออาหารเช้ามาให้เธอ ตอนนี้เธอรู้สึกว่าสามีคนนี้ใช้ได้ทีเดียว
ระหว่างทาง มีเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้นโทรเข้ามา “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใครคะ”
“ฉางฉิง ป้าเองจ้ะ ป้าเสิ่น ยังจำป้าได้มั้ยจ๊ะ” น้ำเสียงเมตตาอ่อนโยนดังลอยมา ฉางฉิงรู้สึกสับสนงุนงงไปหมด เธอคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเสิ่นลู่ คุณแม่ของฟู่อวี้
..........................................