ตอนที่แล้วบทที่ 24 ความตระหนักรู้ตัวของซย่าน่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 26 ร่างกายที่ค่อยๆ เน่าเปื่อย

บทที่ 25 แว้งกัด


บทที่ 25 แว้งกัด

 

“ฟู่...” ระหว่างที่ถอนหายใจโล่งอก ดวงตาของหวังเฉิงก็ฉายแววชั่วร้ายขึ้นมาแวบหนึ่งด้วยเช่นกัน

 

เมื่อเห็นชายหนุ่มมีรูโบ๋ขนาดใหญ่ที่ช่วงท้อง ดวงตาทั้งสองข้างลืมขึ้นแต่กลับไร้ซึ่งลมหายใจไปแล้ว หวังเฉิงก็รู้สึกพอใจที่ได้แก้แค้นเสียที แต่ขณะนั้นเอง จู่ๆ เขาก็รู้สึกชาวูบเล็กน้อยที่หนังศีรษะ

 

พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นซย่าน่ากำลังมองเขาด้วยสายตาเฉยเมย เมื่อประสานสายตากับซย่าน่า ในใจหวังเฉิงก็กระตุกวูบทันที “ฉัน...”

 

“ไม่ต้องพูดแล้ว” ซย่าน่าโบกไม้โบกมือและพูดตัดบทเขา ถึงแม้เมื่อครู่เธอจะถูกบีบต้อน แต่ก็เห็นทุกอย่างชัดเจน เป็นไปไม่ได้ที่ชายหนุ่มคนนี้จะเต็มใจพุ่งเข้ามาเอง แต่ถ้าไม่ได้เขา พวกเขาสามคนที่เหลือก็คงจะตายกันหมด

 

การกระทำของหวังเฉิงทั้งเห็นแก่ตัวและโหดร้าย แต่เธอไม่อยากจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว บางทีหากพูดในอีกมุมหนึ่ง เขาอาจไม่ได้ทำอะไรผิดเลยก็ได้ หากหลิงม่ออยู่ที่นี่ด้วย ไม่แน่ว่าเขาอาจชื่นชมการกระทำเช่นนี้ด้วยซ้ำกระมัง แต่ถ้ามีเขาอยู่ด้วยจริงๆ เขาจะต้องจัดการกับซอมบี้กลายพันธุ์สองตัวได้อย่างแน่นอน

 

ซย่าน่ารู้สึกว่าความคิดในหัวสมองเธอสับสนยุ่งเหยิงไปหมด เธอพาหลิวอวี่หาวกับหวังเฉิงเดินลงมาที่ชั้นล่างของหอพักอย่างช้าๆ แต่ภายใต้สภาวะที่ใจลอยเล็กน้อย เธอไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีเงาร่างหนึ่งกำลังจ้องเธอเขม็งอยู่ในมุมมืด

 

“ไอ้คนแซ่หลิงนั่นไม่อยู่ มันไปไหนของมัน!”

 

“แต่ช่างมันเถอะ จัดการกับพวกแกก่อนก็ยังไม่สาย...”

 

ชั่วพริบตาที่ซย่าน่าก้าวลงบันได เงาร่างนั้นก็ถลาออกมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง ซย่าน่ารู้สึกแค่ว่ามีแรงมหาศาลมาทางด้านหลัง แล้วเธอก็ถูกชนกระเด็นลอยไปทั้งตัวทันที จากนั้นร่วงลงตรงมุมบันไดด้านล่างอย่างแรง

 

เธอรู้สึกเหมือนร่างแหลกเหลวไปทั้งตัว แต่ด้วยประสบการณ์การต่อสู้อันโชกโชน ทำให้เธอยังคงพยายามยันตัวยืนขึ้นแม้จะอยู่ในสภาพเช่นนี้ก็ตาม ทว่าเธอยังไม่ทันจะยืนตัวตรง เงาร่างที่อาบเลือดไปทั้งตัวก็พลันปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ

 

“ซย่าน่า คิดไม่ถึงล่ะสิท่าว่าจะได้เจอกันเร็วแบบนี้”

 

ลู่ซินยิ้มเยาะพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ระหว่างที่ซย่าน่ากำลังพยายามยืนขึ้น เขาก็ทุบเข้าที่ศีรษะด้านหลังของซย่าน่า แล้วช้อนตัวซย่าน่าที่สลบไสลไม่ได้สติขึ้นมาและแบกพาดบนบ่าอย่างง่ายดาย

“ลู่...ลู่ซิน...”

 

เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้หลิวอวี่หาวที่ยังยืนอยู่ที่บันไดด้านบนอึ้งไปสนิท แต่วินาทีที่ซย่าน่าถูกทุบจนสลบ เขาก็ได้สติกลับคืนมาทันที แล้วพุ่งถลาเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง

 

แต่ลู่ซินที่แบกคนอยู่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าหลิวอวี่หาวที่หมดเรี่ยวแรงอยู่มากทีเดียว ตอนที่เหวี่ยงหลิวอวี่หาวทิ้ง เขาก็ชูนิ้วกลางให้หลิวอวี่หาวอย่างดูถูกเหยียดหยาม “ฉันจะรออยู่ที่หอพักชาย นายไปเรียกหลิงม่อมาหาฉัน ไม่งั้นฉันจะฆ่าซย่าน่าทิ้ง!”

 

“ลู่ซิน ไอ้สารเลว!”

 

หลิวอวี่หาวโมโหจนสบถเสียงลั่น แต่ด้วยความคล่องว่องไวของเขา เขาทำได้แค่มองดูลู่ซินแบกซย่าน่าเดินเข้าไปในหอพักชายตาปริบๆ ขณะที่เขาคิดที่จะตามไป หวังก็เฉิงกลับพุ่งเข้ามาคว้าแขนเขาไว้พลางหายใจหอบ “อย่าตามไป นายอยากตายเหรอไง ไม่เห็นท่าทางลู่ซินเหรอ เขากลายร่างไปแล้วแน่ๆ ตอนนี้เขาไม่ใช่คนแล้ว!”

 

“ปัดโธ่โว้ย...” หลิวอวี่หาวสบถเป็นชุด แต่ก็ไม่ได้ตามไป เขารู้ดีแก่ใจว่าหวังเฉิงพูดถูก ดูจากพละกำลังและความรวดเร็วที่ลู่ซินแสดงออกมาให้เห็นเมื่อกี้นี้ ตอนนี้เขาไม่ใช่คนแล้ว ถึงแม้จะยังไม่ใช่ซอมบี้ แต่ก็กำลังกลายร่างไปสู่ซอมบี้ แม้ว่าตอนนี้ลู่ซินจะไม่ฆ่าซย่าน่า แต่หากเขากลายร่างอย่างสมบูรณ์และปราศจากซึ่งสติสัมปชัญญะ ซย่าน่าจะต้องตายแน่นอน

 

แต่เขากับหวังเฉิงสองคนจะไปสู้กับลู่ซินในตอนนี้ไหวได้อย่างไร

 

“พี่หลิง หลิงม่ออยู่ที่ไหน!”

 

หลิวอวี่หาวมองไปรอบๆ อย่างกระสับกระส่าย ภายในรั้วโรงเรียนที่ว่างเปล่าวังเวง นอกจากซากซอมบี้ที่เป็นฝีมือของซย่าน่าแล้ว ก็ไม่เห็นมีเงาร่างคนเลย! ทว่าทันใดนั้นเองบริเวณไม่ไกลนักซอมบี้สามสี่ตัวที่ถูกกลิ่นคาวเลือดและเสียงดึงดูดมาก็ปรากฏตัวขึ้น เมื่อเห็นเขากับหวังเฉิง พวกมันก็วิ่งเข้าหาอย่างบ้าคลั่งทันที

 

“ฉิบหายละ!”

 

ในสถานการณ์เช่นนี้มีทางเดียวคือวิ่งสุดฝีเท้า ขณะที่วิ่งหนีตาย ในใจหลิวอวี่หาวก็ตะโกนร้องเรียกชื่อหลิงม่อไปด้วย ตอนที่แยกจากกัน หลิงม่อบอกไว้ว่าเขามีธุระต้องทำนิดหน่อยที่โรงเรียนนี้ แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาออกจากโรงเรียนไปหรือยัง ถ้าหลิงม่อจากไปแล้วจริงๆ เขาคงต้องเสี่ยงชีวิตไปช่วยซย่าน่าเอง...

 

ตอนนี้ในใจหลิวอวี่หาวมีความคิดมากมายร้อยแปดพันเก้า รู้อย่างนี้ฆ่าลู่ซินไปเสียแต่แรกดีกว่า ไม่อย่างนั้นซย่าน่าคงไม่ต้องตกอยู่ในอันตราย! ไอ้คนทรยศ!

 

แต่ไม่ว่าจะก่นด่าสักแค่ไหนก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงได้ หลิวอวี่หาวพาหวังเฉิงวิ่งเข้าไปในอาคารเรียน กระทั่งในที่สุดพวกเขาก็หลุดจากพวกซอมบี้ที่ตามมาได้

 

พวกเขาสองคนหลบอยู่ในห้องเรียนห้องหนึ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจสักนิดเดียว เหงื่อเปียกชุ่มโชกไปทั่วทั้งตัว

 

เมื่อบริเวณโดยรอบเงียบสงบลง หลิวอวี่หาวก็ค่อยๆ โผล่หัวออกมาดูด้วยความระมัดระวัง พอเห็นว่าระเบียงทางเดินว่างเปล่า เขาก็กวักมือเรียกหวังเฉิงและออกมาจากห้องเรียน

 

“ทีนี้จะเอายังไงดี” แม้ว่าหวังเฉิงจะเสี่ยงชีวิตวิ่งตามหลิวอวี่หาวมา แต่ตอนนี้เขายังคงหวาดกลัวอยู่ น้ำเสียงก็เลยสั่นเครือเล็กน้อย

 

หลิวอวี่หาวกัดฟันตอบว่า “ยังจะทำอะไรได้ละ! ตามหาหลิงม่อน่ะสิ! จะต้องช่วยซย่าน่าออกมาให้ได้!”

 

“คือ...” เห็นได้ชัดว่าหวังเฉิงไม่อยากจะเสี่ยงอันตรายกับหลิวอวี่หาวอีกต่อไปแล้ว แต่ตอนนี้หลิวอวี่หาวเป็นที่พึ่งพาหนึ่งเดียวของเขา ดังนั้นเขาจึงเริ่มครุ่นคิดว่าจะพูดเกลี้ยกล่อมหลิวอวี่หาวอย่างไรดี

 

แต่เขากับหลิวอวี่หาวต่างก็คิดไม่ถึงว่าตอนที่พวกเขาเดินคลำทางอย่างระมัดระวังมาถึงที่หัวบันได จะบังเอิญเจอกับหลิงม่อและเย่เลี่ยนที่กำลังเดินลงมาจากชั้นบน

 

“เอ๋?”

 

จู่ๆ ทั้งสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า ตอนแรกหลิงม่อรู้สึกตกใจ จากนั้นก็ผ่อนคลายลง เขาถามด้วยความประหลาดใจว่า “พวกนายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

 

ในตึกนี้นอกจากพวกซอมบี้แล้วก็ไม่มีใครคนอื่นอีก อีกทั้งที่นี่ไม่เหมาะที่จะเป็นที่หลบภัย คนพวกนั้นที่ซย่าน่าต้องการตามหาต้องไม่ได้อยู่ที่นี่แน่นอน ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงมาเจอหลิวอวี่หาวกับหวังเฉิงที่นี่ได้ล่ะ

 

ทว่าหลิวอวี่หาวยังไม่ทันจะได้ตอบ หลิงม่อก็รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล ดูจากสีหน้าของพวกเขาสองคนแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดมา นอกจากนี้ท่าทางก็ดูไม่เหมือนว่าอยู่ด้วยกันกับคนอื่น ไม่อย่างนั้นป่านนี้ก็ต้องเห็นซย่าน่าแล้ว

 

“ซย่าน่าล่ะ” หลิงม่อรู้สึกใจไม่ดีขึ้นมาทันที

หลิวอวี่หาวไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะได้เจอกับหลิงม่อที่นี่ แต่พอได้ยินหลิงม่อถาม เขาก็มีปฏิกิริยาตอบสนองทันที เขาพูดด้วยความร้อนใจสุดขีดว่า “ช่วยซย่าน่าด้วย เธอถูกลู่ซินจับตัวไป!” เขาพูดพลางก้าวพรวดพราดเข้ามาหาหลิงม่อ แล้วคว้าจับแขนของหลิงม่อ ในดวงตาฉายแววคาดหวังเจือตื่นกลัวและจ้องมองหลิงม่อเขม็ง

 

“จับตัวไป? ลู่ซินทำ?”

 

ข่าวนี้จู่โจมมาอย่างกะทันหันเหลือเกิน หลิงม่อรู้สึกงุนงงไปชั่วขณะ

 

“อืม! ลู่ซินกลายร่างแล้ว แต่ดูเหมือนว่ายังไม่ได้กลายเป็นซอมบี้โดยสมบูรณ์ ทว่าเรี่ยวแรงเยอะมาก พลังการโจมตีก็แข็งแกร่ง ผมสู้ไม่ไหว ซย่าน่าถูกเขาแว้งกัดเข้าให้แล้ว! เขาบอกให้พี่ไปหาเขา ไม่อย่างนั้นเขาจะฆ่าซย่าน่าทิ้ง! พี่หลิง ขอร้องละ...” หลิวอวี่หาวตื่นเต้นมาก ก็เลยพูดจาไม่ค่อยปะติดปะต่อกัน แต่อย่างไรเสียเขาก็พูดได้ชัดเจนแล้ว ในระหว่างที่พูด หลิวอวี่หาวกุมแขนหลิงม่อไว้แน่นตลอด ราวกับกลัวว่าหลิงม่อจะไม่ยอมช่วย

 

หลังจากฟังจบแล้ว สีหน้าของหลิงม่อก็หม่นหมองลงทันที เจ้าลู่ซินคนนี้ นอกจากในหัวสมองจะมีแต่ความคิดโง่ๆ แล้ว นึกไม่ถึงว่าจะโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้ด้วย

 

.................................................................................................................................................

 

 

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด