ตอนที่ 78 ที่ซ่อน
ยิ่งเขาประหม่า การแทรกซึมก็ยิ่งยากกว่าเดิม หานเซี่ยวมีประสบการณ์การแทรกซึมฐานศัตรูมามาก ดังนั้น เขาจึงสงบและเดินอย่างคล่องแคล่วโดยไม่ตื่นตัว
เขาค่อยๆเข้าใจเพิ่มเกี่ยวกับฐานหลังสำรวจมันสักพัก ฐานซ่อนอยู่เนินเขา และมันก็ใหญ่กว่าห้องทดลองที่เขาเคยอยู่5-6เท่า ตัวฐานมีสองทางออก หนึ่งคือทางเข้า อีกทางคือประตูข้างสำหรับบุคลากรที่เข้าถึงโลกด้านนอกได้
ไม่รู้ว่าทำไม หานเซี่ยวกลับรู้สึกว่าสถานที่บางแห่งในฐานผิดปกติ แต่ทว่า เขาก็ไม่อาจระบุเหตุผลได้
บุคลากรส่วนใหญ่มีสีหน้าจริงจัง ราวกับพวกเขากำลังรอคอยพายุ พวกเขากำลังขนของสำคัญอย่างเร่งรีบ
“ได้ยินไหม?เบื้องบนอยากให้เราอพยพฐาน ดูเหมือนพวกเฮสล่าจะพบเราแล้ว”
“พวกเขากล่าวว่าสายลับที่ประจำการในเมืองป่าอีกาขาดการติดต่อ ฉันคิดว่าการต่อสู้คงเกิดในไม่ช้า”
หานเซี่ยวได้ยินเสียงบางอย่างขณะหันเข้ามุม ยามติดอาวุธหลายคนรวมตัวกันและพูดคุย พวกเขาดูเป็นกังวล เมื่อเห็นหานเซี่ยว หนึ่งในนั้นก็ตะโกน“เห้ย แมนเดล่า นายพบอะไรจากการค้นหาไหม?”
แมนเดล่าคือชื่อจริงของH223 เขาเป็นคนผิวขาว หานเซี่ยวสวมชุดคลุมผิวโดยสมบูรณ์ ดังนั้นคนอื่นจึงไม่สงสัย
ดูเหมือนทหารยามเหล่านี้จะสนิทกับแมนเดล่า“ทหารยามด้านนอกถูกมือซุ่มยิงลอบสังหาร เรายังไม่พบศัตรู ฉันคิดว่ามันเป็นฝีมือของพวกเฮสล่า”หานเซี่ยวโกหกขณะกระพริบตาอย่างใส่ซื่อ
เหล่ายามดูลำบาก พวกเขาล้วนเป็นทหารติดอาวุธ และหากศัตรูโจมตี พวกเขาต้องเป็นแนวหน้าป้องกันฐาน
“ฉันอิจฉาพวกที่ไม่ใช่ทหารจริงๆ พวกมันมีสิทธิ์อพยพออกจากฐานได้ก่อน”หนึ่งในยามไม่พอใจ
แสงสาดวูบในดวงตาหานเซี่ยว ในเมื่อพวกเขาต้องต่อสู้กับกองทัพเฮสล่า มันก็เดาได้ว่าศัตรูกำลังอพยพฐาน นอกจากนี้ นี่ยังเป็นเพียงฐานเสริม ไม่ใช่ฐานหลัก มันเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะถอยหนีได้
อย่างไรก็ตาม การอพยพไม่ใช่เรื่องง่าย การอพยพคนจำนวนมากจะเสี่ยงต่ออการทิ้งร่องรอยให้กองทัพเฮสล่าตรวจสอบ ดังนั้น มันจึงต้องทิ้งทหารไว้ด้านหลังและคอยปกปิดเส้นทาง ขณะที่เจ้าหน้าที่และพวกที่ไม่ใช่ทหารจะหนีไปก่อนพร้อมอุปกรณ์สำคัญ ซึ่งมีค่ากว่าทหารติดอาวุธเหล่านี้ พวกเขาทำได้เพียงหนีหลังบุคลากรสำคัญหนีได้อย่างปลอดภัย
ภารกิจทำลายค่ายสุดท้ายคือการทำลายทั้งฐาน ซึ่งรวมถึงบุคลาการด้วย หากพวกเขายึดได้แค่ฐานว่างเปล่า อัตราความสำเร็จภารกิจก็จะต่ำมาก
ความคิดหนึ่งบังเกิดในหัวหานเซี่ยว พวกเขารู้อยู่แล้วว่าเฮสล่ากำลังโจมตีฐาน พวกเขาควรอพยพออกไปได้แล้ว ทีมเย่ฟ่านแทรกซึมมาในฐานเมื่อคืนก่อน ซึ่งก็24ชั่วโมงมาแล้ว พวกเขาควรมีเวลาหลบหนีพอ ความคิดนี้ทำให้กลิ่นเริ่มไม่ดี
ชายที่ดูมีกล้ามเนื้อเดินมาและตะโกน“พวกแกสุมหัวทำอะไรกันอยู่?!พวกแกไม่มีของให้ต้องแบกรึไง?!”
เหล่ายามขอโทษอย่างกังวล มันคือหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของฐาน ดอมุนนั่นเอง
สมาชิกหลักอย่างเขาต้องรู้ความลับเกี่ยวกับฐานอย่างแน่นอน
ดอมุนเดินจากไปหลังตำหนิ และหานเซี่ยวก็เดินตามเขา หลังหลบมุม หานเซี่ยวก็ตกตะลึง เขาละสายตาไม่ถึงสองวินาทีและดอมุนก็หายไปจากสายตาเขาแล้ว
ไม่มีใครอยู่บนทางเดิน มีเพียงห้องเก็บของ
หานเซี่ยวเดินไปที่ห้องและหมุนลูกบิด มันไม่ได้ล็อค
เขาผลักประตู เปิดออกและเดินเข้าไปข้างใน ห้องกว้างประมาณร้อยตารางเมตร และเต็มไปด้วยของเบ็ดเตล็ด ไม่มีใครในห้อง โคมไฟไม่ได้เปิด และแสงจากทางเดินก็ส่องผ่านช่องว่างประตูเข้ามา
หานเซี่ยวขมวดคิ้วขณะตระหนักถึงสิ่งผิดปกติ
ห้องสะอาด และพื้นก็ไร้รอยเท้า
โดยปกติ คนน้อยมากจะเข้ามายังห้องเก็บของ แม้กระทั่งโรงแรม5ดาวยังไม่ส่งคนมาทำความสะอาดห้องเก็บของพวกเขาเช่นนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่องค์กรต้นกำเนิดจะดูแลห้องเก็บของดีขนาดนี้
มันต้องมีประตูลับที่ไหนสักแห่ง ไม่อย่างนั้น ดอมุนย่อมไม่หายไปเร็วขนาดนี้ แต่หานเซี่ยวก็หาประตูไม่พบ
อะไรจะอยู่เบื้องหลังประตูลับ?
ทันใดนั้น หานเซี่ยวจึงแสร้งทำเป็นกระแอมขณะก้มหลังลง เขาใช้โอกาสนี้เพื่อนำแมงมุมออกจากกระเป๋า จากนั้นก็โยนมันเข้ามุมเงียบๆก่อนออกห้องทันที เขานำแท็บเล็ตออกมาในจุดอับของกล้อง เปิดแมงมุม และเฝ้าดูห้องเก็บของ
หานเซี่ยวใช้เวลาสองชั่วโมงกับการเฝ้าดู ในระหว่างที่เขาเริ่มเหนื่อยล้า มันก็มีการเคลื่อนไหวในห้อง
กำแพงด้านหนึ่งเปิดออกและประตูเหล็กก็ปรากฏขึ้น คนสองคนไร้อาวุธเดินออกมา พวกเขาดูเหมือนช่างเทคนิค
มีประตูลับจริงๆ
เมื่อบุคลากรทั้งสองเดินออกจากห้อง หานเซี่ยวก็ลอบเดินตามหลัง เขาเร่งความเร็วจนชนกับเจ้าหน้าที่จากด้านหลัง ทั้งสามเกือบล้มลง
“ขอโทษครับ ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”หานเซี่ยวขอโทษเมื่อทำให้ทั้งคู่ทรงตัวได้ด้วยมือเขา
พวกเขาไม่ได้สนใจและเดินจากไป
หานเซี่ยวหันกลับไปเดินตามพวกเขาต่อ อย่างไรก็ตาม รอบนี้ เขาได้รับบัตรสีขาวมาด้วย มันคือบัตรผ่านจากกระเป๋าของเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง
ทักษะขโมยเขามีประโยชน์จริงๆ
บัตรนี้ไม่มีความแตกต่างจากบัตรประจำตัวทั่วไป อย่างไรก็ตาม หานเซี่ยวเชื่อว่าชิปภายในควรแตกต่าง มันควรเข้าถึงประตูลับได้
เขาเดินตามทั้งสองไปสักพักและมาถึงประตูข้างของฐาน ทั้งสองทักทายยามและเดินผ่านประตู
ทันใดนั้น หานเซี่ยวก็รู้ว่ามีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับฐาน
บรรยากาศ!
เกือบทุกคนกังวลถึงการโจมตีของเฮสล่า มีแค่บุคลากรกลุ่มเล็กที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งตนเองโดยไม่กังวล ดูเหมือนพวกเขาจะมีแผนสำรองและสงบนิ่งราวกับทะเล-แตกต่างจากบุคลากรกลุ่มแรกอย่างมาก
หานเซี่ยวหรี่ตาและในไม่ช้าก็ได้เหตุผลที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม เขายังต้องการหลักฐานเพื่อยืนยันความคิดเขา เขาตรงไปยังประตูข้างก่อนที่ยามจะหยุดเขา
“คุณไม่มีสิทธิ์เข้าหรือออกฐานโดยปราศจากภารกิจ”
หานเซี่ยวนำบัตรผ่านออกมาและกล่าว“ผมเผอิญชนคนเมื่อสักครู่ และพวกเขาก็ทำบัตรนี่ตกไว้ ผมอยากคืนให้พวกเขา”
ยามพยักหน้าก่อนยอมให้หานเซี่ยวเดินเข้าไป
หานเซี่ยวเดินผ่านประตูและเห็นหุบเขาป่า มันเลยเที่ยงคืนแล้ว เจ้าหน้าที่สองคนอยู่ห่างไปแค่ไม่กี่ร้อยเมตร ดังนั้นจึงยังมองเห็นหลังพวกเขากันได้ เขาไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่หันมามองเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลังและมองอย่างระมัดระวัง
“คุณทำบัตรผ่านตกไว้”
เมื่อหานเซี่ยวเดินมาใกล้ พวกเขาก็ตระหนักว่าตัวเองเผลอชนกับเขาในฐาน พวกเขาลดความระมัดระวังลง หนึ่งในนั้นค้นกระเป๋าเขาและอุทาน“ฉันเผลอทำหล่นตอนไหนเนี่ย?!ขอบใจมากนะ”
“ไม่ต้องขอบคุณผม เราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ทำงานหนักเพื่อสร้างอนาคตใหม่ นี่คือส่วนหนึ่งของงานผม”
หานเซี่ยวยิ้มเมื่อเดินเข้าไปใกล้
“คุณเป็นคนที่น่าสนใจมาก”
คนๆนั้นหัวเราะขณะขยับมือมาคว้าบัตร สีหน้าหานเซี่ยวเปลี่ยนไป และก็เปิดฉากโจมตีทันใด หมัดเขาชกใส่หน้าท้องอย่างแรง ทำให้อวัยวะภายในบาดเจ็บจากแรงกระแทก คนๆนั้นเริ่มหน้าเขียวขณะอาเจียนออกมา อีกคนเกือบกรีดร้อง แต่หานเซี่ยวก็คว้าคอเขาได้ทัน เขาทุบหัวของทั้งคู่ลงกับพื้นและกระทืบอย่างแรง ทำให้ทั้งคู่หมดสติ
หานเซี่ยวถอดเข็มขัดเขาเพื่อมัดทั้งคู่ เขาลากทั้งคู่ไปด้านหลังขณะใช้ทางอ้อมเพื่อเลี่ยงทหารยามทั้งหมด ทันทีที่มาไกลจากฐานพอ เขาก็ตบทั้งคู่เพื่อปลุก
พวกเขาตื่นด้วยสีหน้าหวาดกลัว“แก...แกไม่ได้มาจากฐาน!”
หานเซี่ยวนำมีดพับออกมา เห็นได้ชัดว่าเขากำลังข่มขู่ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็น“ฉันรู้ว่าพวกแกสองคนมีบางอย่างที่ปกปิดไว้เป็นความลับ แกควรจะบอกฉันมาดีๆ”
ทั้งคู่กลืนน้ำลายอย่างขาดกลัวและพูดติดอ่าง“เราก็แค่สมาชิกระดับต่ำที่ไม่รู้อะไรเลย”
“ระดับต่ำ?”หานเซี่ยวหัวเราะก่อนขยับมีดเข้าหาระหว่างขาของชายคนหนึ่ง
“อ้ากก...”
เขากรีดร้องราวกับวิญญาณกำลังถูกฉีกกระชาก ราวกับหมูที่กำลังถูกเฉือด แต่ก็ตระหนักว่าเขาไม่รู้สึกเจ็บปวด เขาก้มลงและเห็นใบมีดแวววาวเลยผ่านต้นขาเขาและแทงดินแข็งด้านล่าง มันห่างจากอวัยวะเพศเขาแค่สามเซนติเมตร น้องชายเขาสามารถรู้สึกได้ถึงใบมีดเย็น
“ฉันรู้ว่ามีประตูลับในห้องเก็บของ บอกฉันมาทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้แกเป็นขันทีคนแรกขององค์กรต้นกำเนิด”หานเซี่ยวกล่าวด้วยน้ำเสียงโรคจิต
แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าขันทีคืออะไร การกระทำของหานเซี่ยวก็บ่งบอกเป็นอย่างดี
“แก..แกรู้เกี่ยวกับประตูลับได้ยังไง?!”
“ฉันคือคนถาม”หานเซี่ยวยกมีดขึ้น ลูบถูกับอวัยวะเพศเขาเบาๆ ราวกับเขาอาจเผลอได้ทุกเมื่อ ชายคนนั้นกลัวมากจนฉี่รดกางเกงและ...เขาฉี่รดกางเกงจริงๆ?บัดซบ..มีดฉัน
เจ้าหน้าที่สองคนตัวสั่น เนื่องจากความลับเล็ดรอด มันก็ไม่มีอะไรให้ปิดบัง พวกเขาทำข้อมูลหลุดขณะตัวสั่นด้วยความกลัว
หลังจากนั้นสิบนาที..
คิ้วของหานเซี่ยวก็ขมวดแน่น
“ไม่แปลกใจเลย...”
[ลาดตระเวน 2 เสร็จสิ้น ท่านได้รับค่าประสบการณ์8000หน่วย]