ตอนที่แล้วThe Dark King – Chapter 87 ผู้กำเนิดปิศาจ [อ่านฟรี 08-04-2019]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปThe Dark King – Chapter 89 การตื่นขึ้น [อ่านฟรี 12-04-2019]

The Dark King – Chapter 88 ไปกันเถอะ [อ่านฟรี 10-04-2019]


The Dark King – Chapter 88 ไปกันเถอะ

 

เหมืองโคลินเป็นบริษัทที่ครอบครองโดยตระกูลเมล มันถูกดูแลโดยหอการค้า สถานที่ตั้งของมันอยู่ที่เขตชานเมืองทางด้านทิศตะวันตกของสลัม ฟู่เทียนจ้างรถม้าและเดินทางไปพร้อมกับเพื่อนทั้งสามคน

 

รถม้ามีอยู่จำนวนน้อยนิดในสลัม โดยปกติแล้วผู้คนที่ทำงานอยู่ในหอการค้าหรือโรงงานอื่นๆ จะจ้างพวกเขาเพื่อการเดินทางที่สะดวก

 

เป็นครั้งแรกสำหรับโจเซฟ โครนและแบรี่ในการนั่งรถม้า พวกเขารู้สึกประหม่าและตั่วสั่นรวมถึงไม่กล้าแตะต้องอะไรสักอย่าง พวกเขากลัวที่จะไปทำให้เก้าอี้ต้องสกปรก

 

ฟู่เทียนไม่ได้พูดอะไรออกมา เขารู้ดีว่าเพื่อนๆของเขาต้องประสบกับช่วงเวลาอันเลวร้ายมาและมันคงไม่ง่ายนักในการปรับตัว ครึ่งชั่วโมงผ่านไป รถม้าหยุดลงหน้าเหมืองโคลิน มันดูเด่นกว่าสลัมอย่างมาก มีอาคารดูโดดเด่นซึ่งถูกสร้างโดยหอการค้าสำหรับเป็นสำนักงาน

 

ฟู่เทียนก้าวลงจากรถม้าเป็นคนแรก  เขาจ่ายค่าจ้างให้คนขับรถมาเป็นจำนวน 1 เหรียญทองแดง เขาหันไปเรียกทั้งสามคนให้ตามลงมาเพื่อเข้าไปยังอาคาร

 

มีผู้รักษาความปลอดภัยหนุ่มที่ดูเอื่อยเฉื่อยยืนอยู่หน้าประตู 2 คน พวกเขายืนขึ้นแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเพียงพวกเด็กที่เดินเข้ามา อาการขี้เกียจก็ถูกแสดงออกอีกครั้ง หนึ่งในนั้นมองไปทั่วทั้งตัวของฟู่เทียน หลังจากนั้นเขากล่าว “ที่นี่เป็นอาคารสำนักงานของหอการค้า เธอต้องการอะไร?”

 

“บอกให้เจ้าหน้าที่ชั้นบนสุดมาเจอผมหน่อย” ฟู่เทียนกล่าว

 

ทั้งสองคนรู้สึกประหลาดใจ หนึ่งในนั้นหันกลับมาและพูดว่า “น้องชาย ในฐานะประชาชนทั่วไปถ้าจะมาขอซื้อแร่ธาตุต่างๆตามคำสั่งเจ้านายพวกเราก็พอจะช่วยจัดการให้ได้ แต่สำหรับเธอที่จะต้องการมาพบท่านประธาน ฉันต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถช่วยเรื่องนี้ได้”

 

ฟู่เทียนหยิบเหรียญตราของผู้รักษาความปลอดภัยสีเงินออกมา “คุณแค่ไปแจ้งพวกเขาว่า ผมเป็นตัวแทนของตระกูลเมล”

 

ทั้งสองคนต่างรู้สึกสับสนเมื่อได้เห็นเหรียญตราที่มีรูปดาบไขว้กัน พวกเขาตั้งใจมองดูอย่างดีเพื่อตรวจสอบว่ามันไม่ใช่ของปลอม  หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาด้วยความลังเล “เธอรออยู่ที่นี่ ฉันจะไปแจ้งให้ ว่าแต่เธอชื่ออะไร?”

 

“พวกเขาไม่ได้รับอนุญาติให้รู้” ฟู่เทียนกล่าวด้วยความเฉยเมย

 

เมื่อพวกผู้ดูแลความปลอดภัยได้ยินน้ำเสียงที่เย็นชาของฟู่เทียนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เหมือนที่เขาได้กล่าวมาก่อนแล้วว่ามาจากตระกูลเมล ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่มีสิทธิ์อะไรไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจของหอการค้าโดยตรง

 

หลังจากนั้นไม่นาน ฟู่เทียนและเพื่อนๆเดินตามผู้รักษาความปลอดภัยเข้าไปข้างใน

 

ไม่มีผู้ดูแลความปลอดภัยคนไหนเข้ามาขวางพวกเขาอีก

 

ฟู่เทียนได้เห็นความหรูหราของสำนักงานในย่านการค้ามาก่อนแล้ว ดังนั้นภายในส่วนต่างๆของอาคารสำนักงานหอการค้าจึงไม่สามารถดึงความสนใจสายตาเขาได้เลย มันดูไม่เป็นระเบียบเล็กน้อย เขามองหาโซฟาเพื่อนั่งพักและรอโจเซฟ โครน และแบรี่ตามฟู่เทียนเข้าไปอย่างเงียบๆ

 

ทั้งสามคนดูกังวลอยู่บ้างเป็นเพราะพวกเขาเพิ่งเคยเจอสถานที่สะอาดและหรูหราแบบนี่เป็นครั้งแรก

 

ในไม่นานนัก ผู้ดูแลความปลอดภัยกลับมาพร้อมกับผู้หญิงร่างสูง

 

ผู้ดูแลความปลอดภัยเห็นฟู่เทียนและเพื่อนๆนั่งรออยู่ที่โซฟา เขาหันกลับไปพูดกับหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังของเขาด้วยความเคารพ

หญิงสาวมองไปยังฟู่เทียนแต่หางตาของเธอสะดุดเข้ากับทั้งสามคนที่อยู่ข้างหลัง เธอเดินเข้ามาใกล้ “ขอโทษนะ เธอเป็นคนจากตระกูลเมลอย่างนั้นหรอ?”

 

ฟู่เทียนสังเกตุเห็นสายตาอันดูถูกเหยียดหยามของหญิงสาว “คุณเป็นประธานใช่ไหม?”

 

“ฉันเป็นผู้ดูแลที่นี่” เธอขมวดคิ้วลงเล็กน้อยเมื่อฟู่เทียนไม่ตอบคำถามของเธอ

 

ใบหน้าของฟู่เทียนเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาขี้เกียจถามอะไรต่ออีก “ผมมาที่นี่เพื่อมารับตัวคนๆนึงที่ถูกส่งมายังเหมืองไม่นานมานี้ คุณตามตัวเขามาได้ไหม”

 

ใบหน้าของเธอไม่พอใจในขณะที่คอบ “คนงานเหมืองทุกคนมีสถานะเป็นทาส ถ้าหากคุณได้รับอนุญาติฉันสามารถส่งมอบตัวให้ได้ หรือมิฉะนั้นจะต้องจ่ายค่าตัวด้วยตัวเลขที่สูงเพื่อซื้อพวกเขาไป และแม้ว่าจะซื้อตัวเขาไปแล้วก็ยังคงมีสถานะเป็นทาส จะไม่มีการชดเชยใดๆให้ในกรณีที่เขาถูกคนอื่นฆ่า”

 

ฟู่เทียนหยิบเหรียญตรานักล่าออกมา “คุณรู้ไหมว่านี่คืออะไร?”

 

หญิงสาวในร่างสูงส่ายหัว “ไม่เคยเห็นมาก่อน”

 

“ถ้าอย่างนั้นแล้ว ช่วยตามตัวประธานของคุณมา!” ฟู่เทียนกล่าว

 

หญิงสาวยับยั้งอารมณ์โกรธของเธอไว้และกล่าว “เธอเป็นเพียงแค่ผู้รักษาความปลอดภัย! ถ้าเธอไม่ใช่คนที่ทำงานกับตระกูลเมลโดยตรง ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธออีก ท่านประธานยุ่งมากและไม่ใช่ว่าใครก็จะขอพบเขาได้”

 

ฟู่เทียนจ้องมองตาของเธอ “ผมขอบอกได้อย่างนึง ถ้าผมเอ่ยแค่คำเดียว พรุ่งนี้คุณจะไม่ต้องมาทำงานอีกเลย คุณไม่ได้รับอนุญาติให้รู้ถึงสถานะของผม ช่วยมีเหตุผลและเรียกประธานมาพบผมด้วย หรือคุณจะเลือกรับความเสี่ยงเอาไว้ทั้งหมดก็ตามใจ”

หญิงสาวโกรธมากเธออยากจะหัวเราะให้กับคำกล่าวของฟู่เทียน แต่เมื่อได้เห็นสายตาที่เย็นชานั่นแล้ว เธอก็คิดตามในทันใด หรือในบางทีเธออาจจะไม่รู้เบื้องหลังของเขาจริงๆพร้อมกล่าว “ถ้าอย่างนั้นรออยู่ที่นี่ซักครู่ ฉันจะไปแจ้งท่านประธานให้”

 

เมื่อกล่าวจบเธอหันหลังเดินกลับไปอย่างรวดเร็ว

 

โจเซฟและทุกคนตกใจกับท่าทีที่ดุดันและเอาแต่ใจของฟู่เทียน มันช่างต่างกับเด็กชายที่พวกเขาเคยรู้จักอย่างสิ้นเชิง

 

ใช้เวลาไม่นานนัก มีชายวัยกลางคนเดินตามหญิงสาวมา เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นฟู่เทียนและเพื่อนๆจากระยะไกล แต่เขายังแสดงออกถึงมารยาทและความอดทนเอาไว้ “สวัสดี ฉันคือประธานของที่นี่ ของถามหน่อยได้ไหมว่าเธอเป็นใคร?” เขามองไปยังฟู่เทียน ดูเหมือนว่าถ้าหากเขาไม่พอใจกับคำตอบของฟู่เทียน พวกเขาทั้งหมดคงถูกจับโยนออกไปในทันที

 

ฟู่เทียนรับรู้ได้ถึงทิฐิและความสงสัยจากดวงตาของอีกฝ่าย แต่ก็ยังขี้เกียจตอบคำถามกลับไป เค้าแสดงเหรียญตราของนักล่าให้ดู “คุณรู้ไหมครับ ว่านี่คืออะไร?”

 

ดวงตาอันแหลมคมของชายวัยกลางคนจ้องมองไปยังเหรียญนั่นและหันกลับมามองฟู่เทียนด้วยความกลัว เขารีบตอบกลับด้วยความเคารพอย่างรวดเร็ว “แน่นอนครับ”

 

“ผมต้องการจะพบกับชายที่มีชื่อว่าบาร์ตัน เขาเป็นคนงานที่เพิ่งจะเข้ามาไม่นานนี้ ให้เขาออกมาพบกับผมหน่อยได้ไหม” ฟู่เทียนกล่าว

 

ชายวัยกลางคนตอบ “ได้แน่นอนครับ” เขากวาดมือให้หญิงสาวจัดการอย่างรวดเร็ว

 

หญิงสาวรู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นประธานปฏิบัติต่อเด็กชายเช่นนั้น ประธานมักแสดงกิริยาเช่นนี้เมื่อมีผู้จัดการจากหอการค้ามาตรวจสอบ เธอจำคำพูดของฟู่เทียนในก่อนหน้าได้และรู้สึกว่าโชคดีที่ระงับความโกรธเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องตกงานอย่างแน่นอน

 

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป หญิงสาวกลับมาพร้อมกับเด็กชายตัวดำราวกับลิงคนหนึ่ง เธอทนไม่ได้กับกลิ่นของเด็กชายคนนั้นและรีบพาเขาไปพบฟู่เทียน “นี่คือชายที่ท่านต้องการพบ”

 

ฟู่เทียนรับรู้ได้ในทันทีว่าเขาคือบาร์ตันตั้งแต่เขาเดินเข้ามายังอาคารแห่งนี้ ขาที่ผอมบางทำให้เขาดูเหมือนกับชายแก่ ร่างกายของเขาผอมบางจนมองเห็นซี่โครงได้ ผมของเขายุ่งเหยิงและใบหน้าของเขาแทบจะไม่เหลือส่วนของเนื้ออยู่เลยราวกับว่าสามารถมองทะลุเห็นกะโหลกของเขาได้เลยทีเดียว

 

บาร์ตันรุ้สึกตกใจเมื่อดวงตาของเขาได้มองเห็น โจเซฟ โครนและแบรี่

 

โจเซฟเป็นคนแรกที่รู้จักกับบาร์ตันเขารีบกระโดดออกจากที่นั่งและวิ่งเข้าไปหา “เห้ บาร์ตัน พวกเรามารับนายไปแล้ว”

 

“นาย ทำไมนายถึงได้ผอมแบบนี้”

 

“คนงานเหมืองไม่มีของให้กินงั้นหรอ?”

 

ทั้งสามคมมองไปยังบาร์ตันในร่างผอมด้วยความเจ็บปวดและความประหลาดใจ

 

บาร์ตันพูดออกมาด้วยเสียงแหบ “พวกนายมาได้ยังไง?”

 

“เทียนพาพวกเรามา” โครนชี้ไปยังฟู่เทียนซึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟาและพูดอีกครั้ง “เทียนปลดปล่อยพวกเราทั้งหมด”

 

“ทะ เทียน?” บาร์ตันมองไปยังฟู่เทียน

 

ฟู่เทียนไม่คิดมาก่อนว่าชีวิตของคนงานเหมืองเพียงเวลา 1 ปี จะทำให้เขาทรมานเขาขนาดนี้ “ฉันมาช้าไป นายสบายดีไหม?”

 

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของบาร์ตัน เขากล่าว “นายยัง.. นายยังคงจำฉันได้ ฉันคิดว่า….ฉันคิดว่า...”

 

ฟู่เทียนถอนหายใจและกล่าว “ฉันจากพวกนายไปแล้วสามปีและฉันยังไม่สามารถมาช่วยพวกนายได้ แต่ในตอนนี้แตกต่างออกไปแล้ว”

 

ชายวัยกลางคนมั่นใจในตัวของฟู่เทียนมากขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดของฟู่เทียน เขากล่าวออกมาด้วยความเคารพ “บาร์ตันเป็นคนงานเหมืองที่อายุน้อยที่สุด และเขาได้รับการดูแลอย่างดี แต่ความเป็นอยู่ของคนงานเหมือนค่อนข้างลำบาก คุณก็รู้ใช่ไหมครับ สำหรับเขาที่เปลี่ยนไปมากขนาดนี้...เราไม่ได้ต้องการที่จะ...มันอยู่นอกเหนือการควบคุม...”

 

“หุบปากเดี๋ยวนี้” ฟู่เทียนพูดและจ้องมองไปยังเขา

 

ชายวัยกลางคนไม่แสดงอารมณ์แม้แต่น้อย เขารู้ดีว่าคนที่เขาเผชิญอยู่เป็นปิศาจประเภทไหน

 

หญิงสาวรูปร่างสูงคิดขึ้นมาได้ในทันใด ว่าเธอประเมินฟู่เทียนต่ำเกินไปแล้ว

 

“ไปกันเถอะ” ฟู่เทียนลุกขึ้น แม้ว่าบาร์ตันจะไม่ได้รับ “การดูแลอย่างดี” จากชายวัยกลางคน แต่อย่างน้อยคนอื่นๆก็ยังไม่เป็นอะไร

 

และยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่อ่อนแอกว่าต้องทำตามเงื่อนไขของผู้ที่อยู่เหนือกว่าเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด