GE91 สามสิ่งที่จะมอบให้ [ฟรี]
วันนี้เป็นวันแรกที่เสียวอยู่เข้าใจว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า
จนชูชิงผู้แข็งแกร่งจนทำให้นางต้องหวาดกลัวไม่กล้าเย่อหยิ่ง แต่สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจ คือหนานเหว่ยผู้ทะนงตนยังแสดงความเคารพต่อผู้เยาว์คนนั้น
ในหมู่ผู้ฝึกตน ยามที่พบกันมักจะป้องมือคารวะ แต่หนานเหว่ยในยามนี้กลับคุกเข่า และเรียกขานอีกฝ่ายว่านายน้อย
“หนานเหว่ยคารวะนายน้อย!” ดวงตาหนานเหว่ยเป็นประกาย
“นายน้อย?” เสียวอยู่เพิ่งทราบว่าบุรุษร่างกายผอมบางเบื้องหน้า เป็นนายของหนานเหว่ย
นางมองสำรวจหนิงฝานตั้งแต่หัวจรดเท้า นางไม่เข้าใจว่าหนิงฝานที่มีรูปร่างผอมบาง เหตุใดจึงต้านรับสัมผัสเทพที่ทรงพลังของชูชิงได้ ที่สำคัญ เหตุใดจึงทำให้หนานเหว่ยนับถือได้ขนาดนี้
แต่เมื่อนางมองสำรวจไปที่บริเวณเอวของหนิงฝานจึงพบป้ายหยก สีหน้าของนางแปรเปลี่ยน นางรู้แล้วว่าหนิงฝานเป็นใคร
นายน้อยผู้นี้ นางไม่รู้มาก่อนว่าคือหนิงฝาน ผู้อาวุโสของโถงขัดเกลาผสาน
“เขา...เขาคือหนิงฝาน! ไม่... ข้าหมายถึงผู้อาวุโสหนิง...”
นางไม่กล้าสบตา นางเป็นสตรีที่เย่อหยิ่ง น้อยคนที่นางจะหวาดกลัว
นางเป็นผู้เยาว์ของตระกูลเสียวที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาลับบางอย่าง เมื่อนางลอบใช้วิชาสำรวจหนิงฝาน บางสิ่งก็ได้ปรากฏขึ้นในหัวของนาง ทำให้นางหวาดกลัวหนิงฝานจนตัวสั่น
‘วิชาสืบโลหิต’ เป็นวิชาที่ทำให้มองเห็นระดับพลัง เป็นวิชาที่ร้ายกาจและยากจะฝึกฝนในระยะเวลาสั้นๆ น้อยคนที่จะฝึกฝนได้ วิชานี้เป็นวิชาที่ลึกลับ ผู้ที่ฝึกสามารถตรวจสอบอีกฝ่ายจากกลิ่นอายโลหิตที่อยู่ในจิตวิญญาณ และรู้ถึงความลับของคนผู้นั้น
ในสายตาของเสียวอยู่แล้ว แม้ระดับพลังของชูชิงจะแข็งแกร่งและสังหารผู้คนมากมาย แต่ยังไม่นับเป็นปีศาจร้าย
ผิดกับหนิงฝานที่อยู่เบื้องหน้า แม้เขาจะมีท่าทีสงบ แต่ปราณโลหิตที่แผ่ออกมาจากจิตวิญญาณนั้น รุนแรงมากกว่าชูชิงหลายร้อยเท่า
มือของหนิงฝานอาบโลหิตมามาก… กระบี่แยกสวรรค์สังหารภูติผีในป่าแห่งภูติพรายนับแสน! และยังมีปราณโลหิตอีกกลุ่มที่มีจำนวนนับพัน ซึ่งเป็นปราณโลหิตของเหล่าผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ!
