ตอนที่แล้วภาค 2 ตอนที่ 5 สิ่งเดียวที่มั่นใจได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปภาค 2 ตอนที่ 7 ผิดถูกในใจ

ภาค 2 ตอนที่ 6 กิ๊ก ญาติ หรือเพื่อน


ตอนที่ 6 กิ๊ก ญาติ หรือเพื่อน

 

เมื่อแสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามา ต้าเจิ้งที่อยู่บนเก้าอี้ทำงานหาวหวอดอย่างช้าๆ แล้วถึงได้พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องทำงานของแผนกนิติเวชไปทั้งคืน

 

ประตูถูกผลักออก โกโก้ยังคงสวมเสื้อกราวน์อยู่ สีหน้าซีดเซียว มือถือรายงานสิบกว่าหน้าดันไปที่โต๊ะหน้าต้าเจิ้ง

 

"ผลการชันสูตรขั้นต้น สาเหตุการตายเกิดจากถูกบีบคอ ลำคอขาดออกซิเจน ศพถูกหั่นหลังจากตายแล้ว โชคดีมากที่ได้ลายนิ้วมือครึ่งหนึ่งที่คอ น่าจะเป็นของผู้ต้องสงสัยที่ทิ้งไว้ขณะบีบคอเธอ ส่งไปให้แผนกพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลอาชญากรแล้ว หัวคนเคยถูกแช่ฟอร์มาลินมา ด้านซ้ายของคอมีร่องรอยคล้ายถูกหนูกัด ร่างกายเน่าเปื่อยระดับกลาง ไม่สามารถยืนยันได้ว่าก่อนตายมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ แต่ก็เก็บลายนิ้วมือได้เช่นกัน ส่งไปให้แผนกพิสูจน์หลักฐานแล้ว โดยภาพรวมไม่มีข้อสงสัยพิเศษอะไร ต่อจากนี้ฉันจะสแกนหัวคนเพื่อจำลองใบหน้าออกมาให้เร็วที่สุด แล้วก็ต้องวิเคราะห์เชิงอนุภาค..."

 

โกโก้พูดไปครึ่งหนึ่งก็หยุดลงกะทันหัน ต้าเจิ้งเงยหน้ามองถึงได้เห็นว่าหน้าเธอซีดเผือด ร่างกายที่เกาะขอบโต๊ะอยู่เริ่มเอนเอียง

 

"โกโก้!" ต้าเจิ้งพุ่งตัวไปประคองเธอไว้ แล้วค่อยๆ พาไปนั่งที่โซฟา

 

"ไม่เป็นไร..." โกโก้ก้มหน้านั่งอยู่ที่โซฟา สองมือประคองศีรษะส่ายไปเบาๆ เหมือนจะเอาน้ำที่ขังอยู่ในสมองเขย่าออกมาอย่างนั้น "ระดับน้ำตาลต่ำเท่านั้น ได้กินข้าวเช้าก็จะหาย"

 

"เธอไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเหรอ!" เสียงของต้าเจิ้งเริ่มไต่ระดับสูงขึ้น "เด็กสองคนนั้นล่ะ"

 

"...ฉันให้ไป๋หลิงไปส่งเสี่ยวเจ๋อตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว...วันนี้เขาต้องไปสอบพยานที่ร้านรับซื้อของเก่าไม่ใช่เหรอ..." โกโก้ก้มหน้า

 

ต้าเจิ้งประคองโกโก้ มองคนที่ก้มหน้านั่งอยู่ที่โซฟา อยู่ดีๆ ก็รู้สึกร้อนตัวขึ้นมา "โกโก้ ผมเพิ่งนึกถึงเรื่องหนึ่งที่ไม่สมควรจะพูดตอนนี้ ผมรู้ว่าคราวที่แล้วตอนที่ผมพูดมันไม่ถูกจังหวะ แต่ผมไม่อยากให้เธอเข้าใจผิดต่อไป"

 

โกโก้เงยหน้ามองเขาอย่างสงสัย

 

"...คราวที่แล้วพูดถึงพี่สาวเธอ..."

