ตอนที่ 54 หลอกลอนราวกับภูติผี
"พวกเจ้าจะได้เห็น แม้ว่าหยินมินจะมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ก็มีศิษย์นิกายเทียนหวนจำนวนมากในระดับอาณาทะเลลมปราณที่ลึกซึ้งและอาณาทะเลลมปราณแรกเริ่ม การต่อสู้เช่นนี้จะทำให้พวกมันลำบากอย่างแน่นอน”
แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เห็นเจียงวู่เฉิงฆ่าศิษย์ทั้งสี่ที่อยู่ในระดับสูงสุดอาณาทะเลลมปราณอย่างรวดเร็ว ในขณะที่บรรดาศิษย์ที่เหลือต่างหนีไป
ทั้งสี่คนต่างตกตะลึง
"เป็นไปไม่ได้!"
"ไม่น่าเชื่อ! นักดาบคนนั้น แข็งแกร่งขนาดนั้นได้อย่างไร?"
"ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาสามารถฆ่าศัตรูทั้งสี่ที่อยู่ในระดับสูงสุดอาณาทะเลลมปราณในเวลาอันสั้น นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร"
ทั้งสี่รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็จำคำพูดที่เคยได้ยินในวังมังกรทองได้ มันเป็นเรื่องที่ตงฟางยู่เอาชนะเจียงวู่เฉิงได้ภายในสามกระบวนท่าเท่านั้น
"วันนี้เราได้เห็นความแข็งแกร่งของนักดาบแล้ว มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะไม่สามารถสู้กับตงฟางยู่ได้ พวกมันต้องล้อเล่นกับข้าแน่ๆ ข้านั้นจะเชื่อมากกว่าหากว่าตงฟางยู่พ่ายแพ้ให้แก่เขาภายในสามกระบวนท่า"ชายอ้วนคำราม
ความแข็งแกร่งที่มากมายขนาดนี้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะพ่ายแพ้แก่เจียงวู่เฉิงภายในสามกระบวนท่า?
ไร้สาระ!
"มันเป็นเรื่องโชคดีอย่างมากที่พวกเราไม่ได้มีความขัดแย้งกับพวกเขาจริงๆ หรือ..."ชายร่างอ้วนพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย เขานับว่าโชคดีอย่างมากที่เขาไม่เคยมีเรื่องกับหยินมิน ถึงแม้ว่านางจะนำแหวนของเขาไป แต่เขาก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเมื่อเขานึกถึงความแข็งแกร่ของเจียงวู่เฉิง
"ไป!เร็วเข้า!"ชายร่างอ้วนคำราม"เราควรอยู่ให้ห่างจากสามคนนั้นจนกว่าภารกิจจะจบ ยังไงเราก็ต้องใช้พวกมันแค่ตอนนี้ และพวกมันอาจเก็บความไม่พอใจเราไว้ ข้าเกรงว่าพวกมันจะสู้กับเราในครั้งหน้า"
"ไป!รีบไปเร็วเข้า!"
คนอื่นพยักหน้าและตั้งใจที่จะหลบหนีด้วยความหวาดกลัว
"เฮ้ พวกเจ้าเห็นหรือไม่?"ผู้หญิงที่สวมชุดคลุมม่วงพูด
ชายที่เป็นหัวหน้าหันหัวของเขาในทันที ทันใดนั้นการแสดงออกของเขาก็แปลกไป"เป็นพวกเขา?"
"มันคือตงฟางยู่และผู้ติดตามของเขา พวกเขามาถึงและได้เผชิญหน้ากับนักดาบ"
ทั้งสี่คนพร้อมที่จะเดินจากไปในทันที แต่ขณะนี้พวกเขากับหยุดอย่างกระทันหัน
บนทางเดิน เจียงวู่เฉิงและสหายของเขานั้นสังเกตเห็นตงฟางยู่และผู้ติดตามของเขา
"นั่นมันตงฟางยู่"หยินมินและหลิงเทียนห่าวจ้องไปที่เจียงวู่เฉิง
เจียงวู่เฉิงยกคิ้วขึ้นและยิ้มเล็กน้อย และไม่ได้พูดอะไร
"ตงฟางยู่ เจ้าทำตัวเหมือนผีที่คอยตามหลอกหลินพวกเราอยู่ตลอดเวลา"หยินมินเอ่ยเสียงเย็นและมองไปที่ตงฟางยู่
"หยินมิน ข้าแปลกใจยิ่งนักที่ขยะสองคนที่ติดตามเจ้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาโชคดีจริงๆ"ตงฟางยู่ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่หยิ่้งยโส"มาเข้าเรื่องกัน หยินมินพวกเจ้าอยู่ในนิกายเทียนหวนมาสักพักหนึ่งแล้ว ข้าพนันได้เลยว่าต้องได้รับแหวนมาแล้ว ใช่มั้ย?"
"แหวนภารกิจ?"หยินพูดพร้อมกับหัวเราะ จากนั้นนางก็ยื่นมือขวาออกมามีแสงสว่างสีม่วงปรากฏขึ้นบนนิ้วนางของนาง"นี่ไงแหวน ถ้าเจ้าต้องการ เข้ามาและมาหยิบมันออกไป"
เมื่อเห็นแหวนภารกิจบนมือของหยินมิน สายตาของคนทั้งห้าที่อยู่ข้างหลังตงฟางยู่นั่นสว่างวาบขึ้นมาและความร้อนแรงก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของพวกเขา
"โฮ่ เจ้ามีมันจริงๆ แต่มีเพียงแค่วงเดียวเท่านั้น"ตงฟางยู่กล่าวเยาะเย้ยและหันหลังกลับไปหาผู้ติดตามทั้งห้าคน จากนั้นเขาก็พูดว่า"ไปกันเถอะ"
ผู้ติดตามของตงฟางยู่นั้นรู้สึกลังเลใจ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจได้ อย่างไรก็ตามตงฟางยู่ก็จ้องมองไปที่เจียงวู่เฉิงและหลิงเทียนห่าว เมื่อเขากำลังจะเดินจากไปและพูดด้วยเสียงที่เบาว่า"พวกเจ้าทั้งสองโชคดีมากที่ได้หยินเป็นกำลังหลัก แต่มันมีแหวนภารกิจเพียงแค่สิบวงเท่านั้น พวกเจ้ากล้าคาดหวังว่าจะได้รับมันมา?"
ตงฟางยู่เดินจากไปในทันทีที่เขาพูดจบ
"น่ารังเกียจอย่างมาก!แต่เขาคงไม่คิดว่านักดาบของพวกเราจะมีแหวนวงที่สอง"หลิงเทียนห่าวกล่าวก่อนที่เขาส่ายหน้าของเขา
"ข้าประหลาดใจอย่างมากที่เขาไม่ได้สร้างความรำคาญให้แก่พวกเรา เรื่องทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้า ข้าควรให้แหวนวงนี้กับหนูถ้าตงฟางยู่รับรู้ว่าแหวนอยู่ในมือของเจ้า เขาจะต้องพยายามที่จะเข้ามาเอาไปโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน"
นางหวังอย่างมากที่จะเห็นตงฟางยู่พยายามจะเข้ามาแย่งแหวน ถ้าเขาเริ่มการต่อสู้เจียงวู่เฉิงจะมอบบทเรียนให้แก่เขาในทันที แต่ตงฟางยู่ไม่ต้องการที่จะได้แหวนมา เพราะว่าเขาเห็นว่าแหวนมันอยู่ที่มือของนาง
ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงถ้าแหวนภารกิจนั้นอยู่ในมือของหลิงเทียนห่าว
"หนูแหวนภารกิจวงที่สองนี้เป็นของเจ้า"เจียงวู่เฉิงมอบแหวนให้กับหลิงเทียนห่าว
"นักดาบ เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?"หลิงเทียนห่าวมองไปที่เจียงวู่เฉิงด้วยความประหลาดใจแทนที่จะรับแหวนมา
"ข้าต้องการให้พวกเจ้าทำบางอย่าง"เจียงวู่เฉิงกล่าวโดยตรง
"พวกเราจะช่วยเจ้าได้อย่างไร"หยินมินหันไปถามเขาเช่นกัน
"พวกเจ้าเห็นห้องใต้หลังคานั่นไหม?"เจียงวู่เฉิงมองไปที่ห้องใต้หลังคาที่อยู่ข้างเขาและพูดด้วยรอยยิ้ม"ข้าต้องการที่จะบ่มเพาะในห้องใต้หลังคานี้อย่างสงบ ดังนั้นข้าต้องการให้พวกเจ้าทั้งสองคนปกป้องข้า"
"บ่มเพาะ?"
"เจ้าต้องการที่จะบ่มเพาะในตอนนี้?"
หยินมินและหลิงเทียนห่าวต่างประหลาดใจ
"เจ้ากำลังจะทะลวงขั้น?"หยินมินถามอย่างเป็นธรรมชาติ
"ใช่"เจียงวู่เฉิงพูดและพยักหน้า
"จริงๆ?"หยินมินและหลิงเทียนห่าวต่างก็ประหลาดใจ
พวกเขาเชื่อว่าความสามารถในการต่อสู้กับเจียงวู่เฉิงนั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากถ้าเทียบกับคนที่อยู่ในระดับอาณาทะเลลมปราณ หากเขาต้องการจะทะลวงระดับ เขาจะไปอยู่ในขั้นอาณาแก่นทองคำ
อาณาแก่นทองคำเป็นระดับที่พวกเขาต้องการที่จะไปถึงในสักวันหนึ่ง
"ข้าต้องการเวลาในการบ่มเพาะ แต่ข้าไม่รู้ว่าข้าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน บางทีภารกิจของเราอาจจะเสร็จสิ้นก่อนที่ข้าทะลวงขั้นได้สำเร็จ ดังนั้นแหวนภารกิจอันที่สองจึงเป็นของหนู นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่เจ้าจะสามารถทำภารกิจองครักษ์มังกรทอง หากเจ้าล้มเหลวเจ้าจะไม่สามารถเป็นองครักษ์มังกรได้อีกตลอดชีวิต แต่กับข้านั้นมันไม่ใช่"เจียงวู่เฉิงกล่าวขณะที่ยิ้ม
"ข้าเข้าใจแล้ว"หลิงเทียนห่าวเข้าใจ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดว่า"ขอบคุณเจ้ามาก เจ้าสามารถไว้ใจพวกเราได้ในการป้องกันให้เจ้า เราจะไม่ปล่อยให้ใครมารบกวนได้เด็ดขาด"
"ขอบคุณ"เจียงวู่เฉิงกล่าว จากนั้นเขาก็ยิ้มและเดินตรงเข้าไปในห้องใต้หลังคา หยินมินและหลิงเทียนห่าวก็ยื่นเฝ้าอยู่หน้าห้องใต้หลังคา
ชายอ้วนและสหายของเป็นพยานได้ เพราะพวกเขายังอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา
"นักดาบกำลังทำอะไร ทำไมเขาถึงเข้าไปในห้องใต้หลังคา"
"หรือว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่าง? หรือเขากำลังทำการทะลวงระดับ?"
"เขากำลังจะไปขั้นอาณาแก่นทองคำ?"
พวกเขาต่างรู้สึกไม่สบายใจ ความแข็งแกร่งของเจียงวู่เฉิงนั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก เขาจะไปถึงระดับไหนเมื่อเขาก้าวหน้าขึ้น
"ไม่ต้องสนใจว่าเขาจะทำอะไร หลังจากนี้ถ้าเราเผชิญหน้ากับพวกเขา พวกเราจะหนีโดยทันที"ชายอ้วนพูดขึ้นและรีบจากไปอย่างรวดเร็ว
...