บทที่ 28 เริ่มกลายร่าง
บทที่ 28 เริ่มกลายร่าง
ความเงียบงันที่ยาวนานบีบกดจนแทบจะหายใจไม่ออก คำพูดประโยคนี้และแววตาที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวาของซย่าน่าล้วนทำให้หัวใจของหลิงม่อจมลงสู่ก้นเหว จิตใจก็เปลี่ยนเป็นหนักอึ้งขึ้นมาทันที
“ฉันยอมตาย...ดีกว่ากลายเป็นซอมบี้...” ซย่าน่าพูดเสียงเบาอย่างใจลอย ขณะเดียวกันก็ยันข้างเตียงและลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ส่วนหลิวอวี่หาวตะลึงงันพลางมองเธอ เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็อยู่ในภาวะช็อกสุดขีดเช่นกัน
ตอนที่ถูกตีจนสลบ มีดยาวของซย่าน่าก็ถูกทิ้งไว้ที่เดิม แต่แล้วเธอก็หันไปมองหลิวอวี่หาวอย่างฉับพลัน ในดวงตาฉายแววความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ขึ้นมาทันที จากนั้นยื่นมือไปแย่งมีดหั่นผักในมือของหลิวอวี่หาวมา
ทว่าเธอเพิ่งจะขยับตัว หลิงม่อก็ได้สติกลับคืนมาทันที แล้วแย่งมีดหั่นผักเล่มนั้นกลับคืนมา เวลานี้ซย่าน่าไร้ซึ่งเรี่ยวแรงใดๆ จึงไม่อาจต้านทานหลิงม่อได้
“ฉันไม่อยากกลายเป็นซอมบี้! ฉันไม่อยากกลายเป็นสัตว์ประหลาดพวกนั้น!” สายตาของซย่าน่าลอกแลกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเธอก็ผลักหลิงม่ออย่างแรง พร้อมกับยื่นมือไปแย่งมีดจากมือหลิงม่อ
แต่หลิงม่อได้โยนมีดหั่นผักทิ้งไปบนพื้นเรียบร้อยแล้ว เขาคว้าจับไหล่ของซย่าน่าด้วยมือข้างเดียวและพูดอย่างดุดันว่า “อย่าทำเรื่องโง่ๆ น่ะ! ตอนนี้ยังไม่ได้กลายร่างไม่ใช่เหรอไง ต้องหาวิธีแก้ปัญหาได้อย่างแน่นอน!”
“อ้าก! เอามีดมาให้ฉัน เอามีดมาให้ฉัน!”
ซย่าน่าไม่ได้ยินสิ่งที่หลิงม่อพูดเลย เธอกลับร้องโวยวายเสียงดัง หลิงม่อจนปัญญา จึงจำต้องยื่นมือไปทุบศีรษะด้านหลังของซย่าน่าหนึ่งที จากนั้นก็รับร่างที่อ่อนยวบยาบของเธอมาไว้ในอ้อมแขน
“ติดเชื้อ...ซย่าน่า...” เวลานี้หลิวอวี่หาวยืนขึ้นพลางตัวสั่นเทิ้ม แล้วมองดูซย่าน่าที่สลบไสลอยู่ในอ้อมแขนของหลิงม่อด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อ เขาพูดออกมาไม่เป็นประโยคเลย
แม้แต่หวังเฉิงก็หน้าตาซีดเผือดเช่นกัน เมื่อไม่มีซย่าน่า การที่เขาจะใช้ชีวิตแบบมอดอีกครั้งนั้น ความเป็นไปได้แทบจะเป็นศูนย์
“ซย่าน่าจะ...กลายเป็น...แบบลู่ซินอย่างนั้นน่ะเหรอ” จู่ๆ หลิวอวี่หาวก็หันมามองหลิงม่อและถามเสียงพึมพำ
ใช่แล้ว ลักษณะท่าทางของลู่ซินน่ากลัวยิ่งกว่าซอมบี้เสียอีก ถ้าหากกลายเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ อย่าว่าแต่ซย่าน่าเลย หลิงม่อเองก็ยอมรับไม่ได้เช่นกัน เมื่อเห็นสายตาของหลิวอวี่หาวใกล้จะสติแตกเต็มที หลิงม่อก็แอบถอนหายใจอยู่ในใจและพูดอย่างช้าๆ ว่า “ใจเย็นๆ ก่อน ตอนนี้คนที่ทุกข์ทรมานที่สุดคือซย่าน่า นายไม่อยากคิดหาวิธีช่วยเธอหรอกเหรอ”
“วิธี?” พอหลิงม่อพูดแบบนี้ หลิวอวี่หาวก็พลันตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่น้ำตากลับไหลลงมาอย่างควบคุมไม่อยู่ “ยังจะมีวิธีอะไรอีก...”
“จากสภาพของลู่ซินบวกกับระยะเวลาที่เรากับเขาแยกจากกัน คำนวณได้อย่างคร่าวๆ ว่าตั้งแต่ติดเชื้อจนถึงแสดงอาการ น่าจะเป็นเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง สรุปคือพยายามคิดหาวิธีให้ได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมงนี้ก็แล้วกัน ยังไงลองพยายามดูก็ยังดีกว่านั่งรอความตาย” เมื่อเทียบกับหลิวอวี่หาวที่ใกล้จะสติแตกแล้ว หลิงม่อใจเย็นกว่ามาก ซึ่งเหตุผลสำคัญที่สุดคือเพราะข้างกายหลิงม่อ มีซอมบี้กลายพันธุ์อยู่หนึ่งตัวนั่นคือเย่เลี่ยน
ดังนั้นสำหรับหลิงม่อแล้ว ถ้าเป็นซอมบี้กลายพันธุ์ มันยังพอมีความหวัง แต่ถ้าร่างกายเน่าเปื่อยไปทั้งตัว ก็คงหมดหวังไม่มีทางช่วยได้แล้วจริงๆ
“ถ้างั้น...ก็ตัดมือข้างนี้ทิ้งเถอะ...” จู่ๆ ดวงตาของหลิวอวี่หาวก็ฉายแววดุร้ายขึ้นมา แล้วพูดเสนอ
หลิงม่อส่ายหัว “ไม่มีประโยชน์แล้วละ ผ่านมาสักพักใหญ่แล้ว”
“แล้วยังจะมีวิธีอะไรอีกล่ะ” สีหน้าของหลิวอวี่หาวดูหม่นหมองลงอีกครั้ง
แล้วหัวสมองของหลิงม่อก็เริ่มครุ่นคิดขึ้นมาทันที ลู่ซินติดเชื้อจากซอมบี้กลายพันธุ์ ด้วยความที่ไม่อาจทนรับความรุนแรงของเชื้อไวรัสได้ จึงทำให้เน่าเปื่อยไปทั้งตัว สำหรับซย่าน่า น่าจะจัดเป็นการติดเชื้อทอดที่สอง เชื้อไวรัสที่ได้รับมาได้ผ่านการเจือจางลงในร่างกายลู่ซินแล้ว แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีความเข้มข้นสูงกว่าเชื้อไวรัสของซอมบี้ทั่วไปอยู่ดี
ร่างกายของซย่าน่าจะทนรับไหวได้ไหมนะ คำตอบคือมิอาจรู้ได้
หลิงม่อก้มลงมองซย่าน่าที่อยู่ในอ้อมแขนและแอบทนไม่ได้อยู่ในใจ สิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้นี้เป็นแค่การปลอบประโลมเท่านั้น ที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะยับยั้งการกลายร่างของซย่าน่าอย่างไร ความจริงแล้วเขารู้ดีแก่ใจว่าซย่าน่าจะต้องกลายร่างอย่างแน่นอน แต่แตกต่างกันแค่ตรงที่เธอจะกลายเป็นซอมบี้ธรรมดา หรือว่าเป็น “สิ่งที่น่ารังเกียจ” แบบลู่ซิน
ระหว่างที่หลิงม่ออยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ซย่าน่าก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา แต่ขณะที่กำลังสะลึมสะลืออยู่นี้ เธอไม่เพียงจะไม่ผลักหลิงม่อออกไปในทันที แต่กลับมุดเข้าไปในอ้อมอกของหลิงม่อราวกับถูกดึงดูดด้วยอะไรบางอย่าง
หลิงม่อตื่นตกใจทันที แล้วรีบก้มลงมองซย่าน่า เขาถึงได้พบว่าตนเองประเมินกำลังในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสต่ำเกินไป ดวงตาของซย่าน่าสะลึมสะลืออยู่ แต่เห็นว่าเป็นสีแดงชัดเจน เธอเริ่มที่จะกลายร่างแล้ว...ตั้งแต่ที่ลู่ซินใช้เลือดของตัวเองทำให้ซย่าน่าติดเชื้อไวรัส จนถึงตอนนี้ที่เกิดการกลายร่าง น่าจะผ่านไปแค่ไม่ถึงยี่สิบนาทีเท่านั้น
หลิวอวี่หาวเองก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของซย่าน่า เขารีบยื่นมือไปดึงแขนเธอ “ซย่าน่า เธอเป็นอะไรไป”
แต่ซย่าน่าไม่ได้ตอบเขา หนำซ้ำยังเกาะติดแผ่นอกของหลิงม่อแน่น ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ตะกุยแกรกๆ
หลิงม่อรู้สึกชาวูบที่หนังศีรษะทันที แล้วรีบผลักซย่าน่าออกไป แต่เสื้อผ้าของเขากลับถูกฉีกขาดเป็นรู ส่วนซย่าน่าที่ถูกผลักออกเบิกตาคู่แดงก่ำเต็มที่ แล้วกระโจนเข้าหาเขาอีกครั้ง ปากก็พูดพึมพำว่า “ให้ฉัน...”
ภายใต้ความกระวนกระวาย หลิงม่อลองควบคุมซย่าน่า แม้จะไม่สำเร็จโดยสมบูรณ์ แต่ก็ทำให้ซย่าน่าหยุดชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง
แล้วในช่วงเสี้ยววินาทีนี้เอง หลิงม่อก็รู้แล้วว่าซย่าน่าต้องการอะไรผ่านความปรารถนาอันแรงกล้าที่เธอส่งต่อมาให้...
ก้อนเหนียวหนืดในสมอง! ที่แท้ซย่าน่าก็ต้องการก้อนเหนียวหนืดที่ซ่อนอยู่ในอกเสื้อของเขา!
“ซย่าน่า!” หลิวอวี่หาวตะลึงงันกับการแสดงออกของซย่าน่า ส่วนหลิงม่อคว้าจับแขนของซย่าน่าอย่างรวดเร็ว แล้วกดเธอลงบนเตียงด้านหนึ่ง เขาอาศัยการโน้มตัวลงกดซย่าน่าในการบดบังสายตาของหลิวอวี่หาวและหวังเฉิง ขณะเดียวกันก็หยิบก้อนเหนียวหนืดที่มีระดับความบริสุทธิ์ของเชื้อไวรัสต่ำที่สุดออกมาจากอกเสื้อและยัดใส่ปากของซย่าน่าอย่างฉับไว
“อึกๆ...”
แตกต่างจากเย่เลี่ยน ตอนนี้ซย่าน่ายังคงมีสติดีอยู่ เพียงแต่ภายใต้การครอบงำของสัญชาตญาณ ทำให้เธอเกิดความปรารถนาต่อก้อนเหนียวหนืดอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ตอนนี้เมื่อได้กลืนกินก้อนเหนียวหนืดลงไปแล้ว ซย่าน่าก็สงบลงทันที เธอนอนกางแขนสองข้างบนเตียง ส่วนดวงตาคู่แดงก่ำมองหลิงม่อด้วยความงงงันเล็กน้อย
“เธอเป็นอะไรไป!” หลิวอวี่หาวเข้ามามุงด้วยความกังวล แต่พอเห็นดวงตาคู่นั้นของซย่าน่า เขาก็ใจเต้นตึกตักขึ้นมาทันทีและยืนไม่ค่อยอยู่
หลิงม่อเองก็จ้องมองซย่าน่าด้วยความกังวลและสังเกตดูปฏิกิริยาของเธอ หากไม่ใช่เพราะซย่าน่าปรารถนาก้อนเหนียวหนืดเป็นอย่างมากล่ะก็ หลิงม่อก็คงคิดไม่ถึงเรื่องนี้ หนามยอกเอาหนามบ่ง? ถ้าเกิดมันไปเร่งกระบวนการกลายร่างของซย่าน่า แล้วจะทำอย่างไรดี เรื่องอย่างนี้ไม่แน่ไม่นอน เขามิบังอาจทดลองดู
แต่ในเมื่อซย่าน่าปรารถนาสิ่งนี้เป็นอย่างมาก แล้วความปรารถนาอย่างแรงกล้านี้ก็มาจากสัญชาตญาณของเธอ นั่นก็แสดงว่าก้อนเหนียวหนืดจะต้องมีประโยชน์ต่อเธออย่างแน่นอน
ไม่แน่ว่าอาจจะขจัดล้างพิษภายในร่างกายเธอได้และทำให้เธอกลับมาเป็นปกติ? เมื่อความคิดนี้แวบขึ้นมา หลิงม่อก็รู้สึกตื่นเต้นทันที
.......................................................................................................................................................