Money Monster Episode XLIII [ซาลามันเดอร์ปรากฏตัว]
Money Monster Episode XLIII [ซาลามันเดอร์ปรากฏตัว]
ห่างจากโรงงานร้างไม่ไกลนัก มีเสาไฟฟ้าสูงสี่สิบเมตรตั้งตระหง่านอยู่อย่างองอาจ บนจุดสูงสุดมีร่างเงาสีของบุคคลสองร่างกำลังยืนดูชมการต่อสู้ครั้งสำคัญด้วยความใจจดใจจ่อ อเดมัสและยูเรโนสรอคอยการมาถึงของผู้ชมอีกสองท่านที่กำลังมาถึง
เงาสีขาวปรากฏขึ้นก่อนจะจางลงกลายเป็นร่าของชายหนุ่มผมสีเงินในชุดคลุมสีขาวยาว เขาอยู่ในท่าคุกเข่าก่อนจะยืนขึ้นที่ข้างกายของยูเรโนส
“ผมมาแล้วครับ คุณยูเรโนส”
“โอ้! เซนโรวนี่ ในที่สุดก็ยอมมาตามคำขอของฉันแล้วสินะ!” ยูเรโนสยิ้มร่าด้วยความยินดีก่อนจะเสกป๊อปคอนและน้ำอัดลมแก้วใหญ่ออกมายื่นให้ชายหนุ่มผมเงิน เซนโรวยิ้มแห้งก่อนจะยกมือขึ้นเป็นการปฏิเสธ
“ไม่ทราบว่าเรียกผมมาทำไมหรือครับ?”
“ต้องการให้ดูโชว์น่ะ!”
“โชว์?”
“ใช่!” ยูเรโนสตอบก่อนจะผายมือไปยังโรงงานร้างที่ซึ่งบัดนี้กลุ่มDของไลท์และคนอื่นๆ กำลังเคลื่อนที่เข้าสู่จุดศูนย์กลางซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่อาศัยของซาลามันเดอร์ กรีดที่เป็นเจ้าสูงสุดของพื้นที่แห่งนี้ เซนโรวหรี่ตาในทันทีที่ได้เห็น
“คุณคงไม่ได้จะให้ผมมองภาพสังหารหมู่หรอกใช่ไหม? ไม่ว่าจะโบรกเกอร์หรือกรีดชะตากรรมของพวกคู่คงไม่พ้นการแตกสลาย และผมคงไม่ยินดีที่จะเห็นมัน”
“ไม่เอาน่า! เซนโรวเอ๋ย นานๆ ทีจะได้เห็นของดีเลยเชียวนะ เนอะ! ท่านมาม่อน” ยูเรโนสยิ้มก่อนจะหันไปอีกทางหนึ่งที่ว่างเปล่า ทว่า แสงสีทองค่อยๆ เอ่อจ้าออกมาก่อนจะปรากฏเรือนร่างของหญิงสาวในชุดบุรุษ เธอ(?) ยิ้มร่าออกมาขณะมองไปยังจุดที่ไลท์ยืนอยู่
“ท่านมาม่อน” อเดมัสโน้มศีรษะลงเล็กน้อยเมื่อผู้เป็นนายปรากฏตัวขึ้น
“โชว์กำลังเริ่มแล้วหรือยัง อเดมัส”
“พร้อมแล้วครับ อีกไม่กี่อดใจรอ ความมืดที่ท่านต้องการจะช่วยขัดเกลาให้ท่านไลท์เปล่งประกายเอง”
“เยี่ยม! ยอดเยี่ยม เราจะรอดู” มาม่อนยิ้มร่าก่อนจะนั่งลงบนราวเหล็กพลางขยับแขนขาไปมาเหมือนเด็กๆ เสกขนมและน้ำอัดลมราวกับกำลังรอชมภาพยนตร์อยู่เลยไม่มีผิด
อีกทางหนึ่งที่ห่างไปไม่ไกลมากนัก ร่างของชายหนุ่มในชุดสูดสีดำกำลังนั่งอยู่ในรถลีมูนซีนสุดหรูพลางกำลังเปิดหน้าจอดูภาพการต่อสู้ของไลท์ ลินสตอร์มจากในที่ปลอดภัย โดยข้างๆ เขามีร่างของชายชรามานั่งอยู่ตั้งแต่เมื่อใดเขาก็ไม่ทราบ
ชายหนุ่มไม่ได้ตกใจแถมยังคลี่ยิ้มบางๆ อีกด้วยความยินดี ก่อนจะวางกาแฟร้อนๆ หนึ่งถ้วยไว้บนถาดขนาดเล็กตรงหน้าเป็นการต้อนรับอีกด้วย
“ไม่ได้เจอกันนานมากเลยนะครับ คุณลินสตอร์ม”
“หึหึ” ขายชราหัวเราะในลำคอ
“มาดูหลานชายสู้หรือครับ”
“ใช่แล้ว แต่ก็มาคอยจับตาดูเซนโรกับยูเรโนสด้วย สองคนนั้นเป็นลอร์ดที่อ่านทางลำบากมากจนควบคุมไม่ได้เลยเชียวล่ะ” ชายชราเอ่ยก่อนจะยกเครื่องดื่มมาซดจิบให้ชุ่มคอ ดวงตาจับจ้องไปยังในหน้าจอที่มีใบหน้าของไลท์ ลินสตอร์มกำลังถือปืนกระต่ายแดงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
‘โตขึ้นมากแล้วสินะ ไลท์’
“โอ้ว!”
“ลุยเข้าไป ลุยไปให้สุด!”
“เป้าหมายอยู่ตรงหน้าแล้ว อดทนหน่อย สู้ต่อไป!”
“เฮ!”
เสียงร้องเฮดังลั่นก่อนที่เหล่าโบรกเกอร์จะทำการอาละวาดไปทั่วพื้นที่ อมนุษย์ทุกตัวที่เร้นรอดจะถูกรุตีจนตาย หากมีเลเวลสามถึงหรือสี่โผล่ออกมา เหล่าแนวหน้าจะพากันทยอยออกมาจัดการสังหารด้วยการผสานงานสุดทรงประสิทธิภาพ
ห้าสิบนาทีผ่านไป ในที่สุดก็บุกมาจนถึงใจกลางโรงงานร้างได้สำเร็จ ที่นั่นเป็นสถานที่ผลิตสินค้าประเภทชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่เพราะถูกทิ้งร้างและเก่าผุพังแล้วด้านบนที่เป็นหลังคาจึงเป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่ ให้แสงจันทร์สาดส่องมาถึงภายในได้อย่างเห็นได้ชัด
กรีดเลเวลสามนับสิบระดมกำลังออกมารายล้อมหน้าอกเก็บของแห่งหนึ่ง พวกมันทำการเตรียมอาวุธและเพิ่มพูนพลังโหมโจมตีเข้าใส่กองทัพโบรกเกอร์ของจูดัสคลับ เปลวเพลิงสีแดงฉานจากผู้เป็นนายถูกใช้งาน แผดเผาร่างกายของชายหญิงมากมายจนถึงแก่ชีวิต
“อ้ากก!” เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ร่างกายที่ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้วิ่งควานหาน้ำไปทั่ว แต่ในโรงงานร้างไฉนจะหาน้ำมาดับได้ จึงต้องร้อนพวกใช้คฑามายิงบอลน้ำดับไฟให้ แต่โชคร้ายที่บางคนแม้จะดับไฟได้ร่างกายก็สาหัสจนทนบาดแผลไม่ได้ ตายลงในที่สุด
ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!
เสียงปืนดังรัวขึ้นก่อนที่ร่างของชายหนุ่มผมสีทองคำจะปรากฏขึ้น เขากระโดดไปมาอย่างรวดเร็วพลางสาดกระสุนใส่พวกกรีดเลเวลสามที่กองสุมรวมกันเป็นกำแพง ให้แตกกระเจิง เปิดโอกาสให้แนวหน้าของกลุ่มอื่นๆ ทยอยกันเข้าไปบุก
“ย้าก!”
“จัดการมันเลย พรรคพวก”
“เอาเงินก้อนใหญ่แล้วเอาไปเลี้ยงฉลองกัน!” เหล่าโบรกเกอร์ตะโกนปลุกใจกันพร้อมทะยานร่างพุ่งเข้าใส่อมนุษย์ไม่ต่ำกว่าห้าสิบคน พวกเขาใช้อาวุธที่มีจู่โจมเข้าที่ศัตรูพร้อมกันไม่ให้มันได้โต้ตอบ เพราะหากมันเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเมื่อใด พวกเขาจะสูญเสียความได้เปรียบทั้งหมดไปอย่างแน่นอน
ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!
ไลท์ยังคงรัวกระสุนไม่หยุด ปืนกระต่ายแดงของเขาเป็นอาวุธระดับซิลเวอร์ถือว่ามีอานุภาพสูงกว่าอาวุธประจำกายที่ยังไมได้รับการอัพเกรดอยู่ขั้นหนึ่ง ย่อมสร้างความเสียหายและอาการบาดเจ็บให้แก่กรีดเลเวลสามได้มากกว่า ถึงจะยิงได้ไม่ต่อเนื่อง แต่ก็ทำให้ขัดจังหวะหรือกระทั้งส่งอีกฝ่ายให้พลาดท่าถูกโจมตีจากคนรอบๆ
“ยอดเยี่ยม ขืนเป็นแบบนี้ต่อเราต้องชนะแน่” เสียงของเหล่าโบรกเกอร์คนอื่นดังขึ้นด้วยน้ำเสียงดีอกดีใจ
เปลวเพลิงสีเหลืองลุกโชนก่อนจะถูกปล่อยเข้าใส่พวกอมนุษย์เข้าอย่างแรง เมื่อหันไปมองก็พบกับเจ้าของเครือข่ายผู้เป็นหัวหน้าของพวกเขากำลังลอยค้างอยู่กลางอากาศ
“คุณจูดัส!”
“คุณจูดัสโผล่มาเล้ว! พวกแกตายแน่”
“ผมมาแล้วครับทุกคน..เอาล่ะ เริ่มเทศกาลล่าของพวกเรากันเถอะครับ”
“โอ้ว!”
การปรากฏตัวของจูดัส ยิ่งตอกย้ำความถูกต้อนของเหล่าอมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มผมสีขาวราวกับหิมะเสกเปลวเพลิงสีเหลืองออกมายิงเป็นกระสุนมิสไซน์ขนาดจิ๋วเข้าใส่พวกกรีด ทันทีที่เกิดระเบิดกายเนื้อของมันเสมือนถูกฉีกขาด และถูกเผาจนไหม้เกรียม
จูดัสกระโดดล่องลอยค้างกลางอากาศมาร่นลงพื้นพร้อมปล่อยเปลวเพลิงสีเหลืองออกเป็นบริเวณกว้าง เขาเคลื่อนตัวใช้กำปั้นที่อัดคลื่นความร้อนมหาศาลซัดเข้าใส่ที่ใบหน้าหรือลำตัวจนกระเด็นหลายเมตร เมื่อถูกกรีดพุ่งเข้ามาหมายจะแทง ชายหนุ่มผมขาวกลับกระโดดขึ้นกลางอากาศให้พวกมันแทงกันเองจนตายไปข้าง
เพลิงสีเหลืองจุดที่ถุงมือก่อนที่เขาจะหมุนตัวสร้างพายุไฟแผดเผาโจมตีสังหารพวกมันอย่างง่ายดาย ช่างเป็นภาพในอุดมคติที่หลายคนในนี้อยากจะเป็น ไม่ต้องใช้การ์ดเยอะแยะให้มากความ ใช้อาวุธโจมตีอย่างอิสระ เก็บกวาดศัตรูอย่างประหยัดที่สุดแต่ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด
ไลท์ที่เหนื่อยกับการต่อสู้แล้วเดินกลับมาพักรวมกับแจ๊สเปอร์และลูน่าอีกมุมหนึ่งของสมรภูมิรบ เขารับน้ำเย็นกับเจลลี่ผลไม้มาดื่มเพื่อความสดชื่น คอยจดจ้องการต่อสู้ที่องอาจของจูดัส
“สุดยอดไปเลยนะ พลังนั่นน่ะ” แจ๊สเปอร์อดชมออกมาไม่ได้ ไลท์ก็ไม่ได้อยากยอมรับแต่ดูจากภาพตรงหน้าแล้ว คงไม่มีทางปฏิเสธได้ว่าอีกฝ่ายนั้นเก่งจริงๆ
ตามที่วิเคราะห์และหาข้อมูลมาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เคล็ดลับความเก่งกาจของจูดัสมีอยู่ด้วยกันสองประการ นั่นคืออาวุธและการ์ดของเขา
จูดัสมีอาวุธเป็นถุงมือซึ่งเป็นอาวุธประเภทปล่อยพลังเวทเหมือนกับลูน่า แตกต่างตรงที่เขามีความสามารถในการพลิกแพลงธาตุต่ำกว่า หากลูน่าสามารถควบคุมได้สามธาตุ น้ำ ลม ไฟ จูดัสก็สามารถควบคุมได้เพียงธาตุไฟเท่านั้น
แต่แลกมาด้วยความสามารถที่สามารถปรับแต่งได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโจมตีระยะใกล้ ไกล หรือกลาง และเมื่อถูกพัฒนาอานุภาพก็ได้ถูกอัพเกรดครั้งใหญ่
ปกติแล้วอาวุธจะมีระดับการพัฒนาอยู่สิบเลเวล แต่แบ่งเกรดออกเป็นสี่ระดับใหญ่ นั่นก็คือ [บลอนด์] [ซิลเวอร์] [โกลด์] [ไดมอนด์] เลเวล1-3คือระดับแรกสุดคือบลอนด์ 4-6คือซิลเวอร์ 7-9คือโกลด์ และ10คือไดมอนด์ ทุกครั้งที่เลื่อนขั้นใหญ่จะได้รับความสามารถเพิ่มขึ้น และมีความรุนแรงที่สูงขึ้นเช่นกัน
อาวุธประจำกายของจูดัสคือระดับซิลเวอร์ ผนวกกับความสามารถของมอนสเตอร์คู่หู พัมพ์กิ้นเมจิกเชี่ยน ที่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะได้รับข้อเสนอพิเศษจากมาม่อนมาเช่นกัน ทำให้มอนสเตอร์ตัวนี้มีพลังที่แข็งแกร่งมาก ทำให้มีพลังที่สามารรถปลดปล่อยเปลวเพลิงสีทองออกไปโจมตีศัตรูอย่างอิสระ
เรียกได้ว่า จูดัสคือแบบอย่างของการใช้พลังของอาวุธประจำกายและมอนสเตอร์ได้อย่างลงตัวและแข็งแกร่ง
เมื่อพักเสร็จแล้วไลท์ก็หยิบคว้าปืนประจำกายกับปืนกระต่ายแดงมาไว้ในมือ การ์ดของเขาในมือเหลืออยู่พอสมควรแต่ในสต๊อกการ์ดของเขานั้นแทบไม่เหลือแล้ว
“ไลท์” แจ๊สเปอร์เอ่ยทัก
“อืม สต๊อกการ์ดของฉันจะหมดแล้ว ตามกฎของMoney Monsterถ้าการ์ดหมดแล้วต้องนำสต๊อกการ์ดสำรองมาใช้งานแทน แต่ฉันดันไม่มีนี่สิ”
“แล้วจะทำยังไงดีล่ะ?”
“รอดูคนอื่นฆ่าพวกกระจอกไป พอตัวพ่อออกมาค่อยไปเสนอหน้า ทำความเสียหายเยอะๆ ให้คุ้มค่าที่สุดและโกยแนบออกมา”
“เหอะๆ สู้ๆ นะ! ฉันจะคอยเก็บกวาดตัวกระจอกเองก็แล้วกัน พ่อคนเก่ง”
“ฮะๆ จัดไปอย่าให้เสีย” ไลท์หัวเราะขำขันเมื่อแจ๊สเปอร์เริ่มใช้คำพูดหยอกล้อกับเขาบ้างแล้ว ชายหนุ่มพุ่งทะยานออกไปพร้อมกับบรรจุกระสุนให้พร้อม สั่งใช้ความสามารถของรูนเพื่อเพิ่มพลังโจมตีให้กระสุนนัดถัดไปพร้อมยิงเข้าใส่กลางกะบาลของกรีดเลเวลสามหนึ่งตัว
“ออกมาเลยไอ้ตัวพ่อ พวกข้าเริ่มซ่าได้ที่แล้วเว้ย”
“มัวแต่มุดหัวอยู่ในห้อง ลูกน้องของแกกำลังถูกพวกเราล้างบางแล้วนะ”
“มาเป็นเงินเป็นทองให้พวกเราได้เก็บซะโดยดี” เหล่าโบรกเกอร์ปากจัดเริ่มขิงใส่อมนุษย์ที่อยู่อีกฝาดของประตูอย่างสนุกปาก
พวกกรีดเลเวลสามที่ได้ยินเข้าพลันโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ที่ริอาจมาดูหมิ่นนายของพวกมัน ทว่า ในขณะที่กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรต่อประตูบานใหญ่ก็ได้เปิดขึ้น
โครม!
ประตูเปิดออกอย่างรุนแรงจนผุพังในที่สุด มือใหญ่ยักษ์สีแดงโผล่ออกมาจากในห้องอันมืดมิด เปลวเพลิงสีแดงถูกจุดส่องสว่างก่อนที่อมนุษย์จะก้าวออกมายังภายนอก
มันมีรูปกายสีแดงผิดจากกรีดยามปกติ มีเปลวเพลิงลุกท่วมทั่วร่างสูงห้าเมตร ผิวกายเป็นเมือกกล้ามเนื้อเรียงเป็นมัดๆ ใหญ่โต ดวงตาสีดำพลางเขาขนาดเล็กที่งอกขึ้นบนศีรษะ ทันทีที่เท้าของมันกระทบลงพื้นพลันก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนขึ้นในบริเวณนั้น
“ฮว้ากกกก!!!!” เสียงคำรามถูกกู่ร้องออกมาอย่างทรงพลัง เพียงแค่เสียงเท่านั้นแต่กลับส่งพลังอันน่าเกรงจามออกมาจนสิ่งมีชีวิตโดยรอบเริ่มถูกกระแสลมพัดไปทางด้านหลังจนต้องยกมือขึ้นมากำบังเอาไว้
ความร้อนก่อตัวขึ้นจนเกิดเป็นเปลวเพลิงสีแดงฉาน เป็นไฟที่หลอมได้แม้กระทั่งโลหะ มันได้ถูกควบคุมโดยอมนุษย์ร่างยักษ์ตรงหน้า และเพิ่มปริมาณมากขึ้นทั่วขณะจนลุกลามทั่วร่างสีแดงของมัน ดวงตาสีดำเบิกกว้างสะบัดแขนแรงหนึ่งที
ซัดเอาเปลวเพลิงสีแดงที่มันภาคภูมิใจออกไปถล่มโจมตีศัตรู
เปลวเพลิงสีแดงเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง แผดเผาเสื้อผ้าและกายเนื้อให้มอดไหม้เป็นตอตะโก ไม่ทันได้ส่งเสียงทรมาน ไม่ทันได้รู้สึกตัว ชีวิตก็ได้ดับสลายไปพร้อมกับเปลวเพลิงที่มอดดับลง ไลท์และคนอื่นแตกตื่นในทันทีเมื่อเห็นภาพสังหารตรงหน้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก
“พวกมดปลวก จงกลายเป็นเครื่องเซ่นให้แก่ท่านซาลามันเดอร์ผู้นี้ซะเถอะ!” ซาลามันเดอร์ประกาศก้องก่อนจะรวบรวมเปลวเพลิงสีแดงมาปั้นเป็นลูกบอลยักษ์ คลื่นความร้อนมหาศาลรวบรวมกันจนเป็นวัตถุทรงกลม ก่อนที่ผู้เป็นนายของมันจะเหวี่ยงเข้าใส่ใจกลางเหล่าโบรกเกอร์
“ผู้ใช้เวททั้งหมด! อัดพลังธาตุน้ำเข้าไปเร็วเข้า” มีคนหนึ่งเอ่ยคำสั่ง ทุกคนไม่มีเวลามาสนใจว่าใครที่เป็นคนพูดเพียงแต่รีบทำตามอย่างเคร่งครัด มิเช่นนั้นคงเกิดการสังหารหมู่ขึ้นอย่างแน่นอน
พลังธาตุน้ำถูกบรรจุในอาวุธก่อนจะถูกปล่อยเข้าไปยังลูกบอลเพลิงสีชาดขนาดยักษ์ ช่างเป็นภาพที่คุ้นเคยเสียเหลือเกินสำหรับพวกไลท์ มันเสมือนกับตอนที่เขากำลังต่อสู้กับโทมัส
ศัตรูที่ใช้ไฟ การต้านพลังระหว่างธาตุน้ำและไฟ และศัตรูที่มีระดับเหนือกว่าหลายขั้น แตกต่างก็แค่วันนี้ไม่ได้มีแค่สี่คน แต่มีตั้งสองพัน เพียงแต่ว่า เหตุใดจึงไม่ได้รู้สึกปลอดภัยขึ้นเลย?
“รู้สึก..สังหรณ์ไม่ดีเลยยังไงก็ไม่รู้สิ” ไลท์คิดในใจก่อนจะหันไปหาแจ๊สเปอร์ที่กำลังยืนตะลึงอยู่กับภาพตรงหน้าจนละเลยการต่อสู้
“แจ๊สเปอร์!”
“อะไร”
“อยู่ข้างๆ ลูน่าเข้าไว้ ถ้าจะเกิดอะไรขึ้น โกยสุดชีวิตเลยนะ เข้าใจไหม”
“อะ..อา เข้าใจแล้ว” แจ๊สเปอร์ตบปากรับคำแบบงุนงง
ตูม!
พลังน้ำและเพลิงจำนวนมากเข้าปะทะกันจนระเบิดออกมา ซาลามันเดอร์ยิ้มเฉ่งก่อนที่จะมีใครสักคนตะโกนลั่นออกมา
“ไม่จริง!!!!!” คนนับพันหันสายตาทั้งหมดไปมองยังคนๆ เดียว ชายผู้นั้นกำลังหยิบเครื่องมือบางอย่างและหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมามองร่างกายอันทรงพลังของซาลามันเดอร์แบบตาค้าง
“ไม่ใช่..แบบนี้มันไม่เหมือนกับข้อมูลที่ได้รับมาเลยนี่”
“หมายความว่ายังไง!?”
“ซาลามันเดอร์ ไมได้มีผิวสีแดงแบบนี้ พลังก็ไม่น่าทรงพลังขนาดนี้ด้วย ไหนจะเขานั่นอีก มันคือสัญญาณบ่งบอกของระดับพลังที่มันมี มันไม่ใช่กรีดเลเวลห้า!”
แต่เป็นเลเวลหกต่างหาก!
ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ ในหัวสมองของทุกคนพลันขาวโพลนไปหมด สายตานับพันคู่หันไปจดจ้องยังร่างอันน่าเกรงขามของซาลามันเดอร์ มันส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาที่พวกเขาพลางเลียลิ้นรอบริมฝีปาก เสมือนกำลังมองอาหารอันโอชะที่มาวางอยู่ตรงหน้า