ไม่สามารถตัดสินหนิงฝานได้ที่ภายนอก
หนิงฝานไม่ได้ใส่ใจท่าทางหวาดกลัวของเสียวอยู่ เขาสนใจเพียงชูชิงที่กำลังเคารพเขา หนานเหว่ยก็เช่นกัน
หนิงฝานสะบัดแขนเสื้อ พยุงร่างหนานเหว่ยให้ลุกขึ้น
หนิงฝานส่ายหน้า หวนนึกถึงคราวงานประมูลผลไม้แห่งเต๋า ที่ได้หนานเหว่ยเป็นผู้ติดตาม
การที่ยกระดับพลังก็เท่ากับการเปลี่ยนสถานะ แม้หนิงฝานจะได้ผู้ติดตาม แต่ก็ต้องเสียสหายไป
“น้องหนาน...”
“เรียกข้าหนานเหว่ยเถอะนายน้อย!”
“อืม… หนานเหว่ย ดูเหมือนเจ้าจะบรรลุขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 10 แล้ว อีกไม่นานเจ้าคงบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณนี่ ‘โอสถวิญญาณ’... ใช้มันและเก็บตัวฝึกฝน เจ้าจะทะลวงขอบเขตได้ไม่ยาก”
หนิงฝานกล่าวพลางนำขวดหยกออกมา 1 ขวด ยื่นส่งให้หนานเหว่ย
โอสถวิญญาณ โอสถผันแปรที่ 2 แม้สมุนไพรจะไม่ได้หากยากมากนัก แต่มีประโยชน์ไม่น้อย มันช่วยทำให้ผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตเปิดเส้นชีพจรที่ 10 ทะลวงไปยังขอบเขตประสานวิญญาณได้! นักปรุงโอสถน้อยคนจะปรุงได้ เพราะนักปรุงโอสถต้องเก่งกาจเป็นอย่างมาก
‘วิชาผสานเพลิงวารี’!
เป็นวิชาปรุงยาที่ไม่มีผู้ใดในแคว้นเยว่ทำได้ แม้เป็นในโลกโลกพิรุณเอง ก็มีน้อยคนจะทำได้เช่นกัน
ชูชิงในยามนี้จ้องมองขวดโอสถของหนิงฝาน จนเกือบจะฉวยเอาจากมือเพื่อนำมาศึกษา
แต่มันไม่กล้า หนิงฝานยื่นขวดโอสถให้หนานเหว่ย มันทำได้เพียงมองอย่างเสียดาย
หนานเหว่ยคาดไม่ถึงว่านายน้อยของมันจะยอมมอบโอสถที่ล้ำค่าเช่นนี้ให้ ทำให้ตัวมันนับถือและเคารพหนิงฝานขึ้นอีกมาก
“ขอบคุณนายน้อยที่มอบโอสถให้ข้า!”
“อืม!” หนิงฝานพยักหน้าเล็กน้อย เขานึกบางอย่างออกและกล่าวเสริม “จริงสิ… ครึ่งเดือนหลังจากนี้ข้าจะปรุงโอสถ ในช่วงนั้นข้าหวังว่าเจ้าจะทะลวงขอบเขตประสานวิญญาณได้สำเร็จ เมื่อถึงยามนั้น ให้เจ้ามาหาข้าที่ตำหนักปรุงโอสถ ข้ามีเรื่องต้องไหว้วานเจ้า”
เรื่องไหว้วานที่หนิงฝานกล่าว สมควรเป็นเรื่องนำโอสถไปส่งยังเมืองหนิง
ด้วยเพราะยามนี้เขาถูกจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่หมายตา จึงยังกลับไปเมืองหนิงไม่ได้ เขาไม่อยากให้มันสะกดรอยกระทั่งเปลี่ยนเป้าหมายจู่โจมเป็นจื่อเฮ่อและคนอื่นๆที่นั่น
เมื่อกล่าวกับหนานเหว่ยแล้ว หนิงฝานก็เข้าสู่ตำหนักปรุงโอสถ ยามนั้นเอง ชูชิงก็ยิ้มให้หนานเหว่ยเล็กน้อย
“ดูท่าสหายน้อยและผู้อาวุโสหนิงจะสนิทสนมกันมาก”
“ผู้อาวุโสเรียกข้าว่าหนานเหว่ยเถอะ คำว่าสหายน้อย ผู้เยาว์ไม่คู่ควร!” หนานเหว่ยป้องมือคารวะชายชรา
“ฮ่าฮ่า… สหายน้อยต้องการใช้ห้องปรุงโอสถไม่ใช่รึ? มาเถอะ ข้าจะเปิดห้องปรุงโอสถขั้นต้นให้เจ้า”
ท่าทีที่เปลี่ยนไปของชูชิงทำให้หนานเหว่ยทำตัวไม่ถูก เพราะแม้เป็นศิษย์ฝ่ายในที่ต้องการใช้ห้องปรุงโอสถ ชายชราย่อมไม่อนุญาติ
ศิษย์คนอื่นๆระแวกนั้นมองหนานเหว่ยด้วยความอิจฉา ที่ชูชิงสุภาพกับหนานเหว่ยนั้นเป็นเพราะหนิงฝาน
“หนานเหว่ยผู้นั้นโชคดีจริงๆ ที่ได้เกี่ยวพันกับผู้อาวุโสหนิง...”
…
ครั้งนี้หนิงฝานได้ใช้ห้องปรุงโอสถขั้นสูง ที่สามารถใช้เพลิงพิภพระดับ 3 ปรุงโอสถได้
หนิงฝานตั้งใจจะใช้เวลาครึ่งเดือนในการปรุงโอสถผันแปรที่ 3 ที่ตั้งใจไว้
หนิงฝานได้รับความเคารพจากชูชิงอย่างสูง จากนิสัยของชายชราแล้ว มันจะเคารพเพียงนักปรุงโอสถที่เก่งกาจ ทำให้หนิงฝานสงสัยว่าชายชราอาจทราบระดับการปรุงโอสถของตน
“ไม่มีทาง… ข้าไม่ได้เปิดเผยการปรุงโอสถ มันไม่น่าจะรู้ หากมันจะรู้ว่าข้าเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ก็อาจรู้โดยบังเอิญ”
ผู้ที่ไม่ผิดแปลกจากทั่วไปคือปีศาจ… หนิงฝานจ้องมองเพลิงพิภพสีครามด้วยความลังเล แต่ไม่นานความลังเลเหล่านั้นก็หายไป
เขาเตรียมพร้อมรับทุกสิ่ง ไม่ว่าปัญหาใดย่อมมีทางแก้ หากชูชิงมีอุบายแอบแฝง เขาก็ไม่กลัว
เทียบกับจักรพรรดิปีศาจไป๋กู่แล้ว ชูชิงไม่นับเป็นอันตราย
หนิงฝานพับแขนเสื้อ นำกระถางกลั่นโอสถ นำสมุนไพรพันปีและห้าร้อยปีออกมา
ด้วยที่หนิงฝานยกระดับพลังขึ้นอีกขั้น การควบคุมกระถางปรุงโอสถจึงทำได้ดีขึ้น กระถางปรุงโอสถใบนี้เป็นสมบัติวิญญาณขั้นสูงที่เหมาะกับผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำ เพราะมันต้องใช้ปราณจำนวนมากในการควบคุม
หนิงฝานนำสมุนไพรใส่ลงไปในกระถางและเริ่มปรุงโอสถ
เพลิงพิภพระดับ 3 เป็นเพลิงที่รุนแรงพอจะสังหารผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำได้ หนิงฝานควบคุมมันผสานกับเพลิงทมิฬของตน ทำให้ควบคุมเพลิงพิภพได้ดีขึ้น
แม้การปรุงโอสถจะต้องดำเนินไปถึงครึ่งเดือน แต่ชูชิงได้ยืนเฝ้าหน้าห้องปรุงโอสถของหนิงฝาน ราวกับเป็นผู้คุ้มกัน
แต่ละครั้งที่มันได้กลิ่นของโอสถ มันทั้งประหลาดใจและดีใจ
“โอสถผันแปรที่ 3 ‘โอสถน้ำลายมังกร’”
“หืม? นี่มัน ‘โอสถทองคำม่วง’”
“นี่กลิ่นโอสถชนิดใด? จากกลิ่นของโอสถแล้ว สมควรเป็น ‘โอสถคุ้มเส้นชีพจร’”
“โอ? นี่มัน ‘โอสถฟื้นฟู’ เป็นโอสถที่ใช้ในสตรีเท่านั้น ผู้อาวุโสหนิงช่างเก่งกาจ แต่จะเอาโอสถชนิดนี้ไปทำอันใด?”
“เป็นไปไม่ได้! กลิ่นนี้ไม่ผิดแน่! โอสถอัสนี! โอสถที่ข้าเคยเห็นเพียงในตำราโบราณเท่านั้น!”
“ยังมีนี่!”...
ชูชิงกล่าวอย่างตื่นเต้น ประสาทการดมกลิ่นของมันท้าทายสวรรค์มาก ไม่ว่ากลิ่นของโอสถชนิดใดมันย่อมรู้ ดังนั้น มันจึงรู้กระบวนการปรุงโอสถของหนิงฝานด้วย
ยามนี้ชายชรามั่นใจมากว่าหนิงฝานคือนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 นี่เป็นครั้งแรกที่มันมั่นใจ 9 ใน 10 ส่วน
ไม่มีนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 คนใดที่ปรุงโอสถได้รวดเร็ว และมีทักษะที่เหนือชั้นเหมือนหนิงฝาน แม้ชายชราจะเคยเห็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 มาบ้าง แต่ความเร็วและอัตราความสำเร็จยังไม่อาจเทียบเคียงหนิงฝาน
ยามนี้ชูชิงขบคิดสิ่งต่างๆมากขึ้น
หากหนิงฝานเป็นนักปรุงโอสถผันที่ 4 จริง เขาอาจเป็นปีศาจทมิฬหนิงเหมือนข่าวลือ
นักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 นั้นหาได้ยากกว่าผู้เชี่ยวชาญดวงจิตแรกเริ่ม เป็นไปไม่ได้ที่ในแคว้นเยว่จะมีนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ถึง 2 คน
หากเป็นอย่างที่ชายชราคิดจริง ก็หมายความหนิงฝานใช้ข่าวลวงหลอกผู้คนทั้งแคว้นเยว่
แต่ข่าวลือนั้นก็น่าเชื่อถือ เพราะคงไม่มีใครเชื่อว่าผู้เยาว์อายุ 17 ปีจะเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 จริงๆ
เสียวอยู่เห็นความจริงที่หนิงฝานเคยสังหารผู้คนมามากมาย ส่วนชูชิงเห็นระดับการปรุงโอสถของหนิงฝาน
ในโลกของผู้เชี่ยวชาญนั้น จะดูแคลนผู้อื่นไม่ได้ เพราะแม้ตนเองจะระวังตัวเป็นอย่างดี ก็ใช่ว่าจะปกปิดตัวตนได้อย่างสมบูรณ์
แต่โชคดีที่ชูชิงรู้ความลับของหนิงฝานไปก็ไม่เป็นประโยชน์ เพราะมันสนใจเพียงทักษะการปรุงโอสถของหนิงฝานเท่านั้น
ชายชราเฝ้ารออยู่หน้าปรุงโอสถกระทั่งเวลาล่วงไปครึ่งเดือน ประตูห้องปรุงโอสถก็เปิดออกเสียงดัง กลิ่นหอมของโอสถโชยมาพร้อมกับเงาร่างหนิงฝาน ที่กำลังเดินออกจากห้อง
การปรุงโอสถอย่างต่อเนื่องครึ่งเดือนนั้นค่อนข้างเหนื่อย แต่ด้วยเพราะความต้องการโอสถ จึงจำเป็นต้องพยายามอย่างหนัก
หนิงฝานป้องมือคารวะให้กับชูชิง แต่เมื่อเขากำลังจะจากไป ชายชรากลับรั้งเขาไว้
“ผู้อาวุโสหนิง...ท่านคือนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ใช่หรือไม่?” ชายชรากล่าวถามด้วยสัมผัสเทพ
“ถ้าใช่แล้วทำไม… ถ้าไม่ใช่แล้วทำไม...”
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา ในที่สุดชูชิงก็เผยธาตุแท้ หนิงฝานยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาดีหรือร้าย
“หากผู้อาวุโสหนิงเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ข้าก็มี 3 สิ่งที่จะมอบให้ท่าน”
“โอ้? ข้าขอทราบถึง 3 สิ่งที่ท่านกล่าวถึง”
แววตาหนิงฝานกลับคืนสู่ความสงบ ชูชิงอาจไม่ใช่ศัตรู
หนิงฝานไม่ทราบว่าชูชิงจะมอบอะไรให้ตน หรือมันจะมีอุบาย
“ฮ่าฮ่า… สิ่งแรกที่ข้าจะให้นั้นอยู่ไกลสุดขอบฟ้า แต่ก็อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม… ผู้อาวุโสหนิงเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 ข้าจะให้ท่านดูกระถางปรุงโอสถของข้า… ฮ่าฮ่า ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญฝ่ายอธรรม ทั้งยังเป็นนัปรุงโอสถผันแปรที่ 4 การที่ข้ายอมให้ท่านได้เห็นกระถางปรุงโอสถ ถือเป็นประโยชน์กับท่านหรือไม่?”
“หืม? ผู้อาวุโสชูล้อข้าเล่นแล้ว… ข้าเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 หากท่านให้ข้าดูกระถางปรุงโอสถ จะเป็นประโยชน์กับข้าอย่างไร? ข้าว่า สิ่งที่ท่านต้องการคืออยากเห็นทักษะปรุงโอสถของข้ามากกว่า!”
หนิงฝานยิ้มเล็กน้อย เขามองความต้องการของชายชราออก
เพราะก่อนหน้านี้ ชายชราแอบสังเกตุทักษะการปรุงโอสถของเขาจริงๆ
“ฮ่าฮ่า… ช่างเถอะ สำหรับข้าแล้ว เพื่อให้ได้ร่ำเรียนทักษะการปรถงโอสถ ข้ายอมทำทุกอย่าง… หากผู้อาวุโสหนิงเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 จริง ข้าจะยอมเป็นศิษย์ของท่าน! ให้ท่านสลักตราประทับลงไปในจิตวิญญาณข้า แล้วความเป็นความตายของข้าจะอยู่ในมือท่าน”
“แค่ก แค่ก แค่ก...”
หนิงฝานถึงกับสำลักกับคำกล่าวของชายชรา
ที่แท้ชายชรากลับหวังเป็นศิษย์เพื่อให้ได้ร่ำเรียนทักษะปรุงโอสถ
ชายชราผู้นี้ช่างเอาแต่ใจโดยแท้
หนิงฝานไม่เกี่ยงที่จะรับศิษย์ อีกอย่าง การได้ผู้เชี่ยวชาญแก่นทองคำขั้นต้น ทั้งยังเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 3 เป็นผู้ติดตาม หนิงฝานย่อมไม่ปฏิเสธ
แต่หนิงฝานยังคงสนใจสิ่งที่ชายชรากล่าวว่าจะมอบให้
สิ่งแรกที่ชายชรามอบให้คือตนเอง ส่วนสิ่งที่เหลือ หนิงฝานยังไม่ทราบ
“ฮ่าฮ่า… ดูท่าอาจารย์จะตื่นเต้นกับสิ่งแรกที่ข้ามอบให้...” ชายชราเรียกขานหนิงฝานว่าอาจารย์ โดยที่หนิงฝานยังไม่รับคำ
แต่อย่างไรก็ตาม ทั่วทั้งแคว้นเยว่ นักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 อาจมีเพียงหนิงฝานเพียงคนเดียว หากพลาดโอกาสที่จะได้หนิงฝานเป็นอาจารย์ ทั้งชีวิตของชายชราคงไม่อาจหาอาจารย์ เพื่อยกระดับการปรุงโอสถของตนได้อีก
ชายชราต้องการยกระดับการปรุงโอสถมาก
“สิ่งที่ 2 ที่ข้าจะให้… เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ศิษย์ได้มีโอกาสได้ตำราโบราณเล่มหนึ่ง ในนั้นบันทึกทักษะการปรุงโอสถโบราณ โดยกล่าวไว้ว่าสามารถยกระดับการปรุงโอสถ ไปยังโอสถผันแปรที่ 5 ได้ หากอาจารย์เป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 จริง ท่านคงสนใจสิ่งนี้ไม่น้อย!”
“อะไรนะ? ยกระดับการปรุงโอสถ ไปเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5?”
แม้เป็นหนิงฝานก็ยากจะเมินเฉยกับสิ่งนี้
หนิงฝานได้รับความทรงจำสืบทอดมาจากเทพสวรรค์ กระทั่งเขาบรรลุนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 แต่หากจะทะลวงไปยังโอสถผันแปรที่ 5 นั้น ยังมีบางสิ่งขวางกั้น และเขายังไม่สามารถทะลายได้
หากจะกล่าวว่าไม่ต้องการทะลวงไปยังนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 นั้นคงเป็นเรื่องโกหก อีกอย่าง หากไม่มีโอสถแล้ว หนิงฝานย่อมไม่สามารถบรรลุขอบเขตประสานวิญญาณได้ง่ายๆ
สิ่งที่ชูชิงมอบให้ช่างเย้ายวนใจ นอกจากจะยอมเป็นศิษย์แล้ว ยังมอบวิธีทะลวงไปยังนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ให้
“หากได้ชูชิงเป็นศิษย์ย่อมถือเป็นเรื่องดี และดูเหมือนมันจะกตัญญูกับผู้เป็นอาจารย์มาก...”
แต่หนิงฝานยังคงอยากทราบสิ่งที่ 3 ของชายชรา
อย่างแรกคือยอมเป็นศิษย์
อย่างที่สองคือยอมยกวิธีการทะลวงไปยังนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 ให้
แล้วอย่างสุดท้ายคืออะไร?
“อย่างสุดท้ายคือสมุนไพร… ไม่ ถ้ากล่าวให้ถูกสมควรเป็น ‘ปีศาจสมุนไพร’...”
เมื่อได้ฟังคำกล่าวชายชรา สีหน้าหนิงฝานแปรเปลี่ยนอย่างไม่อาจควบคุม
“ปีศาจสมุนไพรจริงหรือ?”
“จริง!”
สีหน้าของหนิงฝานแปรเปลี่ยน ปีศาจสมุนไพรคือสมุนไพรระดับสูงที่ถือกำเนิดขึ้นตามธรรมชาติ มันมีอายุมานานทำให้มีจิตวิญญาณเป็นของตน และจิตวิญญาณนั้นก็กลายเป็นปีศาจ
การที่สมุนไพรจะแปรเปลี่ยนเป็นสมุนไพรปีศาจนั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก หนึ่งในเงื่อนไขที่สำคัญ 1 ข้อคืออย่างน้อยๆสมุนไพรชนิดนั้นต้องเป็นสมุนไพรของโอสถผันแปรที่ 5!
สิ่งสุดท้ายที่ชายชราจะมอบให้นั้น ทำให้หนิงฝานสนใจอย่างที่สุด ปีศาจสมุนไพรนั้น ไม่รู้ว่ามันจะมีพลังมากขนาดไหน
แต่อย่างน้อย แม้หนิงฝานจะบรรลุขอบเขตแก่นทองคำ ก็ใช่ว่าจะสยบสมุนไพรได้
สิ่งที่ชายชราจะมอบให้นั้นน่าสนใจอย่างมาก จนทำให้หนิงฝานคิดว่า หากตนเองไม่รับชายชราเป็นศิษย์ เขาคงเป็นผู้ที่โง่เขลา...