ภาค 2 ตอนที่ 8 กินข้าว ประชุม
ตอนที่ 8 กินข้าว ประชุม
หลังจากงานสัมมนาเสร็จ อาจารย์หญิงได้เอาตัวโกโก้กับศิษย์ร่วมสำนักหลายคนกลับไปฉลองงานสัมมนาที่ได้เปิดตัวอย่างอบอุ่นในบ้าน พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าโกโก้อยากหนีกลับมากแค่ไหน แต่เมื่อเห็นอาจารย์หญิงปลื้มอย่างกับฉลองตรุษจีน คำพูดขอกลับบ้านได้แค่ติดอยู่ที่ปาก จึงถูกจับไปกินข้าวเย็นที่บ้านท่านผู้เฒ่าฉางอย่างงงๆ
"เฮ้อ! เสี่ยวสวินเอ้ย เห็นหัวหน้าหน่วยอาชญากรรมบอกว่าเดี๋ยวนี้เธอต้องดูแลนักศึกษาฝึกงานคนหนึ่งเหรอ" ท่านผู้เฒ่าฉางกอดเหล้าที่อุ่นๆ ถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โกโก้มองกับข้าวที่วางเต็มโต๊ะ ส่วนอาจารย์หญิงยังทั้งผัดทั้งต้มอยู่ในห้องครัวอย่างอารมณ์ดี ทำให้รู้สึกกลับมาในโลกแห่งความเป็นจริง
"ค่ะ นักศึกษาแพทย์ฝึกงาน จากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนโบราณ ชื่อซูเสี่ยวเจ๋อ ท่านอยากเจอเขาเหรอ"
"ดีเลย เพราะยังไงอีแก่ยังทำกับข้าวอยู่ เธอไปเรียกเขามากินข้าวด้วยกัน"
โกโก้ยิ้มรับคำ แล้วโทรไปหาซูเสี่ยวเจ๋อ "อาจารย์ของอาจารย์นายอยากพบตัวนาย มารายงานตัวด้วย"
เสี่ยวเจ๋อรับปากอย่างตื่นเต้น แต่สิ่งที่โกโก้คาดไม่ถึงคือ เสี่ยวเจ๋อที่ตื่นเต้นชวนเสี่ยวไป๋ที่อยากรู้อยากเห็นมาด้วย เสี่ยวไป๋ที่อยากรู้อยากเห็นถูกต้าเจิ้งจับได้ขณะที่เผ่นออกมา ผลปรากฏคือ ตอนที่โกโก้เปิดประตูของบ้านท่านผู้เฒ่าฉางออก พบว่าผู้ชายสามคนยืนอยู่ที่ประตูด้วยกัน
"สวัสดีครับท่านผู้เฒ่าฉาง! ผมคือซูเสี่ยวเจ๋อครับ! เป็นลูกศิษย์ของลูกศิษย์ที่ของท่านผู้น่าเคารพนับถือครับ!" ซูเสี่ยวเจ๋อโค้งแล้วพูด
"สวัสดีครับท่านอาจารย์ฉาง! ผมคือไป๋หลิงสังกัดหน่วยอาชญากรรมครับ! เป็นผู้ชื่นชมในตัวท่านครับ!" ไป๋หลิงวันทยาหัตถ์แล้วพูด
ท่านผู้เฒ่ากอดเหล้าอุ่นๆ ยิ้มแย้มทักทาย "พวกเธอเข้ามาเร็ว เข้ามาในบ้านอุ่นหน่อย มาๆ มานั่ง"
"อาจารย์ฉาง หอมจังเลย มีข้าวกินเหรอ" ต้าเจิ้งตามเข้ามาอย่างอาจๆ
โกโก้งงเป็นไก่ตาแตก คว้าตัวต้าเจิ้งที่ตามเข้ามาคนสุดท้าย "นายมาทำไม"
"เดี๋ยวจะเป็นคนขับรถส่งเธอกลับบ้านโดยไม่คิดค่าบริการไง!" ต้าเจิ้งกะพริบตา
โกโก้อ้าปากค้างอยู่ที่ประตู ต้าเจิ้งรีบชิ่งเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารเรียบร้อย
กินข้าวไป คนทั้งโต๊ะเริ่มคุยถึงคดีที่อยู่ในมืออย่างเคยชิน ต้าเจิ้งรายงานความคืบหน้าของการสืบสวนต่อท่านผู้เฒ่าฉาง ท่านผู้เฒ่าสูบบุหรี่ไปด้วย พลางหรี่ตาพูด "เรื่องการทำความสะอาดศพ ใช่ว่าใครๆ ก็ทำเป็น"
"ฉันถึงว่า คนคนนี้ต้องมีความรู้ด้านการแพทย์อย่างแน่นอน" โกโก้พูดต่อ
"อืม..." ท่านผู้เฒ่าพยักหน้า "การทำความสะอาดศพกับแช่ฟอร์มาลินสองเรื่องนี้ เหมือนงานเตรียมตัวก่อนที่จะทำการศึกษาศพเชิงการแพทย์ คนคนนี้อาจมีประสบการณ์การทำงานด้านนี้อยู่บ้าง พวกเธอน่าจะตรวจสอบจากมหาวิทยาลัยการแพทย์ที่มีอยู่หลายแห่งในเมืองนี้ก่อน"
ต้าเจิ้งพยักหน้า "ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมให้คนไปตรวสอบที่ทำงานเหล่านี้ว่ามีผู้ชายที่มีรอยด่างขาวบนใบหน้าหรือไม่"
"รอยด่างขาวเหรอ" ท่านผู้เฒ่าฉางยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัย ไป๋หลิงจึงได้พูดเสริมให้รู้ว่าพบคนคนนี้ในร้านรับซื้อของเก่าได้อย่างไร
ท่านผู้เฒ่าฟังๆ ไปก็ลุกขึ้นมา เดินวนไปวนมารอบโซฟา "ดูๆ แล้วเรื่องนี้ทำลงไปอย่างโง่ๆ รู้อยู่ว่าบนหน้าตัวเองมีสัญลักษณ์เด่นชัดขนาดนั้น อีกทั้งยังไปป้วนเปี้ยนทิ้งศพในบริเวณที่มีผู้คนพบเห็น"
จู่ๆ โกโก้ก็มีแสงที่คุ้นเคยแว็บขึ้นมาในสมอง เธอนึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้ที่กินข้าวกัน เหมือนใครเคยพูดอะไรทำนองนี้มาก่อน ไป๋หลิงกำลังคิดจะเอ่ยปาก โกโก้ยกมือบอกให้เงียบๆ
แสงแว็บขึ้นจุดหนึ่ง
เหมือนจุดคลี่คลายคดีติดอยู่ที่ปาก ทุกคนมองเธออย่างเงียบๆ โกโก้เหมือนพูดพึมพำอยู่คนเดียว "การทำความสะอาดศพเป็นเรื่องละเอียดมาก ต้องมาพร้อมกับความละเอียด อดทน ใจกล้าและประสบการณ์ นอกจากอุปนิสัยแล้วก็จะต้องระมัดระวัง แต่...รู้ว่าบนใบหน้ามีสัญลักษณ์ยังเสี่ยงที่จะไปทิ้งศพ ใจกล้าแต่ขาดสติ...ในนี้ มันขัดแย้งกันมาก..."
ท่านผู้เฒ่าพ่นควันบุหรี่ออกมา "ใช่ ขัดแย้งกัน...เสี่ยวสวิน จากสภาพชันสูตรศพที่ได้มา เธอมาจำลองขั้นตอนการฆ่าคนของเขาหน่อย"
โกโก้หลับตาลง "ก่อนอื่น เขาเลือกเหยื่อ จ่ายเงินให้พวกเธอตามตัวเองกลับไปที่บ้าน หรือเป็นสถานที่ที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ใช้บริการทางเพศ เขามัดมือทั้งสองข้างของผู้หญิงไว้บนเตียง ร่วมเพศพร้อมกับบีบคออีกฝ่าย น่าจะเพราะอยากได้ความรู้สึกสุดยอด จากลักษณะการตายด้วยอาการขาดอากาศหายใจของศพนั้นแสดงว่า เขาบีบคออีกฝ่ายหลายครั้ง จนกระทั่งตาย หลังจากนั้น เขาหั่นศพจากบริเวณคอ ทำความสะอาดศพ ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนว่าไม่ทิ้งหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงตัวเอง แล้วแช่หัวไว้ในฟอร์มาลิน เก็บสะสมไว้ แล้วค่อยหาสถานที่ที่ไม่มีผู้คนทิ้งศพอย่างไม่แยแส"
ไป๋หลิงถูมือตัวเองเบาๆ "ผมเข้าใจแล้ว พี่สวินจะบอกว่า คนคนนี้มีจุดขัดแย้งสองอย่าง ด้านหนึ่งเขาใจกล้ามาก ถึงขั้นโง่ก็ว่าได้ตอนไปทิ้งหัว อีกด้านก็ละเอียดอ่อนและระมัดระวังตอนเขาทำความสะอาดศพ ใช่ไหมครับ"
โกโก้ก้มหน้านิ่ง จากที่วิเคราะห์ขั้นตอนการก่อคดีนั้น ความรู้สึกแตกแยกวนเวียนอยู่ในสมองของเธอ
เสี่ยวเจ๋อพูด "บางทีคนคนนี้อาจจะเป็นไบโพล่าร์ก็ได้ นักโทษในซีรี่ย์สืบสวนสอบสวนเป็นอย่างนี้บ่อยๆ ไม่ใช่เหรอ จิตเภทหรือหลายบุคลิกอะไรทำนองนั้น"
ท่านผู้เฒ่าฉางโบกมือ "คนคนนี้เป็นโรคจิตเภทหรือไม่ ไม่ต้องไปสนใจมาก นั่น หัวหน้าของพวกเธอน่าจะเคยสอนไว้ จับคนร้ายต้องมีเบาะแส หลักฐาน" เขามองไปยังไป๋หลิง "เมื่อสักครู่นี้เธอพูดถึงผู้ชายที่มีรอยด่างขาวบนหน้า มีพยานรู้เห็นอะไรอีกบ้าง"
ไป๋หลิงส่ายหน้า "นอกจากรอยด่างขาวบนหน้าแล้ว ส่วนสูงและหน้าตาของผู้ต้องสงสัยก็ธรรมดามาก ไม่มีเอกลักษณ์พิเศษอะไรอีก"
"ไม่สามารถออกประกาศจับผ่านสื่อเหรอ" เสี่ยวเจ๋อมองไปที่ต้าเจิ้ง "เพียงแค่เอกลักษณ์รอยด่างขาวนี้"
ต้าเจิ้งที่สูบบุหรี่เงียบขรึมมาตลอด เคาะเถ้าบุหรี่ออก ขมวดคิ้วแล้วพูดไม่แสดงอารมณ์ "ตอนนี้ยังไม่ได้ เรื่องนี้ฉันคุยกับผู้การแล้ว ตอนนี้ออกประกาศผ่านสื่อยังเร็วเกินไป หลักฐานที่มัดตัวในมือก็ยังไม่มี ภาพสเก็ตของผู้ต้องสงสัยก็ไม่มี หนึ่งคือกลัวแหวกหญ้าให้งูตื่น สองกลัวเกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน อีกอย่าง จะให้ประกาศยังไง หรือจะให้บอกว่า ฆาตกรต่อเนื่องที่เลือกเฉพาะหญิงบริการทางเพศได้ปรากฏตัวขึ้น ถ้าออกข่าวอย่างนี้ ทุกคนจะสบายใจว่าตัวเองปลอดภัย แต่ถ้าฆาตกรเปลี่ยนรูปแบบของเหยื่อล่ะ ลงมือกับหญิงสาวที่อยู่คนเดียวแล้วจะทำยังไง ถึงตอนนั้น ก่อนที่จะจมน้ำลายของประชาชนตาย นายเองก็จะย่อยยับไปกับความเสียใจของตัวเอง"
พูดจบต้าเจิ้งยังค้อนใส่เสี่ยวเจ๋อไปอีกที เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาเคยโพสต์เรื่องคดีไปบนเว็บ สายตาของต้าเจิ้งนี้ถือว่าเป็นการเตือนอย่างข่มขู่
เสี่ยวเจ๋อยกสองมือขึ้น เป็นการแสดงว่าตัวเองจะอยู่เฉยๆ ในใจพึมพำ รายงานความผิดของข้ายังไม่ได้เขียนเลย