 

โกโก้ยื่นมือไปห้าม "ไม่สมควร...รอให้ฉันมีแรงที่จะบีบคอนายก่อนค่อยพูดเถอะ ฉันหิวแล้ว..."

 

"ถ้างั้นก็ไปกัน พวกเราไปกินข้าวเช้าก่อน แล้วผมส่งเธอกลับบ้านไปพักผ่อนซักหน่อย"

 

โกโก้ล้วงช็อคโก้จุ๊บออกจากกระเป๋าแล้วยัดเข้าปาก "ไม่กลับ เดี๋ยวจะนอนในห้องทำงานแป๊บหนึ่ง ตอนบ่ายฉันยังต้องไปงานสัมมนาอีก"

 

"อะไร สัมมนาเหรอ เธอไปร่วมงานไร้สาระอย่างนี้ด้วยเหรอ"

 

โกโก้สูดหายใจลึกๆ เข้าทีหนึ่งแล้วค่อยๆ ยืนขึ้น "อาจารย์หญิงให้ฉันไป นายคิดว่าฉันกล้าไม่ไปเหรอ เดี๋ยวท่านไปอารมณ์เสียใส่ท่านผู้เฒ่า ท่านผู้เฒ่าก็ต้องโทษฉันเต็มๆ นะสิ เวรกรรมของฉันแท้ๆ เลย ไต้เท้า..."

 

ภรรยาของท่านผู้เฒ่าฉาง หรืออาจารย์หญิงของโกโก้ เป็นหมอศัลยกรรมที่มากด้วยฝีมือในเมืองนี้ ท่านเพิ่งเกษียณเมื่อเร็วๆ นี้ อยู่บ้านเฉยๆ แล้วเบื่อ จึงไปร่วมองค์กรเสวนาความรู้ทางการแพทย์ของเอกชนแห่งหนึ่ง องค์กรนี้เพิ่งจะจัดสัมมนาเป็นครั้งแรก ท่านอาจารย์หญิงออกคำสั่งให้ลูกศิษย์ทุกคนของท่านผู้เฒ่าที่เป็นหมอต้องไปร่วมงานเพื่อให้ได้จำนวนคน โกโก้รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตัวเองไม่ใช่หมอสักหน่อย ท่านผู้เฒ่าถลึงตาใส่ "ใครบอกว่าหมอนิติเวชไม่ใช่หมอ เสี่ยวอู๋ก็ไปไม่ใช่เหรอ เสี่ยวสวิน เธอมีปัญหาอะไร เดี๋ยวอีแก่ไม่พอใจขึ้นมา หรือเธอจะทำอาหารให้ฉันกินแทน"

 

"เสี่ยวอู๋เป็นใคร" ต้าเจิ้งถาม มือหนึ่งกึ่งโอบโกโก้ไว้ กลัวเธอจะเวียนหัวแล้วหกล้ม

 

"เสี่ยวอู๋เคยเรียนวิชากายวิภาคกับท่านผู้เฒ่า อาชีพปัจจุบันคือสัตวแพทย์"

 

ต้าเจิ้งได้ยินก็ขำ

 

"นายลองอ้าปากกว้างกว่านี้อีกสิ ฉันกลัวว่าจะพลั้งมือผ่าตัดนายไป" โกโก้ค้อนเขาสองที ในเวลาเดียวกันก็ออกจากอ้อมแขนของเขาอย่างแนบเนียน

 

——————————————

 

ไป๋หลิงกับเซวียหยางโต๋เต๋อยู่รอบๆ ร้านรับซื้อของเก่าทั้งเช้า รวบรวมคำพูดจากพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นได้หลายสิบฉบับ

 

"นายบอกสิทำไมตอนเด็กๆ ฉันถึงเชื่อที่หนังสือบอกว่า ตำรวจเป็นอาชีพที่ทั้งเท่ทั้งร้ายกาจ ล็อคเป้าผู้ต้องสงสัย! จู่โจมแบบสายฟ้าแลบ! อะไรทำนองนั้น..." ไป๋หลิงมองรองเท้าหนังที่พังไปอีกแล้ว พูดอย่างทำหน้าไม่ถูก

 

เซวียหยางเป็นชายหนุ่มที่เป็นงานเป็นการตลอดเวลา มองแผนที่ในมือ แล้วรีบสาวเท้าไปบ้านต่อไป พูดโดยที่ไม่หันไปมองว่า "ที่พูดก็ไม่ผิดนี่ เครื่องแบบก็เท่ ตอนไปแย่งอาหารในโรงอาหารก็ต้องร้าย"

 

ไป๋หลิงเบะปาก "ทำไมตำรวจอาชญากรรมถึงพกปืนติดตัวไม่ได้ ไม่มีมาดเลยสักนิด..."

 

เซวียหยางเคาะประตูบ้าน "มีคนอยู่ไหมครับ"

 

บ้านแล้วบ้านเล่า ใช้พลังกายเพื่อแลกกับข้อมูลที่อาจได้มาเพียงน้อยนิด

 

หลังจากวิ่งไปแล้วทั้งวัน ทั้งสองคนถึงได้สอบถามชาวบ้านบริเวณนั้นได้หมด สั่งข้าวราดแกงสองที่ในร้านอาหารเล็กๆ เซวียหยางมองดูสมุดโน้ตเล่มเล็กในมือ ไป๋หลิงกำลังพยายามงัดขาที่เกือบขาดให้ตรง

 

"ตัดพวกที่ไม่เข้าท่าออก ฉันเห็นว่าแค่สองฉบับเท่านั้นที่มีประโยชน์ ฉบับหนึ่งมาจากเถ้าแก่ร้านขายของชำที่อยู่ทิศตะวันออกของร้านรับซื้อของเก่า เขาบอกว่า ตอนห้าโมงเย็นมีผู้ชายที่มีรอยด่างขาวบนใบหน้ามาซื้อบุหรี่ซองหนึ่ง อีกฉบับหนึ่งมาจากคนแก่เก็บขยะที่อยู่บริเวณร้านรับซื้อของเก่า เถ้าแก่ร้านขายของชำบอกว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้ถืออะไรในมือ ใส่เสื้อกันหนาวสีม่วง หนวดเครารุงรัง สำเนียงคนในท้องที่..."

 

เซวียหยางจู่ๆ ก็พูดแทรกขึ้นมา "แต่นายดูสิ ตอนที่คนแก่เก็บขยะเห็นชายคนนั้น ในมือของเขามีถุงพลาสติกสีดำ พวกเรามาคำนวณเวลาดู อยู่ที่บริเวณถังขยะด้านทิศตะวันตกของร้านรับซื้อของเก่า คนแก่เก็บขยะเห็นผู้ชายคนนี้ถือถุงพลาสติกสีดำเดินผ่าน แล้วก็เป็นเถ้าแก่ร้านขายของชำที่เห็นเขาป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณนั้นช่วงพลบค่ำ แล้วเถ้าแก่ก็ขายบุหรี่ซองหนึ่งให้เขา เวลานี้ถุงพลาสติกสีดำไม่อยู่ในมือเขาแล้ว"

 

"อืม!" พยักหน้า "ลำดับเวลาชัดเจนมาก คนในบริเวณนั้นทั้งหมดไม่เคยเห็นผู้ชายที่มีรอยด่างขาวบนหน้า พยานทั้งสามคนก็บอกว่าเห็นคนนี้เพียงครั้งเดียว เวลาที่ถุงพลาสติกสีดำหายไปตรงกับเวลาที่หัวคนปรากฏขึ้น ดูแล้วร้อยละแปดสิบเขาเป็นคนทิ้งหัวคนไว้ที่ร้านรับซื้อของเก่า"

 

ไป๋หลิงยังไม่ทันพูดจบ มือถือในกระเป๋าก็สั่นขึ้นมา

 

"ฮัลโหล อ๋อ...พวกเราอยู่แถวร้านรับซื้อของเก่า ครับ...ครับ...ได้ครับ ทราบแล้วครับ"

 

พอวางสายก็พอดีกับพนักงานเสริฟวางข้าวราดแกงบนโต๊ะ

 

"สายของหัวหน้าโจวเหรอ" เซวียหยางถาม

 

"ไม่ใช่ เสี่ยวสวีโทรมา หัวที่พี่สวินเจออยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยเน่าเปื่อยใช่ไหม ยังพอจะดูหน้าตาออกบ้าง สวีหวั่นลี่เลยอาศัยรูปถ่ายไปค้นพบผู้หญิงคนหนึ่งที่คล้ายกันในรายงานบุคคลสูญหาย ซึ่งอาจจะเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย บ่ายนี้หวังอ้ายกั๋วกับคนของกลุ่มสามจะไปตรวจสอบ"

 

"อ้อ" เซวียหยางรับคำ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าก้มตากินข้าว ไป๋หลิงหัวเราะอย่างรู้ทัน

 

"เฮ้ย! เสี่ยวเซวียจื่อ อย่าคิดนะว่าพี่คนนี้จะไม่รู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่! นายกำลังสงสัยอยู่ว่าทำไมเสี่ยวสวีไม่โทรมาหานายกลับมาพูดกับฉันนะสิ บอกตรงๆ เหอะ นายชอบสวีหวั่นลี่เข้าแล้วใช่ไหม หือ"

 

เซวียหยางอึ้งไปนิดหนึ่ง ส่ายหน้า แล้วก็คอยมองสีหน้าของไป๋หลิง “นายรู้ได้ยังไง”

 

ไป๋หลิงหัวเราะหึๆ "แค่ท่าทางเซ่อๆ อย่างนาย คิดหรือว่าวันๆ ปั้นหน้าตายอย่างกับน้ำแข็ง พี่น้องอย่างฉันจะดูไม่ออกว่าใจนายคิดยังไง มีแต่ตอนที่เสี่ยวสวีเอาน้ำมาให้คนในห้องแล้วเผื่อแผ่ถึงนายนั่นแหละ หน้าตายของนายถึงจะยิ้มออก"

 

เซวียหยางใช้ตะเกียบจิ้มข้าวที่อยู่ตรงหน้าไม่หยุด "ในสายตาของเสี่ยวสวีมีแต่หัวหน้าโจว"

 

ไป๋หลิงอึ้งไปนิดหนึ่ง แล้วลดตัวต่ำลงพูดว่า "นายนี่โง่จริงๆ นายไม่รู้หรือว่าหัวหน้าโจวเป็นลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยวสวี"

 

เซวียหยางเงยหน้าขึ้นพรวด "จริงเหรอ งั้น งั้น..."

 

"งั้นอะไร กลับไปอย่าบอกนะว่าฉันเป็นคนเปิดเผยล่ะ! ที่เสี่ยวสวีทำดีกับหัวหน้าโจวก็เป็นเรื่องธรรมดา ดูท่านายดีใจขนาดนั้น หมดอนาคตแน่..." ไป๋หลิงเบะปากแล้วลงความเห็น

 

"แล้ว แล้วนายรู้ได้ยังไง" ในใจเซวียหยางตื่นเต้นมาก แต่สีหน้ากลับไปเป็นชายหนุ่มเป็นงานเป็นการอีกครั้ง

 

"เอ่อ ก็ผนังมันบางนะสิ ที่นั่งฉันใกล้กับห้องทำงานของหัวหน้าโจว..."

 

"นายแอบฟังมาเหรอ" เซวียหยางเบิ่งมอง

 

ไป๋หลิงใช้ตะเกียบเคาะหัวของเซวียหยาง "ข้าหาข่าวกรองนี้มาอย่างเปิดเผย เรียกว่าแอบฟังได้ยัง!"

 

"ไม่มีศีลธรรม..." เซวียหยางบ่นพึมพำ

 

"นายว่าไงนะ..."

 

เซวียหยางก้มหน้ากินอย่างเดียว แต่มุมปากอดไม่ได้ที่จะยกขึ้น

 

ลูกพี่ลูกน้อง หึๆ ลูกพี่ลูกน้อง

 

——————————————

 

เวลาอาหารเย็น ต้าเจิ้งเดินไปถึงทางเดินหน้าห้องนิติเวช เห็นไป๋หลิงลับๆล่อๆ โต๋เต๋อยู่ที่ประตู

 

"มาทำไม" หรือจะไปสูบบุหรี่ที่ทางเดินหน้าห้องนิติเวชโดยเฉพาะ

 

ไป๋หลิงดับบุหรี่ที่คาบไว้ "หัวหน้า! ผมกลัวพี่สวินจะว่าผมมีบุหรี่ติดมา มีเรื่องสำคัญ หัวหน้ายังจำเจิงเจี้ยนหมิงได้ไหม"

 

"ใครนะ"

 

ไป๋หลิงเหลือบตามองประตูห้องนิติเวชที่ปิดอยู่ ลดเสียงต่ำลงเล็กน้อยว่า "ก็หนึ่งในสามผู้ลงมือในคดีสวีลี่ นอกจากวังอี้เฟิงที่พวกเราจับได้คนแรก แล้วก็เสี่ยอวี๋เทาแล้ว คนที่สามก็คือ เจิงเจี้ยนหมิง"

 

อ๋อ ต้าเจิ้งจุดบุหรี่ด้วยอีกคน "เขาเป็นอะไรเหรอ"

 

"ได้ข่าวว่าเขามีโรคเรื้อรังตั้งแต่เกิด ตัวเขาเองก็ยอมรับว่าเพราะผู้หญิงหลายคนก่อนหน้านี้ดูถูกตัวเองจึงเกิดความคิดอาฆาตแค้น แล้วครั้งนี้ยอมสารภาพแต่โดยดี อีกทั้งเป็นผู้ร่วมกระทำผิด จึงได้ประกันตัวเพื่อรักษาตัวเมื่อไม่นานมานี้ แต่ที่นึกไม่ถึงก็คือ พวกเราจะได้พบเขาอีกในเร็วๆ นี้"

 

ต้าเจิ้งพ่นควันออกไปนอกหน้าต่าง "ไปก่อคดีอีกเหรอ"

 

ประตูห้องนิติเวชถูกกระชากเปิดออก สวินเข่อหรันแสดงสีหน้ารังเกียจ "รบกวนพวกนายไสหัวกลับไปพ่นพิษที่ห้องทำงานของหน่วยอาชญากรรมได้ไหม"

 

"เอ่อ พี่สวินนี่เรื่องสำคัญ"

 

"มันก็แค่ไอ้ระยำนั่นก่อคดีอีกไม่ใช่เหรอ ถ้างั้นก็ไสหัวกลับไปพ่นพิษที่ห้องสอบสวนของพวกนาย สรุปคืออย่ามาที่ประตูห้องฉัน..."

 

"ไม่ใช่ เดี๋ยวเจิงเจี้ยนหมิงจะมาที่พี่"

 

อ๊ะ โกโก้กับต้าเจิ้งอึ้งไปพร้อมกัน

 

"เขาถูกฆาตกรรม ตัวศพหัวใจหายไปแล้ว"

 

 

 

 

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด