ตอนที่ 83 ยอดมนุษย์ของอความารีน
ตอนเช้านับเป็นช่วงเวลาที่ดีสุดของวันเสมอ ในทำนองเดียวกัน ตอนเช้าก็นับเป็นเวลาต่อสู้ที่ดีสุดเช่นกัน
คืนก่อน กองทัพเฮสล่าสามารถกวาดล้างเขตปลอดภัย4ได้ คาร์ลสั่งให้ทหารเขาพักหนึ่งชั่วโมงก่อนดำเนินการบุกต่อ พวกเขาอยากเข้าถึงฐานในการโจมตีครั้งสุดท้าย
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น กองทัพเฮสล่าก็เปิดฉากโจมตีศัตรูในเขตปลอดภัย3(ไล่จาก 6 5 4 3 2 1)
บูม บูม บูม!
การระเบิดจำนวนนับไม่ถ้วนดังสนั่นหวั่นไหว และสนามรบก็ปกคลุมด้วยหมอกควัน ทั่วป่าถูกทำลายด้วยลูกกระสุนและขีปนาวุธ ปลอกกระสุนกระจัดกระจายไปทั่ว
ทหารจากเฮสล่าควบคู่ไปกับรถหุ้มเกราะสามารถโค่นกลไกป้องกันของศัตรูลงได้ ทีละหนึ่ง ป้อมปราการ ป้อมยาม และร่องลึกล้วนถูกทำลาย ข้อมูลที่เย่ฟ่านได้รับนับว่ามีประโยชน์ กลไกป้องกันของศัตรูกลายเป็นไร้ประโยชน์ กองทัพสามารถรักษาความสูญเสียได้ตามที่พวกเขาคาดไว้ เหล่าทหารล้วนมีความสุขเพราะชัยชนะของพวกเขาไม่เคยสะดวกสบายเท่านี้มาก่อน
“บุกต่อไป ทำลายเขตปลอดภัยอีก2จุดในคราเดียวเลย!”
คาร์ลตื่นเต้น
เมื่อทหารมีความมั่นใจ สถานการณ์ทางฝั่งพวกเขาก็ย่อมดีขึ้น
ไม่นานหลังก้าวเท้าไปในเขตปลอดภัย2 กองทัพเฮสล่าก็เผชิญกับอันตรายแรก รถหุ้มเกราะสองคันและทหารนับสิบถูกกวาดล้างโดยกับระเบิด และนั่นก็แค่การอุ่นเครื่อง ในไม่ช้าทหารเฮสล่าก็ถูกทำลายโดยสมบูรณ์ ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กับดักพร้อมการซุ่มโจมตีมีอยู่ทุกที่
ข้อมูลของเย่ฟ่านกลับกลายเป็นไร้ประโยชน์ การทำตามข้อมูลเท็จทำให้พวกเขาประสบความสูญเสียอย่างมาก กองกำลังต่างๆล้วนสูญเสียอย่างหนัก
ข้อมูลเกี่ยวกับเขตปลอดภัย4จุดแรกทำให้กองทัพเฮสล่าบุกลึกเข้ามาได้อย่างราบรื่นและท้ายที่สุดก็เข้าเขตซุ่มโจมตีที่จี่เจี่ยวางกับดักเอาไว้
จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณ
คาร์ลทั้งตกใจและโกรธ
สีหน้าของวินน่าเปลี่ยนไป แท้จริงแล้วข้อมูลที่พวกเขาได้รับเป็นเพียงเหยื่อ การคาดการณ์ของหานเซี่ยวถูกต้อง พวกเขาต้องแบกรับความสูญเสียครั้งใหญ่
เย่ฟ่านส่ายหัวและกล่าว“ศัตรูฉลาดและโหดเหี้ยมเกินไป พวกเขาเต็มใจเสียสละพวกพ้องเพื่อล่อเราเข้ามา มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะรับรู้แผนการพวกเขา บางที นั่นคงเป็นข้อได้เปรียบของฝ่ายป้องกัน องค์กรต้นกำเนิดไม่กลัวอะไร อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ฝ่ายเราไม่อาจกระทำได้ คาร์ลกระทำอุกอาจเกินไป เขาควรฟังหานเซี่ยวและไม่ควรทำเช่นนั้นกับเขา”
เขามองดูเพื่อนร่วมทีมที่ทำหน้าสำนึกผิดและถอนหายใจ
เมื่อมาถึงจุดนี้ คาร์ลทำได้แค่มองดูทหารเขาล้มตายทีละคน เขามีสีหน้าดำคล้ำ สิ่งที่ควรจะราบเรียบกลับพลิกคว่ำ ‘ชัยชนะ’กลับกลายเป็นภัยพิบัติ แม้พวกเขาจะชนะการต่อสู้ มันก็เป็นชัยชนะที่แลกมาด้วยราคาแสนแพง
กองทัพเฮสล่าที่ใฝ่หาชัยชนะประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ และการรุกคืบของพวกเขาก็ราวกับหอยทาก
ทันใดนั้น ชายสีหน้าดุดันถือมีดยาวในมือก็เดินออกมาจากฝั่งศัตรู ร่างเขาปกคลุมด้วยคลื่นพลังงานโปร่งใสคล้ายเปลวไฟ อากาศรอบเขาบิดเบี้ยว เหล่าทหารเริ่มกราดยิง แต่ชายคนนั้นกลับวิ่งและสะบัดมีดเขาอย่างรวดเร็ว กระสุนที่เข้าใกล้ล้วนถูกมีดยาวทำลาย
“นักสู้!”
ขณะที่ทหารยังคงตกใจ ชายคนนั้นก็วิ่งฝ่าเข้ามา ภายในไม่กี่วินาที เหล่าทหารเฮสล่าก็ถูกผ่าจนเหมือนกับลูกเต๋า เลือดสาดกระจายไปทั่ว แขน ขา หัวและลำตัวกระจายอยู่เต็มไปหมด
ชายคนนั้นยืนอย่างมั่นใจท่ามกลางทะเลเลือด
“ป่านกวง!”
สายลับทั้งหมดประหลาดใจ
ป่านกวงคือผู้ดูแลฐานหุบเขาอีกาดำและผู้บริหารขององค์กรต้นกำเนิด นอกจากนั้น เขายังสามารถฆ่าบุคคลที่ทรงพลังได้มากตามบันทึกของเครือข่ายมืด
ตามบันทึกการต่อสู้บนเครือข่ายมืด ป่านกวงมีความเชี่ยวชาญการใช้มีดยาวสูง(Machete) สไตล์การต่อสู้เขามีต้นกำเนิดจากรุ่ย หลาน และเขาก็เป็นที่รู้จักในฐานะ’วิญญาณดาบ’
แสงสะท้อนจากใบมีดมักเป็นสิ่งสุดท้ายที่ศัตรูเขาจะได้เห็น
รถหุ้มเกราะปรับตำแหน่งมัน กระสุนปืนขนาดใหญ่ยิงใส่ป่านกวง ป่านกวงเริ่มกระโดดด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อและหลบกระสุนโดยการหลบหลังต้นไม้ มันเป็นไปไม่ได้ที่ทหารทั่วไปจะเล็งยิงใส่ป่านกวงอย่างแม่นยำ
ป่านกวงสามารถเคลื่อนไหวไปรอบๆสนามรบได้ราวกับสนามเด็กเล่นและไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้
ราวกับยมฑูต ป่านกวงปลิดชีพทหารทีละคน เขาแม้กระทั่งสามารถผ่ารถบรรทุกหุ้มเกราะหนักสองคันได้
ตราบเท่าที่มีจุดให้หลบกระสุน ยอดมนุษย์ย่อมสามารถปลดปล่อยพลังได้เต็มที่ พลังงานที่เขาครอบครองได้ปกป้องร่างเขา ดินปืนและกระสุนทั่วไปไม่อาจทำอันตรายใดๆได้
ยอดมนุษย์คลาสDสามารถสู้กับหน่วยวรบได้เพียงลำพังและยังหลบหนีได้อย่างง่ายดายหลังต่อสู้
ยอดมนุษย์คลาสCมีพลังมหาศาลและกายเหล็กที่สามารถทนต่อการโจมตีของปืนและปืนใหญ่ พวกเขายังสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างมากและสามารถทำลายสิ่งก่อสร้างได้ด้วยมือเปล่า ยอดมนุษย์คลาสCนับเป็นระดับต่ำสุดในกาแล็กซี่ นอกจากนี้มันยังมีฉายาว่า’นักรบคอสมิคขั้นต้น’ ดาวเคราะห์ต่างๆในกาแล็กซี่ล้วนมีสนามแรงโน้มถ่วงและสภาพบรรยากษศต่างกัน ยอดมนุษย์คลาสCสามารถเดินบนดาวเคราะห์ส่วนใหญ่ได้
อย่างไรก็ตาม มันกลับมียอดมนุษย์คลาสCน้อยมากบนอความารีน ยอดมนุษย์บนดาวเคราะห์นี้ถือว่าด้อยสุดในกาแล็กซี่
ป่านกวงนับเป็นยอดมนุษย์คลาสE+ ซึ่งอยู่ห่างจากคลาสDเพียงก้าวเดียว เขาสามารถเอาชนะกองทหารเฮสล่าได้ในเขตป่า ยอดมนุษย์ล้วนมีความสามารถในการต่อสู้ที่ทรงพลังและพวกเขาก็มักมีหน้าที่กวาดล้างผู้บัญชาการของศัตรูหรือแทรกซึมเข้าฐานศัตรู
เหล่าทหารที่ขวางทางล้วนถูกป่านกวงเข่นฆ่า เห็นได้ชัดว่าป่านกวงกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางของพันเอกคาร์ล!
คาร์ลสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของป่านกวง ซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เขากลับไม่รู้สึกปลอดภัยแม้จะอยู่ท่ามกลางกองกำลัง ดังนั้นเขาจึงสั่งทันที“ยิงจรวดติดตามความร้อน”
รถหุ้มเกราะติดตั้งจรวดขับมาถึง และจรวดหลายลูกก็เล็งเข้าหาป่านกวง
ป่านกวงวิ่งวนป่าอย่างรวดเร็ว และจรวดก็พุ่งชนเข้ากับต้นไม้ จรวดนัดสุดท้ายสามารถบินผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้และพุ่งใส่ป่านกวงได้
ด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น ป่านกวงหยุดวิ่ง เขาฝังเท้าแน่นและถือมีดด้วยมือสองข้าง คลื่นพลังงานที่มองไม่เห็นปกคลุมทั่วใบมีด จากนั้นเขาก็สะบัดมีดใส่จรวด
การฟันอย่างรวดเร็วกระทบกับด้านข้างของจรวดได้ทัน พลังจากการโจมตีได้เปลี่ยนทิศทางของจรวด จรวดบดขยี้เข้ากับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างไป20เมตรและระเบิด ป่านกวงเกือบทรงตัวไม่อยู่เพราะแรงระเบิด หากหานเซี่ยวอยู่ตรงนั้น เขาคงเห็นค่าความเสียหาย20หน่วยที่ขึ้นบนหัวป่านกวงได้
หลังตระหนักว่าจรวดยังไม่อาจทำอะไรต่อป่านกวงได้ คาร์ลก็มองสายลับเขา เจตนาของคาร์ลคือการใช้สายลับเพื่อปกป้องตัวเอง
“ไปกันเถอะ!”วินน่าตะโกนและเหล่าสายลับเฮสล่าก็วิ่งไปข้างหน้าพร้อมกับเธอ
สายลับจากแผนก13เฝ้าสังเกตจากฝั่งหนึ่ง การปฏิบัติการร่วมไม่จำเป็นอีกต่อไปหลังสิ่งที่คาร์ลกระทำ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่คิดช่วยเหลือ
หลังพบว่าสายลับจากเฮสล่าเข้าร่วมการต่อสู้ ป่านกวงก็เก็บมีดเขาและล่าถอย เขาไม่อยากปะทะกับเหล่าสายลับ
กระสุนปืนดังผ่านป่าหลังเหล่าสายลับยิงปืน
ใบมีดแวววาวตัดผ่าน แสงสะท้อนจากผิวใบมีด กระสุนที่ยิงใส่ป่านกวงถูกผ่าครึ่ง แม้ป่านกวงจะลงมือได้ช้ากว่าประสุน เขาก็ยังสามารถคาดการณ์วิถีกระสุนและวางตำแหน่งมีดเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ การตอบสนองเขารวดเร็วมาก
ป่านกวงยังคงไร้อารมณ์ขณะหันหลังและหายไปในป่า
การโจมตีครั้งนี้ ป่านกวงสามารถฆ่าทหารศัตรูนับร้อยรวมถึงทำลายรถหุ้มเกราะหลายคัน ขวัญกำลังใจของทหารเฮสล่าตกต่ำลง พวกเขาบาดเจ็บเป็นจำนวนมากและตวามเหนื่อยล้าสะสมจากการโจมตีก่อนหน้าก็ปะทุขึ้น สถานการณ์บังคับให้คาร์ลต้องชะลอการโจมตีแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
จี่เจี่ยเฝ้าสังเกตสถานการณ์จากจอคอม เขตปลอดภัยสองถูกทำลาย และกองทัพเฮสล่าก็กำลังเคลื่อนพบไปเขตปลอดภัยสุดท้าย แม้กองทัพเฮสล่าจะประสบกับความสูญเสีย พวกเขาก็ยังมีอาวุธเหนือกว่าทหารฝ่ายองค์กรต้นกำเนิด
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม
หลังป่านกวงกลับมา จี่เจี่ยก็ล็อคประตูเข้าฐาน แม้ศัตรูจะสามารถทำลายฐานนอกได้ พวกเขาก็ยังไม่อาจหาฐานในได้ นอกจากนี้ จี่เจี่ยยังเตรียมมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ทหารเฮสล่าด้านนอกฐานในแล้ว
“ท่านรอง เราจะอพยพกันเมื่อไรครับ?”
“ตอนนี้”จี่เจี่ยพูด
เจ้าหน้าที่ฐานในมารวมกันหน้าประตูทางเดินลับที่สาม หลินเหยาและแลมเบิร์ตอยู่ห่างจากคนพอสมควร เมื่อไม่มีใครคอยดู พวกเขาก็รีบรายงานข้อมูลสำคัญ คนแปลกหน้าจะคิดว่าพวกเขากำลังสนทนากันอยู่
...
บูม!
ป้อมปราการสุดท้ายถูกทำลายเป็นชิ้นๆด้วยปืนใหญ่ติดรถถัง ทหารยามที่เหลืออยู่ไม่มีทางเลือกนอกจากถอยเข้าฐาน
แนวป้องกันทั้งหมดพังลงและในที่สุดคาร์ลก็ผ่อนคลาย
เขตปลอดภัยสองจุดสุดท้ายเกินการคาดการณ์ไปมาก เบื้องบนต้องไม่ประทับใจอย่างแน่นอน
“ศัตรูหนีเข้าฐานสุดท้ายไปแล้ว และก็กำลังถอยหนี เราจะปล่อยให้กองทัพพักก่อนไหมครับ?”รองผู้บัญชาการถาม
คาร์ลนั่งคิด และนึกถึงรายงานข้อมูลของหานเซี่ยว มันกล่าวว่ามีฐานในและยังเป็นทางหนีลับ ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ามันเป็นโอกาสให้เขาปรับปรุงบันทึกการต่อสู้ เขาไม่อยากเสียเวลาแม้แต่นาทีเดียวเพื่อลดโอกาสการหลบหนีของศัตรู ดังนั้น เขาจึงแกปัญหาด้วยการออกคำสั่ง
“โจมตีทันที จำไว้ว่าให้ค้นหาอย่างละเอียด โดยเฉพาะในห้องเก็บของ มันต้องมีประตูลับที่นำเราไปยังฐานในของศัตรู”
คำสั่งถูกยืนยัน และทหารที่ยังไม่ฟื้นตัวจากการต่อสู้ก่อนหน้าก็จำต้องเข้ากวาดล้างศัตรูที่เหลือ ฐานเล็กมาก และการต่อสู้ก็เกิดขึ้นบนทางเดินแคบ เสียงปืนดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน
“เราพบห้องเก็บของ แต่ไม่อาจมองเห็นประตูลับครับ เราได้ทำการทดสอบด้วยการติดตั้งระเบิด แต่ก็มีเพียงกำแพงคอนกรีตเท่านั้นครับ”
“ข้อมูลผิดพลาด?”คาร์ลขมวดคิ้ว เขาเรียกรองผู้บัญชาการและกล่าว“นำตัวสายลับจากแผนก13มานี่ นอกจากนี้ เอาตัวหานเซี่ยวมาด้วย ฉันอยากถามพวกเขาเกี่ยวกับข้อมูลที่พวกเขาส่งมา”